* ... เป็นโคลง * แอ๊บป๋ากิ๋นอิ่มแล้ว......................ล้ำลำ แอ๊บ : ห่อหมก ป๋า : ปลา ได้กลิ่นจั๊กไคนำ.........................ข่าขมิ้น จั๊กไค : ตะไคร้ หอมพริกใส่ลงยำ.......................ป๋าช่อน ต๋องห่อย่างไฟปิ้น.......................กับข้าวนึ่งเหนียว ต๋อง : ใบตอง แอ๊บป๋ากิ๋นอิ่มแล้ว ปิ๊กมาแอ่วกิ๋นจาดลำ ปิ๊ก : กลับ แอ่ว : เที่ยว ข้าวนึ่งตรึงใจนำ กึ๊ดเติงล้ำกั๋บข้าวเฮา กึ๊ดเติง : คิดถึง วันแม่มีโอกาส พบปะญาติรุ่นใหญ่เยาว์ ไหว้สาคนแก่เฒ่า ญาติตี้เฮาเคารพรัก แม่นี้มีเพียงหนึ่ง ถ้าบ่ซึ้งแค่หัวหยัก คอคนตี้บ่ฮัก มารดามักบ่ไจ่คน จวนแม่ไปกิ๋นข้าว พร้อมปี้สาวหลานแสนซน แม่ยิ้มอิ่มกมล ลูกมุ่งหมายได้กลับมา ฮิมยวมน้ำเปลี่ยนสาย ใจ๋บ่คลายจากมารดา วันเลื่อนก๋าเดือนลา ลูกฮักแม่บ่แปรไป ๑ เมื่อเล็กเป็นเด็กน้อย..............แม่มัก ใจใส่ดูด้วยรัก............................บ่ล้า เฝ้าคอยเห่เปลชัก.......................ประโลมปลอบ เคียงอยู่ไม่เหว่ว้า........................กว่าพ้นวัยเยาว์ ๒ ทารกตัวน้อยนิด....................ค่อยเติบโต ครั้งที่มีเยโย..............................โยกโย้ เกเรใส่ให้โม-.............................โหบ่อย ท่านหอบอุ้มโอ่โอ้.......................กล่อมให้หลับสบาย ๓ เพียรอบรมบ่มให้...................ได้ดี สอนสั่งทุกวันมี...........................ที่อ้าง ยกตัวอย่างจากปี........................กาลเก่า เปรียบเทียบไม่ตกค้าง.................บ่ต้องท้วงความ ๔ แม้แม่น้องบ่ได้.....................เล่าเรียน เพื่อลูกท่านยังเพียร....................หัดไว้ จักมือจ่อสมุดเขียน.....................สอนลูก คอยปลูกคอยฝังให้.....................รับรู้เรื่องเรียน ๕ ประถมหนึ่งรัฐให้...................ไปเรียน ก.ไก่ไข่วนเวียน.........................จดไว้ มีแม่อยู่คอยเตียน.......................ติตลอด ลูกจบประถมไซร้........................ประดุจได้จบตาม ๖ มัธยมเรียนต่อต้อง................เข้าเมือง งานหนักไม่มีเคือง.....................ขุ่นข้อง ค่าสมุดสิ่งสิ้นเปลือง...................ทั้งหมด เทอมหนึ่งแม่ส่งน้อง...................เหนื่อยล้าเพียงใด ๗ กว่าจักเรียนจบได้.................วิชา หนักกว่าอ่านตำรา......................ลูกรู้ แม่ทนตรากตรำมา.....................ไม่บ่น เพื่อลูกแม่ยอมสู้........................ตราบสิ้นชีวา ๘ ยังมีต่ออีกโอ้.......................มอปลาย ลำบากปั่นแรงกาย......................หนักเข้า ค่าเทอมเริ่มส่งสาย.....................แรงแผ่ว แย่แน่ถ้าออดเร้า........................ส่งเข้าป.ตรี ๙ จึงจำใจออกค้น....................หางาน เขารับพิมพ์เอกสาร.....................สมัครไว้ ประเดิมเริ่มจัดการ......................ตามสั่ง เงินออกนับส่งให้........................แม่ได้ชื่นใจ ๑๐ ยามนี้แม่แก่แล้ว..................รู้ดี ทำอยู่ทุกวิธี..............................เพื่อให้ พ้นทุกข์สู่วิถี.............................ทางสุข ขอกราบวอนเทพไท้...................ปัดป้องผองภัย ๑๑ อำนวยพรแม่ให้...................แข็งแรง คอยส่องส่งลำแสง.....................อยู่หน้า โรคภัยอย่าแทรกแซง.................ไชสู่ ให้แม่อยู่คู่ฟ้า............................ตราบสิ้นดินสลาย ๑๒ วันแม่กราบแทบเท้า..............ด้วยมาลัย มอบรักส่งจากใจ........................ลูกน้อย ท่านก้มรับน้ำใส.........................รินหล่น ด้วยรักจากหิ่งห้อย......................สู่เท้ามารดา ๑๓ กระซิบ บอกรักล้น............ดวงใจ กระซิบ จากภายใน..................จิตน้อง กระซิบ ส่งเสียงใส...................เพียงแผ่ว กระซิบ แว่วกังวาลก้อง..............ทุกห้องหัวใจ ๑๔ บอก ท่านให้รับรู้..............ตลอดไป บอก จากห้วงหทัย...................จิตร้อง บอก ถ้อยสื่อความนัย...............รักแม่ บอก ท่านทุกวันน้อง.................รักล้นดวงใจ ๑๕ รัก มอบส่งรักแท้...............กว่าใคร รัก มากรักตลอดไป...................สุดฟ้า รัก หมายบากที่ใจ.....................จิตลูก รัก แม่บ่มีล้า............................จึ่งร้องบอกไป ๚ะ๛ L มีแล้วซ่อนไว้.........................ข้างใน L : แอล : เอว จ้า O อุแม่เจ้าไผ............................ว่าพลุ้ย ไผ : ใคร V วัดที่คอไป............................ได้ก่ ได้ก่ : ได้ไหม E แม่เลี้ยงฮื่อตุ้ย........................บ่ให้อดหยาก ฮื่อ : ให้ ตุ้ย : อ้วน Y ยังถามฮื่อน้อง........................ได้อาย O เพ่งจ้องมองกาย.....................ล่วงล้ำ U จะสู่ขอหมาย..........................หมั้นก่ นะ พี่อย่าฮื่อช้ำ..........................ปล่อยน้องขึ้นคาน ๚ะ๛ ๑ รักกวีไทยจึ่งได้ ....................หัดเขียน ยังบ่ดีจึงเรียน............................ไป่ล้า ขอผองพี่ช่วยเพียร......................สอนสั่ง วันหนึ่งคงเก่งกล้า........................กว่านี้จึงเพียร ๒ วันเวลาล่วงแล้ว....................เลยไป ฝากพี่สอนชาวไพร.....................ใคร่รู้ แม้ยากยิ่งเพียงใด.......................บ่ยั่น จะเก็บคำทุกผู้.............................จดไว้ในใจ ๓ วรรณกรรมถิ่นนี้....................ยากนัก จะใส่คำใดมัก............................บ่ได้ คำผิดถูกที่ทัก............................ท้วงอยู่ จึงหวั่นยามส่งไห้ .......................ตรวจแก้ตลอดเวลา ๔ ขอเชิญชวนอ่านแล้ว...............ติมา จะฮื่อดีเขียนกา.........................ว่าไว้ เปล่าป่วนค่ะแค่มา......................ให้ตรวจ ก็ที่แห่งนี้ได้..............................จับนิ้วน้องรำ ๚ะ๛ ๑ อยากบอกว่าหิ่งห้อย............น้อยใจ เป็นเด็กใหม่อ่อนไหว..................เน่ออ้าย สิ่งผิดหากทำไป........................เตือนหน่อย จะค่อยแก้จากร้าย......................ปรับให้เป็นดี ๒ บางทีอาจพลาดพลั้ง............ทำผิด ได้โปรดเตือนให้คิด...................ช่วยแก้ น้อมนำรับใส่จิต........................เพื่อเปลี่ยน หากพี่ไม่ท้อแท้.........................บอกให้เข้าใจ ๓ ขับไขโคลงเพื่อให้..............คลายเหงา แสวงเสาะพบมิตรเรา..................เหล่านี้ พูดคุยค่อยบรรเทา.....................ใจหม่น ยามห่างบ้านหลายลี้....................กว่าร้อยพันกิโล ๔ เติบโตเป็นหิ่งห้อย..............พเนจร ร่อนเร่ลงจากดอน......................ป่ากว้าง บ่ายหน้ามุ่งนคร.........................กรุงใหญ่ นอกป่าดูเวิ้งว้าง.........................กว่าบ้านบนดอย ๕ บินลอยมีอ่อนล้า...................บางครา จึงปล่อยถ้อยวาจา....................ออดอ้อน ขอพี่เพื่อนเมตตา......................น้องหน่อย อย่าด่วนด้วยใจร้อน...................เมื่อน้องป่วนใจ ๖ ด้วยในดวงจิตนี้..................ซื่อตรง พิสุทธิ์และมั่นคง........................พิสูจน์ได้ แม้นอยู่ห่างบ่หลง.......................ลืมถิ่น หนูหิ่ง ฯ จำจดไว้........................บ่ได้ลืมเลย ๗ ตามเคยขอฝากไว้..............สักคน รู้อยู่จะละซน.............................ออกบ้าง ขอแหย่แค่พี่จน..........................มุมตึก ปลดปล่อยความอ้างว้าง...............ออกบ้างยามเหงา ๚ะ๛ เมี้ยว ๆ ๆ ^_^ ๑ กุหลาบแดงแรกแย้ม...........แอร่มตา ดูสดชื่นชีวา.............................เพริศแพร้ว ประดุจส่งภาษา.........................ว่ารัก จักบ่คลาคลาดแคล้ว...................จากน้องนวลนาง ๒ กุหลาบขาวแต่งแต้ม............เติมใจ บริสุทธ์สดใส.............................สว่างแจ้ง ดั่งจะบอกความนัย......................ใจว่า น้ำจิตบ่เคยแล้ง..........................ส่งพ้องพวกเสมอ ๓ กุหลาบเหลืองขุ่นข้อง..........อันใด ความหม่นหมองในใจ ................สลัดทิ้ง เมื่อมีรักห่วงใย..........................ให้ตลอด ประกายเปล่งสีสวยพริ้ง ..............เชิดหน้าเผชิญไป ๔ กุหลาบชมพูหยั่งรู้...............รักละมุน น้ำจิตคอยเจือจุน........................อุ่นเอื้อ วันคืนสลับเวียนหมุน...................กาลผ่าน กรุ่นกลิ่นความเอื้อเฟื้อ................ฝากไว้ไปนิรันดร์ ๕ กุหลาบม่วงต่อสู้.................ชีวี ถูกหักอกดวงฤดี........................เจ็บช้ำ ลวงฝากรักก่อนหนี.....................ตีจาก กรรมเก่าตามตอกย้ำ..................จึ่งน้ำตาริน ๖ กุหลาบอิฐมิตรแม้น.............มากมาย สีหม่นละมุนหมาย......................มั่นแท้ แม้บ่เด่นมากมาย.......................ขจรกลิ่น ฟื้นจากความฟ้อแฟ้.....................เมื่อท้อบางคราว ๗ กุหลาบหนูสีฟ้า..................แนบหทัย ใจชอบชอบจับใจ.......................มากล้น หลายคนบ่นว่าไหน.....................น้องปด จึงตอบมีท่วมท้น........................อยู่ข้างในใจ ๚ะ๛ ๑ แพรพรายระยิบจ้า.................มหาสมุทร กระพริบแสงสีสุด......................เพริดพริ้ง ดั่งดาวเล่นดำผุด.......................ว่ายโผล่ ผืนแผ่นน้ำสบัดสบิ้ง...................คลื่นพ้นขอบทะเล ๒ ประกายแสงกระพริบท้า..........สุริยา วะวิบวับงามจับตา......................พร่างพื้น สายลมห่มแพรวา......................โชยแผ่ว คลื่นส่งเสียงครางครื้น................กึกก้องผืนทราย ๓ ดาวเด่นเห็นอยู่ทั้ง..................เบื้องบน ด้านล่างเห็นแพรงกล..................อยู่บ้าง พลิ้วไหวลู่ลมวน........................พรายหยอก ดั่งแฝดผิดฝาค้าง.......................อยู่ทั้งล่างบน ๔ ดวงหนึ่งอยู่ใต้พื้น..................ผืนทะเล กระทบแสงแรงหักเห..................ผ่านฟ้า ล้อแสงแห่งดวงเด......................ต้นกำเนิด ประหนึ่งผ่อนแรงล้า....................ก่อนทิ้งท้องนภา ๕ แพรเอยเจ้าช่างพริ้ง................แพรวพราย อาทิตย์ส่องต้องประกาย..............กระพริบจ้า รังษีผ่อนแรงคลาย.....................ส่ายสบัด พลิ้วลู่เมื่อลมท้า.........................กระทบเจ้าแพรวา ๖ เรียงรายระยิบล้น....................ท้องทะเล สะท้อนส่งแสงหักเห....................กระทบพื้น กระพริบส่องแสงเท.....................ล้นฝั่ง ประหนึ่งดาวกลับฟื้น....................ก่อนฟ้าลับตะวัน ๗ ความงามเห็นอยู่ใกล้...............ควรมอง รายอยู่รอบตัวครอง....................สุขล้ำ หมายมุ่งแค่เพียงปอง ...............ป้องจิต ธรรมชาติสร้างสิ่งค้ำ...................ชีพให้สมดุล ๚ะ๛ |
บทความทั้งหมด
|