bloggang.com mainmenu search


เขียนบทและกำกับการแสดงโดย นิชิคาวะ มิวะ

โจ โอดางิริ (Joe Odagiri) ณ ปัจจุบัน ในวัย 35 ปี ผู้ชายคนนี้แสดงหนังและละครรวมกันมาแล้วกว่า 34 เรื่อง ถึงชอบโจแค่ไหน แต่จะให้ตามดูกันทั้งหมดก็คงจะสู้ไม่ไหว เอาเป็นว่าถ้าคิดถึงหน้าตาหล่อๆ แบบเถื่อนๆ ของโจเมื่อไหร่ ค่อยหาหนังอะไรๆ ของเค้ามาดู ซึ่งผลงานมากขนาดนี้ หาได้ไม่ยาก

เล่นแต่ละเรื่องก็ .... นะ

ฮีแรงทุกเรื่อง

Sway หรือ Yureru

เปิดดูแป๊บๆ ก็ เฮ้อ ... พี่แกรับเล่นบทอะไรของแกอีกแล้วเนี๊ยะ แม้จะออกมาหน้าตาหล่อเถื่อนได้ใจกับผมเผ้าและหนวดเครารกๆ แต่ว่า พี่โจคะ พี่ช่วยรับบทอะไรที่มันแรงน้อยกว่านี้หน่อยจะได้ไหม (ขอร้อง)

แต่ยิ่งดูไป โอ้โห หนังดีนี่นา แล้วพี่แกก็เล่นซะแบบว่า ดูจบแล้วต้องหาข้อมูลทันที ได้รางวัลบ้างหรือเปล่านะ แล้วคำตอบก็ทำให้รู้สึกดีใจที่ความคาดหวังของตัวเองได้รับการตอบสนอง

Japanese Academy Awards: Best Actor nomination for Yureru (2007)

ทาเครุ (Joe Odagiri) เดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อร่วมงานศพของแม่ งานศพที่พ่อแทบจะโผนมามีเรื่องกับลูกชาย เผยให้เห็นความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกันนัก เสมือนว่าทาเครุเป็นแกะดำของครอบครัว คนที่จากบ้านเกิดออกไปค้นหาชีวิตอิสระตามทางของตนเอง เขาทำงานตามใจรักนั่นคือการเป็นช่างภาพที่มีชื่อเสียงพอสมควร

มิโนรุ (Teruyuki Kagawa) พี่ชายของทาเครุผู้ใช้ชีวิตอยู่กับบ้านเกิดเพื่อสืบสานต่องานธุรกิจปั๊มน้ำมันของครอบครัว ชีวิตอันจืดชืดกับปั๊มน้ำมันที่จำเจ พ่อที่จู้จี้ขี้บ่นอย่างน่าเบื่อยังคงดำเนินมาและจะดำเนินต่อไปอยู่เช่นนั้น

จิเอะโกะ (Yōko Maki) เพื่อนสมัยเด็กของทาเครุ และมิโนรุ หลังจากแม่ของเธอแต่งงานใหม่ และตัวเธอเองก็ตกงาน มิโนรุจึงให้ความช่วยเหลือจิเอะ โดยให้มาทำงานด้วยกันที่ปั๊มน้ำมัน

การกลับบ้านครั้งนี้ ทาเครุได้เห็น จิเอะโกะ กับมิโนรุพี่ชายมีความสนิทสนมกัน แต่ก็มองข้ามรายละเอียดที่ลึกลงไปกว่านั้น แถมยังไปมีความสัมพันธ์ชั่วคืนกับจิเอะ ซึ่งมีใจให้ทาเครุมาก่อนแล้วนับแต่อดีต จิเอะวาดหวังว่าทาเครุจะพาเธอก้าวพ้นชีวิตน่าเบื่อจำเจไปสู่ชีวิตใหม่ๆ ที่ดีกว่า

ทาเครุ ไม่รู้ว่า พี่ชายรู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับจิเอะในคืนนั้น

วันรุ่งขึ้นทั้งสามไปเที่ยวด้วยกันที่หุบเขาฮาสุมิ

จิเอะโกะ ตกจากสะพานแขวนเสียชีวิต

มิโนรุ ที่กลัวความสูง และไม่ชอบขึ้นไปบนสะพานแขวน แต่เขาอยู่บนสะพานนั้นกับเธอ

และเทเครุ คือพยานเพียงคนเดียวที่จะช่วยพี่ชายของเขาให้พ้นจากข้อกล่าวหาว่าเป็น 'ฆาตกร' ได้

ความสุขความพอใจในชีวิต ความสัมพันธ์แต่อดีตอันเป็นสายใยระหว่างสองพี่น้อง
กับคดีการเสียชีวิตของหญิงสาวที่ต้องการความคลี่คลาย 'อุบัติเหตุ' หรือ 'ฆาตกรรม'

เพื่อปกป้องตัวเอง และปกป้องพี่ชายที่ก็ไม่รู้ว่าทาเครุไม่เห็นเหตุการณ์จริงหรือไม่

เพราะทาเครุแสดงออกกับเขา และทั้งยืนกรานปฏิเสธกับใครๆ

ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ยินเสียงใดๆ ในที่เกิดเหตุทั้งสิ้น

พร้อมคำมั่นสัญญา

"ผมจะช่วยพี่ออกมาให้ได้"

แต่ยิ่งมีการสอบสวนในชั้นศาลมากขึ้นเท่าใด ถ้อยคำ อารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ของพี่ชายที่เปิดเผยขึ้นระหว่างการพิจารณาคดี หรือจากการพูดคุยกันเมื่อเขาไปเยี่ยมพี่ชายในเรือนจำ กลับกลายเป็นสิ่งรบกวนจิตใจของทาเครุมากขึ้นเรื่อยๆ

"ทำไมพี่ถึงไม่พูดว่า พี่เชื่อว่าแกจะไม่หลอกพี่หรอกนะ น่ะ!"

"ตั้งแต่เริ่มเลย คนที่ฉันรู้ว่ามันชอบหลอกลวง
แล้วก็ไม่มีวันที่จะไปเชื่อใจคนอย่างมันได้เลย
คนๆ นั้น ก็คือแกยังไล่ะ ทาเครุ"


อะไร ที่ทำให้ทาเครุกลับคำให้การ
และอะไรกันแน่ ที่เขาเห็นในที่เกิดเหตุ

มีบางสิ่งที่ทาเครุอาจต้องสูญเสียไปตลอดชีวิต
และถ้าไม่อยากสูญเสียมันไป

เขาต้องพาพี่ชายกลับบ้าน



ทึ่งกับการรับบทแสดงของอิตาพี่โจนี่จริงๆ เรื่องนี้อย่างน้อยก็ไม่ทำให้งุนงงสงสัยหรือเข้าใจยาก แต่จังหวะการดำเนินเรื่องทำดีมากๆ เลย หนังดีๆ บางทีก็ไม่จำเป็นต้องลงทุนสร้าง แค่เนื้อเรื่องดีๆ กับนักแสดงไม่กี่คนที่ฝีมือดีๆ เท่านี้ก็เป็นที่น่าชมเชยได้แล้ว

ฉากระเบิดอารมณ์ ตอนทาเครุพูดคุยกับพี่ชายที่เรือนจำเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนขึ้นให้คำให้การต่อศาลในฐานะพยานเพียงคนเดียวในที่เกิดเหตุ

ฉากสะเทือนใจ น้ำตากับภาพความทรงจำที่เพิ่งชัดเจนว่าความจริงแล้วครอบครัวเคยเป็นอย่างไรในอดีต และความจริงที่เกิดขึ้นบนสะพานแขวนวันนั้นคืออะไร

โจเล่นได้สุโค่ยจริงๆ ค่ะ แม้แต่ในฉากที่เบากว่าแต่ก็ให้ความรู้สึกหนักกว่าคือฉากที่เขาวิ่งตามพี่ชาย มันเหมือนกับการวิ่งไปด้วยความรู้สึกทุกสิ่ง ความรักความผูกพัน ความรู้สึกผิด ความคาดหวัง และความหวาดกลัวที่จะไม่ได้รับการให้อภัย พร้อมกับเสียงร้องเรียก

"นี่จัง! นี่จัง! นี่จัง!"

แล้วที่ร้องตะโกนสุดเสียง เพราะมันอาจจะเป็นโอกาสสุดท้าย

เสียงที่สิ้นสุดลงพร้อมปากที่สั่นระริกเพราะมันเกินกว่ากำลังที่จะหักห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้

"นี่จัง!! กลับบ้านเราเถอะ!!"

เรื่องนี้ทำให้เกลียดโจจับใจจริงๆ เลยนะ แค่หล่อก็พอแล้ว ทำไมต้องเล่นหนังได้อินขนาดนี้เนียะ ทำให้เป็นภาระต้องติดตามผลงานกันอีกต่อๆ ไป มีภรรยาก็เด็กกว่ามากแถมยังน่ารักอีก จะเป็นนักแสดงที่เพอร์เฟ็คต์เกินไปแล้ว

เนื้อเพลงแปลของเพลงประกอบภาพยนตร์ (ไม่รู้ชื่อเพลงอะไร)

เหม่อมองบรรดารถที่วิ่งผ่านไปมา
มันช่างคล้ายกับช่วงเวลาที่อาทิตย์อัสดงลาลับไปเหลือเกิน
แสงสีเรืองรองค่อยๆ สั่นไหวและจางหายไป
ไม่เป็นไรหรอก เพราะว่าความมืดในยามค่ำคืน
จะคอยโอบกอดเธอไว้อย่างอ่อนโยน


ทีละก้าวๆ อย่างช้าๆ

เรากลับบ้านกันเถอะ



เฮ้อ ไว้คิดถึงโจอีกเมื่อไหร่ ค่อยเจอกันอีกเรื่องหน้า


......................

Awards and Festivals:

2006 Cannes International Film Festival
2006 Oslo Films From the South
2006 Stockholm International Film Festival
2006 Hochi Film Awards - Best Supporting Actor (Teruyuki Kagawa)

2007 Palm Springs International Film Festival
2007 Yokohama Film Festival - Best Film, Best Director (Miwa Nishikawa), Best Screenplay (Miwa Nishikawa), Best Actor (Teruyuki Kagawa)
2007 Kinema Junpo Awards - Best Screenplay (Miwa Nishikawa), Best Supporting Actor (Teruyuki Kagawa)
2007 Blue Ribbon Awards - Best Director (Miwa Nishikawa)

Credit Picture :

//blackholereviews.blogspot.com/2009/08/sway-aka-yureru-2006-intense-japanese.html

Credit Award : //asiacue.com/movies/Sway_Yureru_2006.html
Create Date :12 ธันวาคม 2554 Last Update :24 สิงหาคม 2555 0:37:30 น. Counter : Pageviews. Comments :5