ตอนที่แล้วเล่าถึง "ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่" กันมาแล้วมาตอนนี้เราก็ไปเที่ยวกันต่อสำหรับทริปนี้ขนาดดูมาแล้วว่าที่เกาะสีชังมีที่เที่ยวที่ไหนมั้งหว่าก็เหมือนจะไม่เยอะนะ พอมาจริงๆ วันเดียวเอาไม่อยู่แฮะเพราะที่นี่เป็นสถานที่ที่มีโลเคชั่นสวยจริงๆ พิกัดต่อไปของพวกเราจะไปชมพลับพลาที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ที่นี่เป็นหอดูดาวที่มีจุดชมวิวสวยงามในมุมสูงของช่องเขาขาดล่ะ
แน่นอนจุดที่สวยที่สุดบันใดก็เยอะตามมาด้วยกว่าจะขึ้นมานี่เดินบันใดกันจ้าเดินไปพักไปถ่ายรูปไป
พวกเราขึ้นมาเร็วไปหน่อยที่นี่แนะนำให้มาดูพระอาทิตย์ตกดินจะสวยมาก
โปรแกรมต่อไปตุ๊กๆ มาคร้าบบไปกันต่อค๊า ที่นี่เรียกสามล้อเร็วมากโทรไปแป๊บเดียวพี่เพลิงมาแระ
พิกัดต่อไปไฮไลท์แห่งสีชังใครมาแล้วก็ไม่พลาดสะพานนี้ "สะพานอัษฏางค์"
เชื่อไหม!! ว่าแค่สะพานแค่นี้เนี่ยเหมือนมีมนต์สะกดพวกเราใช้เวลาอยู่ที่นี่นานมาก แถวบ้านเรียกนานเว่อร์เลยดีกว่าแค่สะพานกดกันรัวๆ ไม่รู้เท่าไหร่สมแล้วที่มีตำนานเล่าขานกันว่า "สะพานอัษฎางค์และช่องอิศริยาภรณ์ช่องเขาขาด เป็นสถานที่เติมความหวานให้ชีวิต ยามเช้าชวนกันมาเติมพลังแห่งรักกับแสงแรกของวัน ณ ปลายสะพานแห่งรัก และยามพระอาทิตย์ตกให้ไปอธิษฐานขอพรกลางช่องเขา สำหรับคู่รักคู่ไหนที่อยากเติมความหวานแบบน้ำตาลเรียกพี่ อย่าพลาดกับสถานที่แห่งนี้ เกาะสีชังเกาะแห่งความรักและอย่าลืมไปอธิษฐานขอพรที่กลางช่องเขา คำอธิษฐานนั้นจะได้เป็นจริง" นี่ขนาดไม่ได้มากะคู่รักนะเห็นหลายคู่มาถ่ายรูปกันหวานกันมดถอยกันเลยทีเดียว
จากนั้นพวกเราก็ไปดูพระอาทิตย์ตกดินกันที่ช่องเขาขาดไหนๆ มาแล้วเอาให้สุดที่ว่าสวยเราต้องไม่พลาด
เพราะถ้าพลาดต้องมาใหม่นะจ๊ะ
พวกเราเดินมาตามสะพานเรื่อยๆ เจอผู้คนนั่งกระจายตัวกันเป็นจุดๆ เพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกดิน
มีคู่รักมาถ่ายพรีเวดดิ้งด้วยล่ะ ระหว่างทางมีต้นหญ้าก็อย่าลืมเก็บภาพนะจ๊ะ
พวกเรานั่งดูพระอาทิตย์จนลาลับขอบฟ้าที่นี่บอกเลยว่าสวยมากลมพัดเย็นๆ เปิดเพลงฟังเบาๆ
มันช่างเหมาะกับการมากับคู่รักมากมาย เดินจูงมือกันฟินประหนึ่งซีรีย์เกาหลี คนไม่มีคู่ก็แอบจิกหมอนมโนกันไป
จากนั้นพวกเราก็เริียกพี่เพลิงมารับซึ่งพี่เค้าอยู่แถวนี้แหละพวกเรามาที่นี่นานมาก
จนพี่เค้าบอกว่านึกว่ากลับกันไปแล้วนะเนี่ย เพราะเหลือเราก็นักท่องเที่ยวกลุ่มสุดท้ายที่พี่เค้าดูแล
สำหรับมื้อค่ำวันนี้ด้วยความที่ขี้เกียจออกไปข้างนอกแล้วประกอบกับเทสรสชาติอาหารของที่นี่ตอนกลางวันถือว่าอร่อย พวกเราเลยสั่งอาหารที่รีสอร์ทเนี่ยแหละราคาไม่แพงด้วยแต่ต้องสั่งไว้ล่วงหน้าว่าจะเอาอะไรบ้าง มื้อนี้จึงมีปลาสามรส ต้มยำทะเล ไข่เจียว ปลาหมึกและกุ้งย่าง กุ้งอบเกลือซึ่งพวกเราซื้อเป็นโลแล้วให้ป้าแบ่งทำเป็นสองอย่าง ทั้งหมดนี่พันกลางๆ เองรสชาติอาหารอร่อยน้ำจิ้มก็เด็ด ด้วยความที่พวกเราได้ห้องบนสุดมีด่านฟ้าเป็นของตัวเอง พวกเราจึงให้ป้ายกอาหารมาบนด่านฟ้าเลยบรรยากาศดีมากที่นี่มีลมพัดตลอดเวลา นั่งกินกันเพลินเลยแต่มีข้อระวังอย่างเดียวห้ามเมาเพราะบันไดด่านฟ้าชันมาก
พอทานกันใกล้เสร็จแล้วล่ะป้าเจ้าของก็มาเก็บจานทยอยลงไปเลยได้มีโอกาสคุยกับป้าแก ป้าแกก็มีประวัติสู้ชีวิตดีอ่ะชอบๆ คือเค้าก็เล่าประสบการณ์ที่เค้าไปอยู่เยอรมันกว่าจะเก็บเงินมาสร้างที่นี่ก็ไม่ง่ายแถมแกยังเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายด้วย แต่ดูแข็งแรงมากแกเล่าให้ฟังว่าต้องดูแลตัวเองต้องมีกำลังใจตลอดเวลา เพราะเราต้องสู้กับตัวเองฟังแกเล่าก็เพลินมาก แกมีข้อคิดดีนะหากใครได้มาลองคุยกับป้าแกดูนะแกอัธยาศัยดีมากๆ เรื่องที่แกถ่ายทอดก็เป็นประโยชน์ด้วยล่ะ ทำเอากลับมา จขบ.ไม่อยากกินแป๊บซี่เลยทีเดียว ติดตามต่อตอนหน้านะจ๊ะว่า จขบ.จะพาไปไหนกันต่อค๊าา
วันที่: 23 พฤษภาคม 2560 เวลา:4:20:01 น.
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [