bloggang.com mainmenu search
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อพูดถึงรถยนต์ที่มีการแข่งขันกันสูงแล้ว รถยนต์อเนกประสงค์ถือเป็นตลาดหนึ่งที่มีการขับเคี่ยวกันอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อรถรุ่นนี้อยู่ในกลุ่มรถยนต์ที่ลูกค้าต้องการ ตอบสนองการใช้งานได้หลากหลายมาก ทำให้เป็นที่ต้องการ

                ตั้งแต่เปิดตัวออกมา Mitsubishi Pajero Sport ถือเป็นรถยนต์ที่มีการพูดถึงอย่างมาก และเป็นที่ติดตาอย่างรวดเร็ว ด้วยเรือนร่างที่ทำให้ตอบสนองได้มากขึ้น แม้จะเป็นที่รู้กันดีว่ารถคันนี้เป็นรถยนต์ที่พัฒนามาจากรถยนต์กระบะของ  Mitsubishi  ด้วยการหอบหิ้วเอาโครงสร้างหลักมาใช้ รวมถึงเครื่องยนต์ทรงพลังตอบสนองการขับขี่ แต่เมื่อไม่นานมานี้  Mitsubishi  ได้ส่งหัวใจใหม่มาตอบสนองด้วยเครื่องยนต์ขุมพลังเบนซิน

Mitsubishi Pajero Sport 2.4

Mitsubishi Pajero Sport 2.4

ภายนอกดูหรู สไตล์เดิม

                ใครที่ติดตามอ่าน Sanook! Auto  มาเป็นประจำ คงจะทราบกันดีว่า เมื่อช่วงก่อนหน้านี้ทีมงานเราเคยได้ทดสอบ Mitsubishi  Pajero Sport  ใหม่กันไปแล้ว โดยในงวดนั้นเป็นรุ่นดีเซล 2.5 VG Turbo ที่ทรงสมรรถนะ และกลับครั้งนี้ ในรรุ่นเครื่องยนต์เบนซินมันก็มีความแตกต่างบ้าง

                เรือนร่างของ  Pajero Sport  เบนซินใหม่ ถือว่าไม่มีความแตกต่างจากที่เราเคยได้ขับมากนัก ด้วยมิติเรือนร่างที่ให้อารมณ์ความเป็นรถอเนกประสงค์สไตล์หรูขาลุย ที่จับเอาหน้าตาของ  Triton มาให้ความลงตัวในการออกแบบ ตั้งแต่ใบหน้า กระจังที่คุ้นหน้าตากันเป็นอย่างดี แต่แม้จะดูคล้ายกัน ก็มีการตัดออพชั่นบางอย่างไปเช่น ราวหลังคารวมถึงสปอร์ยเลอร์หลัง เช่นเดียวกับชุดไฟหน้าแบบ  HID  พร้อมระบบปรับลำแสงไฟ ระบบควบคุมการเปิดปิด-ไฟหน้าอัตโนมัติ และ ท้ายสุดสวมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว  จัดมาพร้อมยางขนาด 245/70/16

Mitsubishi Pajero Sport 2.4

                มิติตัวถังของตัวรถยังคงความยาว 4695 มม. เท่าเดิม เช่นเดียวกับความกว้าง 1818 ม.ม.แต่มีการปรับความสูงให้มีขนาดเพียง 1800 ม.ม.  มาพร้อมฐานล้อยาว 2800 ม.ม. เช่นเดียวกับน้ำหนัก ที่เบากว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกันทั้งหมดเพียง 1800 ก.ก. เท่านั้น

ภายในยังสบายแต่ไม่เน้นหรูนัก

                เข้ามาภายในห้องโดยสาร  Mitsubishi Pajero Sport เบนซินมาพร้อมการตอบโจทย์ ด้วยการให้ฟังชั่นใช้งานเป็นสำคัญ แต่ไม่เน้นในเรื่องการตบแต่งให้ความหรูหรามากมายนัก หลายสิ่งถูกตัดออกไป แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดมาก เพราะคุณจะยังพบเบาะ 3 แถว ตอบสนองการใช้งานแบบ 7 ที่นั่งเหมือนเดิม ระบบปรับอากาศตามที่นั่ง ที่สามารถ ที่แอร์ตอนหลัง ยังสามารถเลือกปิดได้ถ้าไม่ได้ใช้งาน  ส่วนการตบแต่งเน้นเพียงพอการใช้งานให้เบาะผ้า แต่ยังสามารถปรับสูงต่ำได้ ด้วยอัตโนมือในฝั่งคนขับ เบาะแถว 2 สามารถปรับพับได้ในอัตรา  60/40 และ แถว 3 สามารถพับเก็บได้เรียบ และยังสามารถพับเอนได้         ส่วนความสุนทรีย์ในห้องโดยสาร เป็นหน้าที่เครื่องเสียงซีดี เอ็มพี 3 พร้อมช่อง  Aux-in และ  ช่องเสียบ  USB  ให้ลำโพง มา 4 จุด กระหึ่มทั้งคัน

บททดสอบแรกกับการขับขี่ในเมือง

                หลังจากไปรับรถทดสอบที่ Mitsubishi  สำนักงานใหญ่ที่อยู่เลย ม.ธรรมศาสตร์รังสิตไปเล็กน้อย ก็เป็นครั้งที่ 2 ที่เราได้กลับมาขับขี่รถยนต์  Mitsubishi Pajero Sport อีกครั้ง "อย่าลืมนะเติมเบนซินไม่ใช่ดีเซล" พี่มุ่ยพีอาร์สาวสวยเราย้ำเตือนก่อนที่เราจะรับกุญแจไปเริ่มบททดสอบ คำที่เราต้องจำขึ้นใจในการขับขี่รถรุ่นนี้ เพราะถ้าเติมผิดนี่รับรองว่ามีงานเข้าอย่างแน่นอน

Mitsubishi Pajero Sport 2.4                  เมื่อขึ้นขับเจ้ารถคันนี้ความชินกับรถตั้งแต่รุ่นดีเซล ทำให้เรารู้สึกคุ้นเคยกับเจ้าเบนซินมากขึ้น บิดกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์บุคคลิกที่แตกต่างของเครื่องยนต์เบนซิน ทำให้รถที่แม้ไม่ได้ดูหรูกลับมีความสุขุมมมากว่าเครื่องดีเซลที่ออกแนวดิบกว่าพอสมควร เสียงเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ยกเอาบล็อก 4G64  MPI ให้กำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 5,250 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 194 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที มาประจำการ  ถึงกับทำให้เราหลงใหลในรถคันนี้ว่ามันมีความเงียบ จนคุณแทบไม่สังเกตว่ามันทำงาน ถ้าไม่ได้เหลียวไปมองที่วัดรอบ แต่เราลองเปิดประตูฟังข้างนอกก็ถือพอใช้ได้

                สิ่งที่หลายคนมองข้ามในรถรุ่นนี้ไปไม่ใช่เรื่องเครื่อง แต่เป็นเรื่องของระบบส่งกำลัง ที่มาพร้อมระบบเกียร์ ธรรมดา 5 สปีด มีอัตราทด ดังนี้  คือ เกียร์1 "3.967" เกียร์2 "2.136" เกียร์3 "1.360" เกียร์ 4 "1.000" และ เกียร์ 5 "0.856" โดยกำลังทั้งหมดส่งลงเฟืองท้ายที่มาพร้อมอัตราทด 4.900 ถือว่าเน้นการตอบสนองชดเชยในรอบต้นที่เครื่องเบนซินอาจจะทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก

Mitsubishi Pajero Sport 2.4                  เราเริ่มขับรถ  Pajero Sport 2.4  ไปตามถนนในเมืองผ่านตามสายหลักที่หลายคนไป โดยในระหว่างการขับขี่เรามักพบว่า เจ้าอเนกประสงค์ขุมพลังเบนซินคันนี้ขับง่ายมาก แม้ส่วนหนึ่งจะด้วยประสบการณ์การขับรถเกียร์ธรรมดาของตัวเอง  แต่ถ้าใครกลัวว่าคลัทช์จะแข็งต้องออกแรงจนปวดเมื่อยตามข้อก็ต้องคิดใหม่ เพราะ คลัทช์ Pajero Sport นี้เบามา เบาจนแบบว่า คุณจะลืมไปเลยว่าขับเกียร์ธรรมดา  ซึ่งเป็นข้อดีที่เด่นชัดมา แต่ต้องยอมรับว่าปัจจุบันหลายคนในบ้านเรากลัวรถเกียร์ธรรมดาด้วยเหตุเกรงว่ามันจะขับยาก นั่นเอง

                การขับขี่ในเมืองที่เราได้ใช้เวลาช่วงสั้นๆในการทดสอบเนื่องจากรถคันนี้ไม่ได้เน้นการตอบสนองในเรื่องนี้มากมายนัก เราพบว่า Pajero Sport อาจจะเป็นปัญหาบ้างเรื่องขนาดรถที่ยาว ทำให้การหาที่จอดยากกว่า หรือการขับขี่ในที่แคบจะยากกว่า แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะ นี่คือเรื่องปกติของรถอเนกประสงค์

นอกเมืองขับมันส์ จัดเต็มกับทริปเกาะช้าง

                ค่ำคืนผ่านไปพร้อมกับ  Pajero Sport 2.4 ยังคงอยู่กับเรา และการมีรถอเนกประสงค์เช่นนี้เป้าหมายหลักของใครหลายคน คือการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งเราก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน และมันเป็นที่มาของทริปเที่ยวกันสนุกขำๆ โดยมีปลายทางที่เกาะช้าง

Mitsubishi Pajero Sport 2.4

                การเดินทางครั้งนี้เรามีผู้โดยสารทั้งสิ้น 6 คน รวมคนขับ เรียกว่าใช้ศักยภาพของรถค่อนข้างเต็มที่ตามที่มันได้ถูกสร้างมาเพื่อตอบสนองด้านนี้โดยเฉพาะ หลายคนคงตั้งคำถามในใจว่าเครื่องยนต์เบนซินจะให้คำตอบเหมือนเครื่องยนต์ดีเซลหรือไม่ แน่นอนว่า สิ่งที่เราอยากจะบอกคือมันไม่เหมือน เพราะด้วยนิสัยของเครื่องยนต์เองที่สามารถตอบสนองในช่วงรอบที่มากกว่าเมื่อเทียบกับดีเซล และแรงบิดสูงสุดอยู่ในรอบกลางไม่ใช่ในรอบต่ำ ทำให้เครื่องยนต์เบนซินเองจะเน้นการขับขี่ในช่วงที่รถลอยตัวหรือล้อหมุนมากกว่า

                การเดินทางของเราเริ่มออกจากย่านรามอินทราใช้เส้นทางวงแหวนกาญจนาตะวันออกเข้าสู่บูรพาวิถี ซึ่งเส้นทางเป็นเส้นทางที่หลายคนใช้ และ  Pajero Sport 2.4 ก็ตอบสนองได้ดี ส่วนหนึ่งต้องยอมรับบทบาทของระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่ตอบสนองได้ทันอกทันใจมากกว่า โดยเราได้มีการลองอัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม. พบว่าสามารถทำเวลาได้ 16.6 วินาที ถือว่าไม่ขี้เหล่นัก ในเกียร์ 4  ส่วนเครื่องยนต์เองก็ใช้รอบเครื่องไม่สูงนัก เพราะความเร็วเดินทาง

ที่ 110 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่อง 3050 รอบต่อนาที แต่ถ้าเหยียบเพิ่มไปเป็น 120 ก.ม./ช.ม. เราจะใช้รอบเครื่องถึง 3400 รอบต่อนาทีเลยทีเดียว

Mitsubishi Pajero Sport 2.4

                ระหว่างทาง Mitsubishi Pajero sport 2.4 เบนซิน ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังในเรื่องของอัตราเร่งที่ตอบสนองได้ดี แม้จะไม่ทันใจมากมายนัก แต่ถ้าเป็นช่วงเร่งแซง เจ้าขุมพลัง 2.4 ลิตรไม่เคยทำให้เราผิดหวัง แม้จะไม่ได้เร่งแบบกระชากดึงหลังติดเบาะ แต่ม้า 128 ตัว ก็พารถพุ่งทะยานได้อย่างดีเยี่ยม แม้จะมีบางจังหวะที่อาจจะยืดยาดไปบ้าง แต่เมื่อคุณเข้าสู่ช่วง 3000 รอบต่อนาที ไล่ไปถึง แถว 5250 รอบต่อนาที มันตอบสนองได้อย่างลงตัว

                การเดินทางของเราพร้อมผู้โดยสาร 6 คน และสัมภาระเต็มคันรถ คือ บทพิสูจน์ที่ดีของสมรรถนะรถคันนี้ โดยระหว่างทางเราได้ลองทำความเร็วสูงสุดดูกันว่ามันจะทำได้ดีแค่ไหน และเราได้ตัวเลข 176 ก.ม./ช.ม. แต่กว่าจะได้ถึงขนาดนี้ก็ใช้เวลาพอตัว โดยตั้งแต่ 150 ก.ม./ช.ม. ขึ้นมานั้นจะใช้เวลานานสักหน่อย แต่คงไม่ใช่ทุกคนที่จะขับรถเร็วขนาดนั้นเมื่อนั่งกันเต็มคัน

ช่วงล่างวางใจแม้จะนั่งเต็มพิกัด

                ในการขับขี่ Mitsubishi  Pajero Sport  ที่แม้ในคันนี้เครื่องยนต์จะเปลี่ยนไป แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือช่วงล่างที่สามารถวางใจได้ทุกเส้นทาง ทั้งในย่านความเร็วสูง หรือ ย่านความเร็วต่ำ ไม่เว้นกระทั่งทางโค้งที่เราลองจัดเต็มช่วงจากระยองไปตราด ซึ่งมีโค้งมากมาย โดยมากจะเป็นโค้งความเร็วสูง  เราเดินทางด้วยความเร็ว 130 ก.ม./ช.ม. เป็นพื้นฐาน แล้วก็ขับเข้าโค้งไปทั้งความเร้วนั้นผลคือ รถมีอาการโยนบ้างเล็กน้อย จากปัจจัยน้ำหนักของคน 6 คน ที่ มีราวๆ 600 ก.ก. บวกเพิ่มเข้ามา ยังไม่รวมสัมภาระ ซึ่งถือว่ามีผลต่อการเข้าโค้งด้วย

Mitsubishi Pajero Sport 2.4

                การขับขี่ในทางต่างจังหวัด นอกจากโค้งแล้ว  สภาวะถนนยังถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ แต่ช่วงล่าง  Pajero Sport ก็ให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยม ส่วนหนึ่งเราอาจจะต้องยอมรับว่าง ยาง 245/70/R16 ช่วยในการซับแรงกระแทกจากพื้นถนน ได้เป็นอย่างดี แต่ยางแก้มสูงขึ้น ก็น่าจะมีผลต่อการขับขี่บ้าง แต่เรากลับไม่พบว่ามันมีความแตกต่างจนสัมผัสได้

ทดสอบอัตราประหยัด ขับทั้งทริปแค่ 9.4 ก.ม./ลิตร 

                ในที่สุดเราก้มาถึงบททดสอบสำคัญของยุคน้ำมันแพง นั่นคือเรื่องของอัตราประหยัด ที่เครื่องยนต์ 4G64 Mpi นอกจากจะเหมาะมาติดแก๊สแบบที่หลายคนอาจจะกล่าวเป็นนัยๆเมื่อมองหารถเบนซิน แต่ว่า ขุมพลังตัวนี้ยังสามารถรองรับพลังงานทางเลือก  E20 ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการลดรายจ่ายค่าเดินทางได้

                ช่วงที่เราเข้าระยองเราได้ลองจับอัตราทดสอบนอกเมืองเพื่อดูความประหยัด ด้วยปัจจัยผู้โดยสาร 6คน พร้อมสัมภาระ เราจับน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 E10  ยัดใส่ถังเติมจนตัดเท่านั้นไม่ล้นคอไม่เขย่า เรียกว่าเติมแบบปถุชนเขาทำกัน แล้วขับที่ความเร็วราวๆ 110-130 ก.ม./ช.ม. ก่อนจะไปเติมที่ตราดอีกครั้งเพื่อสรุปยอด ผลคือ เราได้ตัวเลข 8.6 กิโลเมตร/ลิตร ถือว่าไม่กินและไม่ประหยัดเท่าไรนัก แต่ถ้าเทียบกับปัจจัยที่เราขับขี่แล้ว ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ

Mitsubishi Pajero Sport 2.4

                ช่วงการทดสอบนอกเมืองอาจจะว่ามันพอตัว แต่หลังจากที่เรากลับมายังกรุงเทพมหานครแล้ว และก่อนรถคืนเราพบว่า เราเดินทางไปทั้งสิ้น 1014 กิโลเมตร และเราใช้น้ำมันไปเพียง 9.4 กิโลเมตร /ลิตร กับการเดินทางด้วยทริผู้โดยสาร 6 คน ถือว่าค่อนข้างประหยัดพอสมควร เมื่อเทียบกับสภาวะการขับขี่

Mitsubishi Pajero Sport  เบนซินใหม่ ถือเป็นรถที่ให้ความแตกต่างอย่างแท้จริง ทั้งยังคุ้มค่าคุ้มราคาจำหน่าย ด้วยสมรรถนะที่เป็นเลิศและความประหยัดที่ลงตัว ซึ่งนี่คือหนึ่งในรถอเนกประสงค์ที่ไม่ควรมองข้าม

ผลการทดสอบ  Mitsubishi Pajero 2.4  เบนซิน

ที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่อง 2800 รอบต่อนาที

ที่ความเร็ว 110 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่อง 3050 รอบต่อนาที

ที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่อง 3400 รอบต่อนาที

ตารางคะแนนทดสอบ

หัวข้อ

คะแนน (หมวดละ 20 คะแนน)

ข้อติชมและข้อเสนอแนะ

การออกแบบภายนอก

18

ดีไซน์ที่งดงามอยุ่แล้วทางภายนอกของตัวรถคืออะไรที่ดึงดูดใจลูกค้าใน Pajero sport และมันยังรักษาตำแหน่งได้ดีในการออกแบบที่สร้างความโดดเด่นในสไตล์ สปอร์ตอเนกประสงค์

ภายในห้องโดยสาร

17

ห้องโดยสารที่กว้างขวางและอรรถประโยชน์ เป็นอะไรที่หลายคนคงถูกใจ แต่การที่แทบจะไร้ซึ่งเทคโนโลยีคือข้อเสียของรถรุ่นนี้ ทำให้ขาดเสน่ห์ความเป็นรถอเนกประสงค์ลงไป แต่การจัดวางตำแหน่งต่างๆ โดยรวม ถือว่ายังลงตัวอยู่

เครื่องยนต์

18

ขุมพลังเบนซิน 2.4 ลิตร เป็นการฉีกแนวการตอบโจทย์ แม้หลายคนจะมองว่า มันเหมาะนำมาติดแก๊ส แต่ความจริง เครื่องยนต์รุ่นนี้มีอัตราประหยัดพอสมควร เรียกว่าไม่ต้องติดแก๊สก็ขับดีเช่นกัน แต่คุณต้องเข้าใจธรรมชาติของรถเครื่องเบนซินก่อนว่า มันมีลักษณะต่างดีเซล เช่นเดียวกับเกียร์ธรรมดาที่ขับง่ายเว่อร์ ก็เป็นข้อดีเช่นกัน แต่บางทีอาจจะต้องมองเวอร์ชั่นเกียร์อัตโนมัติ มาตอบโจทย์บ้าง

ช่วงล่างและสมรรถนะการขับขี่

19

จากโดยรวมที่ควง Mitsubishi Pajero Sport  ในการขับขี่ไปยังเกาะช้าง และช่วงเวลาที่มันอยู่กับเรา ต้องยอมรับว่า นี่คือ หนึ่งในรถที่ดี รุ่นหนึ่งในเรื่องช่วงล่างที่สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างลงตัว ในทุกลักษณะการใช้งานที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง เช่นเดียวกับเบรคที่สามารถวางใจได้ ทุกสถานการณ์

เทคโนโลยี

17

อาจจะไม่ถึงเหือดแห้งแต่เราต้องยอมรับว่า Pajero Sport  เบนซิน มีเทคโนโลยีชั้นนำน้อยมาก เมื่อเทียบกับรถอเนกประสงค์หลายๆรุ่น โดยเฉพาะเมื่อเครื่องยนต์เบนซิน เป็นรุ่นล่างๆของตระกูล ทำให้กลายเป็นข้อด้อยที่หลายคนมองข้าม

สรุป

89

Mitsubishi Pajero Sport 2.4 เบนซินเป็นหนึ่งในรถที่ดีเยี่ยมในเรื่องสมรรนถะแต่ยังขาดความหลากหลายของเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกไป ทำให้หลายคนอาจจะมองข้ามมันไปอย่างน่าเสียดาย แต่เมื่อมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา ค่าย Mitsubishi ก็เพิ่งเผยเวอร์ชั่น  V6 ออกมา ซึ่งมันน่าจะมีสมรรถนะดีกว่าอย่างแน่นอน และเราคงจะได้นำมันมาทดสอบเร็วๆนี้

ขอบคุณรถทดสอบเอื้อเฟื้อโดย  บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด 

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

//auto.sanook.com/3759/

Create Date :09 พฤษภาคม 2555 Last Update :9 พฤษภาคม 2555 8:24:52 น. Counter : Pageviews. Comments :0