ข้าคือ Sa'kyo
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
~~รักป่วน ๆ ของก๊วนเด็กแสบ~~ ตอนที่ 21


Pud talk...........

ผมนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องไอ้พริก แต่ตอนนี้ไอ้พริกไม่อยู่ ไปไหนไม่รู้ นี่ขนาดหัวแตก แขนเจ็บมันยังออกไปซ่าอีก ไม่ได้เจียมสังขารเลย ส่วนชมพู่ที่เอาแต่นอนอยู่บนเตียง โดยไม่สนใจสรรพสิ่งบนโลกนี้ ไม่รู้ว่าตอนที่ไอ้พริกออกมาคุยด้วยเป็นยังไง ดูแล้วคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่แน่เลย

ผมเป็นห่วงชมพู่ ไม่รู้ว่าตอนไหนที่ผมมองเธอมากกว่าเพื่อน คงตั้งแต่รู้ว่าเธอไม่ใช่ไอ้เหมี่ยวละมั้ง สิ่งที่ผมกลัวตั้งแต่แรกเลยก็คือสิ่งนี้แหละ กลัวว่าตัวเองจะเกินเลยกว่าการเป็นเพื่อน และแผนการจะกระตุ้นให้ไอ้พริกชอบชมพู่ ก็กลายเป็นแผนกระตุ้นความรู้สึกของตัวเองซะอย่างนั้น

นานวันเข้าผมเริ่มควบคุมความรู้สึกที่มีต่อชมพู่ไม่ได้ มันเริ่มก่อตัวมากขึ้น แต่ต่อให้ผมชอบชมพู่มากแค่ไหน เธอก็ไม่รับรู้หรอก เพราะชมพู่มองแต่ไอ้พริก

ชมพู่อาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ว่าตัวเองชอบไอ้พริกมากแค่ไหน ทุกครั้งที่ไอ้พริกไม่อยู่ ชมพู่จะคอยชะเง้อหา เฝ้ารอ เมื่อไอ้พริกอยู่ข้าง ๆ ชมพู่จะรู้สึกอุ่นใจเสมอและเธอจะมีรอยยิ้มที่แสนน่ารักเสมอ ผมทำให้เธอยิ้มแบบนั้นไม่ได้ ผมรู้ตัวดี

เสียงเรียกเข้าของมือถือทำให้ผมสะดุ้ง ไอ้ต้นโทรเข้ามา

“ว่าไงวะ?”

(แกอยู่ไหนวะ?) เสียงไอ้ต้นดังตามสายมา

“ห้องชมพู่ มีอะไร?” ผมจับกระแสเสียงไอ้ต้นดูแล้วไม่ใช่เรื่องดีแน่

(ยัยหนิงเพิ่งมาบอกฉันว่า ไอ้พริกเลิกกับยัยแนนแล้ว แล้วตอนนี้ยัยแนนก็ไปบอกพี่ชายตัวเองแล้ว งานนี้เหนื่อยอีกแน่)

“หนิงรู้ได้ไง?”

(สมองเสื่อมเหรอวะ? ยัยหนิงกับยัยแนนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ไอ้พริกอยู่มั้ย? เตือนมันด้วย”

“ไม่อยู่ หายไปตายที่ไหนไม่รู้ ชมพู่ก็ไร้อารมณ์อยู่เนี่ย”

ผมตอบไอ้ต้นไป ให้ตายเถอะยัยแนนกัดไม่ปล่อยจริง ๆ ถ้าเรียกพี่ชายมาอย่างนั้นเรื่องยาวแน่ ๆ อยู่ไม่สงบแล้วเรื่องนี้

“จะเอาไงดีวะ เรื่องมันไปกันใหญ่แล้วนะ ไอ้เหมี่ยวก็ไม่อยู่”

(หาไอ้พริกให้เจอก่อน แล้วค่อยว่ากัน)

“เออ”

ผมกดวางโทรศัพท์ลง หันไปดูร่างบางของชมพู่ที่นอนอยู่บนเตียง แล้วผมก็เดินออกจากห้องมา แล้วจะไปหาไอ้พริกได้ที่ไหนหละ ไอ้เพื่อนเวรนั้นอยู่เป็นที่กับเขาที่ไหน ผมลองกดโทรหาไอ้พริกดู เป็นไปตามคาดปิดเครื่อง........... ดีจริงถ้าตอนนี้เกิดไปเจอพวกไอ้นัฐคงได้ฆ่ากันตายแน่ สุดท้ายผมก็กดโทรหาไอ้เหมี่ยว

“เหมี่ยวเหรอ?”

(พ่อแกมั้ง ไอ้บื้อ มีอะไร?) โอ้ย.......เพื่อนตูแต่ละคน น่ารักจริง ๆ

“แกทำอะไรอยู่วะ?” คำตอบคงกวนส้นตามเคย

(เป็นชู้กับแม่แกอยู่) -______-!!!! ฉันอยากกระทืบแกไอ้เพื่อนเวร

“เออ....ตามสบายเลยแก”

(แกโทรมามีอะไรวะ?)

“คิดถึงแกมั้ง ไอ้เลว” พูดแล้วผมก็คิดถึงหน้าชมพู่ขึ้นมา เมื่อพูดคำว่าคิดถึง

(คนที่แกคิดถึงคงไม่ใช่ฉันแล้วหละ เพราะฉันคือ ไอ้คนหล่อ)

“เออ.....มีเรื่องจะถามแกหน่อย”

(คำถามละพัน)

“ฉันมีอยู่บาทเดียว”

(ไอ้ยาจก)

“เอาจริง ๆ แล้ววะ”

(ว่ามา)

“ถ้าไอ้พริกหายไป ควรจะไปหาที่ไหนวะ?” ผมเริ่มจริงจัง

(แล้วมันหายไปไหนละ?) - -+++

“ฉันรู้จะจะเสียตังโทรหาแกมั้ยวะ ไอ้คว_าย”

(งั้นฉันก็เป็นคว_ายที่หน้าตาดีที่สุด และฉลาดที่สุด ไอ้โง่)

ผมรู้สึกเปลืองตังค์ยังไงไม่รู้ที่โทรไปคุยกับไอ้เหมี่ยว

(ลองไปหาที่ ผับSae ไม่ก็บ้านพี่สาวมันที่นนท์นะ รู้จักมะ) เพิ่งจะรู้สึกคุ้มค่าเงิน

“เออ...ขอบใจวะ”

(ไม่เป็นไร ฉันดีใจที่ทำให้คว_ายอย่างแกฉลาดขึ้น) ไอ้นรก

(แล้วมีเรื่องอะไรกันวะ? ไอ้คุณชายพริกไปกระทืบใครเค้าอีกละ?)

เสียงไอ้เหมี่ยวถามหาเพื่อนรักตัวเอง เจ้าสองคนนี้กวนได้ใจเหมือนกันอย่างนี้นี่เองถึงสนิทกันได้

“ก็แค่มันเลิกกับยัยแนน แล้วพี่ยัยแนนจะเอาคืนอะไรอย่างนี้แหละ ก็เลยจะเตือนมัน”

(แล้วทำไมเลิกกันละ?) เพราะน้องแกไง……….

(หวังว่าคงไม่ใช่เพราะมาชอบน้องฉันนะแก) แกฉลาดจริง ๆ ผมนิ่งดีกว่า แต่...วางระเบิดสักหน่อยท่าจะดี

“ก็ถ้าใช่หละ ? แล้วถ้าเกิดว่าฉันก็ชอบชมพู่ละ?” ผมลองแย๊บ ๆ ถามไอ้เหมี่ยวไป

(ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็แค่จะไปช่วยไอ้นัฐกระทืบพวกแกเท่านั้นเอง.....อย่ายุ่งกับน้องฉัน ไม่ว่าจะแกหรือไอ้พริก หรือ ใครหน้าไหนก็อย่ายุ่ง)

ไอ้เวรเอ้ย!!!! ไม่อยากให้ยุ่งแล้วเปลี่ยนตัวมาทำไมวะ

“เออ....แค่นี้แหละ” ผมรีบตัดบทดีกว่า รู้สึกเสียวสันหลังยังไงบอกไม่ถูก

(เออ.....แล้วเจอกัน)

แล้วมันก็กดวางสายไป ไอ้คำว่า “แล้วเจอกัน” นี้มันยังไงวะ? ช่างเถอะ หาไอ้พริกก่อนดีกว่า ว่าแล้วผมก็โทรหาไอ้ต้น บอกมันว่าควรจะไปหาไอ้พริกได้ที่ไหน ไอ้ต้นก็รีบบึ่งมาหาผม









Ton talk……….....

พวกผมขี่รถวนหาไอ้พริกเป็นรอบที่หมื่นห้าพันแล้ว ในผับตามที่ไอ้เหมี่ยวว่าไม่มีวี่แวว พวกผมลงความเห็นว่ามันคงอยู่ที่บ้านพี่สาวมันเป็นแน่ และตอนนี้พวกผมมาถึงบ้านพี่สาวของมันแล้ว

“สวัสดีจ๊ะ มาหาพริกเหรอ”

พี่สาวไอ้พริกรับไหว้พวกเรา นี้เป็นครั้งที่สองที่พวกผมเจอกับพี่พิณ พี่สาวไอ้พริก

“ครับ พริกอยู่มั้ยครับ?” ไอ้พัฒถาม

“เข้ามาก่อนสิ เดี๋ยวพี่ไปเรียกให้” พวกผมเดินตามพี่พิณเข้าไปในบ้าน ระหว่างนั้น

“ต้นกับพัฒพอจะรู้มั้ยจ๊ะว่าพริกไปมีเรื่องกับใคร? ถึงเจ็บตัวมาขนาดนั้น?”

“เออ....ก็พวกที่โรงเรียนนะครับ”

พี่สาวไอ้พริกพยักหน้า คงจะปลงกับการที่ไอ้พริกมีเรื่องแบบนี้

“นั่งรอก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปเรียกให้”

พวกผมนั่งรอไอ้พริกที่ห้องรับแขก ไม่นานไอ้พริกก็ลงมา ไอ้นี่ขนาดหน้ามันเยินขนาดนี้ยังหล่อ ผมเป็นผู้ชายยังอิจฉา

“มีอะไรวะ?”

มันถามผมด้วยเสียงเรียบ ๆ ไอ้พัฒไม่มองหน้าไอ้พริก ซึ่งไอ้พริกก็ไม่ต่างกัน เจ้าสองตัวนี้เป็นอะไรกันวะ? แกสองคนไม่ได้ทะเลาะกันนะโว้ย!!! ไอ้พริกกับชมพู่ต่างหากที่ทะเลาะกัน

“ยัยหนิงบอกฉันเรื่องที่แกเลิกกับยัยแนน”

“แฟนแกเป็นนักข่าวเหรอวะ รู้ทุกเรื่อง” แกว่าแฟนฉันเสือกหรือเปล่าวะเนี่ย

“แล้วที่นี้ยัยแนนก็ไปบอกพี่มันแล้วด้วย ไอ้นัฐมันก็เลย......”

“ฉันเจอไอ้นัฐแล้ว เมื่อวันก่อน” ผมมองหน้าไอ้พริก พร้อม ๆ กับไอ้พัฒ

“เป็นไรป่าววะ?” ไอ้พริกส่ายหน้า

“มีตำรวจอยู่แถวนั้น เลยไม่มีอะไร แต่คนที่ควรระวังไม่ใช่ฉัน.....” พวกผมทำหน้างง

“แล้วใครหละ?”

“ไอ้เหมี่ยว ไอ้นัฐจะเอาเรื่องกับไอ้เหมี่ยวด้วย” ไอ้พริกพูด สายตาของมันกวาดมองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะถามขึ้นอีกครั้ง

“แล้วไอ้เหมี่ยวอยู่ที่ไหน? พวกแกไม่ได้พามันมาด้วยเหรอ?”

พวกผมส่ายหน้า ไอ้พริกมองหน้าผม ก่อนจะหันไปคว้าโทรศัพท์บ้านมาจิ้มเบอร์ไอ้เหมี่ยว

“บ้าเอ้ย........รับสิวะ”

ไอ้พริกดูร้อนรน ผมรีบควักมือถือออกมากดเบอร์หนิง เพราะก่อนออกมาผมให้หนิงไปอยู่กับชมพู่

“หนิง.....อยู่ที่ไหน?”

(ก็อยู่ที่ห้องชมพู่อะ)

“แล้วทำไมพริกโทรหาแล้วไม่รับโทรศัพท์ละ?”

(ไอ้บ้า....สภาพชมพู่สนใจอะไรที่ไหนละ)

ไอ้พริกหันมามองหน้าพวกผม ผมพยักหน้าให้ไอ้พริก มันทำหน้าโล่งใจ ไอ้พัฒก็อีกคน

“แป๊บนะหนิง แกจะคุยกับเหมี่ยวมั้ยวะ?”

ผมหันไปถามไอ้พริก มันมองผมนิ่งก่อนจะหลบตามองดูพื้น

“ควรจะคุยกันได้แล้วนะ มันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง”

ไอ้พัฒเอ่ยขึ้น ความรู้สึกของผม คำพูดประโยคนี้ของไอ้พัฒสำหรับไอ้พริกแล้ว คงเหมือนกับว่า ฉันเปิดทางให้แกวะเพื่อน เพราะเท่าที่ดูมันสองคนมองหน้ากันไม่ติดคงเพราะรู้ตัวว่าชอบผู้หญิงคนเดียวกัน

“จะคุยมั้ยวะ? ไม่งั้นฉันจะคุยกับแฟนฉัน”

ผมพูดขึ้น ไอ้พริกคว้าโทรศัพท์ไปแล้วมันก็เดินขึ้นห้องไป

“ขึ้นมาดูทีวีข้างบนสิ” เสียงไอ้พริกบอกพวกผม พวกผมเดินตามมันขึ้นไป

“หนิงขอคุยกับเหมี่ยวหน่อย”

เสียงไอ้พริกกรอกไปตามสายโทรศัพท์ กว่าจะคุยกันได้นะพวกแก สิ้นเดือนจ่ายค่าโทรศัพท์ฉันด้วยนะ ผมมองไปหาไอ้พัฒ มันยิ้มแกน ๆ มาให้ ผมตบบ่ามันเบา ๆ แกทำดีที่สุดแล้ววะ เพื่อน









Prik talk.............

“เหมี่ยว”

ผมกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ของไอ้ต้นไป สิ้นเดือนไอ้ต้นต้องให้ผมจ่ายค่าโทรศัพท์ให้แน่ ๆ

(พริกเหรอ? อยู่ที่ไหน?)

เสียงของไอ้เหมี่ยวดังเข้ากระทบโสตประสาทของผม เสียงของมันเหมือนเพิ่งร้องไห้มาเลย

“อยู่บ้านพี่สาว แล้ว.......เป็นอะไรนะ?”

ผมลุกจากเบาะรองนั่งในห้อง ออกมาที่ระเบียง ปล่อยให้ไอ้เพื่อนสองคนนั้นนั่งเล่นเกมส์

“ร้องไห้เหรอ?” ผมถามด้วยเสียงเบา ๆ

(ก็นิดหน่อย) เพราะผมแน่ ๆ

“ขอโทษนะ” ผมบอก

(ไม่เป็นไรหรอก แล้วเป็นไงบ้าง? เจ็บแผลมั้ย แล้วที่แขนทายายัง กินยาแก้อักแสบด้วยนะ) ผมยิ้มกับความจู้จี้ของมัน


“อืม รู้แล้วน่า”

(ไอ้รู้แล้วนะกินยังอะ) อานะ......

“เอาน่า มีเรื่องจะบอกด้วย”

(เรื่องอะไรเหรอ?)

“ช่วงนี้ระวังตัวด้วยนะ คือว่า......เรื่อง แนน....”

ผมหยุดค้างไว้ยังงั้นแหละ ไม่รู้จะพูดอะไรไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนดี

(เค้ารู้แล้วละ หนิงบอกแล้ว)

“โทษนะ ทำให้เดือดร้อน เดี๋ยวจะจัดการเอง ไม่ต้องห่วงนะ ดูแลตัวเองด้วยนะ”

(เป็นห่วงด้วยเหรอ?) ฉันไม่ห่วงแล้วจะโทรมาบอกเหรอวะ ไอ้นี่

“อืม....เป็นห่วงมาก คิดถึงมากด้วย”

อ้ากกกกก ผมอยากกะโดดระเบียงตาย บอกว่าคิดถึงมันไปได้ไง ถ้าเกิดมันหัวเราะ แล้วบอกว่า งี่เง่าละ คนอย่างไอ้เหมี่ยวพูดดีกับใครเป็นนอกจากสาว ๆ แถมวันนี้มันก็เพิ่งพูดเองนี่ว่าไม่ได้คิดอะไรกับผม

(คิดถึงเหมือนกัน......นะ)

เสียงไอ้เหมี่ยวดูเขิน ๆ ยังไงไม่รู้ เล่นเอาผมเขินไปด้วยเลย ผมได้แต่ลูบผมตัวเองเบา ๆ ผมก็เขินเป็นเหมือนกันนี่

(พริกไม่โกรธเรื่องที่เค้าพูดเมื่อกลางวันเหรอ?) เสียงไอ้เหมี่ยวดูจะกล้า ๆ กลัว ๆ

“เรื่องวันนี้....ไม่รู้สิ ไม่ได้โกรธ” ผมเข้าใจที่มันพูดแบบนั้น

“แต่ก็มีน้อยใจนะ เล่นพูดซะแบบนั้น” ผมบอก ผมน้อยใจจริง ๆ นี่

(ขอโทษนะ)

“กลับไปจะทำโทษ”

(หา!!!!!.....) เสียงแกดูตกใจมากเลย ดีละเอาคืนสักหน่อยดีกว่า

“จะเอาคืนให้สาสมเลย” ผมแกล้งพูดเสียงแข็ง ๆ แต่โอ้ย !!!!!! ผมขำ

(จะทำอะไรก็ได้ แต่อย่าชกเค้าแรงนะ กลัวเจ็บอะ เห็นพริกชกพวกนั้นแล้วสยอง)

ผมปล่อยก๊าก ออกมา ไอ้นี่มันคิดว่าผมจะชกมันละ หน้าตาอย่างนั้นใครจะทำลงละ ไอ้บ้า!!!!

“จะบ้าเหรอ.......ใครจะทำอย่างนั้นล่ะ จะทำอย่างอื่นต่างหาก”

(ทำอะไรอะ?)

“เดี๋ยวกลับไปก็รู้” ใช่.......เดี๋ยวกลับไปก็รู้ว่าจะทำอะไร

(แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่ล่ะ? ตอนนี้เลยมั้ย? เค้าอยากเจอพริกมากเลย)

ไอ้เหมี่ยวทำเสียงออดอ้อน โอ้ยยยย ผมใจเต้นยังไงก็ไม่รู้ แค่ไอ้บ้านั้นทำเสียงน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

“อยากจะให้กลับตอนนี้เลยเหรอ?”

(อะ......อืม) เสียงตอบรับของมันทำผมใจเต้นไปกันใหญ่ ฉันก็อยากไปหาแก

“งั้นเดี๋ยวไปหาเลยละกัน รออยู่ที่ห้องนะ”

(อืม......ได้ รีบมานะ) ผมยิ้ม จะเหาะไปเลยหละ

“อืม.....งั้นแค่นี้นะ เดี๋ยวจะออกไปแล้ว”

(อืม....เดี๋ยวเจอกันนะ)

“งั้นก็....บาย”

(เดี๋ยว!!!!พริก)

“ว่าไง?”

(มีเรื่องจะบอกนะ............แต่.........เดี๋ยวค่อยบอกละกัน) อะไรของมันวะ ไอ้นี่

“งั้นบาย”

(บาย)

ผมกดวางสาย แล้วกลับเข้าไปในห้อง เก็บของ เปลี่ยนเสื้อผ้า ผมจะไปหาไอ้เหมี่ยวแล้ว รีบนะโว้ย

“จะไปไหนวะ?” ไอ้ต้นถามผม

“กลับหอ”

“อ้าวเปลี่ยนใจแล้วเหรอ?”

“เออ....พวกแกเอาไง จะนอนนี้ก็ได้นะ ฉันไปล่ะ” ว่าแล้วผมก็เดินออกจากห้อง

“เฮ้ย!!! กลับด้วยสิวะ”

เสียงไอ้พัฒดังตามมา ผมขึ้นรถแล้วขับออกไปเลย ไอ้สองตัวนั้นให้มันขับกลับไปเอง ตอนนี้ใจผมนะมันไปอยู่ที่ไอ้เหมี่ยวแล้ว รถขับเท่าไหร่ก็ยังช้าอยู่ดี รออีกแป๊บเดียวก็จะได้เจอกันแล้ว........









~~Mibu Sa’Kyo~~ talk............

พริกเหยียบเบรกเมื่อรถเข้ามาจอดในที่จอดรถในหอพัก ปิดเครื่อง ถอดเบลล์ คว้ากระเป๋าเสื้อผ้า เปิดประตูรถ เขาใช้เวลาในการทำทุกอย่างที่พูดมาภายในไม่ถึง 2 นาที

หอพักไม่มีลิฟต์ เป็นอย่างหนึ่งที่ทำให้พริกหงุดหงิดตอนนี้ หอพักที่สร้างด้วยความสูง 5 ชั้น และเป็นทุกชั้นที่พริกต้องก้าวขาผ่าน....

......เจอหน้าเหมี่ยวจะทำยังไงดีนะ กอดสักทีจะดีมั้ยนะ มันคงไม่โดดเตะผมหรอกมั้ง..........

พริกแอบคิดขำ ๆ ในใจเพียงลำพัง ขายาวของเขาก็ก้าวเหยียบบันไดขึ้นไปเรื่อย ๆ

พริกวิ่งตรงไปที่ห้อง ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปข้างในโดยไม่เคาะประตู

.......ทำไมไม่ล็อคประตูนะ ไฟก็ไม่เปิด.......

พริกคิดในใจ เขาเดินคลำหาสวิตซ์ไฟที่ข้างประตู แต่ขาก็ไปสะดุดอะไรเข้าสักอย่างจนเกือบจะล้มขมำไปข้างหน้า......

“อะไรวะ?”

พริกพูดขึ้น และรีบกดเปิดไฟ และภาพที่พริกเห็นก็คือ……………….

“....................หนิง”

สิ่งที่เขาสะดุดเมื่อสักครู่คงเป็นร่างของหนิง พริกถลาเข้าไปประคองร่างของเธอ เธอไม่รู้สึกตัว ดูสภาพแล้ว ไม่ใช่การหลับธรรมดาเป็นแน่ รอยช้ำ รอยแดง เลือดที่มุมปาก หนิงไม่ใช่คนซุ่มซ่ามที่จะเดินชนประตูแน่ ๆ

“หนิง !!! หนิง!!!”

พริกเขย่าร่างที่อ่อนปวกเปียกที่ดูจะไม่รู้สึกตัวเลย พร้อม ๆ หันมองดูสภาพห้อง..........พูดได้คำเดียวเลยว่า “เละเทะ” นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เหมี่ยวไปไหน?

“หนิง !!~ หนิง!!!”

ร่างที่สั่นคลอนของหนิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก

“พู่....................ชม...................พู่”

หนิงเอ่ยเชื่อใครบางคนออกมา พริกขมวดคิ้ว ไม่ใช่ชื่อคนที่เขาคิดว่าจะได้ยิน หนิงเรียกชื่อใคร แต่เขาก็รู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้.....

“ใคร??? หนิง.....แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น!!? ทำไมมีสภาพแบบนี้ แล้วเหมี่ยวละ?? เหมี่ยวอยู่ไหน???”

“พะ......พริก....ชม...พู่ ช่วย............ชมพู่ด้วย” พูดได้เพียงเท่านั้น หนิงก็สลบเหมือดไป

“ใคร?? ชมพู่คือใคร....ไอ้เหมี่ยวอยู่ที่ไหน??”

พริกเขย่าร่างของหนิงแรงขึ้น เมื่อไม่ได้คำตอบว่า คนที่เขามีใจอยู่ที่ไหน ในใจเกิดอาการหวั่นเกรงว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับมะเหมี่ยว เพราะดูจากสภาพที่หนิงเป็นอยู่แล้ว คนที่ทำ ไม่ได้หวังดีอะไรกับพวกเขาเป็นแน่แท้

“เกิดอะไรขึ้น??”

ต้นและพัฒที่เพิ่งเข้ามาถึงเมื่อเห็นสภาพห้องแล้วก็ต่างพากันตกใจ ต้นผวาเข้าไปหาร่างของหนิงที่อยู่อ้อมกอดของพริก พริกส่งร่างหนิงให้กับต้น

“เกิดอะไรขึ้นกับหนิง??”

พัฒเอ่ยถาม พรางกวาดตามองไปรอบ ๆ ห้อง พริกได้แต่เพียงส่ายหน้า....

“กลับมาก็มีสภาพอย่างนี้ รู้เรื่องแต่ว่า ช่วยชมพู่ด้วย ใครคือชมพูวะ??? แล้วเหมี่ยวอยู่ไหน??”


“.......................................” เกิดความเงียบขึ้นมาทันใด

ต้นเขย่าร่างบางของคนรักพร้อม ๆ กับร้องเรียกชื่อของเธอ เผื่อว่าจะทำให้เธอรู้สึกตัวขึ้น จะได้มาบอกเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไร้การตอบสนองจากร่างบางนั้น

“ต้นแกพายัยหนิงไปหาหมอก่อน ส่วนฉันจะตามหาชมพู่กรับไอ้พริกเอง”

พัฒเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบอยู่ ใช่ว่าเขาไม่ได้สนใจท่าทางที่ร้อนรนของพริกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่จะให้เขาเริ่มบอกพริกยังไงละ

พริกมองสลับกันไปมาระหว่างต้นและพัฒ เมื่อไม่มีใครตอบอะไร เขารู้สึกสับสน ร้อนใจ เมื่อกลับมาถึงห้อง ทั้งที่คิดว่าจะได้เจอกับคนที่คิดถึง แต่กลับเจออะไรทีไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เมื่อไม่มีใครตอบอะไรเขา สุดท้ายพริกก็หมดความอดทน เขาถามออกมาด้วยเสียงอันดัง จนแทบจะหลายเป็นตะคอก

“ฉันถามว่า ใครคือชมพู่!!!! มันเกี่ยวอะไรกับสภาพห้อง แล้วก็เหมี่ยว พวกแกรู้อะไรที่ฉันไม่รู้???”

“แก............................เอ่อ............”

พัฒได้แต่อ้ำอึ้ง ต้นทำได้แค่พยักหน้า

“แกน่าจะรู้จากปากของชมพู่.............เอ่อ.....ให้ถูกคือ....คนที่แกเรียกว่ามะเหมี่ยวนะแหละน่าจะดีที่สุด..... แต่ตอนนี้ แกคงต้องรู้แล้วละ ปล่อยให้คาราคาซังคงไม่มีอะไรดี”

“ฉัน.............” พริกชี้นิ้วมาที่ตัวเอา

“นี่พวกแกพูดเรื่องบ้าอะไรกันวะ........ ฉันสนใจที่ไหนว่าคนที่ชื่อชมพู่จะเป็นอะไร ไม่เคยจะสนด้วย..........แต่ที่ฉันสนตอนนี้คือ ชื่อนี้มันเกี่ยวอะไรด้วย??? แล้วไอ้เหมี่ยวอยู่ไหน?? เป็นอะไร?”


พริกรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิมมาก ลางสังหรณ์ที่กำลังบังเกิดขึ้นภายในจิตใจของเขา กำลังทำให้เขารู้สึกกระอักกระอ่วน

“ก็ที่พวกฉันจะบอกอยู่เนี่ยก็คือ.........ไอ้คนที่แกบอกไม่สนใจนะ มันเป็นคน ๆ เดียวกับคนที่แกเป็นห่วงจะเป็นจะตายอยู่เนี่ย”

พัฒพูดออกมาด้วยเสียงที่ดังกว่าปรกติ แม้จะไม่ได้เสียงดังอะไรมากมาย แต่สำหรับพริกมันเหมือนเสียงฟ้าผ่าเลยทีเดียว


“อะไรนะ........”

พริกถามด้วยเสียงที่เหมือนกับกระซิบ เขารู้สึกจุกจนพูดไม่ออก

“พวกแกพูดเรื่องบ้าอะไรวะ??”

พัฒหันหน้าไปมองผนังห้องก่อนที่จะหันหลับมาสบตาของพริก

“เดี๋ยวค่อยคุยกันดีกว่า ตอนนี้หาชมพู่ให้เจอก่อนเถอะ”

ต้นพูดขัดขึ้นมา ภายในอ้อมกอดของเขามีร่างของหนิงที่ไม่ได้สติอยู่ เขามองสบตาเพื่อนทั้งสอง

“คิดสิ ว่าใครที่กล้าทำกับพวกเราอย่างนี้ หนิงไม่มีศัตรูที่ไหน? ไอ้เหมี่ยวไม่ต้องพูดถึง ฉันลำดับญาติไม่ถูกเลยละว่าใคร? อยากระทืบมันมากที่สุด”

ทุกคนนิ่ง พริกใช้สมองอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของใครบางคนผุดเขามาในความคิดของเขา สาวสวยที่เขาเพิ่งเลิกลากันไป ใบหน้าของผู้ชายที่จงใจข่มขู่เขาก่อนหน้านี้

“แนน...................นัฐ”


เพียงเท่านั้นร่างของพริกก็ทะยานออกจากห้องไป พัฒก้าวตามออกมาเช่นกัน


“รอด้วยสิวะไอ้พริก!!! แกรู้หรือไงว่าชมพู่อยู่ที่ไหน?”


พริกไม่ตอบ เท้าของเขาก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง ภายในสมองคิดถึงแต่ว่า เส้นทางไหน สามารถพาเขาไปยังที่หมายได้เร็วที่สุด

ไม่สนใจว่าเรื่องที่พัฒและต้นบอกเขาเมื่อสักครู่จะจริงไม่จริงยังไง เขาสนใจแต่ว่า คนที่สำคัญที่สุดสำหรับเขากำลังตกอยู่ในอันตราย เขาต้องไปหาเธอ

ที่ ๆ เดียวที่ไอ้สารเลวนั่นจะพามะเหมี่ยวไป มีอยู่ที่เดียวนั่นแหละ......................









ร่างของชมพู่เซถลาลงไปกับพื้นตามแรงที่ผลักเธอลงมา แต่ก่อนที่เธอจะได้ขยับตัว ศีรษะของเธอก็แหงนขึ้นโดยไม่จำใจ เส้นผมที่ถูกดึงรั้งสร้างความเจ็บปวดแทรกซึมไปทั่วหนังศีรษะ สองมือของเธอยกขึ้นเหนี่ยวรั้งฝ่ามือที่ประทุษร้ายเธออยู่

“ปล่อย!!! ปล่อยฉัน!!!”

ชมพู่เปร่งเสียงออกมา เธอมองสบตากับดวงตาที่เพ่งมองมายังเธออย่างมาดร้าย ชมพู่รู้จักผู้หญิงคนนี้ดี

“แนน...........”


“ใช่!!!!! ฉันเอง.......ยังความจำดีอยู่นี่ ฉันนี่แหละ ครั้งหนึ่งที่แกไม่เคยจะมองเห็นหัวฉัน ครั้งหนึ่งที่เคยแย่งคนที่ฉันรักไป แกมัน*******”

ถ้อยคำหยาบคายเปร่งออกมาจากเรียวปากสวยของแนน ชมพู่ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงที่หน้าตาสะสวย มีการศึกษาจะพูดคำพูดเหล่านี้ออกมาได้อย่างไม่สะทกสะท้าน และแสดงการกระทำป่าเถื่อนออกมาให้เธอได้เห็น

“ทำแบบนี้ทำไม?”


ชมพู่ถามกลับด้วยเสียงที่เจือความเจ็บปวด แนนเค้นเสียงหัวเราะออกมาราวกับคำถามที่เธอถามเป็นเรื่องขบขำนักหนา แนนมองเธออย่างหมิ่นแคลน

“แกโง่หรือไม่มีสมองกันแน่มะเหมี่ยว หันไปดูรอบ ๆ สิ ที่นี่โกดังร้าง แถมผู้ชายอีกตั้งเท่าไหร่ นี่ไม่ได้นับรวมที่ยืนรออยู่ข้างนอกนะ.........ฉันว่า พวกมันคงสนุกกับแกได้อีกพักใหญ่ ๆ เลยละกว่าที่พริกจะรู้ว่าแกหายไป”


จบประโยคที่ทำให้ชมพู่ถึงกับสะท้านกลัวของแนนก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งรวมไปถึงผู้ชายอีกสองสามคนที่ยืนอยู่ภายในห้อง

เจตนาที่แนนแสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ทำให้ชมพู่ตื่นกลัวจนเข้าขั้นหวาดผวา ไม่ใช่แค่ต้องการทำร้ายร่างกายอย่างที่คิด แต่แนนกำลังจะให้ผู้ชายกลุ่มนี้ทำในสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนกลัว......

แนนออกแรงดึงผมของชมพู่ขึ้น จนชมพู่ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด สองขาของเธอยันร่างของตัวเองขึ้นทันที เพื่อจะบรรเทาอาการเจ็บที่เกิดขึ้น แต่ก่อนที่เธอจะสามารถตั้งตัวได้ ร่างของเธอก็ต้องเป็นอันเซไปข้างหน้าอีก เมื่อแนนผลักร่างของเธอไป

ร่างของชมพู่เซไปปะทะกับร่างกำยำของใครคนหนึ่ง และเธอก็ถูกรัดด้วยสองแขนแข็งแรงไว้อย่างแน่นหนา

เสียงหัวเราะดังประสานกันทำให้เธอขนลุกได้ไม่ยาก ชมพู่หันไปมองรอบด้านอย่างหวาดกลัว พร้อม ๆ กับยันกายให้ห่างจากอ้อมกอดที่น่าขยะแขยงนั้น

“ปล่อย!!!! ปล่อยฉันนะ!! บอกให้ปล่อย”


ตอนนี้เปรียบเหมือนกับการแสดงตลกของชมพู่ไปเสียแล้ว เมื่อทุกคนภายในห้องแคบ และอับนั้นพากันหัวเราะออกมาอย่างครื้นแครง

“เลิกเล่นกันได้แล้วมั้ง จัดการได้แล้ว...........สนุกกันให้เต็มที่นะหนุ่ม ๆ ส่วนแก.......มะเหมี่ยว ไหน ๆ ก็อยากเปลี่ยนจากทอมเป็นผู้หญิงแล้ว ลองเปลี่ยนรสชาติจากทอมเป็นผู้ชายหน่อยนะ สนุกไม่หยอกหรอก”


แนนพูดจบก็หัวเราะออกมาอีก ตอนนี้ที่ชมพู่เห็นเพิ่มอีกอย่างหนึ่งก็คือ กล้องวีดีโอทันสมัยในมือของแนน...................ความกลัวเข้ามากเกาะกินในจิตใจของเธอทันที


ร่างของชมพู่ถูกผลักให้มาอยู่กลางห้องโดยมีผู้ชายอีกสี่คนยืนล้อมเธออยู่ สายตาหื่นกระหายจดจ้องร่างของเธอไม่เว้นว่าง แนนยืนชูกล้องถ่ายวิดีโอหันมาทางที่ที่เธอยืนอยู่ ชมพู่อยากจะหายตัวออกจากสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ทันที แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เธอกำลังจะเผชิญกับมัน


ชมพู่หันซ้ายหันขวา เธอไม่กล้าจะขยับไปทางไหน เธอกลัวจนทำอะไรไม่ถูก รู้สึกตัวอีกทีเมื่อมีฝ่ามือของใครคนหนึ่งมาจับต้นขาของเธอ

ชมพู่สะดุ้งโหย่งถีบร้างไปยังทิศทางตรงกันข้าม แต่นั้นก็เหมือนกับการกระโดดไปหาอสูรอีกตัวที่ยืนตระหง่านนอยู่ มันตะคลุบร่างของเธอทันที

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!”


ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ


เสียงหัวเราะชอบใจของพวกมันเปร่งขึ้นมาพร้อมกัน ชมพู่ดิ้นขลุกขลัก พยายามทุกวิถีทางที่จะให้ตัวเองหลุดพ้นออกไปจากขุมนรกแห่งนี้

“ใครก่อนดีวะ.......ขาว ๆ แบบนี้ฉันขอก่อนเลยได้รึเปล่า ฮ่า ๆ”

“เฮ้ย!!! ได้ไงวะ เหนื่อยมาเหมือนกัน ยุติธรรมหน่อย เล่นฉวยไปก่อนอย่างนี้เกินไปมั้ง”

“จะยังไงก็ช่างเถอะน่า ใครก่อนใครหลัง มันก็เหมือนกันละว้า คิวสองคิว ไม่บอบช้ำเท่าไหร่หรอก แต่เดี๋ยวถ้าเจอไอ้พวกข้างนอก ไม่เหลือสภาพ”

ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ

เสียงรัวเราะแทบจะกลบเสียงกรีดร้องของชมพู่ เธอขัดขืน แต่ก็ยิ่งเหมือนถูกพันธนาการมากยิ่งขึ้น ร่างบางของเธอถูกผลักลงกับพื้น เธอไม่มีแม้แต่เวลาจะลุกหนี เพราะร่างใหญ่ของมนุษย์ที่ได้ชื่อว่าเป็น ผู้ชาย โถมเข้ามาทับร่างของเธอ


“ม่ายยยยยยย.........ปล่อยฉันนะ...........ปล่อย..........ม่ายยยยยย”


ชมพู่ขัดขัดขืนดิ้นรนหนักขึ้นเมื่อมือหยาบกร้านมาลูบไล้เนื้อตัวของเธอ เสื้อของเธอถูกดึงทึ้งจนขาดวิ่น เสียงหัวเราะของแนนดังก้องอยู่ในหูของเธอ สายตาของเธอเบิกกว้าง แนนเก็บภาพการกระทำของสัตว์ป่าเอาไว้ เธอกำลังสะใจที่ได้เห็นคนที่แย่งคนรักของเธอกำลังจะถูกทำร้าย

ชมพู่ดิ้นพล่าน เธอพยายามยกขาขึ้นถีบ แต่ข้อเท้าของเธอก็ถูกจับตรึงไว้กับพื้นด้วยมือหนา แขนทั้งสองข้างถูกจับตรึงไว้เหนือหัว ชายที่นั่งคร่อมเธออยู่มองสำรวจรูปร่างของเธอราวกับสัตว์ป่าที่กำลังโหยหิว

“ยะ......อย่าทำอะไร.... อย่าทำอะไรฉันเลยนะ”

ชมพู่ร้องขอออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน เธอหวาดกลัว เจ็บปวด กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอในอีกไม่กี่วินาทีต่อไปนี้

น้ำตาไหลออกมาเป็นทาง........แต่นั่นไม่ได้ทำให้คนที่ขึ้นชื่อว่า “ผู้ชาย” เพศที่ต้องเป็นฝ่ายปกป้อง รู้สึกสงสารเธอเลยสักนิด ตรงกันข้ามความรู้สึกหื่นกระหายกลับโหมกระพือมากขึ้น



ใครก็ได้..........ช่วยพู่ที


เหมี่ยว......อยู่ที่ไหน??? มาช่วยพู่ด้วย


พริก.........พริก.........ช่วยพู่ด้วย พริกกกกก




>>>>>>>>>>>>>>จบตอนขอรับ<<<<<<<<<<<<<<


หายไปนานขอรับ...............ไม่แก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น



"......อย่าลืมเม้นต์กันนะจ๊ะ....."


< ตอนที่ 20< ตอนที่ 22



Create Date : 14 มีนาคม 2550
Last Update : 14 มีนาคม 2550 17:51:06 น. 0 comments
Counter : 815 Pageviews.

samurai_KYO
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ข้าคือ...มิบุ ซา'เคียว"

Friends' blogs
[Add samurai_KYO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.