ในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ สิ่งที่หลายคนพูดตรงกันหมดโดยไม่ได้นัดหมายคือมันจะเป็นแค่ ครั้งแรก และ ครั้งเดียว ในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นในบันทึกของเลสเตอร์เอง หรือในบันทึกของวงการลูกหนังก็ตาม
เพราะแชมป์ในครั้งนี้เป็นแชมป์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่พิเศษและน่ามหัศจรรย์
เคลาดิโอ รานิเอรี่ พูดถึงความสำเร็จของเหล่า จิ้งจอก ว่าเหมือนกับพวกเขาหลับฝันไป แล้วได้ยินเสียงกระดิ่งแว่วๆ Dilly ding, dilly dong จากนั้นพวกเขาก็ตื่นมาพบกับความจริงว่า เลสเตอร์ กลายเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้
อย่างไรก็ดี ไม่ได้หมายความว่าในฤดูกาลหน้า พวกเขาจะไม่มีสิทธิ์ ฝัน หรือสร้างเรื่องมหัศจรรย์ครั้งต่อไปได้อีก
แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องยากครับ เพราะการแข่งขันในพรีเมียร์ลีกนั้นสูงมาก ตัวอย่างจากความตกต่ำในชั่วข้ามคืนของ เชลซี ที่เปลี่ยนจากแชมป์มาเป็นทีมระดับกลางตารางทั้งที่มีซูเปอร์สตาร์เต็มทีมเป็นกระจกสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของพรีเมียร์ลีกในยุคใหม่ล่าสุดได้เป็นอย่างดี
เลสเตอร์ ในฐานะแชมป์เองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่ความทรงจำที่สวยงามนี้
พวกเขามีโอกาสจะไปต่อครับ และนั่นคือเป้าหมายระยะยาวที่ผมเชื่อว่าเหล่าผู้บริหารของทีมจิ้งจอกเองย่อมคิดเตรียมการไว้เรียบร้อย
แม้จะมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียสตาร์เอกของทีมอย่าง เจมี่ วาร์ดี้, ริยาด มาห์เรซ, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ หรือแม้แต่ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ ที่หลังจากนี้จะมีกระแสข่าวการย้ายทีมเกิดขึ้นรายวัน เพราะผลงานเป็นที่ต้องตาของทีมใหญ่เหลือเกิน
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่มีสิทธิ์ในการหาสตาร์หน้าใหม่เข้ามาเสริม
โมเดลการทำทีมแบบ เซาแธมป์ตัน เป็นสิ่งที่เลสเตอร์ สามารถเดินตามได้ไม่ยากครับ เสียคนหนึ่งไปหาคนใหม่มา ปั้นใหม่ใช้เวลาบ้างแต่หากยังสามารถรักษา แกน ของทีมเอาไว้ได้อย่างน้อย 60-70% และต้องรักษาสตาร์ประจำทีมเอาไว้ให้ได้ 1-2 รายเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ทีมก็มีโอกาสจะยืนระยะได้
หากปีหน้าจะไม่ได้แชมป์ อย่างน้อยเลสเตอร์ ควรคาดหวังถึงการจบ Top 6 ที่ต้องเป็นเป้าหมายที่จับต้องได้ ไม่นับการทำผลงานให้ดีที่สุดในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นการหวนคืนสังเวียนยุโรปอีกครั้งในรอบนับสิบปี หลังจากที่ครั้งสุดท้ายได้ไปในช่วงการคุมทีมของ มาร์ติน โอนีล ในยุค 90
ด้วยขนาดทีมและเงินทุน เลสเตอร์ ยังห่างไกลจากการเป็นมหาอำนาจของวงการฟุตบอลอังกฤษ แต่การจะยืนระยะเป็นทีม ประจำ ในพรีเมียร์ลีกนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ครับ
และหากทำได้ ด้วยเม็ดเงินสนับสนุนปีละมากกว่า 100 ล้านปอนด์ - ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าที่สโมสรระดับท็อปของยุโรปในลีกอื่นได้รับ และมากกว่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยซ้ำไป - จะค่อยๆทำให้พวกเขาพัฒนาขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องและยาวนาน
อย่าให้ทุกสิ่งที่สร้างมาเป็นเพียงแค่ความสำเร็จชั่วคราว
โปรดทำให้มันยั่งยืน
ซอยสามัคคี by ลูกแม่กิ่ง (lookmaeking@hotmail.com)