สิมิลันจ้า.....

ปีที่แล้วไปเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์กันแล้ว ปีนี้เพื่อนๆ เลยลงมติไปหมู่เกาะสิมิลัน จริงๆ อยากจะไปพร้อมกันทั้งสองหมู่เกาะ แต่ไม่มีบริการเรือโดยสารระหว่างเกาะ 555 มาปีนี้ก็เลยซื้อแพคเกจไปเที่ยวสิมิลันกันจ้า ถือเป็นปรากฏการณ์จริงๆ ที่พวกเราทั้ง 9 คนได้ไปเที่ยวพร้อมกัน ปกติจะรวมตัวกันไม่ได้มากขนาดนี้ ^^

พวกเราออกเดินทางค่ำวันที่ 20 พฤศจิกายน ด้วยรถยนต์ Vip 24 ที่นั่ง นอนสบายดี แต่ก็ไม่หลับ 55 คือที่กว้างขวางดี ไม่เมื่อยขามาก แต่ว่าก็นอนแบบหลับๆ ตื่นๆ ตอนอยู่ในรถมีพยากรณ์อากาศว่าภาคใต้ฝนตก คลื่นฝั่งอันดามันสูง 1-2 เมตร อืม.. แล้วเราจะไปพิสูจน์กัน

รถออกจากสายใต้ใหม่โค่ดประมาณทุ่มครึ่ง ถึงชุมพรแวะกินข้าวต้มอันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ นอนไม่หลับก็ตรงนี้หล่ะ แบบว่ารอกิน เอ่อไม่ใช่ ก็คือกำลังจะหลับก็แวะกินข้าวต้มพอดี เลยไม่ต้องนอนกัน ไปถึงอ.ทับละมุ จังหวัดพังงา ราวๆ แปดโมงเช้า มีสายฝนปรอยๆ ต้อนรับพวกเรา ให้รู้ว่ากรมอุตุฯ พูดจริงนะไม่ได้โม้ พวกเราไปนั่งกินชา/กาแฟ ขนมปังที่บริษัทที่เราซื้อทัวร์ และรอเรือมารับประมาณแปดโมงครึ่ง

เนื่องจากเราจะดำน้ำกันเลยที่เกาะใดสักเกาะ ก่อนไปเกาะสี่ ซึ่งเป็นเกาะที่มีที่พัก พวกเราก็เลยต้องเปลี่ยนชุดเตรียมกันไว้เลยตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเรือ เรานั่ง speedboat ไป กระแทกกันมันจริงๆ ใช้เวลาราวชั่วโมงครึ่งมั้ง ก็มาถึงจุดดำ snorkel จุดแรก กระโดดกันลงไปเลยครับพี่น้อง moment แรกที่รู้สึกก็คือว่า ทำไมปะการังน้อยจัง 55 (หรือว่าเราดำไม่ถูกจุดเอง) แต่มีทีเด็ดก็คือเห็นเจ้าเต่าทะเลมาว่ายอยู่ตรงหน้า เห็นแล้วรีบใส่เกียร์ถอยหลัง กลัว.. ไม่กล้าเข้าใกล้ เพื่อนในกลุ่มบอกว่าเป็นเต่าโปรโมชั่น เขากดปุ่มเรียกมา กรั่กๆ เสร็จจากจุดหนึ่ง ก็ไปแวะกินข้าวกลางวันกันที่เกาะ 8 ที่ตั้งของหินเรือใบ อันเป็นสัญลักษณ์ของสิมิลัน กินข้าวเสร็จแล้ว ก็มีเวลาว่างให้ได้ว่ายน้ำเล่น หรือใครจะปีนขึ้นไปบนหินเรือใบชมวิวก็ได้ เราเลือกเล่นน้ำอยู่หน้าหาด จากนั้น เราก็ออกจากเกาะ 8 เนื่องจากทะเลมีคลื่นมาก เลยไม่ได้ไปดำน้ำที่ไหนต่ออีก speedboat เลยมุ่งตรงไปเกาะสี่ แล้วพวกเราก็ได้เช็คอินเข้าที่พัก



พวกเราได้นอนที่บ้านหูยง ซึ่งเป็นบ้านพัดลม 5 หลัง อืมม สภาพบ้านก็มืดๆ ดี เหอๆ แบบว่าไม่โปร่ง (ที่นี่เปิดไฟ 6 โมงเย็น ถึง 6 โมงเช้า) แม้จะเป็นช่วงกลางวัน ก็ไม่มีแสงแดดส่องลงมาเลย (แต่ความจริงแล้ว วันแรกที่เราไปถึง เราหาพระอาทิตย์ไม่เจอตั้งแต่เช้าแล้วหล่ะ) พอเก็บของเสร็จ ก็ไปเล่นน้ำกันหน้าหาด มีหมู่ปลามาเล่นน้ำกับเราด้วยนะ ไม่กลัวคนเลย ปลาอะไรนั้นเราไม่รู้จักอีกเช่นเคย พอเล่นไปเรื่อยๆ ชักหิว ก็เลยขึ้นมาอาบน้ำ แล้วมารอกินข้าวเย็น เราได้กินปลาตัวใหญ่ทุกมื้อ สมกับมาทะเล ^^

คืนนั้นง่วงมากๆๆ แต่ยังนอนไม่ได้ในทันที เพราะมีโปรแกรมไปดูปูไก่ตอนสองทุ่ม ปรากฏว่าเจอสองตัว ตัวหย่ายมากเลย (ดูขนาดรูก็คงพอเดาได้) เสร็จจากดูปู ก็กลับมาเข้านอนทันที ง่วงมาก แต่.. ตอนกลางคืนมีผู้มาเยือนด้วย ดังจี๊ดๆๆ Ratatouille น่ะเอง >.< แต่ด้วยความง่วงที่มีมากกว่า เลยหลับสนิท

วันที่สอง ตื่นเช้า (ตื่นเพราะพัดลมมันไม่หมุนแล้ว) ไปเดินเล่นชายหาด ก็ภาวนากันว่า ขอให้วันนี้มีแดดออก เพราะมาทะเลแล้วไม่เจอแดด ทะเลมันจะไม่สวย ดูฟ้าแล้วก็คิดว่า อากาศคงไม่เลวร้ายเกินไป วันนี้พวกเราออกไปดำ snorkel ตอน 9 โมงเช้า แล้วกลับมากินข้าวเที่ยงบนเกาะ แล้วก็ออกไปอีกรอบตอนบ่าย บางคนเมาเรือก็ไม่ได้ออกไปรอบบ่าย จุดสุดท้ายที่ดำในวันนั้น พวกเราเหนื่อยหมดแรง เลยไม่คิดจะออกไปไกลจากเรือ เพราะตอนว่ายกลับเรือเหนื่อยมาก... เจ้าหน้าที่ (ไกด์) บนเรือคงเห็นแล้วสมเพช เลยมาบอกว่า เดี๋ยวเอาเสื้อชูชีพมาให้เกาะแล้วให้ว่ายตาม อือมันต้องแบบนี้สิ ทำไมไม่มาไกด์พวกเราแต่แรก.. วันนี้ได้เห็นปลามากหน่อย หลากสีสัน ได้เจอนีโม่ (รู้จักอยู่ตัวเดียว) และอื่นๆ ที่เราไม่เคยจำชื่อได้สักที ว่าไปแล้วก็นึกถึงวิชาดูหลำในหนังเรื่องปืนใหญ่จอมสลัด อิอิ ถ้าเรียกปลาได้คงดี ;D

ขึ้นเกาะมา 6 โมงได้ เพื่อนๆ ที่ไม่ได้ไปด้วยบอกว่าทำไมนานจัง :D ว่าแล้วก็จัดการอาบน้ำ แล้วมานั่งกินข้าว ค่ำนี้ เพื่อนๆ เปิดวงจั่วไพ่กัน แต่เราอ่านหนังสือที่หยิบติดมือไป (เล่นไม่เป็น คิดเลขไม่ออก :P) นั่งได้สักพัก เราก็ง่วง เลยขอตัวกลับมานอนก่อน เพราะรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวมาก อยากเอนหลัง กลับมานั่งเขียนโปสการ์ด และอ่านหนังสือต่ออีกหน่อย สักพักเพื่อนร่วมห้องก็เดินกลับมา บอกว่าเล่นแล้วเสีย นอนดีกว่า กร๊ากก พอปิดไฟนอนสักพัก หนูตัวเดิมก็มา ตอนแรกนึกว่ามันคงออกไปแล้ว เพราะตอนเช้าก็เปิดประตูไว้ตลอด ไอ่หนูบ้า แถมคืนนี้มันร้องเสียงดังตลอดเวลา อยู่ตรงหัวเตียง เลยตัดสินใจไปนอนห้องเพื่อนดีกว่าวุ้ย ไม่เอาแล้วกลัวนอนๆ ไปมันกระโดดมาบนเตียง บรึ๋ย

เช้านี้ เราต้องเช็คเอาท์ 10.00 ก็เลยเก็บกระเป๋าให้เรียบร้อยแล้วออกมานั่งเล่นที่ชายหาด เพื่อนๆ ไปเล่นน้ำ แต่เราขอนอนเล่นที่ชายหาด เพราะว่าไม่อยากอาบน้ำสระผมใหม่อีกรอบ (เนื่องจากเช็คเอาท์มาแล้ว ถ้าจะอาบน้ำต้องใช้ห้องน้ำของส่วนกลาง) กินข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว ก็รอเรือมารับ เรานั่ง speedboat ไปต่อเรือใหญ่ ซึ่งเป็นเรือ hi-so ที่เขาใช้สำหรับรับส่งพวกดำน้ำลึก (ฝรั่งทั้งนั้น) ตอนขึ้นไปบนเรือ เป็นช่วงที่คุณพี่ฝรั่งทั้งหลายลงไปดำน้ำกัน พวกเราเลยต้องนั่งรอกันอยู่บนเรือ เรือก็โคลงไปมา จากที่ไม่เคยเมาเรือก็รู้สึกคลื่นไส้ตอนนี้หล่ะ เพราะว่าเรือโคลงเคลงไปมานานพอสมควร ทำยังไงดีหล่ะนั้น เลยร้องเพลงเจี๋ยแก้เมาเรือ กรั่กๆ (ประเด็นก็คือต้องหาอะไรทำเพื่อเบี่ยงเบนสมาธิ ไม่ให้จดจ่ออยู่ที่อาการคลื่นเหียน..ก็ได้ผลพอสมควรนะ เอิ๊กๆ ) พอเรือออกแล้ว อาการก็ดีขึ้นตามลำดับ ออกจากเกาะประมาณบ่ายครึ่งกว่าจะถึงฝั่งก็เกือบห้าโมงครึ่ง แม่เจ้า..ช่างเป็นการเดินทางที่ยาวนานเสียนี่กระไร..

พอขึ้นถึงฝั่งแล้ว พวกเราก็นั่งรถตู้ต่อไปเพื่อจะไปสนามบินภูเก็ต จากทับละมุ ไปสนามบินภูเก็ต ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง ไฟล์ทของเราออกสองทุ่มครึ่ง ไปถึงสนามบินก่อนหนึ่งทุ่ม เช็คอินแล้วไปนั่งกินข้าวเย็นกับเพื่อน ที่สนามบิน มีเพื่อนเลิฟของพวกเราในกลุ่มที่เพิ่งย้ายกลับไปทำงานที่บ้านเกิดแวะมาหาพวกเราด้วย เราเลยฝากเพื่อนซื้อห่อหมกใต้ (อาหารโปรด ไม่เคยพลาดเมื่อไปภูเก็ต) แล้วก็หิ้วขึ้นเครื่องกลับมา.. ถึงกทม. 22.00 โดยสวัสดิภาพ

โดยรวมแล้ว เราชอบหมู่เกาะสุรินทร์มากกว่า คงเพราะสิมิลันเหมาะสำหรับการดำน้ำลึกมากกว่า ก็เลยรู้สึกว่าโลกใต้ทะเล (ที่ระดับ snorkel ของเรา) ที่หมู่เกาะสุรินทร์สวยกว่า เพราะมีปะการังน้ำตื้นเยอะกว่า และการจัดการเรื่องทัวร์ดำน้ำที่หมู่เกาะสุรินทร์ก็ดีกว่าตรงที่ว่า เราจะได้นั่งเรือที่เป็นส่วนตัว (บริษัทใครบริษัทมัน) ไม่ได้ไปรวมกับคนอื่นบนเรือใหญ่อย่างที่สิมิลัน แต่สำหรับความสวยของทะเลนั้น งดงามมมเท่าๆ กันจ้ะ ฉันรักเธอจริงๆ อันดามัน...

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2551 Last Update : 26 พฤศจิกายน 2551 22:00:51 น. Counter : 847 Pageviews.		13 comments
Share Tweet

	✿ Food For Fun :: Hot Wok Return #94 :: กินเพลินเกินห้ามใจ " ปีกไก่ทอด " ✿ เนินน้ำ (9 เม.ย. 2567 13:57:01 น.)		สักการะองค์พญานาคใหญ่ที่สุดในไทย วัดถ้ำแจง เพชรบุรี นายแว่นขยันเที่ยว (8 เม.ย. 2567 12:34:14 น.)
	ถนนสายนี้..มีตะพาบ ( 349) วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร peeamp (8 เม.ย. 2567 12:38:27 น.)		ทริปอเมริกา #1 - รีวิวสายการบินฟิลิปปินส์ ไม่แพงมากและดีกว่าที่คิด ฟ้าใสทะเลคราม (6 เม.ย. 2567 13:46:53 น.)