Q & A เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยพระเจ้า


จอย : ที่พี่เขียนบอกมา.. เป็นเหมือนคำตอบที่จอยอยากรู้เลยค่ะ วันนี้จอยก็มีอาการนะค่ะสังเกตุว่าจะเป็นช่วงเย็นๆแต่จอยก็รีบอธิฐานแบบที่พี่ส่งมาให้ ก็มีสงบไปบ้างแต่ไม่หมดนะค่ะ พอสัก3ทุ่มจอยก็จะรู้สึกดีสบายใจ จะเป็นช่วงเวลาเดียวกันเลย.. ตอนนี้ไม่ว่าหลับตาลืมตาในหัวจอยมีแต่พระเจ้าๆๆตลอดเวลา คือถ้าว่าก็จะอ่านๆ คัมภีร์บ้างนิดหน่อย ดูและฟังเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าในยูทูป และก็อ่านไปเจอคอมเม้นอันหนึ่งค่ะแล้วเลยก็ความสงสัยขึ้นมา คือพระเจ้าในตอนแรกเป็นแค่พระเจ้าของยิวเท่านั้นเหรอค่ะ
พระเจ้าทรงเลือกยิวแล้วเพราะอะไรพระเจ้าทรงดูเหมือนทอดทิ้งชาวยิวล่ะค่ะ เหมือนตอนที่ฮิตเลอร์ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ยิวนะค่ะ ยิวตายเยอะมากกก
และทำไมพระเจ้าถึงไม่จัดการซาตานและมารทั้งหลายล่ะค่ะทำไมถึงปล่อยให้ขึ้นมาทำลายความเชื่อเรื่องพระเจ้า
สงสัยนะค่ะเพราะอ่านพระคัมภีร์ยังไม่ครบและบ้างครั้งก็ตีความหมายไม่ออกเท่าไรค่ะ เลยถามพี่ดีกว่าอีฟคงเข้าใจได้ง่ายถ้าฟังที่พี่อธิบาย
ขอบคุณค่ะ และ ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้จอยได้รู้จักพี่


A : พระเจ้าทรงเลือกชาวยิวขึ้นมาเป็นตัวอย่างน่ะค่ะ...เป็นตัวอย่าง คล้ายๆกับเป็น case study ให้เรารู้ว่าพระองค์ดูแลและบริหารจัดการอย่างไรกับ/เพื่อคนของพระองค์ ซึ่งเราจะเข้าใจได้จากการอ่านพระคัมภีร์เดิม และชาวยิวในนั้นก็เป็นเงาของคริสเตียนในยุคนี้ค่ะ

Q : "พระเจ้าทรงเลือกยิวแล้วเพราะอะไรพระเจ้าทรงดูเหมือนทอดทิ้งชาวยิวล่ะค่ะ เหมือนตอนที่ฮิตเลอร์ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ยิวนะค่ะ ยิวตายเยอะมากก....."

A: ทุกครั้งที่พระเจ้าทรงทอดทิ้งพวกเขาก็เพราะพวกเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้า ไม่ถือรักษาธรรมบัญญัติ และกระทำความบาป พวกเขาไหว้รูปเคารพ พวกเขาบูชาพระอื่น พวกเขาบูชายัญมนุษย์ พวกเขาพยากร์เท็จค่ะ และความบาปอื่นๆอีกมากมาย...อ่านพระธรรมเยเรมีย์จะเห็นตัวอย่างชัดเจนค่ะ

Q: ..."ทำไมพระเจ้าถึงไม่จัดการซาตานและมารทั้งหลายล่ะค่ะทำไมถึงปล่อยให้ขึ้นมาทำลายความเชื่อเรื่องพระเจ้า"


A: เพราะพระเจ้าทรงยุติธรรมค่ะ ซาตานก็สิ่งที่พระเจ้าสร้างมา มนุษย์ก็คือสิ่งที่พระเจ้าสร้างมา อย่างไรก็ตามพระเจ้าก็บอกแนวทางมนุษย์ทุกอย่างหมดแล้ว ว่าควรดำเนินชีวิตอย่างไรจึงจะมีสันติสุข และ ถ้าทำอย่างไร...แล้วจะถูกลงโทษ

ขอให้อ่าน 2 blog นี้ค่ะ...

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=16-11-2009&group=1&gblog=75

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=17-11-2009&group=1&gblog=76

พระเจ้าจะจัดการซาตานแน่นอนเมื่อถึงเวลาที่กำหนด...

วิวรณ์ 20 / Revelation 20
ซาตานถูกขังไว้พันปี
20:1 แล้วข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ ท่านถือลูกกุญแจของเหวที่ไม่มีก้นเหวนั้นและถือโซ่ใหญ่
20:2 และท่านได้จับพญานาค ซึ่งเป็นงูดึกดำบรรพ์ ผู้ซึ่งเป็นพญามารและซาตาน และล่ามมันไว้พันปี
20:3 แล้วทิ้งมันลงไปในเหวที่ไม่มีก้นเหวนั้น แล้วได้ลั่นกุญแจประทับตรา เพื่อไม่ให้มันล่อลวงบรรดาประชาชาติได้อีกต่อไป จนครบกำหนดพันปีแล้วหลังจากนั้นจะต้องปล่อยมันออกไปชั่วขณะหนึ่ง


Satan Imprisoned in Hell a Thousand Years
20:1 And I saw an angel come down from heaven, having the key of the bottomless pit and a great chain in his hand.
20:2 And he laid hold on the dragon, that old serpent, which is the Devil, and Satan, and bound him a thousand years,
20:3 And cast him into the bottomless pit, and shut him up, and set a seal upon him, that he should deceive the nations no more, till the thousand years should be fulfilled: and after that he must be loosed a little season.

Q: ตอนนี้ที่บ้านตั้งพระพุทธรูปอยู่ค่ะ.. แต่จอยไม่ได้กราบไหว้ เพราะมีบ้างส่วนเป็นของแม่ จะเป็นไรไหมค่ะ..

A: ดีที่สุดคืออย่าให้มีรูปเคารพใดๆอยู่ในบ้านค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นที่สิงสถิตของวิญญาณชั่ว และมันก็จะออกมารังครวญคริสเตียนรวมทั้งคนอื่นๆในบ้านในระยะๆค่ะ พระเจ้าบอกเราว่า ผีมาร/ซาตาน(ในพระคัมภีร์ ใช้คำว่าขโมย)มันมาเพื่อลักขโมย มาเพื่อฆ่า และมาเพื่อทำลายค่ะ (ยอห์น 10:10)

แต่ถ้าเราไม่สามารถเอาออกไปได้ เพราะติดว่าเป็นของคนอื่นและเราก็ยังต้องอยู่ที่บ้านนั้น ก็ให้อธิษฐานทุกวันอย่างนี้..."ข้าสั่งในพระนามพระเยซูคริสต์ สั่งให้ผีมารซาตาน ผีร้ายวิญญาณชั่วทุกตนที่อยู่ในรูปเคารพทุกชิ้นในบ้านหลังนี้ จงถูกขังอยู่ในรูปเคารพเท่านั้น ห้ามออกมารบกวนหรือทำอันตรายข้าหรือคนในครอบครัวของข้า ข้าสั่งในพระนามพระเยซูคริสต์ ....และข้าปกคลุมตัวข้า ลูกๆและสามีของข้าไว้ด้วยพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ตลอดเวลา ในพระนามพระเยซูคริสตเจ้า เอเมน"

อย่างไรก็ตาม ด้วยความรักที่พระเจ้ามีในเรา...คริสเตียนมีความจำเป็นที่จะต้องพยายามประกาศข่าวประเสริฐเรื่องความรอดให้แก่คนอื่นๆในครอบครัว เพื่อให้เขาได้รับความรอดและดำเนินชีวิตในทางของพระเจ้าด้วย แต่การประกาศนั้น เราต้องอธิษฐานเผื่อพวกเขาด้วยและขอการทรงนำจากพระวิญญาณของพระเจ้าในการประกาศหรือเป็นพยานฝ่ายพระเจ้าให้พวกเขาฟัง ว่าพระองค์ทรงกระทำดีในชีวิตของเราอย่างไรบ้าง เพราะคนจำนวนมากที่ยังไม่เชื่อพระเจ้าก็ยังอยู่ในการควบคุมของวิญญาณชั่ว และวิญญาณชั่วก็จะเร้าคนเหล่านั้นให้เกลียดชังคริสเตียน สิ่งนี้คริสเตียนจะต้องตระหนักรู้ไว้ให้มั่น และยึดความเชื่อในพระองค์ให้แน่น

ยอห์น 15 / John 15
15:18 ถ้าโลกนี้เกลียดชังท่านทั้งหลาย ท่านทั้งหลายก็รู้ว่าโลกได้เกลียดชังเราก่อน
15:19 ถ้าท่านทั้งหลายเป็นของโลก โลกก็จะรักท่านซึ่งเป็นของโลก แต่เพราะท่านไม่ใช่ของโลก แต่เราได้เลือกท่านออกจากโลก เหตุฉะนั้นโลกจึงเกลียดชังท่าน

15:18 If the world hate you, ye know that it hated me before it hated you.
15:19 If ye were of the world, the world would love his own: but because ye are not of the world, but I have chosen you out of the world, therefore the world hateth you.

***ถ้าเราพูดเรื่องพระเยซูให้พวกเขาฟังแล้วเขาปฏิเสธ ให้เราหยุดพูดไปก่อนค่ะ และไม่ต้องโกรธพวกเขา แต่ยังคงอธิษฐานเผื่อพวกเขาต่อไป และเราก็พยายามติดสนิทกับพระเจ้ามากยิ่งๆขึ้นค่ะ ถ้าคนในบ้านหรือเพื่อนๆแสดงอาการแปลกๆกับเรา ทั้งๆที่เราก็ทำดีต่อพวกเขา...ขอให้รู้ว่ามารซาตานกำลังใช้คนๆนั้นมารังครวญเรา เราพยายามระงับอารมณ์และร้องหาพระเยซูคริสต์ อาจร้องเรียกพระองค์ในใจหากยังอยู่ในเหตุกาณ์...และพูดคุยกับพวกเขาตามเหตุผล ...แต่ถ้าหากเราเกิดระงับอารมณ์ไม่อยู่ ก็ให้สารภาพบาปกับพระองค์เมื่อเรานึกได้ค่ะ และขอองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยเรา เปลี่ยนแปลงเราให้เป็นเหมือนพระคริสต์

2 โครินธ์ 1 / 2 Corinthians 1
1:4 พระองค์ผู้ทรงปลอบประโลมใจเราในการทุกข์ยากทั้งสิ้นของเรา เพื่อเราจะสามารถปลอบประโลมใจคนเหล่านั้นที่มีความทุกข์ยากอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ด้วยการปลอบประโลมใจซึ่งตัวเราเองได้รับจากพระเจ้า
1:5 เพราะว่าเรามีส่วนทนทุกข์กับพระคริสต์มากฉันใด การปลอบประโลมใจของเราเนื่องจากพระคริสต์ก็มากฉันนั้น
1:6 ที่เราทนความทุกข์ยากนั้น ก็เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ความชูใจและความรอด หรือที่เราได้รับการปลอบประโลมใจนั้น ก็เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้รับความชูใจและความรอด ซึ่งทำให้ท่านทั้งหลายเพียรสู้ทนความทุกข์เหมือนอย่างเราได้ทนนั้น


1:4 Who comforteth us in all our tribulation, that we may be able to comfort them which are in any trouble, by the comfort wherewith we ourselves are comforted of God.
1:5 For as the sufferings of Christ abound in us, so our consolation also aboundeth by Christ.
1:6 And whether we be afflicted, it is for your consolation and salvation, which is effectual in the enduring of the same sufferings which we also suffer: or whether we be comforted, it is for your consolation and salvation.

Q: จอยอยากให้ลูกรับเชื่อพระเจ้าด้วยต้องทำไงบ้างค่ะ คนเล็ก1ขวบเอง อีกคน6ขวบค่ะ

A: ลูกคนโต ที่เราพอจะพูดคุยรู้เรื่อง ให้เล่าเรื่องราวของพระเยซูให้เขาฟัง เมื่อเขาเข้าใจ เราก็พาเขารับเชื่อเหมือนที่จอยทำ แต่เขาอาจไม่มีบาปที่จะต้องสารภาพมากเหมือนผู้ใหญ่(นอกจากบาปที่ติดมาจากบรรพบุรุษ และบาปที่เขาไม่เชื่อฟังพ่อแม่) ก็พาเขาพูดตามที่จอยเห็นสมควรน่ะค่ะ.....อธิษฐานให้เขาเห็น...เพื่อเขาจะได้คุ้นเคย พาเขามานั่งใกล้ๆเมื่อเราอธิษฐาน และอธิษฐานเผื่อเขา แม่อาจวางมือบนศีรษะของเขาเมื่ออธิษฐานให้เขาค่ะ อาจจะอ่านพระคัมภีร์ให้เขาฟังเป็นระยะๆ หรือสอนให้เขาอ่านค่ะ พยายามทำให้เขาคุ้นเคยกับเรื่องราวของพระเจ้าค่ะ
ส่วนคนเล็ก ก็เลี้ยงเขาและปลูกฝังเรื่องของพระเจ้าไปเรื่อยๆค่ะ จนเขาพูดคุยรู้เรื่อง ก็พาเขารับเชื่อค่ะ

สุภาษิต 22 / Proverbs 22

22:6 จงฝึกเด็กในทางที่เขาควรจะเดินไป และเมื่อเขาเติบโตแล้ว เขาจะไม่พรากจากทางนั้น

22:6 Train up a child in the way he should go: and when he is old, he will not depart from it.



Q : ที่เรื่องในไบเบิ้ลมีกล่าวไว้ถึงคนสองคนที่อยุ่ในทุ่งนา เมื่อวันสิ้นโลกมาถึง ผู้ที่ไม่เชื่อก็จะถูกทำลาย แม้ยืนอยุ่ด้วยกัน ผู้ที่เชื่อก็จะรอด(ขอโทษนะคะจำบทไม่ได้)......ตรงนี้ดิฉันตีความหมายว่า เราไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันเป็นชุมชนคริสเตียนก็ได้ เพียงขอให้เรามีความเชื่อในพระบิดาและพระบุตรอย่างจริงใจโดยการเรียนพระคัมภีร์เพื่อให้สอดคล้องตามน้ำพระทัย .....ขอถามความคิดเห็นคุณค่ะ........ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

A: มัทธิว 24:40 ค่ะ คุณเข้าใจเรื่องคนที่เชื่อได้รับความรอด คนไม่เชื่อไม่รอดนั้นถูกแล้วค่ะ

ส่วนการที่ผู้เชื่อจะอยู่ร่วมกัน(แบบอยู่จริงๆ เห็นหน้ากัน/physically) เช่น การพบปะสนทนากัน สามัคคีธรรมกับพี่น้องผู้ร่วมในความเชื่อก็ย่อมทำได้ แต่ต้องอยู่ในทางของพระเจ้าจริงๆ หรือการที่เราพบปะกันแบบที่ทำกันอยู่ใน Facebook ก็ได้ ....ยิ่งในยุคสุดท้ายที่เรากำลังอยู่นี้เอง...พระเจ้าเรียกให้ออกมาจากโบสถ์เพราะว่าส่วนใหญ่ พวกเขาไม่อยู่ในทางของพระเจ้า (วิวรณ์ 18:...ชนชาติของเรา จงออกมาจากนครนั้นเถิด เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่มีส่วนในการบาปของนครนั้น และเพื่อท่านจะไม่ต้องรับภัยพิบัติที่จะเกิดแก่นครนั้น) ....คือว่า..ถ้าเราเข้าไปทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับเขา เช่นฉลองคริสมาส อีสเตอร์ หรือวเลนไทน์ ...เราก็เข้าข่ายมีส่วนร่วมในความบาปกับเขาด้วย

สิ่งสำคัญในการสามัคคีธรรมกับพี่น้องคริสเตียนคือต้องไม่พากันให้หลงไปจากทางของพระเจ้า ต้องเสริมกันให้เข้มแข็งในพระองค์และคอยช่วยเหลือกันเมื่อเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในทางของพระเจ้าก็บอกกันอย่างที่เราพยายามทำอยู่ค่ะ โดยเฉพาะในยุคนี้เราไม่มีเวลามาล้อกันเล่นค่ะ พระเยซูจะกลับมาในไม่ช้านี้แล้ว พระองค์บอกเราอยู่เรื่อยๆค่ะ อีกไม่นานแน่นอนค่ะ

โดยส่วนตัวเราเอง ตั้งแต่พระองค์เรียกให้ออกมาจากโบสถ์ได้ประมาณ 3 ปีแล้ว เราก็เชื่อฟังและทำตาม..พระองค์ก็ทรงให้เราได้มีสามัคคีธรรมกับพี่น้องที่เข้มแข็งในพระองค์จากทั่วทุกมุมโลกผ่านทางอินเตอร์เน็ตค่ะ พระองค์สอนเราจากหลายๆทาง หากเราแสวงหาพระองค์ด้วยสิ้นสุดใจจริงๆ พระองค์ทรงสัตย์ซื่อค่ะ พระองค์รู้จิตใจเราดี พระองค์ทรงดูทั้งการกระทำและจิตใจของเราทุกคนค่ะ

ขอพระเจ้าทรงนำคุณค่ะ และขอพระองค์เปลี่ยนแปลงคุณให้เป็นผู้รับใช้ที่เข้มแข็งของพระองค์และเป็นท่อพระพรไปสู่คนอื่นอีกมากมายค่ะ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน

Q : รบกวนถาม เรื่อง นรก ในความหมายของไบเบิ้ลหมายถึงอย่างไรคะ

A : นรกมีจริงและเป็นสถานที่จริงที่พระเจ้ามีไว้สำหรับซาตานและบรรดาลูกสมุนของมันและซาตานมันต้องการให้มนุษย์มาเป็นทาสของมัน มันจึงพยายามล่อลวงมนุษย์ให้กระทำความบาปต่อพระเจ้า หรือไม่เชื่อฟังพระเจ้า จะได้ลงไปอยู่ในนรกกับมันเยอะๆ

ลองอ่าน blog เหล่านี้นะคะ เราหาข้อมูลมาใส่ไว้เพราะไม่อยากให้ใครต้องไปที่นั่น....

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=27-10-2009&group=1&gblog=33

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=21-12-2011&group=1&gblog=144


//www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=18-12-2011&group=1&gblog=140


//www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=20-02-2012&group=1&gblog=178


Q :ส่วนมนุษย์ที่กลายเป็นผงคลีดินคืออย่างไรคะ?
อีกคำถามนะคะ แล้วตอนนี้มารไม่ได้โดนขังไว้ทั้งหมดเหรอคะ?
ทำไมโลกถึงยังมีแต่สงคราม
ได้ความรู้มากค่ะ ขอบพระคุณที่ยกพระคัมภีร์มาให้ด้วยค่ะ


A: มนุษย์ที่กลายเป็นผงคลีดิน ---> ก็คือพระเจ้าสร้างเรามาจากผงคลีดิน และสุดท้ายเมื่อมนุษย์ตาย ไม่ว่าร่างกายจะถูกฝังหรือเผา ก็จะกลับกลายไปเป็นผงคลีดินเหมือนเดิมค่ะ ....แต่สิ่งที่จะยังคงอยู่คือวิญญาณ(spirit) ซึ่ง วิญญาณนี้จะต้องลงนรกหรือไปอยู่กับพระเจ้าก็จะขึ้นอยู่ับเขาเมื่อยังมีชีวิตอยู่ว่าเขาเลือกทางเดินในพระเจ้าหรือ ทางของซาตานค่ะ

ปฐมกาล 2 / Genesis 2

2:7 พระเยโฮวาห์พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีดิน ทรงระบายลมปราณแห่งชีวิตเข้าทางจมูกของเขา และมนุษย์จึงเกิดเป็นจิตวิญญาณมีชีวิตอยู่

2:7 And the LORD God formed man of the dust of the ground, and breathed into his nostrils the breath of life; and man became a living soul.


**มีมารเพียงบางตัวเท่านั้นที่ถูกขังไว้ และจำนวนมากก็ถูกปล่อยออกมาในยุคสุดท้าย...

วิวรณ์ 9 / Revelation 9

9:2 เมื่อเขาเปิดเหวที่ไม่มีก้นเหวนั้น ก็มีควันพลุ่งขึ้นมาจากเหวนั้นดุจควันที่เตาใหญ่ และดวงอาทิตย์และอากาศก็มืดไป เพราะเหตุควันที่ขึ้นมาจากเหวนั้น
9:3 มีฝูงตั๊กแตนบินออกจากควันนั้นมายังแผ่นดินโลก ได้ประทานอำนาจแก่ตั๊กแตนนั้น เหมือนกับอำนาจของแมงป่องแห่งแผ่นดินโลก
9:4 และมีคำสั่งแก่มันไม่ให้ทำร้ายหญ้าบนแผ่นดินโลก หรือพืชเขียว หรือต้นไม้ แต่ให้ทำร้ายคนเหล่านั้นที่ไม่มีตราของพระเจ้าบนหน้าผากของเขาเท่านั้น

9:2 And he opened the bottomless pit; and there arose a smoke out of the pit, as the smoke of a great furnace; and the sun and the air were darkened by reason of the smoke of the pit.
9:3 And there came out of the smoke locusts upon the earth: and unto them was given power, as the scorpions of the earth have power.
9:4 And it was commanded them that they should not hurt the grass of the earth, neither any green thing, neither any tree; but only those men which have not the seal of God in their foreheads.

พระคัมภีร์ข้อนี้เป็นภาพฝ่ายวิญญาณที่เกิดขึ้นในยุคสุดท้าย และเราก็จะเห็นภาพจริงจากเหตุการณ์ต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นในแต่ละวันค่ะ

*** เหวที่ไม่มีก้นเหว หมายถึงนรกค่ะ

Q: ทำไมถึงปล่อยซาตานออกมาคะ

A: เป็นไปตามกาลเวลาค่ะ ยุคสุดท้าย...คล้ายๆกับยุคโนอาห์ค่ะ แต่ยุคนั้นพระเจ้าเอาน้ำมาล้างโลก และขณะนั้นพระเยซูคริสต์ยังไม่มาไถ่บาปให้มนุษย์ แต่ยุคนี้การล้างโลกจริงๆนั้นจะมาด้วยไฟ (และสุดท้ายเลยนั้น..น่าจะเป็นระเบิดนิวเคลียร์) แต่ก่อนที่ไฟจะมาเผาผลาญจนสิ้นนั้น (เท่าที่เราพอจะเข้าใจ....คือ...) พระเจ้าต้องการให้คนกลับใจมาหาพระองค์ให้มากที่สุด จึงให้มีเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆเกิดขึ้นก่อน เพราะจากบทเรียนของชาวอิสราเอลในพระคัมภีร์เดิมนั้น เมื่อพวกเขาสุขสบายดี..พวกเขาก็ทิ้งพระเจ้าและไปไหว้รูปเคารพและกระทำความบาปต่างๆ ไม่รักษาธรรมบัญญัติเสียทุกครั้ง...แล้วพระเจ้าก็จะเร้าให้ศัตรูมารุกรานเขา...และเมื่อพวกเขาตกทุกข์ยากลำบาก เขาก็ร้องหาพระองค์เสมอ แล้วพระองค์ก็ช่วยทุกครั้งเหมือนกัน.....ยุคนี้ก็เช่นเดียวกันค่ะ พระองค์ต้องการให้มนุษย์เห็นว่า พระองค์เท่านั้นที่จะช่วยพวกเขาให้พ้นจากความยากลำบากต่างๆได้ และแม้ว่าร่างกายมนุษย์จะต้องตายไป ทุกคนที่เชื่อและดำเนินชีวิตในพระองค์จริงๆก็มั่นใจได้ว่าวิญญาณของพวกเขาไม่ตาย แต่จะได้เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ในอาณาจักรของพระองค์ค่ะ









Create Date : 23 กรกฎาคม 2555
Last Update : 24 กรกฎาคม 2555 0:55:33 น.
Counter : 2456 Pageviews.

0 comments

Narno7
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



โยบ 38 / Job 38


38:4 เมื่อเราวางรากฐานของแผ่นดินโลกนั้น เจ้าอยู่ที่ไหน ถ้าเจ้ามีความเข้าใจก็บอกเรามา

38:4 Where wast thou when I laid the foundations of the earth? declare, if thou hast understanding.

38:7 ในเมื่อดาวรุ่งแซ่ซ้องสรรเสริญ และบรรดาบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าโห่ร้องด้วยความชื่นบาน

38:7 When the morning stars sang together, and all the sons of God shouted for joy


"I am a spirit that live in a body and communicate and perceive the exterior world through my soul."

"This world is not my home. I am here on a mission. Not all of children of God have or will come on this earth but I was chosen. Not all who come fulfill their mission and purpose for being here. Through the Cross of Jesus, I enter into the Kingdom of God. And as a daughter of God, my mission is to bring Heaven to earth."

New Comments
All Blog