Toyota RAV 4 EV เป็นการกลับมาอีกครั้งของรถยนต์อเนกประสงค์ทรงสมรรถนะที่กลับมาให้ได้ชื่นใจกันอีกครั้ง ในการนำรถอเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมมทั่วโลกมาปรับให้ทันยุคทันสมัยและก้าวล้ำในเทคโนโลยีด้วยการแนะนำเวอร์ชั่นรถไฟฟ้า ภายใต้โครงการร่วมมือพัฒนาระหว่าง Toyota  และ Tesla ผู้ผลิตรถไฟฟ้ารายสำคัญ

                การพัฒนา  RAV4  ใหม่ ในเวอร์ชั่นไฟฟ้านี้ Toyota  ไม่ได้มองเพียงแค่การปรับรถที่ใช้เครื่องยนต์ไปสู่พลังงานไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังมองถึงการทำเรือนร่างของรุ่นปัจจุบันให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นด้วยการเส้นสายทันสมัยปรับเปลี่ยนหน้าตาให้ล้ำอนาคตมากยิ่งขึ้น เพิ่มเสน่ห์ในแบบทันสมัยด้วยการขัดเกลาเรือนร่างให้สามารถตอบสนองค่าสัมประสิทธิเสียดทานลู่ลม 0.30  Cd   ซึ่งการปรับแต่งนี้ยังเน้นหนังในเรื่องของสไตล์ ตั้งแต่การปรับไฟหน้ากระจังหน้า มาพร้อมชุดแต่งสเกิร์ตข้าง กระจกข้างสปอร์ยเลอร์หลัง ให้ความดูหรูหรายิ่งขึ้น จากไฟ  Daytime LED พร้อมตราที่ช่วยบ่งบอกความแตกต่างด้วยการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

                ในห้องโดยสาร Toyota RAV 4 EV  มาพร้อมการตบแต่ง ด้วยการรำเสนอการตบแต่งด้วยผ้าพิเศษที่เรียกว่า "Neutron" ตั้งแต่ที่นั่งยันแผงข้างประตูพร้อมปรับการออกแบบคอนโซลหน้าใหม่ยัดจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ตอบโจทย์ในเรื่องฟังชั่นการทำงานและระบบนำทาง ซึ่งข้อดีของรถไฟฟ้า คือ มันไม่ต้องการอุปกรณ์มาก ทำให้มีการใช้พื้นที่ในห้องโดยสารอย่างคุ้มค่า

                เรื่องการขับเคลื่อน โดยสาร Toyota RAV 4 EV มาพร้อมชุดมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 115 กิโลวัตต์เทียบเท่าพละกำลังระดับ 154 แรงม้า ให้กำลังบำรุงด้วยชุดแบตเตอร์รี่ไฟฟ้า ที่ Toyota  ติดตั้งไว้ที่ตอนกลางของตัวรถใต้พื้นที่ห้องโดยสาร ซึ่ง Toyota RAV 4 EV ยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 2 แบบ คือ  Normal  และ  Sport  เพิ่มความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น

                ถ้านึกไม่ออกว่า Toyota RAV 4 EV จะมีสมรรถนะเท่าไร Toyota ก็นำตัวเลขสถิต 0-96 ก.ม./ช.ม. มาอ้างอิง โดยในโหมด  Normal สามารถทำได้ในเวลา เพียง 8.6 วินาที แต่เมื่อปรับไปโหมดสปอร์ตมันจะขับสนุกมากกว่า ด้วยอัตราเร่ง 0-96 ก.ม./ช.ม. ในเวลาเพียง 7 วินาทีเท่านั้น เช่นเดียวกับความเร็วปลายของรถที่สามารถทำได้สูงสุด 137 ก.ม./ช.ม. ในโหมดธรรมดา ส่วนโหมดสปอร์ตไปได้ถึง 160 ก.ม./ช.ม.

            ทั้งนี้  Toyota RAV 4 EV จะมีการผลิตขึ้นจำนวน 2600 คัน  โดย Tesla Motor  ซึ่ง รถรุ่นนี้จะให้คนอเมริกาได้สัมผัสสมรถนะก่อนใคร ในรัฐสำคัญ เช่น แคลิฟอร์เนีย ซานฟราซิสโก ซานดิเอโก้ ซึ่ง  Toyota  คาดว่า รถรุ่นนี้น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเหมือนกัยบ Toyota Prius  รุ่นแรกที่ขายในอเมริกา