เยี่ยมเยือนหมู่เกาะสุรินทร์ ในที่สุดก็ได้กลับไปเยือนอันดามันอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานหลายปี คิดถึงน้ำทะเลสีเขียวมรกตเป็นบ้า เป้าหมายในครั้งนี้คืออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อ.คุระบุรี จ.พังงา ฉันกับเพื่อนซื้อแพคเกจ 3 วัน 2 คืน ไว้จากงานท่องเที่ยวไทยที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์เมื่อเดือนตุลาคม แพคเกจที่ว่าคือค่าเรือไปกลับจากท่าเรือที่คุระบุรีไปถึงหมู่เกาะสุรินทร์ ค่าอาหารทุกมื้อที่ใช้ชีวิตบนเกาะนั้น ค่าเรือออกไปดำน้ำด้วย และค่าเช้าอุปกรณ์ดำน้ำ ส่วนค่าที่พักไม่รวมเพราะต้องจองเองกับทางอุทยาน พวกเราตกลงที่จะนอนในบ้าน เพราะฉันไม่ปลื้มกับการนอนเต๊นท์ (พอๆ กับไม่ปลื้มทางสูงชัน) เกาะเปิดวันที่ 16 พ.ย. (เอ๊ะ หรือ 15 พ.ย. ก็จำไม่ได้) พวกเราก็รีบไปกันเลย วะฮ่ะฮ่า.. ช่างท้าทายฟ้าฝนยิ่งนัก เราออกเดินทางกันเย็นวันพฤหัสฯ ที่ 15 โดยต้องไปขึ้นรถกันที่สายใต้ใหม่สุดๆ (ก็เพิ่งเปิดใช้บริการวันนั้นนั่นแหล่ะ ข้างในก็กว้างขวางดีนะ เหมือนเดินในห้าง) รถออก 18.50 เปิดคู่แรดให้ดูระหว่างทาง ถึงชุมพรแวะกินข้าวต้มรอบดึก จากนั้นขึ้นรถมานั่งหลับต่อจนถึงคุระบุรี พอลงจากรถ พวกเราก็แทบเป็นง่อย เพราะเมื่อยขามากกก ฤาเราจะแก่แล้วจริงๆ ? หลังจากนั้นก็ไปนั่งรอรถที่ออฟฟิศของซาบีน่าทัวร์ เขาจะพาเราไปท่าเรือเพื่อขึ้นเรือไปหมู่เกาะอีกที ระหว่างนั้น จนท. พาเราไปกินข้าวต้มปลาอินทรีย์กันที่ร้านใกล้ๆ ปลาเยอะมากฮ่ะ.. เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปไว้ (ไม่ถนัดถ่ายของกินหง่ะ เพราะมักกินหมดแล้วค่อยนึกได้ว่าควรถ่าย 55) จากนั้นก็รอสักพักแล้วขึ้นรถไปลงท่าเรือ รอเรือใหญ่ ระหว่างนั้นได้รับแจกชูชีพและหน้ากากสำหรับดำน้ำแบบสน็อกเกิ้ล เจ้าสองอย่างนี้กลายเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของเราทุกคนในระหว่างที่อยู่บนเกาะ นั่งเรือสองชั่วโมง หลับแล้วหลับอีก กว่าจะถึงเกาะ ท้องฟ้าระหว่างนั่งเรือไปหมู่เกาะ เราต้องลงจากเรือใหญ่เพื่อถ่ายลงเรือเล็กและแล่นเข้าสู่เกาะ เทียบท่าที่สะพานด้านล่าง พอขึ้นฝั่งได้แล้ว รับสัมภาระเรียบร้อย ก็ถึงเวลากินอาหารเที่ยง จากนั้นไปเช็คอินเข้าห้องพัก และเตรียมพร้อมนั่งเรือออกไปดำน้ำตอนบ่าย อนิจจา ฟ้าฝนไม่เป็นใจ นั่งเรือไป ฝนตกซะงั้น แต่ตกไม่แรงมาก วันแรก เราไปดำน้ำกันที่อ่าวสุเทพ และ อ่าวมังกร เนื่องจากฝนตก คลื่นจึงแรงกว่าปกติ ทำให้ต้องออกแรงมากกว่าปกติ (แถมว่าไม่ค่อยจะมีแรงอยู่แล้ว หลังจากสะบักสะบอมมาจากการเดินทาง) แต่ก็ตื่นตาตื่นใจไปกับปะการังและปลาใต้น้ำ ปะการังไม่ค่อยมีสีสักเท่าไร แต่ว่าก็เยอะกว่าที่เราเคยเห็นๆ มา ปลามีสีก็เยอะ ขออภัย พอดีว่าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องปลาเลย จึงไม่สามารถแยกแยะได้ว่า ที่เห็นนั่นปลาอะไรบ้าง รู้จักแต่ปลาการ์ตูน หลังจากดำน้ำทั้งสองอ่าวเสร็จแล้ว ก็ขึ้นฝั่ง ขอบอกว่าสมาชิกในแก๊งค์ บ่นอุบว่านี่เรามาเข้าค่ายลูกเสือเนตรนารีหรือเปล่า? เราบอกว่า นี่เป็นการฝึกของหน่วย SEAL ต่างหาก ก็มันเหนื่อยจริงๆ นะ เพราะว่าเหนื่อยจากเดินทาง แถมคลื่นลมก็ชวนคลื่นเหียนเวียนเกล้า จะอ้วกอยู่รอมร่อ ยังดีที่ไม่ปล่อยให้มันออกมา เหอๆ หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จแล้ว ยังไม่ถึง 1 ทุ่มขอบอกว่าตาดิฉันจะปิดแล้ว คิดว่าคงหลับไปก่อนสองทุ่ม หลับสนิทยันเช้า เพราะเหนื่อยมาก วันรุ่งขึ้นได้นอนกันเต็มอิ่มแล้ว แถมแดดก็ดี พร้อมลุยเต็มที่ เนื่องจากฝนไม่ตก คลื่นลมเลยไม่แรง ไม่ต้องออกแรงว่ายชมความงามใต้ท้องทะเลสักเท่าไร วันนี้มีนัดกับสองอ่าวในตอนเช้าคือ อ่าวแม่ยาย และ อ่าวเต่า เสร็จแล้วกลับขึ้นฝั่งมากินข้าวกลางวัน แต่เนื่องจากไหนๆ วันนี้ก็ต้องลงน้ำทั้งวันอยู่แล้วและยังมีเวลาเหลือกว่าจะกินข้าวกลางวัน พวกเราเลยลงไปลอยคอเล่นน้ำทะเลกัน จนถึงเวลากินข้าว กินอิ่มแล้วมีเวลาพักให้อาหารย่อยก่อน แล้วค่อยออกดำน้ำต่อในรอบบ่าย น้องฝรั่งมาไกลจากสวีเดน ^_^ รอบบ่ายเราไปดำน้ำกันที่อ่าวผักกาด และ อ่าวตอริลลา เพื่อนในแกงค์บอกว่า นี่ถ้าเขาพาเราไปอ่าวเดิมแล้วเปลี่ยนชื่อ เราก็ไม่รู้หรอกนะ อืมจริง เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง 555 อย่างตอนนี้เราก็ลืมแล้วว่าอ่าวไหนเป็นอ่าวไหน ฉันไม่มีปัญหากับการหายใจทางปากเวลาดำน้ำ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก็จำได้ว่าตอนแรกที่ใช้หน้ากากนี้ก็ปรับระบบหายใจไม่ได้เหมือนกัน แต่ตอนนี้ชินแล้ว สามารถเปลี่ยนระบบได้โดยอัตโนมัติ วันนี้อากาศดี เมื่อคืนก็นอนเต็มที่ สมาชิกจึงไม่ปริปากบ่นเหมือนเมื่อวาน อาหารเย็นค่ำนั้น ทำเอาพวกเราร้องกรี๊ด ปลาหมึก กุ้ง ปลา โหะๆ ตอนแรกก็พูดกันว่า เฮ่ยกินไม่หมดแน่ ปรากฏว่าเกลี้ยงครับ.. ที่ฮาก็คือในห้องพัก มีหนังสือเกี่ยวกับอุทยานฯ ให้อ่าน เพิ่งมาหยิบอ่านเอาคืนสุดท้าย แล้วก็ชี้ว่านี่ไงปลานี่ที่เขาบอก -_-' วันรุ่งขึ้นตื่นแต่เช้า (ความจริงก็เช้าทุกวัน) ลงมาเดินเล่นถ่ายรูปกัน วันนี้เรายังเหลือจุดดำน้ำอีกสองที่คืออ่าวหินแพ (หินกอง?) และ อ่าวสิ้นคิด 55 รู้สึกว่าวันนี้ว่ายน้ำไกล๊ไกลอ่ะ อ่าวสิ้นคิดเนี่ย ไม่สิ้นคิดอย่างชื่อว่า เจอปลาการ์ตูนอีกแล้ว ;D และปลาอื่นๆ เยอะทีเดียว เสร็จจากนั้นก็ขึ้นฝั่ง เตรียมตัวเก็บข้าวของ เช็คเอาท์ (จริงๆ เช็คไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน เพราะที่นี่มีกฏว่าให้เช็คเอาท์ในคืนก่อนออก) บ้านพักที่นี่จะเปิดไฟตั้งแต่ 18.00 - 22.00 น. เท่านั้น ยกเว้นพัดลมและไฟห้องน้ำที่จะมีให้ถึงหกโมงเช้า (นับว่ายังปราณี) อากาศตอนใกล้เช้าเย็นทีเดียว บ้านพักไม่ไกลจากหาดเท่าไร ฉะนั้นจะได้ยินเสียงคลื่นกระทบหาดอยู่เป็นระยะๆ เรากินข้าวเที่ยงแล้วจึงค่อยออกออกจากหมู่เกาะสุรินทร์ ขอบอกว่าวันนี้แดดดีที่สุดในสามวันที่อยู่มา ไม่ได้ทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้า... เช่นคยเราลงเรือเล็กมาขึ้นเรือใหญ่ เด็กๆ ชาวมอแกนที่ติดเรือมาส่งพวกเราด้วย เรือที่มาส่งพวกเราพร้อมสต๊าฟที่เป็นผู้ดูแลพวกเราตลอดทริปดำน้ำ แต่... สงสัยว่าเขาจะรู้ว่าพวกเรายังไม่เคยนั่งสปีดโบ๊ท เลยจัดให้.. เรื่องก็คือดูเหมือนเครื่องเรือใหญ่จะไม่เป็นใจ พวกเราเลยต้องมานั่ง speed boat แทน แถมได้ที่นั่ง vip เสียด้วย นั่นคือหน้าสุดไม่มีหลังคา โหะๆ ดำน้ำมาสามวันไม่ดำเท่ากับนั่งตากแดด 1 ชม. บน speed boat แถมว่าขณะเรือวิ่งก็กระเทือนซะจนม้าม ตับ ไส้ กระเพาะ สลับที่กันให้วุ่น หากเครื่องในใครอยู่สลับที่กัน อยากให้มันเข้าที่ขอเชิญมานั่ง speed boat นี้ดูค่ะ แล้วทุกอย่างจะเข้าที่เอง ส่วนใครที่มีปัญหากับกระดูกสันหลัง คาดว่าท่านจะได้เป็นอัมพาตแน่นอน พอขึ้นฝั่งแล้ว พวกเราก็นั่งรถของซาบีน่าไปลงที่ออฟฟิศเดิมที่เราแวะรอรถไปท่าเรือตอนขามา พวกเราตัดสินใจกันว่าจะนั่งเครื่องกลับ แต่เนื่องจาก 1 ในสมาชิกเป็นคนภูเก็ต พวกเราเลยขอแวะพักค้างคืนที่ภูเก็ต 1 คืน ก่อนจะขึ้นเครื่องกลับตอนสายๆ ของวันรุ่งขึ้น รถที่พวกเรานั่งออกจากคุระบุรีประมาณ 16.30 มาถึงภูเก็ตประมาณ 20.00 นั่งรถหวานเย็นฮ่ะ ฮ่วย.. แค่พังงา ภูเก็ตล่อไป 3 ชม. ครึ่ง แต่ต้องขอชมว่าสภาพรถดีมาก ใหม่และดีกว่ารถของภูเก็ตเซ็นทรัลที่เรานั่งจากกรุงเทพ ไป คุระบุรีอีก โหะๆ ระหว่างทางผ่านเขาหลักด้วย แต่เสียดายที่เป็นตอนกลางคืนแล้ว เลยไม่เห็นสีสันของน้ำทะเล เห็นแต่แสงไฟจากรีสอร์ทที่เรียงรายหลายเจ้า มีแต่ฝรั่งทั้งน้าน คาดว่าคนไทยยังกลัวผีอยู่ พอมาถึงภูเก็ต พ่อของเพื่อนก็มารับพวกเราด้วยรถกระบะ mazda คันเดิมที่เคยใช้บรรทุกพวกเราเที่ยวสมัยเรียนมหาลัยปีสาม ซึ่งก็ประมาณ 9 ปีที่แล้ว นอกจากจะแวะพักที่ภูเก็ตระหว่างทรานซิทไปกรุงเต๊บแล้ว อีกจุดมุ่งหมายหนึ่งของพวกเราก็คือ... ติ่มซำและห่อหมก ฮี่ๆ ถ้าใครเคยไปเที่ยวใต้คงรู้ว่าอาหารเช้าที่นั่นคือติ่มซำ และขอบอกว่าถูกมากๆๆ (เนี่ยแหล่ะประเด็น 55) รุ่งเช้าคุณพ่อของเพื่อนก็เลยขับรถพาพวกเราไปแวะที่ตลาดเกษตร เพื่อซื้อห่อหมกกลับบ้าน (ห่อหมกใต้อร่อยมาก ปกติกินกับขนมจีน แต่วันนี้ไม่มีเวลากิน) แล้วก็กินติ่มซำกันให้สมใจอยาก BEFORE AFTER หลังกินอิ่มแล้ว พ่อก็พาเราไปซื้อขนมที่ร้านเก่าแก่ชื่อเค่งติ้น คนขายว่าเปิดมาเกือบ 100 ปีแล้ว อู้หู แต่บนกล่องเต้าส้อ จะเขียนว่าขายมานานกว่า 50 ปี เราเลยซื้อเต้าส้อมาสองกล่องและขนมหน้าแตก 1 ห่อ อร่อยดีทั้งสอง จากนั้น คุณพ่อยังใจดี ขับรถพาพวกเราชมตึกเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีส แม้คันหลังจะบีบแตรไล่ พ่อก็ไม่สนใจ ยังคงขับช้าๆ เพื่อให้พวกเราชมความงาม 555 หลังจากนั้นก็ได้เวลาไปสนามบินนานาชาติภูเก็ต ขึ้นเครื่องกลับบ้านเสียที..ได้เห็นทะเลภูเก็ตก็จากหน้าต่างเครื่องเนี่ยแหล่ะ ไว้จะหาโอกาสกลับไปเที่ยวอีก อิอิ (จริงๆ คือจะไปกิน เอาทะเลบังหน้า) สรุปว่าเป็นทริปที่ประทับใจ ทั้งการดำน้ำและการกิน จนท.ของบริษัททัวร์ก็อำนวยความสะดวกเต็มที่ (ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทนี้นะ) แต่ที่เสียดายคือ เราคิดไปเที่ยวที่นี่ช้าไป 10 ปี ถ้ามาก่อนหน้าสึนามิและภาวะโลกร้อน ปะการังที่มีอยู่คงจะงดงามกว่านี้ แต่ยังไงก็ดีใจที่เรามีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากๆ ขนาดนี้ แล้วจะกลับไปเยี่ยมใหม่นะจ๊ะ อันดามันที่ร๊ากกก ปล. ไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่อุทยานฯ มีตู้รับบริจาคอะไรก็ได้สำหรับชาวมอแกนด้วย เราไม่รู้เลยไม่ได้เอาอะไรไป ถ้าใครจะไป และอยากจะเอาอะไรไปให้ก็เชิญเลยนะคะ น้ำทะเล ใส้ใสค่ะ เป็นอีกหนึ่งเกาะที่ต้องไปให้ได้เลยเชียว
โดย: nam_sila วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:55:36 น.
คุณบัวริมบึง.. ขอให้มีความสุขเช่นกันค่ะ
คุณ nam_sila .. รีบไปด่วน :D โดย: Qingqing IP: 58.8.73.119 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:48:50 น.
ไปมาเมื่อสองปีที่แล้ว ทะเลสวยน้ำใสมาก ๆ เลย อยากไปอีกจัง
โดย: กระปุกกลิ้ง วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:47:14 น.
อ๋อ หายไปเที่ยวนี่เอง ทะเลหน้าเกือบหนาว ก็สวยดีนะ
แง๊ เค้าไม่เคยไปฝั่งอันดามันอ่ะ แย่จัง ตามมาเที่ยวด้วย สนุกจังตังค์ตรบ ไปทัวร์ไหนหลังไมค์มาบอกมั่งนะจ๊ะ น้องชิงชิง โดย: พี่จังไม IP: 125.27.73.217 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:00:01 น.
คุณกระปุกกลิ้ง.. นั่นสินะ อันดามันมีเสน่ห์ให้เราอยากกลับไปเยือนอยู่เรื่อยๆ
พี่จังไม.. จริงเหรอพี่... รีบไปโดยด่วน สวยมากๆๆ โดย: Qingqing IP: 58.8.73.122 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:50:45 น.
|
บทความทั้งหมด
|
มีความสุขมาก ๆ นะคะ
ราตรีสวัสดิ์