"BoydPod : BitterSweet" ... เก็บเพลงรักนี้ให้เธอ(คนฟัง)ได้เป็นของขวัญ คงมีคอเพลงไทยเพียงน้อยคนมากๆที่จะไม่รู้จัก มือวางอันดับหนึ่งนักแต่งเพลงรักแห่งสยาม และคนเขียนเพลงเพราะๆที่ขับกล่อมต่อมโรแมนติกของคนฟังให้ฟุ้งซ่านหัวใจมานานนับสิบๆปี ..."บอยด์ โกสิยพงศ์" เป็นชื่อที่ทุกคนต้องนึกออกเมื่อใช้สรรพนามเรียกเขาว่า 'เจ้าพ่อเพลงรัก' และก็คงไม่น่าจะมีคอเพลงไทยแนวอินดี้คนไหน ที่จะไม่รู้จัก "ป๊อด โมเดิร์นด๊อก" ...เจ้าพ่อเพลงร็อค อัลเทอร์เนทีฟ เมืองไทย ที่มันส์สะเนาะหู ถูกใจวัยจ๊าบ มานานนม ไม่ว่าจะ 'บุษบา' 'ติ๋ม' 'ตาสว่าง' หรือว่าเพลงช้าๆสุดเคลิ้มอย่าง 'ก่อน' เป็นอาทิ แต่ถึงเราจะรู้จักกับพี่ป๊อด ในแง่มุึมนั้นซะเป็นส่วนมาก ...หากความเป็นจริง พี่ป๊อดเองก็ยังมีอีกแง่มุมที่มีความอ่อนโยนนุ่มละมุน กรุ่นความเป็นป๊อบสตาร์อยู่ในร่างเดียวกัน ...และมุมนี้ก็เป็นอีกมุมที่เราเคยได้เห็นกันมานานนมเช่นกัน ในขณะเดียวกันก็นึกไม่ถึงโดยตลอดว่าพี่เขาจะสามารถกลืนวิญญาณร้องเพลงรักอันแสนกลมกล่อมของ พี่บอยด์ ได้เนียนซะ (ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่พี่บอยด์ไม่ค่อยจะออกตัว... ก็ยิ่งเนียนขนาดที่มีคนคิดว่า พี่ป๊อด คือ พี่บอยด์ตัวจริง ซะงั้น) มีเพลงดังๆอยู่หลายเพลงของพี่บอยด์ ตัวอย่างเช่น รักคุณเข้าแล้ว , จะเก็บเธออยู่ในใจเสมอ , เจ้าหญิง และ ใคร ...ซึ่งผ่านการขับกล่อมโดยเนื้อเสียงกระชากหัวใจของพี่ป๊อด ที่นุ่ม ลึก บาดอารมณ์ ...แตกต่างกับอีกป๊อดหนึ่ง ที่อักขระการร้องล้วนแต่ใช้พลังหมดไปกับ การกระชาก ลาก ไถ ที่ให้อารมณ์คึกบรรลัย ไม่ได้รู้สึกว่าคนๆนี้ คือคนเดียวๆกับที่เป็นเงาเสียงของเจ้าพ่อเพลงรักเลยนะนั่น และแล้ว สิ่งหนึ่งที่ผมรอคอยจะได้ยินได้ฟังอยู่ มันก็มาถึง ...เมื่อสองคนนี้ ได้ทำการรวมร่างฟิวชั่นพลังกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสร้างงานเพลงดีๆ ที่ไม่ได้มีแค่เพลงสองเพลงเป็นซิงเกิ้ลอยู่ในอัลบั้มที่มีคนอื่นร่วมร้องอีกทีหนึ่ง อย่างเช่นครั้งก่อนๆ ...ครั้งนี้ปี 2007 พี่บอยด์ และ พี่ป๊อด กลับมาพร้อมกันกับอัลบั้มที่มีแค่เขาสองคนเป็นเจ้าของ และใช้ชื่อแปะหน้าอัลบั้มอย่างเฉพาะเจาะจงว่า "BoydPod" ที่ยังพ่วงท้ายคำว่า "BitterSweet" ช่วยบ่งบอกถึงแนวทางที่คนฟังจะได้ยินกันทั้งอัลบั้ม ก็อย่างที่ชื่อมันบ่งบอก คำว่า BitterSweet ก็แปลกันตรงๆว่า ขมหวาน (แต่น่าจะเรียงให้มันฟังดูดีขึ้นนิดนึงว่า 'หวานขม') ...ซึ่งเพลงทั้ง 13 เพลง ล้วนแต่มีโทน มีทาง ที่ไม่ได้ไปไกลจากนิยามของคำว่า หวาน และ ขม ...เพลงที่ว่าหวาน ก็ว่าด้วยเรื่องความรักอันหวานชื่น รื่นรมย์แต่สิ่งดีๆ ...ขณะเพลงที่ว่าขม ก็อมไปด้วยเรื่องราวที่ไม่สมหวังปนทุกข์ใจ หรือหวนระลึกไปถึงวันวาน ที่ไม่เหมือนกับในวันนี้ และในเมื่อเพลงทั้งหมด ล้วนแต่ถือกำเนิดมาจากการจดปลายปากกา ของเจ้าพ่อเพลงรักคนเดียวคนนี้ ...ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป ว่าความหวานและขม ที่ตรงกันข้าม จะไม่กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน ...แล้วเมื่อได้เสียงร้องของเงาพี่บอยด์ มารับหน้าที่ถ่ายทอดอารมณ์ ก็เชื่อได้เลยว่า ทุึกๆเพลง ไม่ว่าจะหวานหรือขม มันก็ให้อารมณ์ที่อิน ได้เท่าๆกัน "รักคุณเข้าอีกแล้ว"... ซิงเกิ้ลแรกที่ถูกปล่อยออกมาตามคลื่นวิทยุ และก็ใช้เวลาเพียงไม่นาน เข้าไปนั่งในหัวใจคนฟังได้อย่างรวดเร็ว แถมยังอินกันใหญ่กลายเป็นเพลงบอกรักยอดนิยมในตอนนี้ (ซึ่งผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้สิ่อสิ่งนี้กะเพื่อนสาวคนสนิท) ...ถ้าคุณยังคงอิน กับ รักคุณเข้าแล้ว มาจนถึงวันนี้ ก็รับประกันได้ว่า ภาคต่อของเพลงนั้นที่กลายมาเป็นเพลงนี้ จะไม่มีอันผิดหวัง และยิ่งจะทำให้คุณรู้สึก'รักคุณ(แฟนของคุณๆ)เข้าอีกแล้ว' อย่างแน่นอน... "ที่วันนี้"... อีกหนึ่งซิงเกิ้ล เนื้อหาดีๆ ที่เป็นได้ทั้งเพลงที่ช่วยปลอบโยนและยังให้กำลังใจกับคนที่เรารัก ให้ลืมวันเมื่อวานที่ผิดพลาด แล้วเดินก้าวต่อไปสู่วันนี้ที่ดีกว่า "?" ... เห็นชื่อเพลงตอนแรกก็งงๆ ว่าอะไรกันนี่ ...พอได้ฟังตัวเพลงก็รู้ความหมายของมันเลย และที่แปลกใจนิดๆก็ตรงที่พี่บอยด์ผู้นับถือคริสตศาสนา แต่เขียนเพลงนี้ในแง่มุมของพุทธศาสนาได้อย่างลึกซึ้ง ว่าด้วยการหาความหมายของทางสายกลาง (แต่จะว่าไปหลักการของทางสายกลาง ก็มีอยู่ในทุกศาสนาแหละนะ...ขึ้นอยู่กับการตีความ และดึงแนวคิดของแต่ละศาสนามาใช้) "ช่วงเวลาที่ดีที่สุด"... เนื้อก็สวย ความหมายก็โดน ดนตรีก็เพราะ อารมณ์ก็อิน แถมยังได้คุณ วินัย พันธุรักษ์ (อดีต The Impossible) มาร่วม Featuring ด้วย ...ถ้าผมจะบอกว่านี่เป็นเพลงที่ดีที่สุดของอัลบั้มนี้ (ในความคิดของผม) คุณเห็นด้วยกับผมมั้ยครับ ? "น้องเอ๋ย"... "หากว่าเมื่อวาน ทำวันนี้เจ็บ ...หากว่าเมื่อวาน ทำวันนี้เศร้า เสียใจ ...แล้วเธอนั้นยังจะยอมหรือเปล่า ถ้าวันนี้จะทำพรุ่งนี้ให้หมดความหมาย" จะฟังเอาแค่เนื้อส่วนนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องฟังเต็มเพลงเพื่อจะได้รู้ถึงสิ่งที่เพลงอยากจะบอกเล่า ...แค่หนึ่งท่อนฮุคสั้นๆ แต่มันแฝงพลังเอาไว้ข้างในนั้นได้อย่างลึกล้ำ ท่านปราชญ์ผู้ใดที่ว่าเก่งสรรหาคำมาพูดเกินมนุษย์จะเข้าใจ เจอคนเขียนเพลงคนนี้เข้าไปมีหงายเงิบกันเลยทีเดียว "คำไม่กี่คำ"... เพลงแอบรัก ครึ้มอกครึ้มใจ ในสไตล์พี่บอยด์ โก... ที่ยังคงความเจี๋ยมเจี้ยม ถ่อมเนื้อถ่อมตัว ทั้งๆที่ความเป็นจริงความรักมันคลั่งจนจะล้นออกจากอก ...อย่างหนึ่งที่ผมติดใจเป็นพิเศษในเพลงนี้ ก็คือ การเล่นคำ "เธอเองจะได้ยินอะไรในใจฉันไหม..." ที่ทำให้ต้องไปนึกถึงเพลงๆหนึ่งที่ใช้ประโยคๆนี้ตั้งเป็นชื่อเพลงพอดีพอดิบเลย "เพื่อน"... ฟังเพลงนี้แล้วก็ทำให้ต้องหวลคิดถึงคนกลุ่มหนึ่ง ที่คอยอยู่เป็นเบื้องหลังแบ๊คอัพให้เราในทุกๆเรื่อง นอกเหนือไปจากพ่อและแม่ ก็มีกลุ่มคนที่เรียกว่า เพื่อน นี่แหละ ที่พร้อมจะสุขจะทุกข์กับเราได้หมดในทุกๆสิ่งทุึกๆอย่าง ...สิ่งหนึ่งที่ผมชอบในเพลงนี้ ก็คือ เสียงร้องหอนคอรัสแบบโอเปร่า ที่เหมือนจะเป็นส่วนโดดทางอารมณ์ แต่กลับช่วยเสริมความขลังของเพลงได้อย่างเพราะพิลึก "บทเรียน"... อีกหนึ่งเพลงเสริมสร้างกำลังใจ ที่เหมือนจะเป็นภาคต่อของ 'Live & Learn' ...หรือว่าอาจจะเรียกว่าเป็นการตีความจาก 'Live & Learn' อีกรอบหนึ่ง มาเขียนเป็นเพลงบทใหม่ ที่จะมาช่วยฟื้นพลังให้เราได้อยู่และเรียนรู้ เพื่อพร้อมจะกลับมาสู้อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกหลายๆครั้ง "เรื่องบ้าๆ"... เพลงนี้มีดีมาก จนต้องขอ Highly Recommended ให้กับเหล่า(ผู้คนที่คิดว่าตัวเองเป็น)ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองในวันนี้ ...ผู้ที่ติดยึด กับลาภ ยศ เงินทอง ชื่อเสียงจอมปลอมไร้ค่า และไม่รู้เลยว่า เมื่อถึงวันที่หมดลมหายใจ ท่านๆก็ไม่สามารถเอาอะไรติดยึดไปด้วยได้เลยแม้สักสตางค์เดียว ...ส่วนตัวผม ฟังเพลงนี้ทีไร แล้วก็ได้แต่นึกถึงคนอยู่ไกล ใครบางคน คนๆนั้นทุึกๆทีเลยสิ "Yoo Hoo"... คำทักทายจากใครคนหนึ่ง ที่ต้องการจะอยู่เคียงข้าง ช่วยดามความช้ำ งัดแงะประตูหัวใจให้รู้่ว่ายังมีใครคนหนึ่งที่รักเธอ ...พี่บอยด์ สามารถกับ การสาธยายเอาคำทักทายเพียงคำๆเดียว มาเขียนเป็นเรื่องเป็นราวได้โดนอย่างมากมาย "คอย"... เนื้อหาเพลงฟังดูเพราะอย่างเลื่อนลอย สมกับเนื้อความที่ต้องการสื่อสาร ...แต่สิ่งที่ตรึงกับหูได้ยิ่งกว่า ก็คือ การทำเสียงประกอบเพลง(ในช่วงแรก) ดำเนินเรื่องราว จากเปิดประตู เดินเข้าบ้าน และจบลงตรงที่การนั่งบนเก้าอี้ ...สื่อสารกันชิลๆ บอกเล่ากันง่ายๆ แต่ได้ใจความที่โดนเน้นๆ "สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน"... ในเมื่อเพลง เพื่อน ฟังแล้วนึกถึง เพื่อน ...แล้วเพลงนี้ ก็ถึงทีที่จะทำให้เราได้นึกถึง อีกหนึ่งแบ๊คอัพคนสำคัญในชีวิตเรา ที่มีความหมายและคุณค่ามากไปกว่าเพื่อน นั่นคือ พ่อและแม่ของเรา ที่ไม่เคยเปลี่ยนในความรักไม่ว่าจะวันไหนๆ แม้กับกระทั่งในวันนี้ที่ร่างกายความแข็งแรงจะแปลงเปลี่ยนลดลงไปเรื่อยๆก็ตามทีเถอะ ...อีกหนึ่งเพลงที่เพราะจับจิตเสียจนอยากชวนให้น้ำตาซึม ไม่แพ้ไปกับ ช่วงเวลาที่ดีที่สุด "หวานขม"... เพลงสุดท้ายที่เป็นการสรุปความหมายของชื่ออัลบั้ม และเป็นการปิดอัลบั้มได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเพลงเนื้อหาคมคาย บวกเสียงคารมคนร้องอันนุ่มนวล ที่ปนความหวานในอารมณ์ ขมในความรู้สึก ผสมกันได้ลงตัว และพอเพียงจะทำให้อีกหนึ่งความเรียบง่าย กลายเป็นเพลงดีๆ เนื้อหาโดนๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวความรักผ่านเพลงๆนี้เพียงแค่เพลงเดียวก็เกินพอ ผมกล้าจะการันตี ยินยอมจะรับประกันอย่างจริงใจ ได้ว่า "BoydPod : BitterSweet" ...เป็น 13 งานเพลงในอีก 1 อัลบั้มที่ดีที่สุดในรอบปีที่กำลังจะผ่านพ้นไป ...ถ้าคุณรักเพลงพี่บอยด์ ชอบความเทพของพี่ป๊อด และอยากจะฟังเพลงที่แฝงความเพราะ ปนความซึ้ง รวมกันได้เคมีทางหูที่ลงตัว ...ซื้ออัลบั้มนี้จะได้คุ้มค่า ด้วยความสุข...ทั้งน้ำตา
โดย: shiro (lalintipn ) วันที่: 29 ธันวาคม 2550 เวลา:9:31:19 น.
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด จริงๆค่ะ
ดีที่สุดจริงๆ โดย: หญิง IP: 202.91.19.204 วันที่: 31 ธันวาคม 2550 เวลา:19:41:30 น.
+ แวะมาฟังเพลงเพราะๆ และขอบคุณสำหรับการรีวิวอัลบั้มดีๆ เช่นนี้ ที่มาออกเอาช่วงใกล้สิ้นปีพอดีครับ ... เด๋วว่างๆ ต้องไปหาสอยมาฟังบ้างซะแล้น
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 2 มกราคม 2551 เวลา:15:27:53 น.
น่าฟังนุกดี
โดย: Boy IP: 125.26.122.231 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:52:55 น.
เพราะมากครับขอบคุณมากครับ
โดย: Black_Devil IP: 125.27.92.207 วันที่: 18 มีนาคม 2551 เวลา:11:42:48 น.
|
บทความทั้งหมด
|