🚗 วัดสามัคคีธรรม (ดงตาล) (หลวงพ่อผาด) ลพบุรี🚗
 




ที่อยู่: 305 หมู่ 1 ตำบล ท่าวุ้ง อำเภอท่าวุ้ง ลพบุรี 15150




สามัคคีธรรม (ดงตาล) ต.หัวสำโรง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี
เปิดเผยว่า ทราบจากคำบอกเล่าของ นายตี๋ ชิงช่วง อายุ ๗๕ ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน
และผู้อาวุโสอีกหลายท่านวัดดงตาล เดิมเป็นวัดร้าง มาบูรณะขึ้นใหม่ประมาณสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ต่อมาหมอผาด เกษตรง เจ้าของร้านขายยาพระอาทิตย์เวชโอสถ บางลำพู กรุงเทพฯ ได้มาเป็นผู้นำในการสร้าง อุโบสถและหล่อ พระประธานขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๗ แล้วหมอผาดซึ่งมีความรู้ทางวิชาอาคม ในการหุงน้ำมันมนต์ และปรุงยาโบราณ มีความคุ้นเคยกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นอย่างดียิ่ง จึงได้ขอให้หลวงพ่อปาน ช่วยสร้างพระเครื่องสำหรับบรรจุกรุในอุโบสถตามธรรมเนียม แห่งการสร้าง อุโบสถมาแต่โบราณ ซึ่งหลวงพ่อปานมีเมตตาสร้างเป็นพระพิมพ์ ประทับสิงห์และเสือ เนื้อดินเผาขนาดเล็ก ตัดขอบ เจาะบรรจุผงวิเศษ และปลุกเสกมอบให้หมอผาด ต่อมาหมอผาด ได้บวชเป็นพระภิกษุ เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านมาก เพราะหมอผาดเป็นพระหมอที่เก่ง ในการรักษาโรคกระดูก โรคเส้น ฯลฯ ด้วยน้ำมนต์และมีดโต้ศักดิ์สิทธิ์สำหรับรักษาโรคประจำตัว พระผาด จึงได้ฉายาว่า หลวงพ่อผาด มีดโต้



จึงทราบจากคำบอกเล่าของ นายตี๋ ชิงช่วง อายุ ๗๕ ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน และผู้อาวุโสประจำหมู่บ้านอีกหลายท่านว่า วัดดงตาล เดิมเป็นวัดร้าง มาบูรณะขึ้นใหม่ประมาณสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์


ต่อมาหมอผาด เกษตรง เจ้าของร้านขายยาพระอาทิตย์เวชโอสถ บางลำพู กรุงเทพฯ ได้มาเป็นผู้นำในการสร้าง อุโบสถและหล่อ พระประธานขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๗
แล้วหมอผาดซึ่งมีความรู้ทางวิชาอาคม ในการหุงน้ำมันมนต์ และปรุงยาโบราณ มีความคุ้นเคยกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นอย่างดียิ่ง
บางข้อมูลก็ว่าหมอผาดได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อปาน จึงได้ขอให้หลวงพ่อปาน ช่วยสร้างพระเครื่องสำหรับบรรจุกรุในอุโบสถตามธรรมเนียม แห่งการสร้าง อุโบสถมาแต่โบราณ
ซึ่งหลวงพ่อปานมีเมตตาสร้างเป็นพระพิมพ์ ประทับสิงห์และเสือซึ่งมีความแตกต่างจากบรรดาสัตว์ ๖ ประเภท(ทรงไก่ ครุฑ หนุมาน ปลา เม่นและนก)
ที่หลวงพ่อปานท่านสร้างที่วัดบางนมโคก็เนื่องจากหมอผาดท่านเกิดปี ขาล สัญญลักษณ์คือเสือ ซึ่งเป็นสัตว์ที่แสดงถึงพลังอำนาจเป็นที่น่าเกรงขาม
ส่วนทรงสิงห์คงเป็นด้วยอุปเท่ห์ด้านความมีอำนาจวาสนา ความเป็นผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ เป็นเจ้าป่าเจ้าแห่งสัตว์ทั้งปวง ลักษณะของพระเป็นเนื้อดินเผาขนาดเล็ก
ตัดขอบ เจาะบรรจุผงวิเศษ และปลุกเสกมอบให้หมอผาด นำใส่กล่องไม้ ลงเรือล่องมาตามแม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยา มาขึ้นที่คลองหลังวัดดงตาล
ต่อมาหมอผาด ได้บวชเป็นพระภิกษุ เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านมาก เพราะหมอผาดเป็นพระหมอที่เก่ง ในการรักษาโรคกระดูก โรคเส้น ฯลฯ ด้วยน้ำมนต์
และมีดโต้ศักดิ์สิทธิ์สำหรับรักษาโรคประจำตัว พระผาด จึงได้ฉายาว่า หลวงพ่อผาด มีดโต้ เมื่อท่านสร้างอุโบสถวัดดงตาลแล้วเสร็จ



จึงได้นำพระพิมพ์ประทับหลังสิงห์และเสือ บรรจุไว้บนฐานชุกชี แล้วอัญเชิญพระประธาน ซึ่งหล่อด้วยโลหะขึ้นประดิษฐานครอบไว้
จึงก่ออิฐถือปูนเป็นบัวคว่ำบัวหงายเปิดไว้ เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๔๗๔ ภายหลัง หลวงพ่อผาด วีรุตตโม ได้กลับไปจำพรรษาที่วัดในกรุงเทพฯ และมรณภาพ เมื่อปี ๒๕๐๐ ชาวดงตาล
และทายาทห้างขายยาพระอาทิตย์เวชโอสถ และพระจันทร์เวชโอสถ จึงได้หล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริง พร้อมมีดโต้ประจำตัว
ไว้สักการบูชาประจำวัดดงตาล เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๐๐ จนเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านมาถึงปัจจุบัน

ประวัติโดยละเอียดของหลวงพ่อผาดนั้นไม่ได้มีการบันทึกไว้ชัดเจนนักเนื่องจาก
ท่านเป็นพระที่สมถะ และวัดดงตาลก็เป็นเพียงวัดเล็กๆในจังหวัดลพบุรี ทราบแต่เพียงว่าท่านเป็นพระมีเมตตาสูงเป็นพระหมอที่มีความรู้ความสามารถมาก มีวิชาอาคมแก่กล้า
ท่านเป็นพระเกจิ ที่มีวิชาความรู้ด้านแพทย์แผนโบราณเป็นอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าท่านสามารถรักษาคนง่อยเปลี้ยเสียขาให้กลับมาเดินเหินได้เป็นปกติ เลยทีเดียว
ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยเมื่อท่านสำเร็จวิชาที่วัดบางนมโค แล้วต่อมาจึงมาร่ำเรียนที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า



เมื่อสำเร็จวิชาจึงกลับมายังวัดดงตาลวัดบ้านเกิดเพื่อพัฒนาให้มีความเจริญสม ฐานะแก่ศาสนสถาน เจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม บอกด้วยว่า
นับเป็นเวลาเกือบ ๗๐ ปี ที่พระเครื่องชุดนี้ได้บรรจุอยู่ในองค์พระประธาน ในอุโบสถวัดดงตาล ซึ่งพระสงฆ์ได้ทำวัตรสวดมนต์
และทำสังฆกรรมในอุโบสถมาเป็นเวลาอันยาวนาน พระกรุหลวงพ่อผาดชุดนี้เริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นก็เมื่อครั้งที่ทางวัด มีการบูรณะอุโบสถวัดดงตาลในปี๒๕๔๓ซึ่งใช้งบประมาณ ๓,๐๐๐,๐๐๐ ล้านบาท
ทางวัดดงตาลจึงนำพระเครื่องที่ขุดเจาะได้มอบให้แก่เจ้าภาพผู้ร่วมทอดผ้าป่า สมทบทุนบูรณะอุโบสถและเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้บูชา
และจะนำพระพิมพ์ส่วนที่เหลือจากการมอบให้เจ้าภาพผ้าป่าและเปิดให้เช่าบูชา แล้ว บรรจุกรุใต้ฐานพระประธานเป็นพุทธบูชาอีกครั้งหนึ่งหลังจากทำการบูรณะ
ปฏิสังขรณ์เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในครั้งนั้นเมื่อเรื่องราวการเปิดให้ร่วมกันทำบุญและเช่าบูชาพระหลวงพ่อ ผาดแพร่กระจายออกไปได้มีผู้สนใจจัดตั้งกองผ้าป่าและร่วมเช่าพระที่วัดเป็น จำนวนมาก



ทำให้ได้เงินปัจจัยเพื่อบูรณะโบสถ์ครั้งนั้นสูงถึง ๔,๕oo,ooo บาท จนทำให้สามารถบูรณะพระอุโบสถสำเร็สเสร็จสิ้นลงได้อย่างรวดเร็วและยังเหลือ เงินอีกจำนวนหนึ่งไปสร้างเป็นมณฑปได้อีกหนึ่งหลัง
ทั้งนี้ด้วยความศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อผาดและความต้องการพระเครื่องที่สร้าง โดยหลวงพ่อปานโดยแท้ พระเครื่องชุดหลวงพ่อผาดได้ดำเนินการจัดสร้างและปลุกเสกขึ้นที่วัดบางนมโค อยุธยา
โดยหลวงพ่อปานซึ่งคาดว่าน่าจะมีจำนวนสร้างประมาณ ๘๔,ooo องค์โดยถือเอาตามตามจำนวนพระธรรมขันธ์



ลักษณะของเนื้อดินเป็นดินขุยปูมีเม็ดแร่กระจายอยู่ทั้งองค์เหมือนกับพระ เครื่องของหลวงพ่อปานพิมพ์อื่นๆไม่มีผิดเพี้ยน
เพียงแต่น่าจะมีความแตกต่างในกรรมวิธีการเผาเท่านั้นโดยจะสังเกตได้ว่าพระ ของหลวงพ่อปานส่วนใหญ่จะมีวรรณะเป็นสีดินหม้อใหม่หรือสีแดงดินเผา
เนื่องมาจากการเผาพระนั้นใชปี๊ปสังกะสีทำการบรรจุพระพิมพ์แล้วสุมไฟเผา ด้วยลักษณะของโลหะสังกะสีที่นำความร้อนได้ดี ความร้อนจึงแพร่กะจายไปทั่วปี๊ปทำให้พระที่เผาสุกในเวลาใกล้เคียงกัน



สีจึงออกมาใกล้เคียงกันเป็นส่วนใหญ่ ส่วนพระชุดหลวงพ่อผาดจะมีความแตกต่างกันคือมีวรรณะของสีพระหลากหลายมีทั้งสี ขาวนวล สีพิกุล สีแดงอิฐ สีเขียว สีเทาและดำ
ซึ่งสันนิษฐานว่าเมื่อกดพระพิมพ์เสร็จแล้วคงจะนำไปบรรจุลงในไหหรือโอ่งดิน เผาแล้วนำไปสุมไฟเช่นเดียวกับการเผาพระสกุลลำพูนแบบโบราณกาล
ด้วยลักษณะของภาชนะดินเผาซึ่งนำความร้อนได้ช้าและส่วนล่างที่ถูกไฟสุมพระจะ สุกก่อนพระจะมีวรรณะออกดำ



ส่วนด้านบนพระจะสุกทีหลังจึงมีวรรณะออกขาวนวล ถ้าจะพูดกันถึงพุทธคุณในพระเครื่องหลวงพ่อผาด วัดดงตาล เป็นที่กล่าวขานกันมานานแล้วว่าไม่แตกต่างจากพระเครื่องของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคแต่อย่างใดคือ
เด่นมากในด้านเมตตามหานิยมและค้าขายเป็นเลิศอีกทั้งยังใช้พระเครื่องของท่าน ทำน้ำมนต์รักษาโรคได้สารพัดทีเดียวเพราะท่านเองก็เป็นพระหมอที่มีวิชาติดตัว
เป็นที่โด่งดังมากทีเดียวบางท่านที่เคยบูชามาแล้วกล่าวกันว่ายังเด่นในด้าน มหาอำนาจอีกด้วย
ซึ่งอาจเป็นด้วยอุปเท่ห์แห่งพิมพ์พระทรงสัตว์ที่เป็นเสือและสิงห์ก็เป็นได้ พระรุ่นนี้เป็นที่เคารพศรัทธาเป็นอย่างยิ่งของคนในพื้นที่มาช้านาน



เพื่อนๆท่านผ่านมาเชิญแวะเข้าไปเที่ยวชมวัดเก่าแก่อีกวัดที่ลพบุรีค่ะ

ขอบคุณค่ะ

.

 
















Create Date : 08 มีนาคม 2563
Last Update : 11 เมษายน 2564 14:00:14 น.
Counter : 2889 Pageviews.

16 comments
ข้าวหมูแดงสุณี ตลาดพลู & ข้าวหมูแดงศิริพร โภชนา เสาชิงช้า & ขนมครกไข่ เจริญกรุง103 peaceplay
(24 เม.ย. 2567 06:22:08 น.)
สงกรานต์หรรษา จันทราน็อคเทิร์น
(18 เม.ย. 2567 11:24:41 น.)
The Proud Exclusive Hotel นครปฐม ที่พักทันสมัยใจกลางเมือง แมวเซาผู้น่าสงสาร
(17 เม.ย. 2567 09:22:45 น.)
พาเที่ยววัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ขอพรวัดเก่าใจกลางเมืองรับปีใหม่ไทย นายแว่นขยันเที่ยว
(15 เม.ย. 2567 13:57:04 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณnewyorknurse, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณnonnoiGiwGiw, คุณเกศสุริยง, คุณTui Laksi, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณ**mp5**, คุณเริงฤดีนะ, คุณสองแผ่นดิน, คุณSai Eeuu, คุณKavanich96, คุณทนายอ้วน

  


อรุณสวัสดิ์ครับ

หลวงพ่อในสมัยก่อน
มักจะมีความรู้เรื่องยาและการรักษาโรคด้วยนะครับ
เรียกว่ารักษาโรคทั้งทางกายและทางใจด้วยเลย

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มีนาคม 2563 เวลา:6:13:59 น.
  
สวัสดียามเช้าค่ะคุณโอ เขียนได้ละเอียดอ่านเพลินเลยค่ะ
โดย: เกศสุริยง วันที่: 8 มีนาคม 2563 เวลา:7:57:03 น.
  
ว้าวๆ คุณโอเล่ พาเที่ยวไหว้พระตามวัดในลพบุรี
หลายที่เลย...สาธุค่ะ
โดย: Tui Laksi วันที่: 8 มีนาคม 2563 เวลา:8:25:04 น.
  
นั่นน่ะสิครับ
เดินตามไปด้วย
บางทีก็ไม่ได้หมายความว่าต้องคิดเหมือนกันนะครับ 555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มีนาคม 2563 เวลา:10:27:43 น.
  

ตามมาเที่ยววัดด้วยค่ะ
โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 8 มีนาคม 2563 เวลา:10:46:55 น.
  

วันนี้ข้อมูลวัดอัดแน่นเลยครับพี่โอเล่
ผมเพิ่งเคยได้ยินชื่อหลวงพ่อผาด วัดดงตาล
รู้จักแต่หลวงพ่อปาน กับ หลวงปู่ศุข

ได้รู้วิธีทำพระเครื่องด้วย
เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพี่โอเล่เป็นเซียนพระนี่นา
อธิบายได้อย่างละเอียดชัดเจน

ผมก็มีเพื่อนสมัยเรียนเป็นเซียนพระอยู่คนนึง
เวลาสงสัยเรื่องเกี่ยวกับพระเครื่องต้องไปถามมัน
แต่ยังไม่เคยคุยถึงความรู้ในกรรมวิธีการผลิตพระเครื่องครับ

โดย: สีเมจิก (สมาชิกหมายเลข 5106714 ) วันที่: 8 มีนาคม 2563 เวลา:11:01:06 น.
  
ส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 8 มีนาคม 2563 เวลา:14:04:40 น.
  

ว่าไปพี่อ้อก้เป็นสายวัดเหมือนกันน

ชอบๆๆ
ชอบไปเที่ยววัดค่ะ
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 8 มีนาคม 2563 เวลา:14:36:18 น.
  
น้องอ่ะ.. ชอบรู้สึกว่า..
เวลาพระอาทิตย์ตกดินบนภูเขามันไวมาก
ไวกว่าตกลงทะเลค่ะ
ไม่รุ้ว่าเปนเพราะมันอยู่สูงกว่ากรือเปล่า..

แต่ตอนตกมันไวกว้าตอนขึ้นจริงๆ​ แถมรอดูบางทีฟ้าปิดอิ๊กกก
โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 8 มีนาคม 2563 เวลา:17:27:32 น.
  
ตามมาเที่ยว ไหว้พระ กราบหลวงพ่อผาดด้วยครับ

โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 8 มีนาคม 2563 เวลา:21:40:42 น.
  
สาธุ
โดย: Sai Eeuu วันที่: 9 มีนาคม 2563 เวลา:0:52:21 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 9 มีนาคม 2563 เวลา:3:19:38 น.
  
วันนี้โหวตไม่ได้อ่ะครับ โหวตบล๊อกก่อนหน้าไปแล้ว
พรุ่งนี้ผมมาใหม่นะครับ

แวะมาเที่ยวลพบุรีอีกรอบ ^^
โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 10 มีนาคม 2563 เวลา:22:14:03 น.
  
https://www.bloggang.com/data/o/oley/picture/1583598553.jpg

รูปนี้น่าจะเป็นหอระฆังเก่าหรือเปล่าครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 15 มีนาคม 2563 เวลา:17:01:39 น.
  
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 15 มีนาคม 2563 เวลา:17:02:14 น.
  
ใช่ค่ะ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 15 มีนาคม 2563 เวลา:19:30:33 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Oley.BlogGang.com

โอน่าจอมซ่าส์
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]

บทความทั้งหมด