ตอนที่แล้วเล่าถึงที่พักบนเกาะสีชัง "Yellow House" แล้วมาตอนนี้ก็เวลาออกเดินทางเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสีชัง จุดหมายแรกพวกเราเริ่มต้นที่ไหว้พระที่ศาลหลวงพ่อเขาใหญ่ใครมาเกาะสีชังก็จะแวะมานมัสการท่านก่อนเสมอตามพวกเราไปกันเลยค่ะ
ตอนมาเรามีพี่สกายแลปชื่อพี่เพลิงเบอร์โทร 086-1559988 มาส่งพวกเราตกลงเหมาในช่วงบ่าย
ดังนั้นเวลาไปไหนก็โทรหาพี่เค้าแป๊บเดียวพี่เค้าจะมาเร็วมาก
แล้วพวกเราก็มาถึงศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ตามประวัติเล่าว่าในอดีตนั้นมีเรือนับร้อยลำจอดอยู่ในทะเลรอบเกาะสีชังเพื่อขนส่งสินค้าเข้าออก นับเป็นแหล่งขนถ่ายสินค้าทางทะเลแห่งเดียวของประเทศไทยที่ไม่ต้องใช้ท่าเทียบเรือ เนื่องจากเกาะสีชังมีภูมิประเทศที่เหมาะสมคืออยู่ห่างชายฝั่งเพียง 1.2 กิโลเมตร และยังอยู่ใกล้ปากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำบางประกงที่มีชุมชนหนาแน่น และยังเป็นชัยภูมิที่สามารถจอดหลบคลื่นลมได้เป็นอย่างดีอีกทั้งยังมีร่องน้ำในทะเลที่ลึกมากพอที่เรือสินค้าขนาดใหญ่จะสามารถจอดเทียบ
ในหมู่พ่อค้าเรือสำเภาต่างชาติมีพ่อค้าชาวจีนพบว่า บริเวณภูเขาหัวเกาะสีชัง (ปัจจุบันคือเขาคยาศิระ) เป็นเขาหินสูงในเวลาค่ำจะปรากฏแสงเป็นที่น่าอัศจรรย์ จึงได้พากันมาสำรวจพื้นทีและพบถ้ำซึ่งปรากฏหินรูปของเจ้าพ่อเขาใหญ่ในลักษณะนั่งประทับอยู่ จึงเกิดแรงศรัทธาและได้สักการะบนบานขอให้เจริญรุ่งเรืองทางการค้า เมื่อประสบผลสำเร็จจึงได้ก่อสร้างเป็นศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2435 จากนั้นเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าพ่อใหญ่ก็กระจายออกไปอย่างกว้างขวาง จนทำให้มีผู้คนเคารพเลื่อมใสมาสักการะกันเป็นจำนวนมาก
พวกเราใช้บริการรถรางคือยอมแพ้บันไดจริงๆ ขึ้นรถรางมาแป๊บเดียวก็มาถึงด้านบนแล้ววิวสวยมาก
จากนั้นก็เข้าไปสักการะเจ้าพ่อเขาใหญ่แล้วก็ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ เค้าจะมีเจ้าหน้าที่บอกทำตามเค้าได้เลย
เค้าจะให้เขียนชื่อไว้ที่กระดาาสีแดงเนี่ยแหละพอเสร็จพิธีก็เอามาแปะไว้ที่ศาล
ไหนๆ ก็มาแล้วเสี่ยวเซียมซีเสียหน่อย และที่สำคัญเค้าบอกว่ามาที่ให้ขอหวย
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อพวกเราตกลงจะซื้อเลขหนึ่งซึ่งก็ถูกจริงๆ เดี๋ยวพวกเราต้องกลับมาที่นี่อีกครั้งแหละ
หลังจากชมวิวทิวทัศน์ด้านบนอิ่มเอมใจแล้วก็ได้เวลาเดินทางกันต่อไปยังจุดหมายต่อไป
ตอนขาลงก็เดินลงบันไดสบายแต่ขึ้นนี่ยอมใจจริงๆ กำลังขาไม่ไหวป้าแก่แล้วนะ
หากใครมาถึงตรงหน้าศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่แวะทำบุญที่มูลนิธิสงเคราะห์คนชราได้นะคะ
เงินเพียงไม่กี่บาทของท่านช่วยให้คนชราที่นี่มีความสุขนะ ท่านก็มีกิจกรรมทำด้วย
จขบ.เข้าใจเลยว่าคนแก่ที่ไม่มีคนดูแลมีความลำบากมาก ขนาดพวกเราที่ดูแลพ่อแม่เรายังรู้สึกเลยว่าเหนื่อยจัง แต่นี่คนชราที่นี่เค้าต้องดูแลตัวเองดังนั้นอะไรช่วยได้ก็ช่วยกันเนอะ เราคนไทยมีน้ำใจให้กันเสมอ เวลาหนุ่มสาวเราก็ท่องเที่ยวไปแต่อย่าลืมเก็บตังค์ส่วนหนึ่งไว้ดูแลตัวเองยามชราด้วยนะ เพราะถ้าไม่มีใครดูแลขึ้นมาความลำบากจะเดินทางมาทันที หลังจากทำบุญอิ่มอกอิ่มใจแล้วก็ไปต่อจ้า ที่นี่มีที่เที่ยวอีกมากมายนี่เพิ่งเริ่มต้นนะ ไว้ตอนหน้าจะพาไปชมพระอาทิตย์ตกดินกันจ้า
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [
มาเที่ยวด้วยค่ะ
patthanid Travel Blog ดู Blog