bloggang.com mainmenu search


หาก จะกล่าวว่าในปัจจุบันนี้ การที่ผู้หญิงจะเดินเข้าร้านขายยาไปซื้อยาคุมกำเนิดมารับประทานก็คงไม่ใช่ เรื่องน่าอับอายอะไร เพราะวัยรุ่นส่วนใหญ่นอกจากการซื้อเพื่อคุมกำเนิดแล้ว ยาคุมกำเนิดยังมีประโยชน์สำหรับพวกเธอในเรื่องของการลดความอ้วนและบำรุงผิว ให้เปล่งปลั่งอีกด้วย แต่ทว่าถ้าจุดประสงค์ของพวกเธอนั้นต้องการซื้อยาคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการ ตั้งครรภ์จริงๆ รายละเอียดของการคุมกำเนิดมีอะไรบ้างนั้น นพ.สมศักดิ์ สุทัศวรวุฒิ สูตินารีแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดีกล่าวว่า

“จริงๆ แล้วการคุมกำเนิดคือการป้องกันไม่ให้เชื้อSpermของผู้ชายผสมกับไข่ของ ผู้หญิงหรือหากผสมก็ป้องกันไม่ให้ไข่นั้นฝังตัวที่มดลูก ซึ่งมีวิธีการการคุมกำเนิดหรือการป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์นั้น มีอยู่2วิธีที่คือ

1.การคุมกำเนิดชั่วคราว วิธีที่ใช้ป้องกันการตั้งครรภ์เมื่อฝ่ายหญิงและชายยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร หรือต้องการเว้นระยะเวลาการมีบุตร
2.การคุมกำเนิดถาวร เป็นการคุมกำเนิดเมื่อไม่ต้องการบุตรอย่างถาวร เช่นการทำหมันชาย การทำหมันหญิง

ทั้งนี้การคุมกำเนิดแบบชั่วคราวนั้นยังสามารถแบ่งออกเป็นประเภทอันขึ้นอยู่ กับการใช้ฮอร์โมนและการไม่ใช้ฮอร์โมน การคุมกำเนิดแบบใช้ฮอร์โมนเช่น การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด การฉีดยาคุมกำเนิด การฝังยาคุมกำเนิด ในขณะที่บางคนอาจเลือกคุมแบบการใส่ห่วงอนามัย การใช้ถุงยางอนามัย การคุมกำเนิดโดยใช้วิธีธรรมชาติ ซึ่งไม่ต้องอาศัยฮอร์โมน”

อย่างไรก็ดี บางคนอาจจำเป็นที่จะต้องคุมกำเนิดฉุกเฉิน โดยกรณีนี้คือ การรับประทานยาหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผู้หญิงมีโอกาสท้องสูงกว่าวิธีอื่นๆ ส่วนวิธีที่นิยมที่สุดในบรรดาสาวๆนั้น นพ.สมศักดิ์ เผยว่า “การ ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเป็นวิธีที่นิยมใช้กันมาก เนื่องจากหาซื้อได้ง่าย ทานง่าย ไม่เจ็บตัวและได้ผลดี ซึ่งยาเม็ดที่ทานหลังมีเพศสัมพันธ์นั้นจะได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นมาก เป็นพิเศษเพราะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ”

การเลือกวิธีคุมกำเนิด
นพ.สมศักดิ์ อธิบายว่า “การเลือกวิธีคุมกำเนิดนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ความสะดวก ความชอบ นิสัยเช่น เป็นคนหลงลืมง่ายหรือไม่ เพราะหากเลือกการทานยาคุม ต้องทานทุกวัน บางคนอาจบอกว่าทานยาไม่ดี ฉีดยาดีกว่า ในขณะที่อีกคนอาจรู้สึกว่า ไม่อยากถูกฉีดยา กลัวเจ็บ ซึ่งทั้งหมดนี้มีสุขภาพเป็นปัจจัยสำคัญ ทุกคนควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกวิธีการคุมกำเนิด”

อย่างไรก็ตาม มีข้อแนะนำบางส่วนสำหรับการเลือกใช้ประเภทของการคุมกำเนิดตามลักษณะของแต่ละคนดังนี้ค่ะ
*ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอควรจะใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีด ใส่ห่วง
*ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อย ให้ใช้ ถุงยางอนามัย
*ผู้ที่มีคู่ขามากหรือต้องการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้ใช้ถุงยางอนามัย
*ผู้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการวางแผนเช่น ถูกข่มขืนควรใช้ยาคุมชนิดหลังร่วมเพศ
*ถ้าไม่แน่ใจว่าแฟนมีโรคติดต่อหรือไม่ไม่ควรที่จะมีเพศสัมพันธ์ด้วย

ส่วนอัตราการตั้งครรภ์ในการคุมกำเนิดแต่ละวิธีนั้นก็แตกต่างกันไปซึ่งอาจมา จากการที่ผู้ใช้ไม่ได้ทำตามวิธีที่ถูกต้อง โดยแต่ละประเภทจะมีอัตราดังนี้

การฝังฮอร์โมน 0.05%
การทำหมันชาย 0.1%
ยาเม็ดคุมกำเนิด 0.1-0.5%
การใส่ห่วง 0.1-1.5%
การฉีดยาคุม 0.3%
การทำหมันหญิง 0.5%
การสวมถุงยางอนามัย 3%
การสวมถุงยางอนามัยของผู้หญิง 5%
การใส่ Diaphragm และย่าฆ่า sperm 6%
ยาฆ่า Sperm 6%
หมวกครอบปากมดลูกและยาฆ่า Sperm ในคนที่ไม่เคยท้อง 9%
การนับวัน 9%
หมวกครอบปากมดลูกและยาฆ่า Sperm ในคนที่เคยท้อง 26%

ทั้งนี้นพ.สมศักดิ์ ได้เผยว่าการคุมกำเนิดนั้นไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน เพราะคนบางประเภทไม่สามารถใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเด็ดขาด ซึ่งคนกลุ่มนี้ได้แก่
1.บุคคลตั้งครรภ์ หรือสงสัยว่าจะตั้งครรภ์ ดังนั้นในรายที่ประจำเดือนไม่มา ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนที่จะเริ่มให้ยาเม็ดคุมกำเนิด
2.บุคคลที่มีโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรง
3.บุคคลที่มีระบบไขมันในร่างกายผิดปกติ
4.บุคคลที่มีโรคที่เกี่ยวกับระบบการแข็งตัวของเลือด
5.บุคคลที่เป็นโรคตับอักเสบเฉียบพลัน
6. บุคคลที่เป็นมะเร็ง ซึ่งมะเร็งนี้จะมีการเจริญเติบโตขึ้นกับฮอร์โมน เช่นมะเร็งเต้านม และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
7.บุคคลที่มีเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก โดยยังไม่ทราบสาเหตุ

แม้ว่าตามทฤษฎีทางการแพทย์อาจระบุว่า เราสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้หากไม่มีการร่วมเพศในช่วงที่ผู้หญิงกำลังตก ไข่ แต่วิธีนี้กลับเป็นวิธีการที่สามารถเกิดความผิดพลาดได้เนื่องจากระยะเวลาและ รอบเดือนของช่วงการตกไข่ของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป












ที่มา .. ผู้จัดการออนไลน์

Create Date :02 พฤษภาคม 2554 Last Update :2 พฤษภาคม 2554 12:30:34 น. Counter : Pageviews. Comments :0