นักดมกลิ่นกับนักปรุงกลิ่น ... จริงๆแล้วมันคนละอาชีพเดียวกันนะครับ พักนี้ได้รับโทรศัพท์ติดต่อจากรายการทีวีต่างๆเพื่อขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับอาชีพนักปรุงกลิ่น lll นักดมกลิ่น lll บุคคลที่จะมาทำหน้าที่ประเมินได้จะต้องมีประสาทการรับกลิ่นที่ดีและเสถียร โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายแต่ผู้หญิงจะมีข้อจำกัดในเรื่องประจำเดือน เนื่องจากเมื่อระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง จะส่งผลต่อการทำงานของสารสื่อประสาทและการหลั่งของเหลวในจมูก ทำให้การรับรู้กลิ่นผิดออกไป ... แต่บางครั้งก็เป็นประโยชน์นะครับเพราะช่วงนี้ของผู้หญิง จะทำให้จมูกไวขึ้น 10 เท่าเลยทีเดียว คุณผู้ชายที่หนีภรรยาไปเที่ยว ระวังถูกจับได้เพราะผิดกลิ่นเข้าบ้านนะครับ อาสาสมัครนักดมกลิ่นในประเทศไทย ทำงานโดยไร้ค่าจ้างครับ และต้องผ่านการทดสอบการดมกลิ่นก่อน สรุปคือนักดมกลิ่นทำหน้าที่ดมกลิ่น และประเมินผลการทดสอบเชิงคุณภาพเท่านั้นครับ ... งานหลักมีเพียงอย่างเดียวคือ "ดมกลิ่น" lll นักปรุงกลิ่น lll อีกสายหนึ่งจะเน้นไปทางด้านศิลปะมากกว่า นั่นก็คือ Creative Perfumer ... ในสายนี้บางทีก็เป็นเรื่องของพรสวรรค์นะครับ เพราะต้องใช้ทั้งทักษะความจำที่สูงมาก และความคิดสร้างสรรค์ไม่แพ้กัน ต้องจับเอาความลับของธรรมชาติให้เจอ ว่ากลิ่นอะไรผสมกับกลิ่นอะไรแล้วได้เป็นกลิ่นอะไร กลิ่นหอมๆของดอกไม้บางกลิ่น มีสารหอมหลักๆที่เป็นองค์ประกอบนับสิบๆตัว นักปรุงน้ำหอมต้องคัดเลือกสารหอมไม่กี่กลิ่นจากทั้งหมดสามถึงสี่พันกลิ่นให้ถูก จึงจะปรุงกลิ่นขึ้นมาได้น้ำหอมที่เราฉีดๆกันบางกลิ่นมีสารหอมผสมกันมากกว่า 60 ชนิดเลยนะครับ ... ถ้าจะนับรวมสารหอมที่อยู่ในน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติด้วยแล้วมันก็อาจจะถึงร้อยหรือแม้กระทั่งพันชนิดได้เลยครับ อย่างไรก็ตามนักปรุงน้ำหอมทั้งสองสายนี้ จะต้องรู้จักสารหอมและกลิ่นเป็นพื้นฐาน นักปรุงน้ำหอมต้องดมกลิ่นต่างๆและบันทึกไว้ในความทรงจำสามารถดึงออกมาใช้งานได้ทันที รวมถึงต้องสามารถรวมกลิ่นคร่าวๆในหัวก่อนจะลงมือทำได้อีกด้วย จึงไม่แปลกที่นักปรุงกลิ่นจะมีความเป็นเลิศด้านการดมกลิ่นด้วยในตัวและมักจะเป็นเลิศกว่านักดมกลิ่นด้วย เราจะเรียกบุคคลประเภทนี้ว่า The nose ครับ ... หากเก่งมากๆก็จะเป็น Golden nose ครับ เรื่องของการดมกลิ่นแล้วจำได้หมายรู้นั้น นักปรุงกลิ่นคนนั้นจะต้องเคยดมกลิ่นเหล่านั้นมาก่อน ... โดยเฉพาะกลิ่นที่สามารถนำมาปรุงน้ำหอมได้ นักปรุงกลิ่นแทบทุกคนจะจำได้ดีเลยล่ะครับ ... บางคนนั้นสามารถแยกได้แม้กระทั่ง กลิ่นกลิ่นนี้มีสารอะไรเป็นองค์ประกอบครับ อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นปาฏิหาริย์นะครับ จริงๆแล้วมันไม่ยากเลยแต่ต้องมีใจรักและต้องใช้เวลา เพียงแต่ประเทศไทยเรา จนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่เคยมีใครทำอาชีพนี้หรือสนใจอาชีพนี้จนหันมาศึกษากันสักคนเท่านั้นเอง อย่างมากก็แค่อาสาสมัครนักดมกลิ่นครับ น่าเสียดายนะครับ .. ทั้งๆที่คนไทยเราเองผ่านกลิ่นอะไรๆมากกว่าคนชนชาติอื่นๆด้วยซ้ำ หัวสมองของคนไทยมีช่องบันทึกกลิ่นไม่แพ้ชาติใดในโลกหรอก แต่วิชาชีพเหล่านี้ไม่ถูกสนับสนุนโดยมหาวิทยาลัย สถาบันหรือรัฐบาลเลยครับ ก่อนจะออกเรื่องการเมืองมากกว่านี้ ... ผมว่ากลับมาที่เรื่องของเราต่อดีกว่า ส่วนตัวผมเองเป็น Perfumer ครับ ... ยังคงเป็นมือสมัครเล่นที่เน้นไปทางด้าน Creative มากกว่า Technical เรื่องดมๆเนี่ย บางทีก็ถูกคนเถียงด้วยอย่างไม่เป็นเรื่องหลายครั้งแล้วครับ เอาล่ะครับ ... หอมปากหอมคอกันเท่านี้ก็แล้วกัน หากท่านใดต้องการดมกลิ่นหอมๆ www.KenGSoHigH.com |
บทความทั้งหมด
|