bloggang.com mainmenu search


Movie : Rurouni Kenshin るろうに剣心
Director : Keishi Ohtomo
Writer : Watsuki Nobuhiro (manga), Kiyomi Fujii, Keishi Ohtomo
Runtime : 134 min. Release : Aug 2012




ตอนที่ได้ข่าวว่ามีการแคสติ้งนักแสดง และซาโต้ ทาเครุ ได้รับบท "ฮิมุระ เคนชิน" ในหนังที่จะสร้างมาจากมังงะเรื่อง Rurouni Kenshin หรือ ซามูไรพเนจร (Writer : Watsuki Nobuhiro) ก็รู้สึกดีใจมากเพราะช่วงนั้นไม่ค่อยมีผลงานของซาโต้ให้เลือกดูสักเท่าไร ที่จริงเขาก็ไม่ได้หายหน้าไปไหนหรอกยังมีมีงานแสดงอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่ว่าเท่าที่มีก็ได้เก็บดูไปจนเกือบหมดแล้ว

แต่ไม่ได้มีความคาดหวังอะไรกับหนังเรื่องนี้นัก เพราะนึกภาพไม่ออกว่าหุ่นผอมก้างอย่างซาโต้ จะแสดงเป็นซามูไรมือพิฆาตได้อย่างไร แม้ในมังงะ หรืออนิเมชั่น ตัวการ์ตูน ฮิมุระ เคนชิน จะไม่ได้ตัวสูงใหญ่แต่ดูผอมบางร่างเล็กไม่ผิดแผกอะไรถ้าจะใช้ซาโต้แสดงก็เหอะ




ต่อให้ซาโต้เคยเป็นซามูไรใน Ryuma Den แต่ในละครเช่นนั้น ย่อมแตกต่างกับการจะเป็นซามูไรมือพิฆาตในตำนานที่ต้องเก่งดาบ คล่องแคล่วว่องไว พลิ้วเป็นพระเอกนักบู๊ใช่ไหมล่ะ แต่ซาโต้ ทาเครุ เนี่ยนะ จะไหวเหรอ ? ซึ่งคำถามนี้ก็ได้กลายเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งให้ต้องรอชมว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ถึงโปสเตอร์หนังจะไม่ชวนดึงดูดใจเอาซะเลยก็ยังคงเชื่อว่าเรื่องนี้พลาดไม่ได้ แล้วเป็นไงล่ะ หลังจากดูไปแล้วแบบรีเพลย้ำๆ ซ้ำๆ บอกได้คำเดียวว่า "สุดปลื้ม"




เพราะเรื่องสนุก ฉากการต่อสู้ทำดี การฟันดาบสวยงาม และซาโต้ ทาเครุ สามารถที่จะเป็น ฮิมุระ เคนชิน ได้เก่งกาจ หล่อ เท่ น่ารัก และอีกหนึ่งคำที่อยากจะใช้คือ "สง่างาม" ทั้งหมดนี้คือภาพพระเอกของซามูไรพเนจรที่รับบทโดยซาโต้ผู้ผอมก้างของเรานี่แหละ

เมื่อดูหนังเรื่องนี้ จึงรู้สึกเหมือกำลังตกหลุมรักซาโต้ อีกครั้ง
(ในระดับความลึกของหลุมที่ลึกกว่าเดิม 555)




เรื่องย่อ ซามูไรพเนจร

ฮิมุระ เคนชิน (ซาโต้ ทาเครุ) เป็นอดีตมือสังหารของคณะปฏิวัติในสมัยปฏิวัติเมจิ แม้ว่ากันว่าเขาได้วางดาบ เลิกฆ่าคน กลายเป็นซามูไรธรรมดาที่พาชีวิตออกพเนจรและหายตัวไป แต่ฉายามือพิฆาต "ฮิโตกิริ บัตโตไซ" ยังคงเป็นตำนานเล่าขานความน่ากลัวต่อมาถึงคนรุ่นหลัง

และแล้ว ...ในอีก ๑๐ ปีต่อมา ความน่ากลัวของมือพิฆาตบัตโตไซได้ปรากกฏให้เห็นเป็นความจริงที่ตอกย้ำในตำนานอีกครั้ง เมื่อเกิดการสังหารโหดอย่างต่อเนื่องพร้อมกับทิ้งข้อความให้รู้ว่าเลือดที่เกลื่อนนองเป็นการลงมือของบัตโตไซ

แต่ใครคนหนึ่งที่เคยเผชิญหน้ากับบัตโตไซตัวจริงเมื่อสิบปีก่อน
เพียงกวาดตามองศพหมู่ปราดเดียวก็รู้ว่า..นี่เป็นผลงานฆ่าของ "ตัวปลอม"




ในยุคสมัยที่รัฐบาลห้ามประชาชนพกดาบ ซามูไรยุคเก่าตกเป็นทาสรับใช้ของผู้มีอิทธิพล มือพิฆาตบัตโตไซกำลังออกอาละวาดลงมือสังหาร และถูกทางการติดป้ายประกาศจับ




คามิยะ คาโอรุ ( ทากาอิ เอมิ ) บุตรีผู้สืบทอดสำนักดาบคามิยะ คัตชินริวได้พบกับคนพเนจรที่อาจหาญพกพาดาบในที่สาธารณะอย่างไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เขาจึงจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากมือพิฆาตบัตโตไซศัตรูของสำนักดาบคามิยะ แต่หลังจากเล่นงานคนพเนจรฝีมืออ่อนหัดไปแล้ว ท่านคาโอรุจึงพบว่า ดาบที่เขาพกติดตัวอยู่นั้นเป็นเพียงดาบสลับคม (ดาบที่หันด้านคมเข้าหาตัวเอง) ดาบที่เป็นเหมือนของเล่นเช่นนั้น ไม่อาจทำอันตรายใครได้


เขาเป็นเพียงคนพเจรที่ยืนมือออกมาช่วยเหลือทุกครั้งยามท่านคาโอรุเดือดร้อน และต่อมาเธอจึงรู้ว่าเขาชื่อ ฮิมุระ เคนชิน เคนชินที่แปลว่า "หัวใจแห่งดาบ" เขาเป็นคนพเนจรไร้จุดหมายและบางทีอาจรู้สึกเหนื่อยล้าอยากหยุดพัก ท่านคาโอรุจึงอนุญาตให้เคนชินพำนักอยู่กับเธอและเด็กชายกำพร้าลูกชายอดีตไดเมียว "เมียวยิน ยาฮิโกะ" อยู่ที่สำนักดาบคามิยะด้วยกันได้




การพำนักอยู่กับท่านคาโอรุ ผู้ซึ่งทำให้เคนชินรู้สึกสบายใจและอยากหยุดการเดินทางที่ไร้จุดหมายลง ทำให้เขาต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่างๆ และได้รู้จักกับ ซางาระ ซาโนสุเกะ (อาโอกิ มุเนะทากะ)ซามูไรผู้ถือดาบพิฆาตอาชา , ทากานิ เมกุมิ (อาโออิ ยู) บุตรีทายาทตระกูลแพทย์ที่ล่มสลายไปหลังยุคสงครามไอซึ และเพื่อความอยู่รอดเธอจึงต้องยอมรับใช้ผู้มีอำนาจด้วยการเป็นผู้เชี่ยวชาญการผสมฝิ่นให้กับท่านผู้ค้าซึ่งมีอำนาจของเงินตราอย่างท่านคันริว (คางาวะ เทรุยูกิ) และเคนชินยังได้หวนกลับมาพบกันอีกครั้งกับ ฮาจิเมะ ไซโต ( เองุจิ โยสุเกะ Eguchi Yosuke) อดีตหัวหน้าหน่วยชินเซ็น ซึ่งปัจจุบันได้รับราชการทำหน้าที่ตำรวจสันติบาลและคอยอารักขา ท่านยามากาตะ โอริโทโมะ ( โอคุดะ เอจิ) (เป็นผู้มีอำนาจท่านหนึ่งในรัฐบาลแต่ไม่รู้ว่าตำแหน่งอะไร)




แก่นของเรื่องก็จะอยู่ที่ ฮิมุระ เคนชิน กับวิถีแห่งดาบ อดีตซามูไรมือพิฆาตในตำนานที่แม้จะทำไปเพื่อการปฏิรูปบ้านเมืองดั่งคำปฏิญาณ "ทั้งชีวิตคือการอุทิศตน เพื่อให้ทุกคนได้อยู่อย่างสันติ" แต่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นมือสังหารที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมายและรอยแผลเป็นบนใบหน้าก็ได้มาดั่งถูกตีตราบาป หลังจากการปฏิวัติสำเร็จและยุคใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น เขาจึงละทิ้งดาบสังหาร และหันมาพกดาบสลับคมที่เป็นสิ่งแสดงสัตย์สาบานว่าจะไม่ฆ่าใครอีก




สำหรับเคนชิน "วิชาดาบคือศาสตร์แห่งการสังหาร" แต่การได้พบกับท่านคาโอรุผู้ศรัทธาในอุดมการณ์สืบทอด "ดาบมีไว้เพื่อการปกป้อง" แม้มันจะเป็นไปได้ยากในความเป็นจริง เขาก็ยังรู้สึกนิยมกับแนวคิดในวิถีดาบเช่นนั้น

"ข้าน้อยจะไม่ชักดาบหรอกนะขอรับ"

แต่เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะเป็นเครื่องท้าท้ายให้ลุ้นว่าเคนชินจะสลับคมดาบกลับมาเพื่อหันด้านคมใส่คู่ต่อสู้และลงมือสังหารหรือไม่

"เจ้าต้องฆ่าเพื่อจะอยู่รอด ดาบสลับคมช่วยใครไม่ได้หรอก"

"เจ้าคิดว่าจะจบเรื่องนี้ได้ ด้วยดาบของเล่นแบบนั้นน่ะรึ!"



เพื่อการปกป้อง เพลงดาบล่องนภาจะหลีกเลี่ยงไม่ให้คมดาบต้องหันมาเปื้อนเลือดได้จริงหรือ ถึงจะสุภาพอ่อนน้อมตลอดเวลา พูดจามีต้นเสียง "ท่าน..." มีหางเสียง "ขอรับ" ทุกคำ แต่ในโลกที่มีคนเลวทราม คนสุภาพใจเย็น (และเคยฆ่าคนอย่างเลือดเย็น) ก็ต้องมีโกรธกันบ้าง

"รีบๆ เข้ามาสิ ข้าจะได้สังหารเจ้าซะเดี๋ยวนี้"

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมันผู้นั้น บังอาจแตะต้องคนสำคัญในชีวิต

"เพื่อปกป้องท่านคาโอรุ ข้าจะกลับมาฆ่าคนอีกสักครั้ง"

จะสลับคมกลับมา จะใช้ท่าชักดาบบัตโตหรือเปล่า จะฆ่าคนหรือไม่
ความลุ้นไม่สำคัญแล้ว เพราะตั้งแต่ต้นจนจบซาโต้หล่อทุกอริยาบท



นอกจากจะปลื้มใจซาโต้แล้ว แม่ยกยังปลื้มใจมากที่ ทากาอิ เอมิ ได้รับบท คามิยะ คาโอรุ ซึ่งในมังงะ และในหนัง เคนชินและตัวละครอื่นๆ จะเรียก "ท่านคาโอรุ" ส่วนในอนิเมะพากษ์ไทยจะถูกเรียกว่า "คุณหนูคาโอรุ" เอมิมีตากลมโต ส่วนตาของซาโต้จะรีโต สองคนนี้เป็นพระ-นาง ตาโตใส่กันแล้วดูลงตัวมาก ถ้าหากจะมีโอกาสในอนาคตได้เล่นซีรีย์คู่กันสักเรื่องคงจะต้องขอกรี๊ดดังๆ เลยทีเดียว ส่วนท่านเมงุมิ ตอนแรกคุ้นหน้ามาก แต่คงเป็นเพราะทรงผมยาวและหน้าม้าปรกหน้าผากที่ไม่คุ้นเคย จึงจำไม่ได้ และต้องใช้เวลาอึดใจใหญ่กว่าจะมั่นใจว่าเป็นอาโออิ ยู




โดยส่วนตัวได้เห็นหน้านักแสดงหนุ่มสาวทั้งสามคนนี้ก็สุดคุ้มแล้วนะคะ แต่หนังยังมีลุงเทริยูกิที่แสดงเป็นเจ้าพ่อค้าฝิ่นผู้มีคาแรคเตอร์แบบจะเรียกว่าก๋ากั๋นก็ไม่แน่ใจว่าใช้คำนี้จะถูกต้องมั้ย เป็นเรื่องยากที่จะบรรยายต้องไปหาชมกันเอาเอง




ในบรรดาผู้มีส่วนร่วมสร้างหนังเรื่องนี้ หากจะยกความดีความชอบที่หนึ่งให้ใครสักคน คงต้องยกให้ผู้กำกับ Keishi Ohtomo ซะแล้วล่ะ โดยส่วนตัวกับความคิดที่มีต่อหนังแอคชั่น ถ้าไม่ใช่บู๊ล้างผลาญแบบฮอลลีวู้ด หรือวิทยายุทธเย้ยยุทธจักรแบบหนังจีนกำลังภายใน จะไม่เคยตั้งความหวังอยู่แล้ว หนังบู๊ๆ ของญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยจะมีประสบการณ์คุ้นเคยสักเท่าไหร่ จึงไม่รู้ว่าคุณภาพความสนุกมันส์ มันมีอยู่ประมาณไหน ดังนั้นเมื่อได้ดูหนังเรื่องนี้คงเปรียบได้ใกล้เคียงกับอารมณ์ตอนดูหนังไทยเรื่ององค์บาก ไม่ได้หมายความว่ามันบู๊แทบตลอดเวลาหรือเน้นศิลปะท่าทางการต่อสู้ขนาดนั้นหรอกนะคะ เพียงแค่ดูแล้วรู้สึกทำนองเดียวกันว่า การต่อสู้ ... มันสวยงาม





ไม่นานก่อนหน้า เพิ่งจะชื่นชมท่าเหวี่ยงตัวโหนทวนกวาดเตะด้วยเท้าของพี่สี่ขุนศึกตระกูลหยางมาหมาดๆ ตอนนี้ท่าวิ่งรัวเท้าจิกดินเตะตบท้ายของซามูไรเคนชินก็เท่ไม่น้อยหน้า ท่ากระโดดเหินแล้วเงื้อมเข้าฟัน ฉากหมุนตีลังกาบนหลังคน ฉากกระโดนตีลังกาลงมายืนสง่าบนสะพาน แล้วมีอยู่ท่าหนึ่งที่สู้กันกับเกอินหัวขาว (Gein) ทั้งหมดจะตัวจริงหรือสแตนด์อินก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าการกำกับหรือการจะใช้เทคโนโลยีสเปเชียลเอฟเฟ็คต์อะไรช่วยก็แล้วแต่ พอออกมาเป็นหนังแล้วมันคือแอคชั่นฟันดาบที่แข็งแรงว่องไวและซาโต้ก็บู๊ได้สมกับเป็นซามูไรสฉายามือพิฆาต (ไม่มีอะไรจะติ) และยังขอมอบให้ซึ่งคะแนนความสวยงามด้วย จะชักดาบ เงื้อมดาบ สะบัดดาบ ฟาดฟัน หรือแม้แต่เก็บดาบเข้าฝักก็ดูงามได้ทุกทวงท่าสิน่า

แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ปลื้มใจแทนซาโต้ที่ได้เล่นหนังสนุกๆ ในคาแรคเตอร์เท่ๆ ของอดีตซามูไรมือสังหารผู้ถือสัตย์อุทิศตนให้กับการไม่คร่าชีวิตได้อย่างไรกัน ^^





แต่ถ้าสมมติตนเป็นคนแคสติ้งนักแสดงเองนะ คิดว่าหน้าหวานๆ ของยู จะเหมาะกับบทไร้เดียงสาของท่านคาโอรุมากกว่า ส่วนหน้าตาที่ดุนิดๆ ของเอมิ (เป็นผลมาจากตาโตด้วย) เวลาที่เธอเล่นร้ายก็จะดูหน้าตาดุดันไปเลยซึ่งน่าจะเหมาะกันดีกับบทสาวงามผู้กร้านชีวิตคอยคลุกคลีผสมฝิ่นให้ท่านชั่วคันริว



สนุกดีค่ะเรื่องนี้ ว่างๆ ก็ลองหามาดูนะคะ ^^





ส่งท้ายด้วยรอยยิ้มชวนฝันของ อาโออิ ยู



ข้อมูลภาพยนตร์ : Asianwiki
Create Date :03 มีนาคม 2556 Last Update :5 มีนาคม 2556 21:15:16 น. Counter : 18957 Pageviews. Comments :6