สวัสดีค่ะ อากาศหนาวๆเย็นๆนี่ อยากซดแต่อะไรร้อนๆ

อยากทานแกงส้มหัวไชเท้า แต่เดินไปสองร้าน ไม่มีหัวไชเท้าขายซะงั้น ฮึ..ม่ายล่ายหลั่งใจเลย

รุ่งขึ้นอีกวันไปร้านเอเซีย ลองๆแว๊บๆไปดูผักมั่ง เห็นดอกแคส๊วยสวย ไปฉกมาสองแพ็ค

ไม่เป็นไร ไม่มีหัวไชเท้า แกงส้มดอกแคก็ได้ เห็นมั๊ยคะ หัวไชเท้าหายากกว่าดอกแคอีก



เครื่องปรุง เนื้อปลา กุ้งสด เอาสองตัวก็พอ





ใช้แต่น้ำพริกซื้อไม่อร่อย น้ำพริกแกงนั่น มีคนซื้อมาฝากค่ะ
ต้องตำน้ำพริกเพิ่มอีกนิด พริกแห้งๆนั่นเป็นพริกสดที่มันไน่ คือเหมือนแฉะๆเสียๆน่ะค่ะ ร้านเอเซียเค้าให้มาถุงนึงครึ่งกิโล

มาเอาที่เสียๆทิ้งไปก็เหลืออยู่นิดเดียวเอง ไม่ค่อยได้ทำกับข้าว พริกก็ค่อยๆแห้งไปเอง เอามาตำรวมกัน
ใส่กะปิ กับ กระชาย+หัวหอม ที่บดรวมกันแล้วแช่แข็งไว้






ตั้งน้ำต้มให้เดือด เอาปลาลงไปต้ม ระหว่างรอปลาสุก เอาดอกแคไปล้าง และมาตัดหรือเด็ดเกสรออก จะได้ไม่ขมค่ะ




เอาเนื้อปลาที่ต้มสุกแล้ว มาตำกับน้ำพริก



น้ำพริกสีเข้มๆนั่น เป็นน้ำพริกสำเร็จรูป ได้แต่สีอย่างเดียว ส่วนสีอ่อนๆนั่นเป็นที่ตำเอง



เอากุ้งมาแกะ



เจาะตรงหาง แล้วดึงเส้นดำๆออก บั้งตรงท้องกุ้งด้วย อยากให้กุ้งมันตัวตรงๆ แต่มันก็ไม่ตรงให้ค่ะ



น้ำที่ต้มปลาเมื่อกี้ ตั้งไฟให้เดือด แล้วนำเครื่องแกงที่ตำปลาลงไปด้วย ใส่ลงไปเลย



ปลามีสามชิ้น ตำรวมกับน้ำพริกแกงไปสองชิ้น เหลืออีกหนึ่ง จับใส่เป็นชิ้นๆไปเลย เดี๋ยวคนไปคนมาก็แยกเป็นชิ้นเล็กๆเอง



ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก เกลือ เราใ่ส่น้ำตาลไปในปริมาณเท่าผงชูรสด้วยค่ะ นิดนึง

พอน้ำแกงเดือด ใส่ดอกแค



เดือดอีกรอบค่อยใส่กุ้ง กดกุ้งให้จมไปในน้ำแกง ปิดไฟพร้อมเสริฟ์ค่ะ



ตักใส่จาน พร้อมหม่ำค่ะ รสชาติเปรี้ยวๆเค็มๆเผ็ดๆ เข้ากับอากาศหนาวๆพอดีเลย (หัวกุ้งหักไปแล้ว)







ลากันด้วยภาพนี้ค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่แวะชม มีความสุขมากๆนะคะ