BKK - RAYONG :: ตอนที่ 2 ทรายแก้วบีชรีสอร์ท ![]() จาก ตอนที่แล้ว พวกเรากำลังเดินทางเข้าที่พักที่ ทรายแก้วบีชรีสอร์ท เส้นทางถนนที่วิ่งมายังทรายแก้วรีสอร์ทนั้นก็ทุลักทุเลบ้าง เรียกว่ากินฝุ่นกันอิ่มเลยล่ะ ![]() ![]() รถแท็กซี่พาพวกเรามาจอดที่อาคารเช็คอิน ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับโดยเสริฟ์น้ำพันช์ รสชาติเปรี้ยวของพันช์คาดว่าจะนำมาแก้อาการเมาเรือหรือว่าเมารถแน่ๆ เพราะดื่มแล้วรู้สึกดีจัง วันนี้เนื่องจากคนเดินทางกันมาเยอะมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ดังนั้นการเช็คอินก็ต้องใช้เวลาพอสมควร ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() เมื่อเจ้าของทริปของเราเช็คอินเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็ยกกระเป๋าของพวกเราไปส่งให้ที่หน้าห้องพักล่ะ ซึ่งพวกเราก็เดินตามเจ้าหน้าที่มาติดๆ รีสอร์ทแห่งนี้นับว่าเป็นรีสอร์ทอันดับต้นๆ ที่มีชื่อเสียงบนหาดทรายแก้วเลยล่ะ จึงไม่แปลกใจนัก หากมาที่นี่แล้วจะพบว่าห้องข้างๆ เรานั้นมีแต่ชาวต่างชาติล่ะ ภายในรีสอร์ทจะมีลักษณะเป็นบ้านหลังเล็กๆ หลายๆ หลัง มีทั้งแบบติดกันและไม่ติดกันแล้วแต่ลักษณะของพื้นที่ ![]() ![]() ซึ่งตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าขาว ซึ่งเป็นสียอดฮิตของรีสอร์ทตามชายทะเลก็ว่าได้ เพราะมันทำให้รีสอร์ทดูกลมกลืนไปกับธรรมชาตินั่นเอง กลับมาเรื่องของเรากันดีกว่า ตอนนี้เราเดินมาหยุดตรงที่หน้าบ้านหลังเล็กสีฟ้าห้อง 501 ของเราแล้ว ![]() ![]() ![]() ![]() ตอนแรกเห็นกระบวยเอาไว้ทำอะไรหว่า พอไปลงเล่นน้ำจึงรู้ว่า เค้าเตรียมไว้ให้เราล้างเท้าที่ติดทรายเวลาไปเล่นน้ำนั่นเอง เออ เข้าใจคิดนะ บ้างทีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ทำให้เรารู้สึกถึงการบริการที่ดีนะ ![]() ![]() ![]() ![]() เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องลักษณะไม่ใหญ่มากนักก็กำลังพอดีสำหรับสองคน ห้องนี้เป็นเตียงคู่ซึ่งบางห้องก็เป็นเตียงเดี่ยวแยกกันสองเตียง ก็ตามแต่จะเลือกล่ะ ซึ่งก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกโทรทัศน์และตู้เย็นตามมาตรฐานรีสอร์ททั่วไป ![]() ![]() ![]() ![]() ตู้เสื้อผ้าที่นี่ก่อด้วยปูนง่ายๆ แต่เก๋นะในตู้ยังมีร่มและไฟฉายให้ด้วยล่ะ ด้านล่างตู้ก็มีรองเท้าแตะสีฟ้าเข้ากับสีบ้านจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อย ส่วนภายในห้องน้ำก็ขนาดพอเหมาะ แต่ที่แปลกก็ตรงที่ในห้องน้ำไม่มีที่ฉีดก้นอ่ะ เลยดูเหมือนขาดๆ อะไรสักอย่าง หลังจากที่สำรวจทั่วห้องแล้วก็จัดการเก็บข้าวของใส่ในตู้เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็รอเพื่อนๆ รวมตัวกันให้ครบ จากนั้นก็เดินออกไปที่ชายหาดด้านหน้ารีสอร์ท โอ้โห.. สวยจังเลยหาดนี้ ฝรั่งนอนอาบแดดเต็มเลย แถมบีกินนี่ทั้งนั้นเลย แหมเจริญหูเจริญตาเสียจริงๆ ![]() ![]() จากนั้นพวกเราเดินเลาะตามชายหาดไปเรื่อยๆ เพื่อไปหาร้านอาหารทานกลางวันกันล่ะ ก็ไปหยุดที่ร้านต้นสักรีสอร์ทเพราะว่าถ้าเดินต่อไปก็น่าจะมีแต่รีสอร์ททั้งนั้น ครั้นจะเดินกลับมาทานที่รีสอร์ทเราก็ดูจะโหดร้ายเกินไป เอาที่นี่ล่ะ ![]() พอได้เมนูทุกคนก็จัดการสั่งด้วยความหิวก็เลยสั่งอาหารจานเดียวจะได้เร็วๆ ที่ไหนได้ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาเลย รอนานมากก็เลยเดินลงไปสั่งส้มตำมาทาน พอสั่งเสร็จเดินเข้ามาในร้านพนักงานก็บอกว่าไม่ให้นำขึ้นมาทานบนร้านนะคะ อ้าวแล้วกัน สั่งมาแล้วอ่ะ แถมหิวแล้วด้วย ก็ฟังเค้าเฉยๆ แล้วก็เดินมานั่งที่โต๊ะ ไม่นานนักส้มตำก็เสร็จก็เลยเดินลงไปเอาขึ้นมา ซึ่งระหว่างนี้อาหารของทางร้านก็มาด้วยเช่นกัน ![]() ![]() ![]() ![]() นี่ก็เป็นหน้าตาอาหารมื้อแรกของพวกเราบนเกาะเสม็ดที่ไม่ค่อยประทับใจนัก เพราะรสชาติเน้นจืดเป็นหลักเลยไม่สะใจคนไทยอย่างเรา ดีนะที่มีส้มตำมาช่วยรสชาติจึงได้แซ่บขึ้นมาหน่อย ก็ทานบนร้านนี่ล่ะ ใครจะว่าก็ว่าไม่สนใจแล้วล่ะ วินาทีหิวกฏก็มีไว้ให้แหกได้เช่นกัน เมื่อทานเสร็จก็เดินกลับรีสอร์ทแหมพอท้องอิ่มก็เริ่มง่วงแล้วล่ะ ครั้นจะเล่นน้ำก็ไม่ไหวมั้ง แสงแดดช่างร้อนแรงเสียจริงๆ กลับไปนอนตากแอร์ดีกว่า แต่พอไปถึงห้องนอนได้สักพัก ก็มีเสียงถามมาว่า มานอนกันทำไมวะเนี่ย มาแบบนี้ทั้งทีมันต้องไปเดินเที่ยว ซะงั้น พวกเราทุกคนก็เลยออกมาเดินสำรวจรีสอร์ทอีกฝั่งซึ่งก็สวยไม่แพ้ฝั่งนี้เลยล่ะ .. อีกฝั่งหนึ่งของชายหาดทรายแก้วบนพื้นที่ของทรายแก้วบีชรีสอร์ทล่ะ ซึ่งอีกฝั่งต่างกับฝั่งหาดทรายแก้วอย่างสิ้นเชิง เพราะมีลักษณะเป็นโขดหินตลอดชายหาดนั่นเอง นำทางโดยไกด์สาวสวยเจ้าของทริปพวกเราเองแหละ ![]() พอเดินออกมาจากรีสอร์ทอีกฝั่งหน้าอาคารเช็คอิน ก็มีบริการรถกอฟล์รับส่งล่ะ ไกด์สาวสวยกำลังจะพาพวกเราไปดูชายหาดอีกฝั่งกันล่ะ ![]() ![]() ![]() สองข้างทางที่รถกอฟล์แล่นผ่าน ก็จะพบกับบ้านเป็นหลังๆ สีฟ้าตัดขอบเขียวตลอดทาง พอมาถึงสระว่ายน้ำพวกเราก็ลงเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ จนสุดชายหาด ![]() ![]() ![]() บริเวณชายหาดฝั่งนี้เต็มไปด้วยแนวโขดหินทอดยาวสุดสายตา ซึ่งก็ไม่เป็นที่นิยมสำหรับการเล่นน้ำสักเท่าไหร่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเหมาะแก่การดำน้ำเสียมากกว่า เพราะเห็นมีทัวร์มาลงดำน้ำด้วยล่ะ ![]() ![]() พวกเราเดินถ่ายรูปบริเวณร้านอาหารฝั่งนี้กันสักพัก ก็พบกับเจ้าหมาน้อยตัวนี้ล่ะ มันน่ารักมากเลยล่ะ ปกติเราไม่ค่อยถูกโรคกับสุนัขสักเท่าไหร่ แต่เจ้าตัวนี้ดูถูกชะตาจัง นี่กะว่าถ้ามันอยู่ตัวเดียวจะอุ้มกลับบ้านแล้วนะเนี่ย โชคดีที่มันอยู่กับแม่ของมันล่ะ ![]() ![]() พอแยกจากเจ้าหมาน้อย เราก็มานั่งเล่นกับเพื่อนๆ ที่นอนพักผ่อนริมทะเลสักพัก ไม่ไหวชักร้อน ก็เลยเดินตามเพื่อนอีกคนที่เดินสำรวจโขดหินอยู่ได้สักพักแล้วล่ะ ![]() พวกเราก็เดินลัดเลาะตามแนวโขดหินไปเรื่อยๆ ก็พบกับดอกไม้แปลกๆ นี่อยู่บนต้นไม้ใกล้ชายฝั่งล่ะ ซึ่งใช้เวลาอยู่นานเลยเพราะว่าจะถ่ายรูปตอนผีเสื้อเกาะดอกไม้อยู่ ผีเสื้อก็เหมือนรู้เลย เล่นตัวชะมัดบินไปบินมากว่าจะถ่ายรูปได้อย่างที่เห็นนี่ล่ะ ![]() จากนั้นก็เดินต่อไปก็พบว่าแนวหินที่นี่ มองดีๆ หินจะมีลักษณะเหมือนแร่ธาตุเลยล่ะ เพราะมันส่องประกายออกมาเวลาแสงอาทิตย์กระทบล่ะ นี่เดินเล่นกันไปๆ มาๆ เรามาครึ่งทางของแหลมแห่งนี้แล้วล่ะ ![]() ![]() ซึ่งระหว่างทางก็มีเพื่อนมาสมทบอีกหนึ่งคน สรุปว่าเดินสำรวจกันสามคน ส่วนอีกสามคนนอนรับลมชมวิวอยู่ ก็เลยโทรศัพท์ไปบอกเพื่อนที่นอนอยู่ว่า ฝากเอาของกลับไปด้วย เพราะไม่ย้อนกลับไปแล้วจะอ้อมไปทางโขดหินเลย แล้วไปเจอกันที่ที่พัก ![]() ![]() ![]() ระหว่างทางเห็นอะไรสวยๆ ก็เดินถ่ายรูปกันไปตลอดทาง ยิ่งเดินมาถึงอีกด้านโขดหินก็เริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ จนเดินกันมาถึงบนยอดเขาแห่งนี้ ![]() ![]() วิวด้านบนมองลงมาก็จะเห็นหาดทรายแก้วทั้งหาดเลยล่ะ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเราเดินอ้อมแนวโขดหินจากอีกฝั่งหนึ่งมาอีกฝั่งที่เป็นชายหาดทรายแก้วนั่นเอง ![]() จะว่าไปแล้ววันนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน การที่ได้เดินลัดเลาะโขดหินก็สนุกไปอีกแบบ ถือว่าเป็นการเดินสำรวจรอบชายหาดแห่งนี้ พอข้ามมาฝั่งนี้ก็เกือบสี่โมงเย็นแล้วล่ะ ไม่ได้การล่ะ ไปเล่นน้ำกันดีกว่า ![]() ![]() สำหรับตอนนี้ก็จะพาเพื่อนๆ มาดื่มด่ำกับบรรยากาศยามราตรีนี้ที่เสม็ดกันต่อล่ะ หลังจากที่พวกเราก็ลงเล่นน้ำทะเลกันจนตัวเปื่อยได้ที่ล่ะ ก็ขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตะลุยราตรีบนเกาะเสม็ด โดยนัดหมายรวมพลเวลาหนึ่งทุ่ม และเมื่อสมาชิกพร้อมไกด์สาวสวยเพื่อนหนิงของเราก็พาเพื่อนๆ เดินดูบรรยากาศยามราตรีที่หน้าชายหาดทรายแก้วล่ะ ![]() ![]() ![]() ยามค่ำคืนชายหาดแห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาแตกต่างกับช่วงกลางวันอย่างคนละเรื่อง สาเหตุก็เพราะว่ายามค่ำคืนบริเวณชายหาดแห่งนี้ ร้านอาหารที่อยู่ริ่มชายหาดต่างก็ประดับประดาไฟด้วยสีสันต่างๆ สวยงามสร้างแรงดึงดูดต่อนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนเป็นยิ่งนัก นี่ขนาดช่วงนี้ไม่ใช่ช่วง long Weekend นะ คนยังเยอะขนาดนี้ พวกเราก็เดิน Window Shop ตามร้านอาหารต่างๆ ก่อน สำรวจร้านอาหารอร่อยๆ เพื่อฝากท้องสำหรับมื้อเย็นนี้เสียหน่อย ซึ่งก็เดินไปเดินมาสรุปสุดท้ายก็มาจบที่ร้านคุณกร เพราะดูจากปริมาณคนแล้วไม่เยอะมากนัก ทานข้าวกันเสียก่อนแล้วค่อยไปนั่งดริ้งค์ร้านที่มีวงดนตรีสดเล่นกันต่อ ![]() เมื่อได้ที่นั่งพวกเราก็เริ่มสั่งอาหาร หนิงเริ่มสั่งเมนูแรกคือปลาหมึกผัดไข่เค็ม ปรากฏว่าไม่มี เป็นงงนะนี่ อ่ะไม่เป็นไรเอาที่มีในเมนูก็ได้ สั่งเสร็จก็ได้แต่นั่งรองเพลง "รอ" หนึ่งชั่วโมงผ่านไปก็ยังไม่มีวี่แววของอาหารที่สั่ง จนกระทั่งอีกยี่สิบนาทีผ่านไป อาหารเริ่มมาแล้ว ด้วยความหิวทุกคนก็ตักกันใหญ่ แล้วก็ต้องอึ้งมองหน้ากัน สงสัยทริปนี้เราจะโชคดีในเรื่องฟ้าฝน แต่กลับโชคร้ายในเรื่องอาหารการกิน (เรื่องใหญ่เสียด้วย) เพราะวันนี้ทั้งวันเจอร้านอาหารไม่ถูกปากเอาเสียเลย อาหารที่นี่ออกแนวจืดเสียเป็นส่วนใหญ่สงสัยเน้นทำขายฝรั่ง นักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างเราก็ต้องเซ็งจิตไปตามๆ กันเพราะมันอร่อยเอาเสียเลย ติดแต่ว่าหิวนะนี่ ขณะที่พวกเรานั่งทานอาหารกันได้สักระยะหนึ่ง ก็มีสายโปรยปรายลงมา คนที่นั่งอยู่ที่ชายหาดก็ต้องอพยพเข้ามาในร้านกันเป็นแถว ดังนั้นทุกอย่างที่ตั้งใจว่าจะไปนั่งดริงค์กินลมชมทะเลต่อก็มีอันต้องล้มเลิก สุดท้ายแล้วก็ต้องพึ่งที่พี่งสุดท้าย 7 Eleven (อยู่คู่คนไทยจริงๆ เลยไม่ว่าเหนือใต้ออกตกที่ไหนเราก็ไม่ห่างไกลเซเว่น) ตอนขาไปก็ดูไม่ค่อยน่ากลัวเสียเท่าไหร่ แต่ขากลับนี่สิ ต้องเดินผ่านวัด นี่ก็น่าจะสี่ทุ่มกว่าแล้วล่ะ ต้องเดินผ่านวัดยามวิกาลนี่มันก็เสียวสันหลังอยู่มิใช่น้อยเลยนะนี่ มิน่าละในห้องเค้าถึงมีไฟฉายเตรียมไว้ให้ สุดท้ายพวกเราก็ต้องมานั่งกงกันต่อที่ห้อง แต่ด้วยความที่เหนื่อยเที่ยงคืนก็แยกย้ายห้องใครห้องมันแล้วล่ะ เช้าวันที่สองบนเกาะเสม็ด กำหนดการสำหรับเช้าวันนี้พวกเรานัดทานข้าวเช้ากันแปดโมงครึ่ง วันนี้เราก็ตื่นตั้งแต่หกโมงเลย กะว่าจะมาเก็บภาพบรรยากาศยามเช้าเสียหน่อย มาทะเลทั้งทีต้องตื่นเช้าเสียหน่อย (ต่างกับไปทำงานเสียนี่กระไร แทบไม่อยากจะตื่น) ![]() ![]() ![]() พอออกมาข้างนอกก็เดินถ่ายรูปอยู่สักพักหนึ่ง ก็เจอเพื่อน (รส) เดินตามมา ก็เลยเดินดูอะไรกันนิดหน่อย บรรยากาศตอนเช้านี่มันช่างสดใสเสียจริงๆ ช่างต่างกับอากาศเมืองกรุงยังกะฟ้ากับเหว ซึ่งนอกจากจะเจอมลภาวะแล้วสถานการณ์บ้านเมืองช่วงนี้ก็เครียดชะมัด ![]() สำหรับเสม็ดช่วงเช้าๆ แบบนี้สิ่งที่คิดว่าควรทำมากที่สุดก็คือ เล่นน้ำทะเลยิ่งช่วงเช้าดูคลื่นลมที่นี่แรงซะเหลือเกิน น่าเล่นน้ำเป็นที่สุด แต่ยังลงตอนนี้ไม่ได้ต้องมีแนวร่วม คลื่นใหญ่ซะขนาดนี้ขืนเล่นคนเดียว เกิดจมน้ำขึ้นมาเพื่อนหาไม่เจอนะนี่ เดินกลับไปห้องพักดีกว่า มันต้องหาแนวร่วม ![]() พอเดินกลับมาก็จะพบว่ารีสอร์ทที่อยู่ด้านหน้าชายหาด เริ่มทำการเกลี่ยทรายให้เรียบ เพื่อเตรียมกางเก้าอี้ชายหาดแล้วล่ะ ดูแล้วก็เป็นระเบียบเรียบร้อยดีเหมือนกันนะ จากหน้าหาดเดินมาที่ห้องพักเพื่อนๆ ก็เริ่มตื่นกันแล้วล่ะ ซึ่งก็ได้เวลาทานอาหารเช้าตามที่นัดหมายไว้พอดี อาหารเช้าของรีสอร์ทที่จัดเตรียมไว้ให้ ถือว่าใช้ได้เลยนะ เพราะมีให้เลือกหลายหลายชนิดมากๆ และที่สำคัญมีออมเล็ทของโปรดของเราด้วยล่ะ ชักช้าอยู่ใยล่ะ ลงมือกันเลยดีกว่า ![]() ![]() มันต้องเริ่มจากออมเล็ทก่อนตามด้วยนมสดสักแก้ว เอ๊ะเดี๋ยวก่อนรสชาติทะแม่งทะแม่งแฮะ เพื่อนๆ ลองชิมหน่อยสิมันบูดเปล่าเนี่ย ทุกเสียงก็ยืนยันว่า "ชัวร์" ซวยอีกแล้วฉัน บูดช่วงไหนไม่บูดดันมาบูดช่วงฉันเทพอดี กรรมจริงๆ เพื่อนก็เลยเรียกพนักงานมาลองชิมดู เออดีแฮะ พนักงานที่นี่ไม่มีขอโทษเลยแฮะ เฉยๆ ซะงั้น อ่ะไม่เป็นไร มันอาจจะผิดพลาดกันได้ พอทานอาหารเช้ากันเสร็จเรียบร้อยก็จัดการหาแนวร่วม "ไปเล่นน้ำทะเลกันเถอะ" กิจกรรมช่วงเช้านี้ก็เลยแบ่งเป็นสองแบบคือ ใครอยากเล่นน้ำก็เล่นกันไป ![]() ![]() ขอบอกว่าสนุกมากเลยล่ะ เพราะคลื่นตอนเช้าแรงกว่าเมื่อวานตอนเย็นเสียอีก กระโดดทีแทบจะไม่พ้นคลื่น เพราะด้วยความที่คลื่นมีลักษณะใหญ่แล้วกว้าง ทำให้เวลากระโดดถ้าไม่กะระยะให้ดีๆ อาจะมีเซลงใต้น้ำกันบ้างล่ะ ส่วนเพื่อนอีกกลุ่มที่ไม่ลงเล่นน้ำทะเลก็นั่งพักผ่อนนอนบนเก้าอี้ชายหาดและเพ้นท์เฮนน่ากันสนุกสนาน ![]() พวกที่ลงเล่นน้ำก็เล่นกันประมาณเกือบชั่วโมงครึ่งเห็นจะได้ ก็ต้องขึ้นจากน้ำเพราะว่าเรามีหมายกำหนดการกลับเรือเที่ยวเที่ยงครึ่งล่ะ ก็รีบมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเก็บกระเป๋าเตรียมกลับบ้าน ![]() งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกลา ช่วงเวลาความสุขก็ต้องผ่านไป เสียดายที่มาแค่คืนเดียว ถ้าอยู่สักสองคืนนะแจ่มเลยล่ะ เพราะคิดว่าคงได้เดินรอบเกาะแน่ๆ สำหรับทริปนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทริปประทับใจสำหรับเราผู้ที่เพิ่งมาเยือนเสม็ดเป็นครั้งแรก ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมมาเสม็ดต้องเสร็จทุกราย? ก็เพราะว่าคนที่มาต่างก็ติดอกติดใจในธรรมชาติ น้ำทะเลใสๆ หาดทรายสวยๆ หากใครที่ได้มาสัมผัสที่แห่งนี้แล้ว รับรองว่าต้องเสร็จเสม็ดทุกรายแน่ๆ ![]() ![]() ![]() แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากไว้ก่อนกลับสำหรับเพื่อนๆ ที่มาเยือนโปรดอย่าฝากอะไรไว้นอกจากรอยเท้า ช่วยกันคนละไม้คนละมือทิ้งขยะให้เป็นที่ เพียงแค่นี้เสม็ดในความทรงจำที่แสนงดงามก็จะคงความงามไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชม เฉกเช่นเราผู้มาเยือนแล้วกลับไปด้วยความประทับใจเช่นกัน ![]() ขอบคุณธรรมชาติที่สร้างสรรค์เกาะสวยงามแห่งนี้ให้เราได้มาเยี่ยมเยือน ขอบคุณผู้ที่มาเยือนก่อนหน้านี้ที่ช่วยกันรักษาความสะอาดให้ธรรมชาติยังคงเป็นธรรมชาติตลอดมา แล้วพบกันใหม่นะ "เสม็ด" ![]() มาแว้ว มาจองที่นั่งแถวหน้า น่าไปเที่ยวจัง
โดย: Witsanuruk IP: 202.57.179.151 วันที่: 25 สิงหาคม 2551 เวลา:10:13:43 น.
เสม็ดๆๆๆๆ เสร็จทุกราย อิอิ
ชอบไปเหมือนกันค่ะ สวยๆๆ ใกล้ด้วย แต่ยังไม่เคยพักหาดทรายแก้วเลยอ่ะ โดย: TweetyFly
![]() อัตราค่าห้องเข้าไปดูในเว็บนี้เลยค่ะ
//www.saikaewbeachresort.com/ จองผ่าน internet จะได้ราคาถูกค่ะ โดย: patthanid
![]() |
บทความทั้งหมด
|