ภาพวิกิพีเดีย
ขนมอังกู๊ หรือ ขนมเต่า (มีการสะกดหลายแบบ; จีน: 紅龜粿; Pe̍h-ōe-jī: Âng-Ku-Kóe; ขนมเต่าแดง)
เป็นขนมของคนเชื้อสายจีน ได้รับความนิยมไปจนถึงอินโดนีเซีย โดยเรียกว่า กู เว กู (kue ku) มีไส้ประกอบด้วยถั่วทอง น้ำตาล นิยมนำมาเป็นเครื่องบวงสรวงในพิธีต่าง ๆ หรือในงานรับขวัญเด็กเกิดใหม่ บางคนเชื่อว่าควรทำพิธีกรรมนี้ก่อนเด็กอายุครบเดือน เพื่อให้เด็กว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อ โดยจะนำขนมที่ถือว่าเป็นสิริมงคลไปไหว้พระด้วยคือขนมเต่า ซึ่งมีความหมายว่า ให้มีอายุมั่นขวัญยืนนั่นเองสีพื้นของขนมอังกู๊มีแค่สองสีคือ สีแดงใช้ในงานมงคล และสีขาวใช้ในงานอวมงคล แต่ก็อาจดัดแปลงเป็นสีอื่นได้เช่น สีน้ำตาล สีเหลือง สีส้ม สีเขียว ฯลฯการทำขนมอังกู๊
นำแป้งข้าวเหนียว นวดกับน้ำ น้ำมันพืช น้ำตาล สีผสมอาหารโดยเฉพาะสีแดง นวดให้เข้ากันและนิ่ม ส่วนผสมไส้ นำถั่วทองที่หุงสุกแล้วไปกวนกับน้ำตาลจนแห้ง แล้วจึงนำมาห่อกับแป้งข้าวเหนียว นำไปกดลงในพิมพ์ แล้วนำไปนึ่ง นอกจากสีแดงแล้วสามารถทำได้อีกหลากสีตามความต้องการของผู้ทำ แต่ถ้าเป็นการทำในการอวมงคลไม่ต้องใส่สีให้เป็นสีขาวชนิดของอังกู๊
อังกู๊แป้งข้าวเหนียว
ข้างในเป็นใส่ถั่วเขียวกวน มี 4 ชนิดหลัก อังกู๊ (紅龜) คือ การปั้นแล้วนำไปกดลงพิมพ์รูปเต่า
อังอี๋ (紅丸) คือ อังกู๊แต่ไม่ต้องกดลงพิมพ์ ปั้นเป็นก้อนกลม อังอี๋ แบ่งเป็นขนมอีกหลายชนิด
ตาเป๋าอาโก้ย คือ อั๋งอี๋ที่ไม่ใส่สีแดง
ขนมหัวล้าน คือ อังอี๋แต่เป็นอั้งอี๋สีเขียวทำแบบเดียวกับมอจี๋แต่ไม่คลุกแป้ง
อังข่าน คือ อังกู๊แต่นำลงไปกดลงพิมพ์ยาวเป็นรูปเหรียญจีน
อังโถ่ (紅桃) คืออังกู๊แต่นำลงไปกดลงพิมพ์ที่ทำเป็นรูปผลไม้มงคลอังกู๊แป้งสาลี (ตั๋วกู๊)ใช้ในพิธีวันเทศกาลพ้อต่อ เพื่อสักการะพระกวนอิมไต่สือ ทำจากแป้งสาลี แล้วนำไปอบในเตาไฟ แล้วออกมาท่าสีแดง ตามขนาดของผู้ที่สั้ง เพราะเชื่อว่าเต่าเป็นสัตว์อายุยืน เวลาทำป่ายปั๋วเสร็จ เจ้าของเต่าจะต้องเลือกว่าจะปล่อย หรือ จะนำกลับ ปล่อยคือบริจาคเต่าตัวนั้นให้ศาลเจ้า หากจะให้อร่อยให้นำไปชุบไข่ทอดจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี