bloggang.com mainmenu search


เมื่อเช้า ตื่นมาเดินแถวริมคลอง
เจอแผงขายดอกกุหลาบ น้อยกว่าปีที่แล้วมาก
แอบถามคนขาย บอกว่ากุหลาบขาดตลาด
เลยแพง
พอแพงก็ยิ่งหายาก พอหายากก็ยิ่งขายแพง

อืมมม ก็จริง
เพราะพอแพง ก็ยิ่งขายยาก

ถึงว่า เมื่อวานมีคนบอกว่า ช่อกุหลาบแพงมาก
ช่อเล็ก 2 พัน ช่อกลาง 5 พัน
ฟังแล้ว หืมมมมม? มันคืออะไร มันคืออะไรกันเลยเชียว

พอสาย ๆ คลิกอ่านกระทู้ และตอบกระทู้แรกของวันนี้
ตรงนี้ https://pantip.com/topic/41870558/comment4 ว่า

บ้านหลังที่เกิด .. ยังคงหลังเดิม ที่อยู่ทุกวันนี้ค่ะ
ผูกพันมาก เพราะคุณตาเป็นช่าง สร้างให้เอง
ติดริมคลอง วิวเลยโล่งโปร่งสายตา
มีบริเวณรอบด้าน
 
ยิ่งสมัยก่อน ตรงข้ามบ้าน เป็นสวนกุหลาบลุงตี๋ 10 กว่าไร่
มองจากระเบียงหน้าบ้าน เห็นไร่กุหลาบสุดลุกหูลูกตาเลยค่ะ
ส่วนอีกฝั่งคลอง เป็นสวนกล้วยไม้ของบ้านหลังเขียว เต็มพื้นที่ 2 ไร่
มองไปอีกด้านคือ สวนมังคุดลุงเชาว์ ...
 
เวลาพวกเราต้องการเงินไปซื้อหนังสือการ์ตูนที่ร้านแพร่พิทยา
เราจะยกขบวน เดินกันไป 1 กิโลเมตร เพื่อไปรับจ้างเก็บดอกมะลิ
รับกระป๋องมาคนละกระป๋องนมข้นตราหมี
เก็บได้เต็มกระป๋อง รับเงินมา 2 บาท
(สวนนี้จ่ายดีที่สุดแล้วค่ะ สวนอื่นจ่าย 1 บาท)
 
เวลาว่าง ๆ เช้าวันหยุด
เพื่อน ๆ ในหมู่บ้านจะมาร้องเรียกที่หน้าบ้าน
เพื่อชวนไปเล่นทรายริมคลอง
ทรายสวย สะอาดมากกกกกกกกก
เล่นจนเหนื่อยแล้วก็เดินยกโขยงเข้ามาในรั้วบ้าน
เพื่อนั่งกินเมี่ยงคำ ข้าวยำ เท่าคั้ว อะไรก็ว่ากันไป

กินอิ่มแล้วก็เล่นต่อ
 
ปัจจุบัน ... รอบบ้านกลายเป็นชุมชน
คนเยอะมาก
สวนดอกไม้เหล่านั้น กลายเป็นบ้านเช่า หมูบ้านจัดสรร
โดยเฉพาะสวนมะลิ
กลายเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร
มองไปก็ใจหวิว ๆ ...
 
ทุกคนที่โตมาเป็นคนเก่าแก่ ยังคงอยู่
และมักผ่านมาหน้าบ้าน
เพื่อส่งเสียงทัก

ถ้าเช้า ๆ เดินผ่านไปในย่านชุมชน ก็จะคุยกันถึงเรื่องเก่า ๆ
ตามที่เล่า ...
โดยมีเด็กรุ่นหลังนั่งอ้าปากหวอ ... นึกภาพไม่ออก
เพราะปัจจุบัน คือเมือง เมือง เมือง ...
 
บ้านที่อยู่ น่าจะเป็นบ้านหลังเดิม 1 ใน 3 หลัง
ที่ยังคงสภาพเดิม แค่ทาสีใหม่ ... ทั้งนอกและใน
ยังคงเป็นที่เรียกขานว่า บ้านตึกริมคลอง
 
ผ่านเวลามาเนิ่นนาน
ปีนี้บ้านหลังนี้ครบ 60 ปีแล้วค่ะ
พบว่า การก่อสร้างบ้านของคุณตา
แข็งแรงทนทานมากกกกกกกกก
เหมือนความรู้สึก ... ที่รักอย่างมั่นคง
ในบ้านหลังนี้



...
ตอบแล้วก็เดินออกไปที่ระเบียงหน้าบ้าน
คิดถึงสวนกุหลาบ

....


ตอนบ่าย เดินออกไปในสวน
เจอกุหลาบในกระถางสีส้มสวยเชียว
เป็นกุหลาบหนูที่น้องชายคนเล็กซื้อให้เมื่อหลังงานศพพ่อ
และแม่ช่วยปลูกลงดินให้

ออกดอกเต็มต้นตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา
จนถึงวันนี้ ดอกก็ยังตูมบานแอร่มเรื่อย ๆ

...

ตอนเย็น ๆ ค่ำ ๆ ออกไปกิน FUJI กับลูกศิษย์คนสนิท
พบว่า เซ็นเฟสวันนี้ เงียบมาก
ทั้งที่เป็นวันวาเลนไทน์

แปลกดี
อารมณ์ประหนึ่งเดินในห้างร้าง

ให้อารมณ์ 'รักร้าง' เลย







ท้ายบันทึก
ตอนไปเซ็นเฟส นึกได้ว่า ต้องอัปบุ๊กธนาคาร SCB
เพราะมีรายการหนึ่ง ... ไม่แน่ใจกับยอดเงินที่โอนมา
พออัปบุ๊กที่เครื่องเสร็จ ก็นึกได้ว่ามีคำถามเรื่อง SMS
เลยเดินเข้าไปนั่งรอคิว B 403 เพื่อถามข้อสงสัย

รอนานมากกกกกกกกกกก

พอถึงคิว พนักงานมองหัวจรดเท้าเลย
และพนักงานคนสวยก็นั่งเอนตัว ตอบคำถามแบบ..
หลังพิงเก้าอี้ แล้วมือกดเจลทามือซ้าย ทามือขวา
ตอบคำถามแบบ... ไม่อยากตอบเล้ยยยย

ลูกศิษย์ที่ไปด้วยถึงกับมองสบตา ...
สุดท้าย ได้คำตอบแบบงง ๆ แล้วเลยไม่อยากซักถามอีก
เพราะ...
คำตอบคือ add line ไม่เป็นเหรอคะ
ตอบว่า เป็นค่ะ แต่ add ไม่ได้ค่ะ
พนักงานคว้ามือถือไป แล้วกด ๆ
แล้วสุดท้ายบอกว่า อ้าว ไม่ได้ซื้อเครื่องของไทยเหรอ
ตอบว่า เปล่าค่ะ (ไม่ได้บอกว่า ไม่เคยใช้ไอโฟนของไทยเลยด้วยซ้ำ)

สักพัก พนักงานบอก รับเป็น SMS สิ แต่มีค่าบริการรายเดือนนะ
(คำว่า ค่ะ หายไปจากท้ายประโยคซะงั้น)
ถามว่า SMS ค่าบริการเท่าไหร่คะ
พนักงานตอบ เดือนละ 20 บาท
เลยยิ้ม ๆ และบอกว่า ไม่คุ้มค่ะ เพราะจะมาพร้อม SMS ขยะด้วย (ใช่ไหมคะ)

สงสัยว่า เพราะคำนี้แหละ
"ไม่คุ้มค่ะ" 
ทำให้ ... ลูกศิษย์ถึงกับเอ่ยตอนเดินออกมาแล้ว ว่า
นางเหมือนส่งสายตาดูถูกเลยเนาะ
นี่ถ้าเห็นตัวเลขในบัญชี ก็ก้มกราบเหมือนทุกที
ต้องเกลี้ยกล่อมให้ลงทุนนั่นนี่ แบบไม่ยอมปล่อยตัว
แต่วันนี้ ... สายตานาง เหยียดหยามมาก
ทำไมครูไม่เอาสมุดบัญชีกางใส่หน้านาง...

ตอบลูกศิษย์ว่า เราเหนือกว่าเค้าแล้ว
ทำไมต้องเต้นตาม
พวกเค้าแค่ตัดสินคนที่เปลือก
ส่วนเราก็แค่จำว่า พนักงาน SCB บริการไม่น่าใช้บริการได้เสมอต้นเสมอปลาย
ส่วนพนักงานที่เอาแต่โทรมาหา ก็พูดดี เพราะเห็นยอดเงินเรา ผ่านหน้าจอ
แล้วได้แต่ "เว้าวอน" เราเท่านั้นแหละ
เราก็แค่บอก "ไม่สนใจค่ะ" ไปเรื่อย ๆ
สะใจกว่ากันเยอะนะ

และก็แอบขำในใจเล็กน้อยเมื่อนึกเห็นภาพขาว - ดำ ในใจ
เปรียบเทียบ เวลาเอาเงินดอลล่าร์มาแลกแล้วฝากเข้าบัญชี
หรือมาอัปบุ๊กที่เคาน์เตอร์ เพราะเครื่อง ATM ไม่อ่านแถบแม่เหล็ก
แล้วทีไรทีนั้น ที่พนักงาน SCB จะเข้ามารุมจนแทบอุ้ม

เห็นชัดเจนเป็นขาวดำแบบนี้ ก็ดีแล้ว
ได้รู้จักธาตุแท้ของคนทำงานธนาคาร
และเราก็จะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดเวลาบอกปัดในทุกการชักชวนให้ช่วยลงทุน

ทั้งที่ในใจก็อยากช่วย "สร้างยอด" ให้แหละ
แต่เจอแบบนี้ จบกันทุกทีไป ... 
เผลอ ๆ คราวหน้าจะบอกเพิ่มประโยคหลัง ...ด้วยนะเออ
ว่า ...
"ไม่สนใจจะลงทุนกับ SCB ค่ะ รวยมากเกินพอแล้ว"
Create Date :14 กุมภาพันธ์ 2566 Last Update :14 กุมภาพันธ์ 2566 21:35:16 น. Counter : 625 Pageviews. Comments :0