ทำไมน้ำหอมถึงมีกลิ่นแอลกอฮอล์ ... นี่ไม่ใช่ข้อแก้ตัวจากผู้ผลิต (ที่ดี) แต่อาจจะเป็นข้อแก้ตัวของผู้ผลิตที่ผลิตไปวันๆ











หลังจากออกบูธแล้วได้รับความสำเร็จถล่มทลายในครั้งที่ผ่านมา

ก็ถึงเวลามาเช็ค Feed back จากลูกค้าที่มีต่อน้ำหอมที่ซื้อจากผมไป



ส่วนใหญ่จะเป็นอีเมล์ที่ติดต่อเข้ามาสอบถามว่าจะสั่งซื้อได้อย่างไร (เนื่องจากตอนนี้ผมปิดเว็บไซต์ส่วนสั่งซื้อเนื่องจากมีออร์เดอร์สั่งผลิต

จำนวนมากจนทำไม่ทัน) และอีเมล์สอบถามว่าเมื่อไรจะมีการเปิดสอนปรุงน้ำหอมอีก (เร็วๆนี้ล่ะครับ)



จริงๆไม่มีลูกค้าถามเรื่องการได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากน้ำหอมของผมเลย แต่ว่าผมนึกขึ้นได้ว่ามีลูกค้าหน้างานท่านหนึ่ง (เพียงท่านเดียว)

ที่บอกว่าน้ำหอมมีกลิ่นแอลกอฮอล์ ... 



ตามจริงแล้วไม่แปลกครับที่น้ำหอมจะมีกลิ่นแอลกอฮอล์ เพราะส่วนผสมหลักๆนั้นมีแอลกอฮอล์ (ในแบรนด์ของผมใช้ Alcohol ~ 70% vol)

แต่น้ำหอมที่คุณภาพดีมากๆจะได้กลิ่นแอลกอฮอล์เพียงจางๆเท่านั้น เนื่องจากผู้ผลิตจะใช้แอลกอฮอล์ Perfumer Grade มาเป็นส่วนผสม

แอลกอฮอล์ชนิดนี้จะผ่านการกลั่นอย่างต่ำถึง 3 ครั้ง เพื่อสกัดเอาน้ำมันมลทินทิ้งไป 



น้ำมันมลทินเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นสารกลุ่ม Aldehyde (แอลดีไฮด์) ซึ่งเกิดจากปฏิกริยาของแอลกอฮอล์กับอากาศเรียกว่าปฏิกริยาออกซิเดชัน

ปฏิกริยายอดฮิตที่ใครๆที่ตามอ่านบล็อกของผมคงรู้จัก เพราะผมพูดถึงบ่อยมาก

นอกจาก Aldehyde แล้วยังมีสารกลุ่ม Ketone (Ketone) และกรดอินทรีย์บางส่วนด้วย ทั้งหมดนี้จะเป็นเพียงสารมลทินโมเลกุลเล็กๆ

จึงระเหยง่ายและระเหยออกมาพร้อมกันกับแอลกอฮอล์ ทำให้แอลกอฮอล์มีกลิ่นแปร่งๆ เปรี้ยวๆ หรือไม่ก็กลิ่นแบบสารเคมีหากจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ



เหตุผลเดียวกันนี้จึงนำไปใช้อธิบายเรื่องหลักการเก็บสุราด้วยเช่นกันว่า สุราดีๆเขาให้ปิดขวดแน่นๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศ บางยี่ห้อเขาใส่ลิ้นเทที่คอขวดมาให้ด้วยเลย รวมถึงต้องเก็บให้ห่างความร้อนและแสงแดด เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ก่อให้เกิดปฏิกริยาออกซิเดชันได้

(แต่ไม่เคยมีใครแนะนำให้แช่ตู้เย็น ... มีแต่พี่ไทยเรานี่แหละที่ปลูกฝังความเชื่อผิดๆกันว่าให้เก็บน้ำหอมในตู้เย็น)



กลับมาเรื่องของผมต่อ ... เมื่อผมพิจารณาแล้วว่า แอลกอฮอล์ที่ผมใช้ก็เป็นเกรด Perfumer แม้แต่สารผสมหลายๆตัว ผมยังเลือก Perfumer grade 

ซึ่งทั้งหายากและราคาแพง ก็ยังอุตสาห์ส่งอีเมล์และนำเข้ามาใช้เองคนเดียว รวมถึงการผลิตที่เราใช้ระบบสุญญากาศเกือบทั้งกระบวนการ

จึงเป็นไปไม่ได้ที่น้ำหอมจะมีกลิ่นแอลกอฮอล์ที่รุนแรงจนรู้สึกได้



ประเด็นต่อมาคือ จากประสบการณ์การขายน้ำหอมที่ผ่านมา ทำให้เห็นความหลากหลายของการตีความกลิ่นจากลูกค้าชนิดที่ว่า "เหนือจินตนาการ" ของผม

ผู้ซึ่งมีสมองสุดแฟนตาซี ... กลิ่นโทนเปลือกไม้ และโทนผลไม้ที่มีส่วนผสมของอัลมอนด์กับเชอร์รี่ จะเป็นโทนกลิ่นที่ลูกค้าบางท่านตีความเป็นกลิ่นแอลกอฮอล์ เนื่องจากมีกลิ่นที่หอมเปรี้ยว และสะอาดสดชื่น กลิ่นของมันหากดมผ่านๆก็คงคล้ายๆแอลกอฮอล์อยู่ ซึ่งเท่าที่อ่านดูจากเว็บบอร์ดวิจารณ์น้ำหอมต่างประเทศ ก็พบปรากฏการณ์เช่นนี้เหมือนกัน



สารจำพวก Benzaldehyde หรือ Terpineol จะเป็นคีย์เวอร์ดหลักให้เกิดปรากฏการณ์นี้



ดังนั้นต่อไปหากท่านต้องไปดมน้ำหอมที่มีส่วนผสมของ 

Bergamot, Almond, Pine needle oil, Guaic wood, Agarwood, Cherry, Lavender (บางสายพันธุ์), และเปลือกไม้ต่างๆ

หากได้กลิ่นคล้ายๆแอลกอฮอล์ต้องมาพิจารณาต่อว่าเป็นกลิ่นอะไรกันนะครับ



ปล. การเกิดปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดในทุกคน ดังนั้นไม่ต้องสงสัยนะครับว่าทำไมน้ำหอมยังใช้กลิ่นเหล่านี้เป็นวัตถุดิบอยู่



คลิก Like ให้กับ KenGSoHigH ได้โดยพิมพ์ KenGSoHigH ในช่องค้นหาในหน้า Facebook นะคร้าบบ ^^

//www.facebook.com/pages/KenGSoHigH/213220938707762








Free TextEditor



Create Date : 23 กันยายน 2554
Last Update : 23 กันยายน 2554 16:29:13 น.
Counter : 2780 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Kengsohigh.BlogGang.com

Thai-SkY
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]

บทความทั้งหมด