bloggang.com mainmenu search
2012 Classic Japanese Retro River City ภาพ: จันทนา เจริญทวี  •  เรื่อง: ARIA 54 Sunday, 7 October, 2012 1:12 AM 800x 2012 Classic Japanese Retro@River City
ย้อนฝันวันวาน กับรถเรโทรสัญชาติญี่ปุ่น 5 - 14 ตุลาคม ณ ริเวอร์ ซิตี้
baหลบฝนไปชมงานแสดงรถคลาสสิคสัญชาติญี่ปุ่น 2012 Classic Car Japanese Retro@River City ซึ่งจัดโดยศูนย์การค้า ริเวอร์ ซิตี้ ร่วมกับ สมาคมรถคลาสสิคแห่งประเทศไทย และ ชมรมรถโมเดลแห่งประเทศไทย งานนี้ตามข่าวก่อนหน้าจะมีรุ่นเด่นคือ Nissan Skyline ตัวถัง C10 'Hakosuka' หรือ สกายไลน์ 'ทรงกล่อง' ซึ่งเป็นการรวมคำว่า ฮาโกะ หมายถึงกล่อง + คำว่า สึกะ ซึ่งตัดมาจากคำพ้องเสียงว่า สึไกเรน (Sukairain -sukairain) ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง 'เส้นขอบฟ้า' ทว่าไม่มีมาโชว์ตัวในงานนี้

baงานมีขึ้นระหว่างวันที่ 5 - 14 ตุลาคม 2555 ช่างภาพของ มอเตอร์ทริเวีย ไปวันที่ 5 ผู้เขียนไปวันที่ 6 สอบถามกันได้ความว่า งานวันแรกซึ่งเป็นวันศุกร์ ยังมีคนมาเข้าชมไม่นากนัก นอกจากผู้คนในบริเวณนั้น แต่วันถัดมามีผู้คนหนาตาทีเดียว นับว่าโชคดีที่สามารถถ่ายรูปมาได้แบบโล่งๆ สบายๆ เพราะถ้าไปในวันหยุดแบบผู้เขียน น่าจะลำบากพอสมควร โดยเฉพาะในส่วนจัดแสดงรถโมเดล 2012 Classic Japanese Retro River City • เรียกแขกได้มากที่สุด สำหรับโมเดล AE86 รุ่นพิเศษ Initial D Comic Version ขนาด 1:18 จากค่าย AUTOart 2012 Classic Japanese Retro River City • โมเดล AE86 รุ่นพื้นฐาน Trueno GT Apex ไม่ใช่เวอร์ชั่นมังงะ ล้อโรงงาน ราคาเบาลงมาหน่อย 2012 Classic Japanese Retro River City • อีกหนึ่งโมเดลของค่าย AUTOart 1:18 Toyota 2000 GT คันขวาเป็นเวอร์ชั่นตัวแข่ง SCCA 800x baงานนี้มีรถมาโชว์ตัวทั้งหมด 10 คัน แบ่งเป็นโซนจัดแสดงภายใน 8 คัน และจอดอยู่ตรงบริเวณทางเข้า 2 คัน ในงานมีส่วนจัดแสดงรถโมเดลซึ่งน่าจะถูกใจคนชอบสะสม คันที่มีคนสนใจที่สุดหนีไม่พ้น Toyota Sprinter Trueno หรือ AE86 ของค่าย AUTOart ซึ่งเป็นรุ่น Initial D Comic Version มีล้อกล้วย วาตานาเบ พร้อมคาดสติ๊กเกอร์ โทฟุ (เต้าหู้) ฟูจิวาระ มาเรียบร้อย รายละเอียดสมจริงทุกสัดส่วน ขนาดตัว 1:18

baอีกหนึ่งรุ่นคือ Toyota 2000 GT ตัวแข่ง SCCA - Sports Car Club of America ฤดูกาล 1968 หมายเลข 23 ของ Dave Jordan ขนาด 1:18 ของ AUTOart เหมือนกัน สวยงามไม่มีที่ติ ทั้ง 2 คันราคาคันละน่าจะเฉียดๆ ครึ่งหมื่น ส่วนรุ่นที่เป็นโมเดลรุ่นพื้นฐาน Trueno GT Apex หรือ GT 2000 น่าจะไม่เกิน 3.5 พัน ใครอยากได้ก็ลองไปรื้อค้นในเว็บดูครับ หาไม่ยาก เว็บไทยเรานี่แหละ

baส่วนคันจริงมีอะไรมาบ้าง ไปดูกันครับ 2012 Classic Japanese Retro River City Honda Civic
baเริ่มกันที่เจนเนอเรชั่นแรกของ ซับคอมแพคท์ ชื่อดัง Honda Civic SB1 ที่ทำตลาดในช่วงปี 1973 - 1979 ประวัติความเป็นมา มอเตอร์ทริเวีย เคยลงไว้ในปีที่แล้ว ตามข้อมูลคันที่นำมาจัดแสดงเจ้าของคือ คุณปณิธาน เฟื่องอารมย์ ซึ่งได้รถในสภาพเดิมๆ มาจากเชียงใหม่ และนำมาตกแต่งตามแบบตัวแข่ง Group 2 ในอดีต คือ Honda Civic Mugen Type MS-II Racing

baคันจริงในอดีตนั้น Mugen แต่งแบบกลางๆ คือ ครบตามกฏของ F.I.A. แต่ก็ยังสามารถวิ่งบนถนนหลวงได้ถูกต้องตามกฏหมาย รุ่นพื้นฐานในตลาดสหรัฐฯ นำเข้าโดย American Honda Motor Co. และเคยสร้างความฮือฮาด้วยการทดสอบโดยสื่อมวลชนสหรัฐฯ แบบเอนดูรานซ์ที่ Ontario Motor Speedway ในแคลิฟอร์เนีย ด้วยการวิ่งเต็มสปีดเฉลี่ย 135 กม./ชม. เป็นเวลา 72 ชม. ซึ่ง Civic ทั้ง 6 คันวิ่งทำระยะทางรวมได้ประมาณ 44,556 กิโลเมตร โดยไม่พังคาเท้า 2012 Classic Japanese Retro River City Mazda RX-3
baRX-3 ถือเป็นรถในคลาสสปอร์ตของ มาสด้า ที่มีชื่อเสียงในด้านความแรง ทำตลาดในช่วงปี 1971 - 1978 ด้วยเครื่องยนต์ Wankel Rotary เลย์เอาท์แบบ FR ตัวถังคูเป้ ในญี่ปุ่นเอง มาสด้า ทำตลาดด้วยชื่อ Mazda Savanna และใช้ชื่อ Mazda RX-3 สำหรับตลาดต่างประเทศ ตั้งแต่ช่วงปี 1972 จากนั้นในปี 1978 Savanna ก็ถูกแทนที่ด้วยสปอร์ตสุดคลาสสิคจากฮิโรชิมา Mazda RX-7 นั่นเอง

baในแวดวงมอเตอร์สปอร์ต RX-3 เป็นตัวแข่งน้ำหนักเบาที่ มาสด้า ใช้สานต่อความสำเร็จของ Mazda R100 หรือ Mazda Familia ตัวถังคูเป้ และเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Nissan Skyline รวมทั้งหยุดสถิติชนะรวดของ นิสสัน ตลอดช่วงปี 1969 - 1972 เอาไว้ได้ในการแข่งขัน Japanese Grand Prix ฤดูกาล 1972 2012 Classic Japanese Retro River City Mazda RX-4
baก่อนใช้ชื่อ Mazda RX-4 รถรุ่นนี้สืบสายพันธุ์มาจาก Mazda Luce (ออกเสียงว่าลูเช่) ซึ่งเป็นรถซีดานขนาดใหญ่ เน้นขายความหรูในตลาดญี่ปุ่น เริ่มจำหน่ายในปี 1969 จากนั้นจึงเริ่มส่งออกด้วยชื่อ Mazda 929 จนกระทั่งถึงยุคเครื่องยนต์โรตารี่ ในปี 1972 มาสด้า จึงใช้ชื่อในตลาดโลกว่า Mazda RX-4

baรุ่นที่นำมาจัดแสดงเป็นรุ่น Mark 2 ตัวถัง 2 ประตูคูเป้ ทำตลาดระหว่างปี 1972 - 1977 (รุ่น Mark 1 ทำตลาดในช่วง 1969 - 1972 ด้วยชื่อ Mazda Luce R130 และเป็นรุ่นแรกที่ใช้เครื่องยนต์โรตารี่ในสายพันธุ์นี้) ซึ่งในช่วงนั้น RX-4 ยังมีรูปแบบตัวถังให้เลือกอีก 2 แบบ คือ ซีดาน และสเตชั่นแวกอน ในญี่ปุ่นเอง RX-4 มีชื่อเรียกเฉพาะว่า Luce Rotary เนื่องจากใช้แชสซีส์ของ Luce นอกจากนี้ RX-4 ยังช่วยให้ มาสด้า เป็นที่รู้จักมากขึ้น และเป็นที่จดจำในฐานะบริษัทผู้ผลิตที่มีเครื่องยนต์โรตารี่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว 2012 Classic Japanese Retro River City Mazda RX-7
baRX-7 เป็นรถสปอร์ตขับหลังที่ มาสด้า ใช้ทำตลาดแทน RX-3 โดยมีจุดเด่นที่ระบบแอโรไดนามิค ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา เมื่อรวมกับพละกำลังของเครื่องยนต์โรตารี่ ทำให้ RX-7 หรือ Savanna ประสบความสำเร็จอย่างสูงในทุกที่ๆ เข้าไปทำตลาด ตลอดช่วงปี 1978 - 2002 รวม 3 เจนเนอเรชั่น

baแต่หากจะนับความสำเร็จกันจริงๆ RX-7 เจนเนอเรชั่นแรก SA/FB และเจนเนอเรชั่น 2 FC ได้รับความนิยมมากกว่าเจนเนอเรชั่น 3 FD เป็นอย่างมาก เพราะ 2 เจนฯ แรกมียอดผลิตรวมกว่า 7.4 แสนคัน ในขณะที่เจนฯ 3 มียอดผลิตเพียง 6.8 หมื่นคันเท่านั้น 2012 Classic Japanese Retro River City Nissan Fairlady Z
baNissan Fairlady Z หรือ Datsun 240Z หนึ่งในรถสปอร์ต 2+2 ที่นั่ง ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของ นิสสัน เปิดตัวรุ่นแรกรหัส S30 ในปี 1969 ด้วยรูปแบบตัวถัง 3 ประตูแฮทช์แบค ออกแบบโดย มร.โยชิฮิโกะ มัตสึโอะ เริ่มทำตลาดในอเมริกาปี 1970 และได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากราคาที่ต่ำกว่าสปอร์ตเจ้าตลาดในขณะนั้นอย่าง จากัวร์ หรือ ปอร์เช่

ba
ในช่วงแรก นิสสัน ทำตลาด 240Z รุ่นปี 1970 ด้วยเกียร์ธรรมดา 4 จังหวะ ถัดจากนั้น 1 ปีจึงมีออปชั่นเป็นเกียร์อัตโนมัติ 3 จังหวะ และเป็นรุ่นแรกที่ได้สวมป้าย Nissan Full Automatic

baแม้จะมีเสียงติงว่า การออกแบบของ 240Z นั้นดูเหมือนถอดแบบมาจาก Jaguar E-Type เหลือเกิน (ซึ่งก็จริง) แต่ในปี 2004 นิตยสาร Sports Car International ของสหรัฐฯ ได้ยกให้ 240Z เป็นหนึ่งใน 10 สุดยอดรถสปอร์ตแห่งยุค 70 2012 Classic Japanese Retro River City Nissan Skyline 'kenmeri'
baตามข่าวที่ประชาสัมพันธ์ก่อนหน้า งานนี้ควรจะมี C10 Hakosuka เป็นรุ่นไฮไลท์ ผู้เขียนเลยผิดหวังนิดหน่อย แต่ Skyline คันนี้ก็สวยไม่แพ้กัน และมีสภาพสมบูรณ์มาก โดยรุ่นที่นำมาจัดแสดงเป็น Skyline GT-R ตัวถัง KHGC110 ที่มีชื่อเล่นว่า Ken and Mary Skyline หรือ เคนโตะเมริ ในญี่ปุ่น

baสมัยก่อนผู้เขียนนึกว่า Ken and Mary เป็นนักร้องดูโอ (หรือทริโอประมาณ Peter, Paul and Mary) ยังนึกอยู่ว่าเขาร้องเพลงอะไรกัน? ทำไมถึงโด่งดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ Skyline แต่ก็ไม่ได้นึกเฉลียวใจค้นหาข้อมูลอะไรเพิ่มเติม จนเมื่อไม่นานมานี้ถึงรู้ว่า Ken and Mary เป็นแค่ตัวละครสมมุติในซีรี่ส์โฆษณาชุดทางทีวีของ Skyline ยุคนั้น ภายใต้ชื่อแคมเปญ Ken and Mary's Skyline

baคนที่โด่งดังครองใจชาวญี่ปุ่นไม่ใช่หนุ่ม Ken แต่เป็นสาวน้อย Mary ซึ่งรับบทโดย Diane Krey-Wesley บุตรสาวของนักบินอเมริกันที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ณ เวลานั้น ฝั่งหนุ่ม Ken รับบทโดยนักแสดงละครทีวีชื่อ Jimmy Zinnai ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้วเนื่องจากอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์

baส่วนสาวน้อย Mary ย้ายกลับไปอาศัยยังอเมริกาในปี 1975 และปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ดี 2012 Classic Japanese Retro River City Toyota Celica
baหนึ่งในตำนานอันแสนคลาสสิคจาก โตโยต้า เจนเนอเรชั่นแรกของ Celica รหัส TA22 ที่ทำตลาดในช่วงปี 1970 - 1977 มีแพลทฟอร์มแยกเป็น 2 รูปแบบ คือ A20 และ A35 พร้อมตัวถัง 2 แบบ คือ 2 ประตู Hardtop และ 3 ประตู Liftback โดยช่วงที่ โตโยต้า ส่งออก Celica นั้น แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย คือ LT, ST และ GT

baCelica ตัวถัง Liftback หรือ TA27 เปิดตัวในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกปี 1973 ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ 1.6 และ 2.0 ลิตร ส่วนในอเมริกาได้สัมผัสกับเวอร์ชั่นที่แรงกว่าด้วยเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร และมีชื่อเล่นว่า Japanese Mustang หรือ Mustang Celica เนื่องจากการออกแบบคล้ายคลึงกับ Ford Mustang นั่นเอง โดยเฉพาะแนวลาดทางด้านหลัง ซึ่งถือเป็นรูปแบบสุดฮิทของมัสเซิล-คาร์ ที่พ้นจากยุคนี้แล้วก็ไม่มีรถรุ่นไหนที่สามารถให้อารมณ์นี้ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นต้นตำรับอย่าง ฟอร์ด, พลีมัธ, ดอดจ์ หรือ ปอนติแอค ก็ตาม

baรุ่นที่นำมาจัดแสดงน่าจะเป็นรุ่นปรับโฉมสำหรับส่งออกในปี 1975 จุดสังเกตุก็คือการหายไปของช่องระบายอากาศบนฝากระโปรง เปลี่ยนจากฝากระโปรงเรียบมาเป็นสันนูน รวมทั้งมีการติดตั้งไฟเลี้ยวฝังเอาไว้ในกันชนหน้า และเป็น Celica รุ่นสุดท้ายที่มีการวาดขอบกันชนขึ้นไปจบกับไฟเลี้ยว ซึ่งผู้เขียนคิดว่าเป็นการออกแบบที่กล้าหาญชาญชัยมาก

baCelica ผลิตครบ 1 ล้านคันในปี 1977 ก่อนจะเข้ายุคของเจนเนอเรชั่น 2 พร้อมๆ กับการหายไปของเส้นสายในแบบมัสเซิล-คาร์

baเห็นแล้วก็นึกถึง Celica เวอร์ชั่น Star Wars ไม่รู้ว่าป่านนี้หาตัวเจ้าของเจอหรือยัง? 2012 Classic Japanese Retro River City Toyota Sprinter Trueno
baมาถึงรุ่นดัง Toyota AE86 รถเล็กน้ำหนักเบาจากค่าย โตโยต้า ซึ่งเป็นหนึ่งในไลน์ผลิตภัณฑ์ของ Toyota Corolla เจนเนอเรชั่นที่ 5 โดยชื่อรหัส AE86 นั้น A หมายถึง เครื่องยนต์ซีรี่ส์ 4A, E หมายถึงสายพันธุ์ Corolla, 8 หมายถึงเจนเนอเรชั่นที่ 5 หรือ E80 Series และ 6 หมายถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในเจนเนอเรชั่นนี้

baโตโยต้า แบ่งการทำตลาด Corolla รุ่นนี้เป็น 2 รุ่นคือ AE86 หรือ Toyota Sprinter Trueno และ AE85 หรือ Toyota Corolla Levin ทั้งคู่ใช้พื้นฐานแพลทฟอร์มเดียวกัน ดีไซน์เหมือนกัน ต่างกันที่ AE86 เน้นในเรื่องสมรรถนะ AE85 เน้นในเรื่องความประหยัด ส่วนจุดแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์คือ AE86 จะมีไฟแบบพับเก็บได้ หรือ retractable headlights ส่วน AE85 เป็นแบบติดตายตัว

baในญี่ปุ่น AE86 มีชื่อเรียกว่า ฮาจิ-โระขุ ซึ่งแปลตรงตัวว่า 8-6, trueno ในภาษาสเปนหมายถึง ฟ้าคำราม ส่วน AE85 มีชื่อเล่นว่า ฮาจิ-โก๊ะ แปลตรงตัวว่า 8-5 และ levin ในภาษาอังกฤษยุคเก่าหมายถึง สายฟ้าฟาด ทำตลาดในระหว่างปี 1983 - 1987

baในแวดวงมอเตอร์สปอร์ต AE86 นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับการแข่งขันหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ Group A, Group N, แรลลี่, เซอร์กิต ไปจนถึงคลับเรซ เนื่องจากการเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลังที่มีขนาดกำลังเหมาะ และมีน้ำหนักตัวไม่มากนัก (ต่ำกว่า 1,000 กก.)

baสำหรับมังงะเรื่อง Initial D ของค่าย โคดันฉะ ในปี 1995 นั้น หลายท่านเข้าใจว่าทำให้ AE86 มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมา ทว่าความจริงแล้ว AE86 ถือว่ามีชื่อเสียงมาก่อนหน้านานนับ 10 ปี (จนหยุดทำตลาดไปแล้ว) ในมังงะ AE86 ถือเป็นรถเก่าที่เป็นม้านอกสายตาสำหรับคู่แข่งด้วยซ้ำ อีกทั้งชื่อเสียงของนักขับลึกลับ 'ปิศาจแห่งอากินะ' ก็เป็นของ บุนตะ ฟูจิวาระ บิดาของ ทาคุมิ ฟูจิวาระ ตัวเอกในเรื่อง ซึ่งตัว บุนตะ และ AE86 ก็คือตัวแทนของอดีตที่ได้ผ่านเลยไปแล้วนั่นเอง

baส่วนเวอร์ชั่นภาพยนตร์ในปี 2005 นั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะกลายเป็นหนังฮ่องกงโฉ่งฉ่างไปเสียนี่ ไม่มีคาแรคเคอร์ใดตรงกับในต้นฉบับเลย (ยกเว้น โมงิ นัทสึกิ)... ถามว่าสนุกไหม? ก็สนุกดี แต่ไม่มีความเป็น Initial D เลยแม้แต่น้อย 2012 Classic Japanese Retro River City baอีก 2 คันที่เหลือคือ รุ่นยอดนิยม Toyota Corolla KE70 และ Nissan Sunny B110 Series ผู้เขียนขอละไว้ให้ไปชมกันเองแล้วกันครับ เพราะทั้งคู่ถูกโมดิฟายใส่พาร์ทรอบคันมาอย่างหนักหน่วงจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ใครชอบของแรงๆ ตามแบบตัวแข่งทางเรียบ ก็ไปเดินดูกันได้ตามอัธยาศัย

baย้ำกันอีกครั้ง งาน Classic Car Japanese Retro จัดแสดงระหว่างวันที่ 5 - 14 ตุลาคม 2555 ประตูเปิดเวลา 10.00 - 20.00 น. ณ ริเวอร์ซิตี้ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ ยังมีเวลาอีกหลายวัน ใครสนใจก็เชิญตามสะดวกครับ
Create Date :07 ตุลาคม 2555 Last Update :7 ตุลาคม 2555 10:34:05 น. Counter : 6100 Pageviews. Comments :0