CHANTHABURI :: ทริปกระชากวิญญาณ ณ คิชฌกุฏ หลังจากรอคอยมาหลายครั้งหลายคราเมื่อไหรน้าจะได้ขึ้นเขาคิชฌกุฏ มาปีนี้ก็สมหวังดังใจหมาย เมื่อเพื่อนรู้ใจเดอะแก๊งค์สนใจไปลุยแสวงบุญ ณ เขาคิชฌกุฏ การเดินทางครั้งใหม่ของ จขบ. จึงเริ่มขึ้น โดยทริปนี้ประกอบด้วยสมาชิกดังต่อไปนี้ น้าเหี่ยว, ปู, หมอมาร์ค, บอย, ปลา, นุ่นและเพื่อนอีกสองคน รวม จขบ. ด้วยก็ 9 คนพอดี วันที่ 17 มีนาคม 2555 เวลา 19.30 น. พวกเรานัดรวมพล ณ ลานจอดรถหมอชิต ![]() สำหรับทริปนี้พวกเราก็เหมารถตู้ไป ค่ารถตู้ 4,500 บาท ไม่รวมค่าทางด่วน ระหว่างทางก็หลับกันบ้าง คุยกันบ้าง โดยที่หาได้รู้ไม่เลยว่าข้างหน้าพวกเราจะเจออะไร เหอๆ 00.30 ของเช้าวันใหม่ 18 มี.ค. 2555 พวกเราเดินทางมาถึงทางเข้าวัดพลวง จุดหมายของเราวันนี้ รถติดเชียวตามความคาดหมายว่าคนต้องเยอะแน่ๆ เพราะใกล้จะปิดแล้ว ความเร็วรถเริ่มช้าลง ช้าลงเรื่อยๆ โชคดีมากที่หัวหน้าทริป (น้าเหี่ยว) ไหวตัวทัน กระโดดขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปจองตั๋วล่วงหน้าก่อน ![]() ค่ามอเตอร์ไซค์ 30 บาท แต่ดันลืมมือถือเลยให้เพิ่มไปอีก 50 บาท มันฮาตรงนี้ตรงที่รีบจัดจนลืมมือถือ ซึ่งไม่มีมีมือถือแล้วจะติดต่อกันยังไงล่ะพี่น้อง เลยต้องวนรถกลับมาใหม่ เฮ้อ .. ระหว่างนั้นก็มีการรายงานอันดับคิวของพวกเราเป็นระยะๆ ซึ่งคาดการณ์กันไว้ว่าได้ขึ้นหกโมงเช้าแน่ๆ ![]() และก็เป็นตามความคาดหมายคิวที่ 679 บัตรคิวสีชมพู ดูเหมือนน้อยเนอะ ขอบอกว่าบัตรคิวมีสามสี ฟ้า ชมพู เหลือง นั่นหมายถึงต้องรอให้คิวบัตรสีฟ้าที่มีห้าร้อยกว่าคิวหมดก่อนจึงจะไปต่อที่บัตรสีชมพู ป้าด.. เป็นพันคิวเลยเหอะ ![]() ระหว่างรอคิวอันแสนนานพวกเราก็เริ่มจัดการเตรียมอุปกรณ์สำหรับเดินทางไปนมัสการรอยพระพุทธบาท โดยเริ่มจัดแจงเด็ดดอกไม้ไว้สำหรับโปรยตลอดทาง อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมไปได้แก่ 1. ธูป 2. เทียน 3. แผ่นทอง 4. ดอกไม้ 5. พลอย (40 บาท) 6. ผ้าสามสี (20 บาท) 7. ผ้าแดง (20 บาท) โดยอุปกรณ์เหล่านี้มาหาซื้อได้ที่วัดค่ะ ![]() เมื่อซื้ออุปกรณ์มาแล้วก็จัดการ เขียนชื่อนามสกุลตัวเอง และครอบครัว ลงไปบนผ้าแดง หากต้องการเขียนอุทิศให้กับใครก็เขียนว่า "ขออุทิศให้ญาติพี่น้องที่ล่วงลับดับขันไปแล้ว ส่วนผ้าสามสีไม่ต้องเขียนอะไร เพราะไว้สำหรับใช้ขอขมาเจ้าแม่ธรณีและเจ้าที่ค่ะ เอาล่ะเสร็จแล้วก็ไปตามจุดกันเลยค่ะ โดยด้านล่างนั้นมีทั้งหมด 5 จุด ตาม จขบ.ไปทีละจุดกันเลยค่ะ ![]() ![]() จุดที่ 1 ไหว้พระบาทจำลองที่ต้นศรีมหาอุดมโพธ์ โดยจุดนี้จุดธูปเทียนไหว้พระพุทธบาทจำลอง จากนั้นปิดทองประจำวันเกิดที่อยู่รอบต้นโพธิ์ เมื่อเสร็จแล้วก็ไปผูกผ้าแดง และผ้าสามสี ขอพรได้ตามปกติ ![]() ![]() จากนั้นไปจุดที่ 2 บบศาลาไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 9 องค์ ปิดทองรูปใดขอพรขอบารมีรูปนั้นให้ครบ 9 ครั้ง ตรงจุดนี้ก็ไหว้ธูปเทียนแล้วก็ไปปิดทององค์พระทุกองค์ ขอพรได้ปกติทุกองค์ให้ครบเก้าองค์ จากนั้นจะถวายเงินซื้อที่ก็ตามแต่กำลังศรัทธา ![]() จากนั้นไปจุดที่ 3 จุดเทียน ธูป หน้าห้องกระจก ตั้งสัจจะขอในสิ่งที่ต้องการต่อหน้าสังขารพระครูพุทธบทบริบาล (หลวงพ่อนัง) ตรงนี้ตั้งจิตตั้งใจเลยนะ ขอข้อเดียวเท่านั้น จากจุดนี้ให้ขอข้อเดียวตลอดค่ะ พอเสร็จก็ไปยังจุดที่ 4 ซึ่งอยู่ข้างๆ จุดที่ 3 เลย ประพรมน้ำพุทธมนต์ ให้เป็นสิริมงคลก่อนขึ้นเขา ![]() ![]() ต่อด้วยจุดที่ 5 ตั้งสัจจะขอที่พระอธิบาลมงคลพุทธไสยาสน์ ง่ายๆ ก็คือขอพรสิ่งที่ต้องการข้อเดียวที่ต้องการที่พระนอน จากนั้นไปปิดทอง โดยปิดทองดังนี้ วันอาทิตย์ ปิดด้านหลัง วันจันทร์ ปิดที่ปาก วันอังคารปิดที่หัวใจ วันพุธ ปิดที่มือ วันพฤหัส ปิดที่ศรีษะ วันศุกร์ปิดที่ปาก วันเสาร์ปิดที่เท้า เอาล่ะเป็นอันจบพิธีทั้งห้าจุดด้านล่างที่วัดพลวง ตอนนี้คิวของพวกเราก็เวียนมาสีชมพูแล้ว ตอนนี้ก็ตีสีกว่าแระ คิวที่ 350 แระ พวกเราเลยไปหาอะไรกินกันก่อน ![]() ![]() หันไปเห็นข้าวหน้าเป็ดน่ากินเชี๊ยะเลยแวะตรงนี้แหละ เรียกว่ากินรองท้องไปก่อนไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเจออะไรอ่ะ พอทานกันเสร็จก็ออกไปนั่งรอขึ้นรถ โอ้ว.. แม่เจ้า ไม่อยากจะบอกว่าคนเยอะมากอ่ะ ![]() เยอะทุกอย่าง คิวยาว คนเยอะ เดินมาด้านหลังตกใจยิ่งกว่าอีกนอนกันเพียบ มีบริการเช่าเสื่อด้วย ใครได้บัตรสีเหลืองนอนยาวไปเลย กว่าจะได้ขึ้นดูแล้วน่าจะเก้าโมงเช้าอ่ะ พวกเราสีชมพูก็คาดว่าจะหกโมงนั่นแหละ เวย์นี้ก็ไปทำธุระกันให้เรียบร้อย จะเยอะไปไหน ห้องน้ำล้นเลยเหอะ ต่อแถวพอกะต่อแถวขึ้นรถเลยเหอะ บางจุดห้องน้ำก็สะอาดบางจุดก็ถึงกับอึ้งเหอะ ระหว่างนี้ก็นั่งรอนอนรอคิวตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ ![]() ![]() ![]() แล้วก็เป็นเวย์ของพวกเรา คิวที่ 679 ก็มาถึง ตอนนี้หกโมงเช้าแล้วเหอะ นี่ยังไม่ได้ขึ้นเลยนะ ผ่านไปครึ่งวันแระ เอาๆๆ สู้เว้ย สว่างคาตาเลยตรู ![]() พวกเราได้ขึ้นรถต่อแรกเพื่อไปยังจุดที่ 6 ค่ารถคนละ 50 บาท สวดยอดอ่ะ ทางขึ้นน่ากลัวมาก ลากยาวๆ มีคนเดินขึ้นด้วยนะ แต่ จขบ. ว่าควรจะใช้เส้นทางที่เค้ากำหนด อย่าเดินทางรถเพราะดูแล้วอันตรายจังอ่ะ จากจุดนี้ขึ้นมาใช้เวลาประมาณ 10 นาที ![]() ![]() ![]() ![]() ขึ้นมาด้านบนตอนนี้เริ่มเห็นหมอกแล้วล่ะ นี่แค่ครึ่งทางนะจ๊ะ เอาล่ะไปซื้อตั๋วรถอีกรอบหนึ่งค่ะ คนละ 50 บาท พวกเราได้คิวที่ 224 สวยๆ ค่ะ หน้าตายังโอเคอยู่ตอนนี้ แต่ก็รอกันต่อไปเข้าใจเลยว่ามาที่นี่ต้องใช้ความอดทนอย่างมากอ่ะ ระหว่างนี้ไปไหว้พระกันก่อนค่ะ ![]() ![]() ![]() จุดนี้เป็นจุดที่ 6 ค่ะ ไหว้พระเจดีย์กลางเขา ณ จุดเปลี่ยนรถ ให้เดินไปจนสุดทางก่อนนะคะ เพื่อไปไหว้พระหินเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ก่อนด้วยธูปห้าดอก กล่าวคำบูชาตามป้ายที่บอกไว้ จากนั้นจึงใช้ธูปจำนวนเกินอายุ สะเดาะเคราะห์กับพระหินเจดีย์ฟ้าผ่า โดยบอกชื่อจริงพร้อมนามสกุล ฝากเคราะห์โศก โรคภัยสิ่งที่ไม่ดีไว้ที่นี่ แล้วก็วางธูปลงตระกร้า จากนั้นใครจะไปทำบุญตรงจุดอื่นๆ ก็แล้วแต่กำลังศรัทธา ![]() ![]() ![]() เรียกว่าระหว่างรอรถก็ทำบุญกันไป ตรงนี้มีจุดให้เข้าห้องน้ำด้วยค่ะ น้าเหี่ยว นอกจากจะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทริปที่ดีแล้ว ยังเป็นกาดเฝ้าหน้าห้องน้ำให้น้องๆ อีกด้วย ![]() ยืนเป็นหุ่นเชี๊ยะอีน้าเอ้ย .. ตอนนี้คิวของพวกเราเลยแล้วค๊า ต้องลงไปรอขึ้นรถยังอีกจุดหนึ่งที่เค้าเตรียมไว้เก็บตกค่ะ ![]() ![]() ซึ่งตรงจุดนี้ก็ทำให้เห็นถึงความไม่รู้จักคำว่า "การเข้าคิว" ของคนบางกลุ่ม ที่เห็นแล้วแย่ค่ะ เจ้าหน้าที่ประกาศให้เข้าแถวคนยืนด้านหน้าขึ้นก่อน ก็ไม่ฟังเค้าเลย พอรถมาถึงก็วิ่งกรูเข้าใส่ โดยลืมนึกถึงความปลอดภัยของตัวเอง และที่สำคัญยืนค่ะยืนขึ้นไป หาได้รู้เลยว่า ณ จุดนี้ขึ้นต่อไปมันอันตรายนะจ๊ะ พอได้ขึ้นมาได้ถึงรู้ว่า กลุ่มหน้าๆ ที่แย่งกันขึ้นและยืนกันขึ้นไปนั้น มันอันตรายเพราะเส้นทางจากจุดนี้เป็นโค้งหักศอกและทางขึ้นเขาจริงๆ เรียกว่ายืนขึ้นมาก็ต้องเกาะกันแข็งๆ หน่อยอ่ะคะ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยควรนั่งไปค่ะ เข้าจำกัดที่นั่งน่ะเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว อย่าเบียดกันขึ้นไป เดี๋ยวบุญจะไม่ได้ทำกันเสียเปล่าๆ เอาล่ะจากจุดต่อรถขึ้นมาก็ใช้เวลา 8 นาที แต่ช่างเป็นเวลาที่ โอ้ว.. เส้นทางทรหดมากอ่ะ งานนี้เครื่องเล่นที่เสียวๆ ในดรีมเวิลด์ยังชิดซ้ายเลยเหอะ ![]() ![]() แล้วก็มาถึงจุดสำหรับเดินขึ้นเขากันแล้ว ตรงนี้เป็นจุดที่ 7 ไหว้พระสิวลีก่อนเดินขึ้นเขาค่ะ อยู่ตรงจุดที่ลงรถพอดีเลยค่ะ เอาล่ะเมื่อเรียบร้อยก็ลุยกันเลยค่ะ ระยะทางไม่ไกลนะคะ แต่คนนี่ดิ .. มหาศาล ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ก็เดินโปรยดอกไม้ ปักธูปกันไปตลอดทาง ไม่รู้หรอกว่าเค้าทำเพื่ออะไร แต่ก็ทำตามๆ กันไป โดยเฉพาะหมอมาร์คดูมีความสุขกับการโปรยดอกไม้ ปักธูปไปตลอดทาง ขนาดปักไปเยอะยังไม่หมดเลยอ่ะ อิอิ .. ตอนนี้ก็แปดโมงแล้วอ่ะ อากาศกำลังดีเชียวหน้าตาทุกคนยังสดใส เดินกันไปเรื่อยๆ กินมาม่าก็โชยมาเรื่อยๆ หิวชะมัด แต่ไม่อยากแวะกันก็เลยเดินต่อ ระหว่างเดินขึ้นให้ท่องพุทโธไปตลอดทางนะคะ เพื่อกำหนดสมาธิค่ะ ![]() ![]() เดินได้สักพักขอบอกว่าเริ่มไม่ไหวล่ะ นี่ประมาณสิบโมงแล้วอ่ะ อากาศด้านบนเป็นหมอกเลยอ่ะ แต่ตอนนี้สภาพร่างกายแย่ลงเรื่อยๆ เพราะง่วงอ่ะ ยิ่งเดินก็ยิ่งง่วง แบบยังกะไร้วิญญาณยังไงบอกไม่ถูก ตอนนี้ถ้ามีคนมาผลักเนี่ย อาจล้มได้เลยอ่ะ หวิดจะวืดหลายครั้งแล้วเหอะ โชคดีที่มีโก๋แก่วาซาบิ พอประทังความง่วงได้เป็นระยะ แล้วก็มาถึงประตูสวรรค์แล้นนน ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() จากประตูสวรรค์ก็ขึ้นมายังรอยพระพุทธบาทด้วยแรงศรัทธาของสาธุชนจริงๆ จากรูปจะเห็นว่าคนเยอะมาก คราวนี้ก็ต้องมารอคิวที่จะได้เข้าไปไหว้รอยพระพุทธบาทล่ะ ตอนนี้ก็สิบเอ็ดโมงแระ หน้าตาก็เริ่มแย่หมดสภาพอย่างที่เห็น รอนานมากเหอะกว่าจะได้เข้าไปไหว้ง่ะ ตรงนี้สำหรับสุภาพสตรีที่ใส่กางเกงขาสั้นเหนือเข่า "โนค่ะ" ห้ามเข้าต้องไปเปลี่ยนกางเกงค่ามัดจำ 120 บาทก่อนค่ะจึงจะได้เข้าค่ะ ดังนั้นเตรียมตัวให้พร้อมมาจากบ้านดีกว่ามาเสียเวลาค่ะ ![]() พอได้เข้ามานั่งไหว้รอยพระพุทธบาท ใครที่แบกเป้อะไรไว้บนบ่าปลดออกค่ะ เค้าบอกว่าอย่าแบกทุกข์มาบนสวรรค์ค่ะ ตรงนี้ใช้ธูป 9 ดอก เทียน 2 เล่ม พร้อมดอกไม้ และพลอยค่ะ โดยท่องนะโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า "อิมัง พุทธปาทัง สัจจะคาระเวนะ วันทานะ นามามิหัง 3 จบค่ะ โชคดีที่วันที่ จขบ. มีคนนำสวดค่ะ จากนั้นก็ขอพรเพียงหนึ่งข้อเท่านั้น ![]() ไหว้เสร็จก็นำดอกไม้ ธูปเทียนพร้อมพลอย และเงินไปโรยที่รอยพระพุทธบาทโดยอธิษฐานว่า " ข้าพเจ้า ... ได้นำดอกดาวเรืองพร้อมด้วยเงิน ทอง และพลอยมาเพื่อถวายบูชาต่อรอยพระพุทธบาท ขอให้ข้าพเจ้าจงรุ่งเรืองด้วย เงินทองเพชรนิลจินดา ขอให้เกิดแสงสว่างแห่งปัญญา มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่ตั้ง จะทำการสิ่งใดขอให้สำเร็จทุกสิ่งทุกประการเทอญ เป็นอันเสร็จสิ้นวัตถุประสงค์แห่งการเดินทางมาในครั้งนี้ค่ะ ![]() จากนั้นก็ไปติดเงินทำบุญเค้าบอกว่าให้ติดเหนือหัว เพื่อที่ทำอะไรจะได้มีเกิน แบบล้นหัว ท่วมหัวอะไรประมาณนี้ ก็เพิ่งรู้เหมือนกันนะเนี่ย แล้วพวกเราก็ตัดสินใจเดินทางลงไม่ไป ต่อยังจุดผ้าแดงเพราะว่าตอนนี้สังขารแต่ละคนแย่แล้วอ่ะ สภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย เกรงว่าจะขึ้นไม่รอดเลยกลับดีกว่า ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ระหว่างทางก็ลงก็ยังมีสาธุชนเดินทางหลั่งไหลกันมาทำบุญบนเขาคิชฌกุฏแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย เยอะมากมายชนิดที่เหลือทางลงแค่นิดเดียวเองเหอะ ![]() พวกเรากว่าจะได้ลงก็ราวๆ เที่ยงกว่าแล้วอ่ะ ขาลงจากเขาคิชฌกุฏด้านบนไม่มีคิวก็ใครลงได้ก็ลงเลย มาต่อคิวอีกทีก็จุดเปลี่ยนรถนั่นแหละ แล้วก็ลงมาด้านล่างไปยังศาลาอีกครั้ง เพื่อกราบลา หลวงพ่อนัง พระครูพุทธบทบริบาล ขอบารมีที่ท่านได้บำเพ็ญมา ช่วยให้เราได้พบความสำเร็จตามความต้องการ เรียกว่ามาลาท่านว่างั้นเถอะ ![]() ![]() สำหรับการเดินทางมาเขาคิชฌกุฏแห่งนี้ของ จขบ. ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นทริปเขาคิชฌกุฏ ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทุกท่านที่เอื้อเฟื้อและช่วยเหลือกันตลอดการเดินทางขึ้นเขาและลงเขา ขอบคุณป้าโอ๋และลุงเต๋าที่เป็นธุระเรื่องรถให้ และที่สำคัญขอบคุณหัวหน้าทริป น้าเหี่ยว ที่เป็นธุระจัดการและนำทริปครั้งนี้ ![]() ในวิกฤตมักจะเกิดผู้นำเสมอ และหลังจากที่ จขบ. ได้เดินทางมาแล้วนั้นสรุปสาระสำคัญได้ดังต่อไปนี้ 1. พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะท่านไม่รู้เลยว่าจะได้คิวเมื่อไหร่ หากเป็นไปได้มานอนโฮมสเตย์แถวทางเข้าเข้าวัดเอาแรงแล้วค่อยเดินขึ้นตอนเช้าจะดีมากอ่ะ ไม่เหนื่อยเหมือนกระชากวิญญาณเหมือน จขบ. 2. ดอกไม้ธูปเทียนเตรียมมาพอประมาณเพราะใช้จริงๆ ไม่เยอะมากนัก สาระสำคัญของการเดินทางมาเพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาทเท่านั้น ส่วนอื่นที่เพิ่มมานั้น ถือว่าตามกำลังแต่จะศรัทธา เพราะ จขบ. มองว่าเป็นกุศโลบายคั่นเวลาระหว่างรอมากกว่า เอาล่ะก็เป็นอันจบทริปที่เหนื่อยสาหัสสากันอีกทริปหนึ่งของ จขบ. ก็หวังว่าข้อมูลของ จขบ. จะเป็นประโยชน์แก่นักแสวงบุญท่านอื่นไม่มากก็น้อยนะคะ Photo and Story By Patthanid C. www.patthanid.bloggang.com Facebook : Patthanid FC อนุโมทนา สาธุ ครับ
โดย: น้าเหี่ยว IP: 58.8.179.170 วันที่: 21 มีนาคม 2555 เวลา:10:07:06 น.
อนุโมทนา สาธุ คะ
เคยไปเขาคิชกุฏอยู่ 2 ครั้งเอง และมาช่วงปีหลัง ๆ ก็ไม่ได้ไปเลย เห็นผู้คนแล้วเยอะมาก ๆ เลย แรงแห่งศัธทาจริง ๆ โดย: paerid (nee) IP: 171.97.163.246 วันที่: 21 มีนาคม 2555 เวลา:12:12:11 น.
ริวิวละเอียดมากน้องเห็นแล้วอยากไปบ้างจัง
โดย: jate IP: 110.171.74.140 วันที่: 21 มีนาคม 2555 เวลา:12:25:53 น.
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
โดย: Mimiomo IP: 113.53.18.200 วันที่: 21 มีนาคม 2555 เวลา:15:17:51 น.
เห็นแล้วรู้เลยว่าศรัทธาแรงกล้าจริงๆ นับถือความอดทนของทุกๆท่านด้วยค่ะ เห็นผู้คนมากมายแบบนี้ปีนี้คงจะไม่ได้ไปแน่นอน
ติดตามเจ้าของกระทู้เงียบๆ ตั้งแต่ไปพม่ากันแล้ว เขียนได้ละเอียดมากค่ะ โดย: การะเกด IP: 223.204.195.37 วันที่: 21 มีนาคม 2555 เวลา:21:32:07 น.
I am from Chantaburi. I enjoy reading your story. Thank you for visiting Chantaburi. Come again ,please.
โดย: Nina IP: 74.105.225.207 วันที่: 21 มีนาคม 2555 เวลา:22:23:07 น.
รอจนเช้าเหมือนกันเลย แต่เราไม่เคยโรยดอกดาวเรืองอ่ะ บอกตามตรงว่าสงสารธรรมชาติกับคนเก็บกวาด
โดย: wendyandbas
![]() |
บทความทั้งหมด
|