คิดถึง แต่บอกใครไม่ได้ (มาก)
โหลๆ เทส (ปัดฝุ่นไมคะโฟนนิดนึง) ไม่ได้กลับมานาน เพราะมีอะไรให้ทำเยอะมาก ยุ่งงกๆๆๆ จนไม่มีเวลามาเขียนหรือบ่นอะไร (แสดงว่าถ้ามาเขียน แปลว่า ว่างมาก ใช่ไหม... เอ่อ ก็น่าจะใช่ ฮ่าๆ)
ขณะนี้เวลา สี่ทุ่มครึ่ง นอนไม่หลับ ไม่อยากนอน เคี้ยวแอปเปิ้ลเขียวแหง่บๆ นั่งดูรูปหมา ร้องไห้คิดถึงหมา นั่งดูรูปผู้ชาย น้ำตาปริ่มคิดถึงผู้ชาย ถุย..ชีวิต
ถ้าเคยหลงเข้ามาในบล็อก ทึกทักเอาว่าคงจะรู้ว่าชีวิตลิงก็วนเวียนกับการเป็นพี่เลี้ยงกินตับเด็กตลอดเว ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ด้วยความที่ตอนนั้นคนขอวีซ่าเวิคแอนด์ฮอลิเด ออสเตรเลียเยอะจนเกินโควต้า แทบจะตบกันตายคาสำนักงาน สท. ไอ่เรางบประมาณก็จำกัด แถมเพิ่งอกหักจากวีซ่าอเมริกามาหมาดๆ เลยรับปากสัญญิงสัญญา รับงานที่นอร์เวย์ทันที กะว่ากำขี้ดีกว่าตด คิดในใจว่าพระเจ้าคงจะเข้าข้าง ไม่ให้เราดวงจู๋อีกต่อไป
จนเวลาผ่านไป 4 เดือน..เป็นวีซ่าที่รอนานที่สุดในทุกโลก นานชิบหาย ขอบ่นหน่อยเหอะ กลายเป็นว่า วีซ่าออสเตรเลียที่เกินโควต้านั้น...ไปขอทันก็ผ่านหมด ถุย..ชีวิต กรุรอตั้ง 4 เดือน ช้าดดดดด !!!!! เพื่อนบินไปกันหมดแล้ว
ช่วงตั้งแต่เตรียมเอกสารของออสเตรเลีย จนได้วีซ่านอร์เวย์ .. อย่า งง นะ อย่างที่บอกข้างบน 7 เดือนนั้นได้มีโอกาสทำงาน ที่ทำให้ผูกพันกับหมา 1 ตัว และคน 1 คน
วันที่ตกลงกันว่า เราจะไปทาง เขาจะไปทาง ทุกอย่างสดใสมาก เหมือนกับว่ามาเจอกัน รู้จักกัน มีคนอยู่เป็นเพื่อน อารมณ์นั้น พอแยกจากกันก็รู้สึกดีๆ เป็นแฟมิลี่
แต่ขอโทษเถอะ ตั้งแต่ออกจากคอนโด นั่งแท็กซี่ไปสนามบิน เช็คอิน เข้าเกท ขึ้นเครื่อง ถึงลอนดอน เปลี่ยนเครื่อง เช็คอิน ขึ้นเครื่อง ลงออสโล
ไม่มีวินาทีไหนที่ใกล้คำว่าสบายใจสักนิด
ถ้า WhatsApp มันใช้บนเครื่องได้ คงจะคุยยันเช้า ขนาดใช้ไม่ได้ ก็ text กันจนเงินหมด มาถึงนอร์เวย์ โทรออกไม่ได้ รับสายไม่ได้ไปเลย
มันเป็นอะไรว๊า ไม่เข้าใจ
ไอ่เราก็ระริกระรี้อยากจะอยู่เมืองนอกจะตาย ไม่เคยบ่น ไม่เคยกลัว ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ขอให้มีตังเหอะ ไปหมด
คราวนี้เท้าแตะสนามบินออสโลปุ๊บ เดินส่ง text งุดๆๆ แล้วน้ำตาก็ไหล อยากกลับบ้าน T_____T
โชคชะตาก็ดันเล่นตลก แฟมิลี่ที่นี่ดันดีมาก ดีโคดๆ อยู่ง่าย สบายๆ เด็กก็โอ รอวีซ่านานขนาดนั้น เขาก็ยอมรอกับเรา ถ้ามันยกเลิกกันได้ง่ายๆ เท่าไหร่ก็ยอมจ่าย แต่ทางนี้เองเท่าไหร่ก็ยอมจ่ายเหมือนกัน
ตอนอยู่ไทย คุณชายบินไปทำงาน 2 อาทิตย์ รู้สึกเวลาผ่านไปเร็วมาก แป๊ปเดียว คุณชายก็กลับมา อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว แต่นี่เพิ่งมาได้ 10 วัน รู้สึกว่า forever อย่างแรง จะทนได้จนถึงเดือนกรกฏาไหม จะหอบสังขารบินไปหาทั้งคนทั้งหมา
คิดถึง โคดๆ คุยสไกป์ทีไรน้ำตาจะไหล คุณชายก็บิ้วซึ้งอยู่ได้ ไอ่เราอุตส่าห์แอ๊บแมน หญิงแกร่ง ตั้งแต่วันที่ไปส่งคุณชายบินไปขุดทองที่ซาอุ๊ กลายเป็นฮีร้องไห้เป็นเผาเต่าอยู่สุวรรณภูมิ เตรียมกระดาษทิชชู่มาเผื่ออีกต่างหาก เราก็ได้แต่เงยหน้าเอา ร้องไห้ในที่สาธารณะ อายคน !! มาร้องจริงวันที่มาถึงนอร์เวย์นี่ ไม่ต้องมีใครมาร้องบิ้วท์ให้เลย ไหลเอง ธรรมชาติสุดๆ
วันนี้คุยกัน เราสัญญากันไว้ว่า We will survive คนละซีกโลก จนกว่าเราจะเจอกันปีหน้า
ไม่อยากจะบอกเลยว่า ทำแมนพูดไปงั้นแหละ ตูนี่แหละค่ะ เดือนนึงจะทนไหวรึเปล่ายังไม่รู้เลย เพราะมันคิดถึงมาก มากจิงๆ
พูดออกไมค์ในสไกป์ก็ไม่ได้ เดวโฮสได้ยิน เขาคงเสียใจนึกว่าไม่อยากอยู่กับเค้า แต่เปล่าหรอก เรามันเจือกเอาใจไปผูกพันไว้กับอะไร มันก็จะไปไหนไม่ได้อย่างนี้แหละ
Create Date : 23 มีนาคม 2554 |
|
1 comments |
Last Update : 23 มีนาคม 2554 5:05:15 น. |
Counter : 3584 Pageviews. |
|
|
|