Group Blog All Blog
|
หวอ ชีวิตไทยในไฟสงครามโลกครั้งที่ 2 : สรศัลย์ แพ่งสภา หวอ ชีวิตไทยในไฟสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้เขียน : สรศัลย์ แพ่งสภา ISBN 978-616-7767-63-5 ฉบับปก สำนักพิมพ์สารคดี. พิมพ์ครั้งที่ 2. 2558. จำนวน 228 หน้า ราคา 229 บาท --------------------------------------------------------------------------------- พอ หวอ ละเป็นส่ายตาหาทีเดียวเชียว แค่แล่นกระทบหูเท่านั้นแหละ เป็นตาเหลือกตาตั้งแหงนหน้ามองฟ้าไว้ก่อน ยิ่งหลังจากหวอแล้วได้ยินเสียงหึ่ง ๆ ของเครื่องยนต์จากเบื้องสูงด้วยแล้ว สนุกละทีนี้ สมองไม่ต้องสั่ง โกยสี่ตีนอัตโนมัติเข้าหาที่หลบภัย ใกล้ตัวที่สุดทันที เดี๋ยวก็ได้ยินเสียงระเบิดกัมปนาท แผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น อกสั่นขวัญบินกันถ้วนทั่ว ภัยทางอากาศเล่นงานตูเข้าแล้ว อาคารบ้านเรือนพังทลายวิบัติฉิบหาย ผู้คนบาดเจ็บล้มตาย หวอ ที่ว่านี้คือสัญญาณแจ้งภัยทางอากาศ เตือนให้รู้ว่าเครื่องบินข้าศึกกำลังเข้ามาถล่มระเบิดใส่หัวเรา ใครจะไปทันคิดว่า หนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย คนไทยยุคหนึ่ง จะต้องผจญภัยอยู่ท่ามกลางเสียง หวอ นานถึง 5 ปี - หวอ --------------------------------------------------------------------------------- หวอ ชีวิตไทยในไฟสงครามโลกครั้งที่ 2 เรียบเรียงขึ้นจากความทรงจำของ สรศัลย์ แพ่งสภา นักเขียนผู้เคยผ่านช่วงชีวิตท่ามกลางไฟสงครามโลก สำหรับหนังสือเล่มนี้ เน้นหนักไปที่ภาพวิถีชีวิตของชาวกรุงเทพฯ ที่ต้องเผชิญกับภาวะสงคราม นับแต่ช่วงสงครามอินโดจีนที่ไทยรบกับฝรั่งเศส เรื่อยมาจนถึงกองทัพพระจักรพรรดิญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกบุกยึดประเทศไทยเพื่อขอใช้เมืองไทยเป็นทางผ่านไปสู่พม่า กระทั่งรัฐบาลไทยยินยอมจับมือกับกองทัพญี่ปุ่น เข้าร่วมวงศ์ไพบูลย์ในสงครามมหาเอเชียบูรพา (The Greater East Asia Co-Prosperity Sphere) เลยเป็นเหตุให้เมืองไทยตกเป็นเป้าหมายในการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร นับแต่นั้น หวอ กับชีวิตชาวกรุงเทพฯ ก็กลายเป็นเพื่อนสนิทชิดใกล้ ที่คอยส่งสัญญาณเตือนให้ผู้คนระวังภัยทางอากาศ แล้วรีบหนีเข้าหลุมหลบภัยเอาชีวิตรอด ผู้เขียนเรียบเรียงเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นสงครามไปจนถึงสงครามสงบได้อย่างน่าติดตาม ต้องขอบอกก่อนว่า หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ตำราประวัติศาสตร์ที่วิเคราะห์วิจารณ์เหตุการณ์สงครามโลกในไทย (อาจจะมีความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนหรือข้อเท็จจริงแทรกเข้ามาบ้าง) แต่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของผู้คนในกรุงเทพฯ ที่ผันผวนและต้องปรับตัวไปตามกระแสสังคมในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยผู้เขียนได้สอดแทรกเกร็ดความรู้เอาไว้หลายเรื่องด้วยกัน เช่น เครื่องบินรบ รัฐนิยม ยุคมาลานำไทย พรรคกระเป๋าเสื่อ (พ่อค้าตลาดมืด) น้ำท่วมกรุงเทพฯ ในปี พ.ศ.2485 การเปลี่ยนแปลงอักขรวิธีในภาษาไทย ฯลฯ ซึ่งแต่ละเรื่องเมื่อร้อยเรียงเข้าด้วยกันแล้ว ช่วยทำให้เรามองเห็นสภาพความเป็นอยู่ของคนไทยในช่วงสงครามโลกได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ผมอ่านเล่มนี้ด้วยความสนุกและตื่นเต้น เพิ่งได้รู้ว่าช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดเหตุการณ์สำคัญมากมายในเมืองไทยเต็มไปหมด ถ้าจะเอามาเล่าในนี้ก็คงไม่จบแน่ๆ ผู้เขียนเลือกใช้วิธีเล่าแบบเป็นกันเอง สำนวนนักเลงนิดๆ สนุกดี ทำให้ผมรู้สึกราวกับว่า มีคนกำลังนั่งเล่าเรื่องให้ฟังอยู่ตรงหน้า และต้องนับถือความเป็นนักค้นคว้าข้อมูลของผู้เขียนมากๆ ที่สืบค้นบางเรื่องเสียจนละเอียดยิบ แล้วนำมาใส่ไว้ในหนังสือให้เราได้อ่าน ถึงแม้อ่านแล้วจำไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร เพราะผมเห็นข้อดีอย่างหนึ่งว่า สักวันหนึ่ง มันจะกลายเป็นข้อมูลสำคัญที่คงหาอ่านได้ยาก ตัวอย่างเช่น รุ่นเรือรบ รุ่นเครื่องบิน รุ่นรถยนต์ ห้างร้านบริษัทต่างๆ ในสมัยนั้น และเรื่องยิบย่อยอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าใครอยากรู้ อยากเข้าใจ อยากเห็นภาพชีวิตคนไทยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผมขอแนะนำให้ลองอ่าน หวอ แล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอนครับ วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ประกาศพระบรมราชโองการสันติภาพในสงครามมหาเอเชียบูรพา ไม่มีเสียงไชโยครั้งใดจะดังกึกก้องทั่วแผ่นดินไทยเท่าครั้งนี้
- หวอ Jim-793009 05 : 04 : 2017
คุณ Prophet_Doll --- หลายๆ ตอนผู้เขียนเล่าได้สนุก ทำเอาลุ้นตามเลยครับ ดีใจที่คนเคยผ่านเหตุการณ์จริงเก็บเรื่องมาเล่าให้ฟังนะครับ
โดย: Jim-793009 วันที่: 6 เมษายน 2560 เวลา:10:04:06 น.
|
Jim-793009
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?] "เขียน" ถ้าสิ่งนั้นคือความสุขอย่างแรกที่เรามองเห็นและนึกถึง ^_^ วรรณกรรมจึงงามกว่าเพชร คมกว่าดาบ เป็นโอสถอันประเสริฐยิ่งของชาวโลก - กฤษณา อโศกสิน "หนังสือบางเล่มผมไม่ได้อ่านเพราะชอบหรือไม่ชอบ เมื่อเป็นนิยายรักยอดนิยม ถ้าไม่อ่านก็เสียโอกาสทำความเข้าใจคนอื่น...ดีสำหรับผม ไม่ได้หมายความว่าคุณอ่านแล้วจะเข้าใจ หรือชอบในระดับเดียวกัน" - ประชาคม ลุนาชัย [ร้านหนังสือที่มีแต่นิยายรัก] "...สำหรับนักอ่าน หนึ่งในการค้นพบที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิต คือการพบว่าตัวเองเป็นนักอ่าน ไม่ใช่แค่อ่านออก แต่ตกหลุมรักมัน ตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ตกหลุมรักหัวปักหัวปำ หนังสือเล่มแรกที่ทำให้เกิดผลเช่นนั้นจะไม่มีวันถูกลืม..." - Finders Keepers, Stephen King
|
อาจเป็นเพราะมันเป็นนิยายที่สมจริง และ มาจากเหตุหการณ์จริงๆก็ได้ มันถึงไดเห็นภาพขนาดนี้ ...
ชอบบทบรรยายของนัักเขียนค่ะ