test of good manners is to be patient with the bad ones ความคิดเห็นที่ 14 โซเชียลออนไลน์ เป็นอะไรที่รวดเร็วเเละหลากหลายความคิดบางคนโลกสวย บางคนโลกไม่สวยมีวัฒนธรรมความคิดที่เเตกต่างกัน เพราะมาจากหลากหลายสังคมทั้งสังคมที่มีการศึกษา เเละการศึกษาน้อยวัฒนธรรมความคิดในโลกออนไลน์สมัยนี้ รุนเเรง รวดเร็วอะไรที่เป็นกระเเสสังคม จะถูกวิพากษ์วิจารณ์กันสนุกมีทั้งคอมเมนต์ด้วยสติ เเละคอมเมนต์ด้วยความไร้สติ ขาดความรู้ความเข้าใจอะไรที่ว่าดี วิก็ว่าดี อะไรที่คนเห็นพ้องต้องกันเยอะ ๆ คือผู้ชนะซึ่งในปัจจุบัน เราไม่สามารถบอกได้ว่ามันถูกต้อง หรือไม่ เพียงเพราะคำว่าไม่เหมาะสมหรือเหมาะสม.. สมาชิกหมายเลข 7304362https://pantip.com/topic/41809743 ตอนไปถึงกรุงเทพฯทันทีที่ลงเครื่อง เข้าโรงแรมที่พักเก็บกระเป๋าปุ๊บนั่งรถไฟฟ้าไปแถวพญาไท ทันที..ไปถึงก็สั่ง mrs. cold มากิน 2 แก้ว2 คนแล้วเราก็ยิ้มให้กันด้วยความคิดถึง...ช่วงระหว่าง 5 วันในบางกอกเรายังแวะมาร้านนี้หลายเช้ามาทุกครั้งก็จะสั่งเมนูเดิมเพราะเมนูอื่น ลองแล้ว ไม่ตรงรสที่ชอบ...จนถึงวันหนึ่ง ไปเดินหอศิลป์พบว่ามีคอนเสิร์ต black pink ด้วยเลยเลือกหนีคน ไปสปาหนนี้เลือกนวดน้ำมันเป็นสปาที่เคยไปแล้ว หลายครั้งแต่ทุกครั้ง ไปสาขาที่มีแต่ต่างชาติซึ่งเงียบสงบมากกกกกกกกกกกหนนี้ เลือกสาขานี้เพราะใกล้โรงแรมคิดว่า น่าจะสงบเหมือนอีกสาขาค่านวดวันนั้น คนละ 2 ชั่วโมงราคา 2,500 บาท x 2 คน = 5,000 บาทพบว่า บรรยากาศระหว่างการรอห้องนวดคือ 'นรก' บนดินเสียงเป็นพิษมากตอนแรก สงบเงียบจนสงัดจนเมื่อมีชายหนุ่ม-หญิงสาว 2 คนเดินเข้ามาแล้วไปนั่งรออยู่ในห้องรับรองด้วยตอนแรก หญิงสาวคุยโทรศัพท์ก่อนเสียงดังมาก ๆ ถึงมากที่สุดหญิงสาวเป็นเภสัชกรที่คุยเรื่องสั่งผลิตยาทาสิวแล้วเด็กคงทำผิดนางเลยดุเด็กเสียงดังมากมีขู่ว่าจะไม่ให้ผ่านโปรด้วยคุยงานในสปา นานและคุยด้วยเสียงที่ไม่ลดหรี่ลงเลยเห็นสีหน้าพนักงานต้อนรับฝืดเฝื่อนมากสักพัก ผู้ชายที่มากับนางก็โทรออกบ้างคราวนี้ ผู้ชายเป็นหมอโทรไปถามใครสักคนถึงอาการคนไข้ติดเตียงมีการสั่งให้ยาใหม่มีการตำหนินักกายภาพบำบัดด้วยผ่านมาเกือบ 15 นาทีเริ่มมีเสียงกระแอมดังมาจากคนอื่น ๆทว่าทั้ง 2 คนไร้มารยาท ก็ยังไม่หยุดส่งเสียงดังลั่นยังคงคุยหน้าตาเฉยยังคงดุด่าลูกน้องในสายนาทีนั้น ฉันหันไปมองมองแบบให้รู้ว่าจ้องมองแล้วส่งสายตาตำหนิแต่คาดว่า ผู้อาวุโสที่บ้านของทั้งคู่คงจะไม่ได้อบรมมารยาทให้และเผลอ ๆ สถาบันก็คงสอนแค่วิชาการ"คน" ทั้งสองก็เลยยังคุยต่อเนื่องจับเวลานาน 30 นาทีแล้วจนที่สุด น่าจะเป็นหมอนวดเท้า 2 คนเดินมาเชิญให้ทั้งสองเข้าไปในห้องนวดคนที่เหลือในห้องรับรองถึงกับสบตากันแล้วยิ้มอย่างโล่งหูให้กันโดยไม่ต้องเอ่ยคำแต่สักพักยังได้ยิน "เสียงพิษ" ดังทะลุห้องนวดออกมาคนบ้าอะไรเนี่ยทำไมมารยาทสังคมถึงได้ต่ำเตี้ยเช่นนี้...ที่สุด ลุกเดินไปที่แผนกต้อนรับบอกว่าขอห้องนวด ที่อยู่ห่างจากห้องเสียงดังของคนคู่นั้นนะคะผู้จัดการออกมาจัดการเองเลยเลยได้ห้องที่อยู่ห่างออกไปคนละทิศห่างกันจนหลับสบายหู 2 ชั่วโมงที่นอนนวดน้ำมันอโรมา..เมื่อนวดเสร็จถามเพื่อนร่วมชะตากรรมว่าจะทิปเท่าไหร่เพื่อนยื่นเงินให้ 300 เพราะประทับใจการนวดเลยทิป 2 คน จำนวน 700 บาทและให้ทิปพนักงานต้อนรับอีก 100 บาทเป็นค่าความอดทนที่ต้องเจอลูกค้าเช่นนั้น..ขณะกำลังเดินออกได้ยินเสียงลูกค้าที่ลุคเปรี้ยว ๆ คนหนึ่งรับสายมือถือพูดภาษาอังกฤษที่แปลเป็นไทยได้ว่า"อย่ามายุ่งกับฉัน ถ้าเธอไม่สามารถเลี้ยงดูชั้นได้"ฟังแล้ว เฮ้อออออออออคนเดี๋ยวนี้ เขาเป็นอะไรกันนะ.....ที่สุด พอเดินออกจากสปาแล้วก็พยักหน้าให้กันลงรถไฟใต้ดิน ไปต่อรถไฟฟ้าไปร้านกาแฟเพื่อเยียวยาจิตใจ..หนนี้ไม่กิน mrs. cold แล้วเลือกเอสเปรสโซ่ รสกาแฟแชมป์โลกแก้วนี้แหละ 300 บาทตอนแรกยังคิดว่าจะคุ้มมั้ยนะแต่ที่สุด เมื่อหมด 3 จิบก็พบว่า สุดแสนคุ้มมากเป็นรสชาติที่ละมุนในปากเปรี้ยวขมหวานและอวลนานมีความสุขมากกาแฟหมดแก้วแล้วยังรู้สึกถึงความเป็นกาแฟแชมป์โลกจริง ๆราคาอาจจะไม่สามารถคัดกรองมารยาทคนในบางสถานที่แต่ราคาให้รสชาติที่แตกต่างได้จริง..อีกอย่างคือ ... บรรยากาศในร้านกาแฟนี้สงบกว่าในห้องรับรองของสปาแห่งนั้นเยอะเลยอะทั้งที่คนเยอะกว่า แออัดกว่าแต่ทว่า สงบ และสงบกับความหอมกรุ่นของกลิ่นกาแฟ...ไว้จะตีตั๋วไปกินกาแฟที่นั่นอีกครั้งก่อนกลับแอลเอ Create Date :11 มกราคม 2566 Last Update :12 มกราคม 2566 8:16:23 น. Counter : 446 Pageviews. Comments :0 twitter google Comment * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก