วันนี้จะมาสาธยายหลักของการ "จินตนาการ" ให้ฟัง ผ่านกลิ่นของช่วงเวลา "คริสมาสต์"



ในชีวิตของผม มันเฉียดได้ฉลองคริสมาสต์ในหลายๆประเทศ .. แต่มันก็ได้แต่เพียงเฉียด 
ครั้งหนึ่งผมเกือบได้อยู่อังกฤษยาวจนถึงคริสมาสต์และปีใหม่แต่ก็ต้องกลับไทยก่อนเพราะถูกบริษัทเอเย่นต์ส่งนักเรียนไทยไปอังกฤษร่วมมือกับเอเย่นต์ทางฝั่งอังกฤษโกง (นี่ขนาด British council รับรองแล้วนะ) อีกครั้งหนึ่งก็ตอนเป็นสจ๊วต ต้องไปประจำการอยู่ที่ซาอุฯ ตอนนั้นบินไป Casablanca ประเทศ Morocco เกือบได้ฉลองแล้ว แต่ดันมีแต่ผู้โดยสารอิสลาม บรรยากาศเลยเหงาๆ กลับที่ฐานบัญชาการเลยได้ไปฉลองที่ดาดฟ้าโรงแรมแทน แล้วก็ยังอีกหลายๆครั้งที่ผมเกือบจะได้มีบรรยากาศคริสมาสต์ที่ต่างประเทศแต่ก็ได้แต่ "เฉียด"



     หากถามว่าทำไมผมถึงชอบช่วงคริสมาสต์ อย่างแรกก็คงเป็นอากาศหนาวๆเย็นๆ พร้อมเสียงเพลงประสานเสียงแบบในโบสถ์คริสต์ อาจจะเป็นเพราะผมเรียนโรงเรียนคริสต์ตั้งแต่เด็ก (ทิวไผ่งาม) จริงๆก็กึ่งคริสต์น่ะนะครับ ทุกปีจะมีงานคริสต์มาส ผมเลยซึมซับบรรยากาศของงานมาเต็มที่ อีกอย่างนอกเรื่องอากาศและเสียง แล้วก็คือ "กลิ่น" ครับ ... ในทุกช่วงของคริสต์มาส มันมีกลิ่นเฉพาะตัวอยู่ ไม่ใช่กลิ่นของบรรยากาศ แต่มันเป็นกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของงานนี้จริงๆเลย ไม่แน่ใจว่าท่านผู้อ่านเคยสังเกตกันหรือไม่ครับ



     ลองนึกกันดูสิครับ อาหารอะไรที่นิยมทำกันในเทศกาลคริสมาสต์บ้าง และกลิ่นอะไรที่หากเราอยู่ในห้องของครอบครัวชาวตะวันตกแล้วเราจะได้กลิ่น อย่างแรกเลยอาหารที่นิยมทำกันมาในเทศกาลคริสมาสต์ก็มี ไก่งวง เนื้ออบซอสส์แครนเบอร์รี่ จำพวกเบเกอรี่ก็มีคุ้กกี้ขิง (Gingerbread) และเดี๋ยวนี้ก็คงมีพวกคัพเค้กอีกอย่าง



     ที่สาธยายข้อมูลให้ฟัง ไม่ใช่เพื่อกล่าวไปลอยๆนะ เพียงแต่อยากจะให้ทุกท่านเข้าใจขั้นตอนการทำงานของการปรุงกลิ่นน้ำหอมครับ ... การจะปรุงกลิ่นน้ำหอมที่หอมๆเป็นเอกลักษณ์นั้น สิ่งสำคัญที่สุดเลยไม่ได้อยู่ที่ฝีมือเลย ครูของผมท่านหนึ่งเคยเขียนไว้ในหนังสือของเขาว่า "อันความรู้เรียนทันกันหมด" สิ่งสำคัญจริงๆของการปรุงกลิ่นเอกลักษณ์คือ "จินตนาการ" และจินตนาการเกิดขึ้นได้จากเรื่องราวที่เราต้องเห็นอย่างชัดเจนยามเมื่อหลับตาลงครับ



     การปรุงกลิ่นเอกลักษณ์ก็คือการจับเอาลักษณะเด่นของกลิ่นที่ปรากฏในจินตนาการออกมาทำให้เป็นรูปธรรม ... ท่านผู้อ่านลองใช้ข้อมูลของผมข้างต้นแล้วลองนึกดู (อย่าเพิ่งอ่านพารากราฟต่อไปนะ) ว่าท่านจะนึกถึงกลิ่นหลักๆเหมือนอย่างที่ผมนึกหรือเปล่า ผมนำข้อมูลดิบมาเขียนซ้ำให้อีกที "ไก่งวง เนื้ออบซอสส์แครนเบอร์รี่ มีคุ้กกี้ขิง (Gingerbread) คัพเค้ก"



     เอาล่ะครับ ต่อไปนี้คือเฉลยจากมืออาชีพ(แบบสมัครเล่น .. เอ๋งงๆ)อย่างผม 

ผมนึกถึงกลิ่น "โรสแมรี่ ลูกจันทน์ โป๊ยกั๊ก พริกไท และควันจากไม้ฟืน" จากไก่งวงอบ 

ผมนึกถึงกลิ่น "แครนเบอร์รี่และเบอร์รี่อื่นๆ" จากเนื้ออบซอสส์ 

ผมนึกถึงกลิ่น "ขิง วานิลลา ลูกจันทน์เทศ ซินนามอน" จากคุกกี้ขิง 

และผมนึกถึงกลิ่น "วานิลลา นม สตรอเบอร์รี่ อาจจะมีกลิ่นลูกเกดด้วย" ในคัพเค้ก

อันที่จริงผมจินตนาการถึงกลิ่น "ลูกอม" เวลาที่ซานตาครอสแจกเด็กๆด้วย มันเป็นกลิ่นของพวกผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ผสมกับกลิ่นของชะเอมที่หอมนุ่มชุ่มคอ



     เห็นมั๊ยครั้ง เราสามารถกำหนดคอนเซ็ปต์แปลกๆ เกิดคำอธิบายได้แล้ว ... ถ้าท่านไม่ได้ต้องการเป็นนักปรุงน้ำหอม แต่อาจจะทำงานในบริษัทน้ำหอมเช่นอยู่ฝ่าน Fragrance evaluater ท่านก็จะเลือกน้ำหอมที่เข้ากับบรรยากาศส่งให้ลูกค้าทดลองได้แบบมีสไตล์ ไม่ซ้ำกัน และสร้างบุคลิกความเป็นผู้เชี่ยวชาญทางกลิ่นได้อีกด้วย



     ปีนี้ ผมออกน้ำหอมสำหรับคริสมาสต์ไม่ทัน ทั้งๆที่ทำเสร็จแล้ว เพราะได้รับอานิสงส์มาจากเหตุการอุทกภัยทำให้ระบบ Logistic และ Supply chain มีปัญหาทั้งระบบ ... กลิ่นที่ผมเลือกมาทำในปีนี้คือกลิ่นของ Gingerbread และกลิ่นของลูกอมของซานตา เมื่อผมได้จินตนาการที่จะมากรอบคอนเซ็ปต์ได้แล้ว ขั้นต่อไปคือการเลือกแม่กลิ่นที่จะนำมาปรุง ในขั้นตอนนี้ผมยังสามารถเล่นกับจินตนาการของผมต่อได้อีก ... คงไม่มีใครที่อยากสเปรย์กลิ่นขนมปังหรือสเปรย์กลิ่นไก่งวง ถูกมั๊ยครับ ความสามารถของนักปรุงน้ำหอมถูกดึงมาใช้ตอนนี้เอง นั่นก็คือการคงคอนเซ็ปต์ไว้ แต่ปรับกลิ่นให้เหมาะกับการเป็นน้ำหอมมากขึ้น



     กลิ่น Gingerbread ผมมองแล้วว่ากลิ่นขิงและซินนามอนมันรุนแรงเกินไป ผมเลือกปรับสัดส่วนให้มีกลิ่นของวานิลลาเป็นกลิ่นนำ ผสมกลิ่นจำพวกน้ำตาลไหม่ที่ได้จากสารกลุ่ม Maltol ลงไป เติมกลิ่นกลุ่ม spice เล็กน้อย ผมเลือกใช้กลิ่นที่ออกแนวเผ็ดปร่าๆอย่างกลิ่นของลูกจันทน์เทศจากสาร 4-methyl-8-methylenetricyclo[3.3.1.1(3,7)]decan-2-ol และแน่นอนผมไม่ลืมเติมกลิ่นดอกไม้เบาๆลงไปคลุมโทนให้น้ำหอมกลิ่นนี้ดูนุ่มนวลและมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

กลิ่นโดยรวมออกมาคล้ายๆกลิ่นลูกนัทที่ถูกอบอยู่ในเตาผิงไฟกลางบ้าน กลิ่นหอมอุ่นๆและกรุ่นๆโชยออกมาสร้างบรรยากาศที่ร่าเริงในครอบครัว 



     อีกกลิ่นที่ผมทำรอเอาไว้ปีนี้ คาดว่าจะเป็นน้ำหอมขายดีตลอดกาล เนื่องจากเป็นกลิ่นโทนที่หญิงสาววัยกระเตาะใช้แล้วจะดูบอบบางและน่ารักสดใส มีความเซ็กซี่แบบจิ้นๆเป็นทีเด็ด กลิ่นนี้ผมเลือกเอากลิ่นลูกอมที่ซานตาแจกมาเป็นแกนหลักในการพัฒนา โดยไม่ลืมกลิ่นไอความเป็นคริสมาสต์ด้วยการนำกลิ่นนำของผลเบอร์รี่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นราสเบอร์รี่ (ใช้สารหอม Raspberry Ketone) กลิ่นของสตรอเบอรี่ (ethyl 2,3-epoxy-2-methyl-3-phenyl propionate) ทำให้กลิ่นไม่หวานฉ่ำเกินไปด้วย 3,5,5-Trimethylhexyl acetate ซึ่งให้กลิ่นจางๆและคอยดึงโมเลกุลอื่นพร้อมกับขัดขวางการรับรู้กลิ่นหวานของมนุษย์ ทำให้กลิ่นนี้หอมลมโชยคล้ายๆกับกลิ่นคัพเค้กผสมกับกลิ่นน้ำเชื่อมที่หอมตามลมออกมาจากครัวหลังบ้าน



     ถึงจะขายไม่ทันคริสมาสต์ก็ไม่เป็นไร ... เพราะน้ำหอมเอกลักษณ์เหล่านี้ มันสามารถใช้ได้ทุกโอกาสอยู่แล้ว

และวันนี้ผมก็ได้อธิบายหลักการสร้างสรรค์กลิ่นในแบบฉบับของผมไปเรียบร้อยแล้วนะครับ จากที่ผ่านมา ค่อนข้างได้รับการติดต่อเป็นอย่างดีในเรื่องคอร์สการปรุงกลิ่น ผมไปโพสต์ไว้ในเฟซบุค //www.facebook.com/pages/KenGSoHigH/213220938707762 และมีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก

คาดว่าปีหน้าฟ้าดีๆไม่มีน้ำท่วม คงได้พบกันครับ



สั่งซื้อสินค้าได้ตามปกติที่ //www.KenGSoHigH.com นะครับ  






Free TextEditor



Create Date : 15 ธันวาคม 2554
Last Update : 15 ธันวาคม 2554 10:38:03 น.
Counter : 1111 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Kengsohigh.BlogGang.com

Thai-SkY
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]

บทความทั้งหมด