ใน แวมไพร์ ทไวไลท์ 2 นิวมูน ทุกอย่างเริ่มต้นที่งานวันเกิดครบรอบ 18 ปี ของ เบลล่า (คริสเตน สจ็วร์ต) ที่ครอบครัวคัลเลน ของเอ็ดเวิร์ด (โรเบิร์ต แพททินสัน) จัดเป็นเซอร์ไพร์ส ปาร์ตี้ให้แด่เธอ แต่แล้ววันที่เริ่มต้นอายุ 18 ปีของ เบลล่า กลับคือบทเริ่มต้นของการเดินทางเพื่อพิสูจน์ถึงคุณค่า และ การเสียสละ ที่มีความรักระหว่างมนุษย์ แวมไพร์ เป็นแรงขับดันให้กับเพื่อนพ้อง และ พี่น้องของพวกเขาต้องออกมาต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ เบลล่า และ เอ็ดเวิร์ด

เพราะ เบลล่า เผลอทำให้เลือดออก แจสเปอร์ หนึ่งในพี่น้องตระกลูคัลเลน ที่มิอาจทนความเย้ายวนของกลิ่นคาวเลือดได้ พุ่งเข้าทำร้ายเธอ เอ็ดเวิร์ด จึงตัดสินใจที่จะปกป้องผู้หญิงที่เขารักด้วยการหนีเธอไปให้ไกลที่สุด เพราะเขาเชื่อว่ามนุษย์กับแวมไพร์มิอาจคงอยู่ด้วยรักที่บริสุทธิ์หากแต่ร่างกายยังคงดึงดูดสัญชาติญาณความกระหายเลือดของพวกเขาอยู่

เพื่อตามหาคนรัก เบลล่า ตัดสินใจทำเรื่องเสี่ยงตายทุกนาที เพราะทุกครั้งที่เธอตกอยู่ในอันตรายเธอจะรู้สึกว่า เอ็ดเวิร์ด จะมาช่วยทุกครั้งหากแต่ครั้งนี้คนที่คอยปกป้องเธอกลับกลายเป็น เจคอบ (เทย์เลอร์ เลาว์เนอร์) เพื่อนสนิท ผู้พิทักษ์ที่ให้คำสัญญากับเธอว่า เขาไม่มีวันที่จะทำให้เธอเจ็บปวด ซึ่งเจคอบ พูดจริงทำจริง เพราะเผ่าพันธุ์ของเขาคือมนุษย์หมาป่าที่มี กลุ่ม Wolfpack เพื่อนพ้องรุ่นเดียวกันที่ตั้งทีมขึ้นมาเพื่อผู้พิทักษ์ มนุษย์ จากพวกแวมไพร์กระหายเลือด เจคอบ ช่วยชีวิต เบลล่า ไว้ถึง 3 ครั้ง จากอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซด์คว่ำ การตามล้างแค้นของ วิคตอเรีย แวมไพร์สาว ผู้ซึ่ง เจมส์ คู่รักของเธอถูกสังหารโดยครอบครัวคัลเลน และ การกระโดดหน้าผาของเพื่อตามหาเอ็ดเวิร์ด ของเบลล่า ซึ่งก่อให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ระหว่าง แวมไพร์ กับ แวมไพร์ด้วยกันเอง เบลล่า กระโดดหน้าผาทำให้เอ็ดเวิร์ดเข้าใจผิดว่าเธอตายแล้ว เขาตัดสินใจเดินทางไปยังอิตาลีเพื่อพบ กลุ่ม โวลตูรี แวมไพร์ผู้คุมกฎผู้มีอำนาจสังหารและชี้เป็นชี้ตายทุกตัวตนแห่งเผ่าพันธุ์แวมไพร์

****

ไปดูมาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาค่ะ
ไม่มีใจแต่แรกแล้ว แต่เพื่อนไม่มีเพื่อนดู เลยต้องไปดูเป็นเพื่อน
ถึงนางเอกจะสวยเช้ง ก็ไม่มีใจให้โอเคเพราะสามารถรอดูแผ่นได้
แต่ที่ยินยอม say yes เพราะได้ข่าวว่า Dakota Fanning รับเล่นในบทของแวมไพร์สาวน้อยชื่อ Jen
ถึงจะรู้ว่ามีบทอยู่น้อยนิดก็เถอะ แต่เพื่อเด็กหญิง Dakota Fanning ที่กำลังจะโตเป็นสาวแล้ว คงต้องยอมถือซะว่าไม่เสียเวลาเปล่า


Dakota ในบท Jen

ก็ไม่มีอะไรจะตำหนิติหนังหรอกนะคะ เพราะว่า ... เรื่องราวในหนังสือ ก็ไม่มีอะไรหวือหวาให้ตื่นเต้นอยู่แล้ว คือเรื่องมันดำเนินไปเรื่อยๆ
ใครเป็นคนชอบหนังรัก ก็คงจะชอบ เราก็ชอบหนังรัก แต่เรื่องนี้ไม่ได้ชอบอะไรนัก บางครั้งก็นั่งหลับตาฟังเสียงภาษาอังกฤษ เพื่อฝึกภาษาไปด้วย
เหตุผลที่ไม่ชอบคือ ไม่ชอบนางเอก

ไม่ใช่ไม่ชอบนักแสดงในเรื่องนะคะ ชอบนางเอกค่ะ เพราะนางเอกสวยมากๆๆๆ





แต่ที่ไม่ชอบคือ นิสัยของนางเอกในเรื่อง
จำได้ตอนอ่านหนังสือ คือชอบ Twilight มากๆ ขนาด ซื้อ เล่ม 2 3 4 เพื่ออ่านต่อทีเดียวรวด
พออ่านเล่ม 2 เท่านั้นแหละ เกิดอาการแอนตี้อาการอกหักรักคุดของนางเอกในหนังสือเข้าอย่างแรง เล่ม 3 เล่ม 4 เลยค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น ยังไม่ได้อ่านจนถึงบัดนี้ ก่อนไปดูหนังจึงมีอคติเล็กๆ

แต่เพราะหนังไม่ได้ลงรายละเอียดความประพฤติอันไม่น่านับถือของนางเอกหลายๆ อย่าง เหมือนในหนังสือ ทำให้รู้สึกโอเค ..ค่อยยังชั่วหน่อย..

ปกติถ้าเป็นเรื่อง มนุษย์หมาป่า แวมไพร์ จะไม่ค่อยพลาดนะคะ (รวมทั้งปอบผีฟ้าด้วย มันเป็นเผ่าพันธ์ที่ใกล้เคียงกันนะ 555) สนุกตื่นเต้นดี ยิ่งเรื่องที่มีพระเอกนางเอกรักกันม๊ากมาก ยิ่งชอบ
แต่เรื่องนี้ ภาคแรก Twilight มันออกหวานฉ่ำจนน้ำตาลเรียกพี่ ค่อนข้างไปทางเลี่ยน ... พอมาถึง New Moon ก็เป็นรักสามเส้า ของเรา 3 ตน (คน , แวมไพร์ และ มนุษย์หมาป่า) ดูแล้วก็ขำๆ ดี
โดยเฉพาะพระเอก ออกมาทีไร ไหงเหมือนซอมบี้ไร้วิญญาณ หุ่นก๊องแก๊ง พูดออกมาแต่ละทีเสียงเหมือนจะขาดใจไม่มีเรี่ยวแรง ซึ่งไม่ได้เข้ากับคาแรคเตอร์หล่อเทพแบบ “เทพบุตรแวมไพร์” อย่างในเรื่องเลย

แต่สำนวนไทยเราว่า ลางเนื้อชอบลางยา เพราะว่า ...พระเอกคนนี้ดังมาก และมีเสียงฮือฮา (ในความหล่อและฉากสวีท) จากสาวๆ อยู่หลายครั้งในโรงหนัง ..และที่สำคัญ หนังเรื่องนี้ทำรายได้ 26.3 ล้านเหรียญจากรอบมิดไนท์ทุบสถิติ 22.2 ล้าน ของ Harry Potter


Aliz ก็น่ารักมากค่ะ เป็นคนที่มีหน้าตาแบบว่า เห็นแล้วรู้สึกมีความสุขจังเลย