[Life &Travel #32] ... เดินอย่างกลมกลืนที่ "สุโขทัย" (คัดพิเศษ อ.คีรีมาศ,กงไกรลาศ) ...... ![]() ![]() สวัสดีครับ วันนี้มาพาไปเที่ยวแบบสบายๆ ชมวิว ชิลๆไปกับบรรยากาศสบายๆของชุมชนเล็กๆในจังหวัดสุโขทัยครับ ซึ่งผมได้มีโอกาสไปเที่ยวกับโครงการของ ททท สุโขทัยครับ ไม่ได้ไปสุโขทัยมานานเป็นโอกาสดีที่ได้ไปรื้นฟื้นความทรงจำเก่าๆ ผมจัดรูทง่ายๆ ครับ เหมาะกับหลายคนที่ไม่มีเวลาเที่ยวมากนั่นคือเมืองเก่าและอำเภอใกล้ๆอย่าง อ.คีรีมาศ และ อ.กงไกรลาศ ซึ่งทั้งสองอำเภอก็มีจุดเด่นให้ได้แวะไปเที่ยวแบบสนุกๆได้ครับ ตามชมกันเรื่อยๆครับ รูปกระทู้นี้ถ่ายด้วย Canon 5D3 ,EF24LII, SM 85F1.4 ภาพบุคคลบางส่วนใช้แฟลช Yongnuo568EX + Trigger YN622C , No PS ทุกรูป เช่นเคย สำหรับท่านที่ชอบผลงานสามารถแวะไปพูดคุยหรือติดต่อผมได้ตามช่องทางที่ถนัดเลย .... //www.facebook.com/thesixthfloorgallery //500px.com/theSixthFloor //instagram.com/thesixthfloor ![]() ![]() เดี๋ยวนี้ไปสุโขทัยง่ายกว่าที่คิดครับ บินตรงจาก กทม ด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์สได้เลย มีสองไฟล์ทเช้าเย็นทุกวันครับ ใช้เวลาบินราวหนึ่งชมนิดเท่านั้น สนามบินของสุโขทัยก็สร้างโดยยางกอกนี่แหละครับ ถือว่าสร้างเซอไพรซ์ให้ผมไม่น้อยครับ เพราะมีฟาร์มม้าลายอยู่ติดกับสนามบินเลย เดินมานึกว่าอยู่ในสวนสัตว์ ![]() เรื่องขลุกขลักนิดนึงสำหรับนักเดินทางแบบแบกแพ็กถ้าจะมาเที่ยวสุโขทัยคือระบบรถขนส่งมวลชนจากสนามบินจะไม่ค่อยดีมากนักครับ จำเป็นจะต้องเช่ารถเพื่อออกไปเที่ยวต่อเอง ตรงทางออกจะมีเคาเตอร์รถเช่าอยู่ครับมีอยู่เจ้าเดียว ราคามาตรฐานทั้งรถเก๋งและรถตู้พร้อมคนขับครับ หรือใครจะ นั่งแบบจอยทริปไปหลายๆคนในราคาประหยัดเข้าตัวเมืองก็พร้อมให้บริการ เป็นผู้ให้บริการที่มีพนักงานพูดจาและให้ข้อมูลดีน่ะครับ สามารถใช้บริการได้เลย ![]() ![]() ผมเดินทางมาไฟล์ทเช้าครับ จะมาถึงสุโขทัยประมาณแปดโมงเช้า ก็สามารถที่ยวต่อได้เลยครับ ผมขอเริ่มที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยครับ ช่วงนี้เปิดเทอมแล้วแถมมาวันธรรมดาเลยสงบและไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ ค่าเข้ายี่สิบบาท ถ้าเอารถเข้าด้วยห็เพิ่มอีกห้าสิบบาทครับ อย่าลืมหยิบแผนที่ของภายในอุทยานติดมืออมาด้วยครับ จะได้วางแผนการเดินทางภายในอุทยานได้ ![]() อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยก็เป็นอีกอุทยานของไทยที่ได้ขึ้นเป็นมรดกโลกครับ การดูแลและจัดการต่างๆภายในอุทยานเลยทำได้ค่อนข้างดีและมีการดูแลพื้นที่เป็นอย่างดี ![]() เมื่อเข้ามาจุดแรกที่ทุกคนจะต้องแวะเยี่ยมชมนั่นคือ วัดมหาธาตุครับ มีจุดเด่นอยู่ที่ตัวองค์พระด้านหน้าและเสาหินตั้งตระหง่านอยู่ ร่องรอยอดีตที่แสนงดงามครับ ![]() จริงๆก็มีบริการจักรยานให้ปั่นกันกินลมชมวิว ปั่นไปแวะจอดชมได้สะดวกเช่นกันครับ ![]() ภาพรอบๆภายในวัดมหาธาตุครับ ... ปรับ WB โทนอุ่นใส่เข้ามาพร้อมจูนสีใน PictureStyle เพิ่มขีดนึงครับ ![]() ![]() ถัดจากวัดมหาธาตุไปไม่ไกลจะเป็นวัดศรีสวายซึ่งค่อนข้างจะสะดุดตาในศิลปะการออกแบบมากๆครับ เดิมเป็นเทวสถานในศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู ลักษณะเป็นปรางค์สามยอดแบบขอม มีคูน้ำล้อมรอบปรางค์สามองค์ โบราณสถานดังกล่าวนี้มีที่มาจากทรงปราสาทแบบขอม แต่ได้รับการดัดแปลงแตกต่างจากต้นแบบ เช่นส่วนประดับของปราสาทขอมที่เรียกว่า บันแถลง กลายเป็นรูปกลีบขนุน และปูนปั้นประดับกลีบขนุนเป็นรูปครุฑยุดนาคและเทวดา ปรางค์วัดศรีสวายจึงแตกต่างจากปรางค์สมัยกรุงศรีอยุธยาซึ่งมีต้นแบบจาก ปรางค์ในศิลปะขอม และคล้ายคลึงแบบขอมมากกว่าปรางค์ในแบบของช่างสุโขทัย (ข้อมูลจาก Wikipedia) ![]() ถ้าดูในแผนที่ของอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยแห่งนี้ ก็จะมีสามสี่จุใหญ่ๆให้ต้องแวะครับ ถัดจากสองจุดแรกที่ผมแนะนำไปก็จะเป็น วัดสระศรีครับ ... ![]() ![]() วัดสระศรีเป็นอีกวัดที่งดงามครับ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ไม่พลาดจะแวะเข้าชมกัน .... เดินข้ามสะพานกันไปชมความงดงามกันได้เลย วัดสระศรีตั้งอยู่กลางสระน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า ตระพังตระกวน สิ่งสำคัญของวัดประกอบด้วย เจดีย์ทรงระฆัง วิหารและโบสถ์กลางน้ำ ด้านหน้าวิหารขนาดใหญ่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย มีเจดีย์ขนาดเล็ก ศิลปศรีวิชัยผสมลังกา ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ มีซุ้มพระพุทธรูป 4 ทิศ ด้านหน้ามีเกาะกลางน้ำขนาดย่อมเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถขนาดเล็ก วัดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นจุดที่มีทัศนียภาพที่สวยงามมากๆ ครับ มองไปรอบๆเหมือนเป็นทะเลสาบขนาดย่อมเลย ![]() ![]() ![]() ถ้ามีเวลาไม่เยอะมากและเริ่มจะเหนื่อยกับการเดินชม ยังไงผมก็อยากจะให้ส่งท้ายอีกสักวัดสวยๆ นั่นคือวัดศรีชุม ซึ่งตั้งอยู่ในด้านนอกกำแพงเมืองสุโขทัย วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ซึ่งมีนามว่า "พระอจนะ" องค์พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในมณฑป ตัวองค์พระนั้นยิ่งใหญ่และงดงามมากๆ ครับ .. ![]() วัดศรีชุมมีการวางผังที่แปลกกว่าวัดทั่วไป ที่ใช้มณฑปที่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประดิษฐานเป็นประธานของวัดเปรียบเป็นอุเทสิกเจดีย์ และมีพระวิหารต่อออกมาแบบที่เป็นที่นิยมในสมัยนั้น นักโบราณคดีให้ความเห็นว่ามณฑปพระอจนะน่าจะสร้างโดยมีคติเป็นพระคันธกุฎี คือที่ประทับของพระพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาล (ข้อมูลจาก Wikipedia) ![]() ![]() โดยรวมจะเห็นว่าโบราณสถานต่างๆในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยนั้นได้รับการบูรณะอย่างสวยงามควรค่าแก่การมาสัมผัสมากๆครับ มีโอกาสลองแวะไปเที่ยวชมกันดู หากท้องเริ่มหิวแล้วผมแนะนำให้ขับรถออกจากอุทยานวิ่งไปทางถนนสายเมืองเก่า-เมืองสุโขทัย แวะไปชิมร้านขนมจีนบ้านนา ร้านดังของย่านนี้ครับ มีขนมจีนรสชาติเยี่ยมและก๊วยเตี๋ยวต้มยำสูตรแบบฉบับสุโขทัย อร่อยจนหมดจานโดยไม่รู้ตัวเลยละ ![]() ผมสะพายกล้องก้าวลงมาจากรถ แว่วเสียงเพลงลูกทุ่งจากคลื่นวิทยุก็ดังลอยมา แดดร้อนๆในวันธรรมดากลางเดือนพฤษภาคมยังคงร้อนระอุ ผมกำลังยืนอยู่ในอำเภอคีรีมาศ อ.คีรีมาศห่างจากตรงเมืองเก่าราวๆ สิบกว่ากิโลเมตรครับ มีถนนตัดผ่านซึ่งอยู่ทางไป จ.กำแพงเพชร ผมมาแวะเที่ยวที่อำเภอนี้เพราะจะมาดูชุมชนเครื่องปั้นดินเผาซึ่งถือเป็นหน้าเป็นตาของคีรีมาศ เราจะเห็นร้านขายเครื่องปั้นดินเผาเรียงรายอยู่ตลอดสองข้างทางเป็นระยะๆ สามารถแวะชมการผลิตหรือแวะซื้อเป็นของที่ระลึกกลับบ้านได้ครับ ![]() ดินที่เค้าเอามาทำนั้นจะถูกเข้าเครื่องบดออกมาเป็นแท่งดินที่พร้อมจะปั้นรูปทรง หลังจากนั้นจะเริ่มปั้นออกมาเป็นทรงครับ ถือเป็นกระบวนการแรกของการทำเครื่องปั้นเลย สำหรับ "บ่าว" หนุ่มปักษ์ใต้ที่ระหกระเหินมาไกลถึงสุโขทัยดูจะมีความชำนาญในการปั้นมากๆ แม้เขาจะพึ่งมาทำงานอยู่ตรงนี้ได้เพียงสามปี การได้นั่งปั้นหม้ออยู่ทุกวัน ดูจะช่วยสั่งสมประสบการณ์จนใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก้อนดินที่ดูจะไม่น่าสนใจ กลับกลายออกมาเป็นรูปทรงที่มีมูลค่าขึ้นมาทันที บ่าวยิ้มให้ผมและดูจะภูมิใจกับผลงานศิลปะที่เค้าบรรจงพิถีพิถันทำออกมา ในกาทำงานวันนึงๆ บ่าวปั้นหม้อราวๆ 200 ใบได้ . เยอะไม่ใช่เล่นนะ ![]() หลังจาก "บ่าว" ปั้นขึ้นโครงหม้อออกมาก็จะส่งต่อให้กับเพื่อนร่วมงานที่นั่งอยุ่ข้างๆ ตรงนี้จะมีหน้าที่สำหรับลบเหลี่ยม ลบมุมให้เนียนมากขึ้น . จากก้อนดินสี่เหลี่ยมตอนนี้ถูกจับมาตกแต่งจนเริ่มจะเห็นความสวยงามแล้ว ![]() "ป้านิ่ม" ยิ้มไปพลางก็ขัดหม้อไปพลาง .. ในมือของป้านิ้มถือถุงก็อบแก็บอยู่ เป็นอะไรที่ง่ายเกินกว่าที่คิดไว้สำหรับการขัดผิว หม้อให้เนียนยิ่งขึ้นด้วยถุงก็อบแก็บเช่นนี้ .. ![]() ป้านิ่มดูแลขั้นตอนสุดท้ายของหม้อก่อนจะจัดเรียงอาไว้เพื่อรอที่จะเข้าเตาอบ โดยปกติจะใช้เวลาเผาหนึ่งคืน ก็จะได้เครื่องปั้นดินเผาที่สีสันสวยงามแข็งแรงพร้อมจำหน่ายต่อไป . ![]() ผมเดินไปมาอยู่ในโรงงานเล็กๆ แห่งนี้อยู่พักใหญ่ ... ก่อนจะฉากหลบมาอย่างเงียบๆ และขึ้นรถคันเดิมออกไป ![]() ทิ้งให้เสียงเพลงลูกทุ่งจากลำโพงเก่าๆ ที่แขวนอยู่ตรงเสา .... ยังขับกล่อมแบบที่มันทำหน้าที่เป็นประจำ และกลุ่มคนปั้นหม้อ..... ก็ยังคงทำงานแบบที่พวกเค้าคุ้นเคยต่อไป ![]() กงไกรลาศ นาฬิกาหน้าปัดเก่าที่ยังหมุนช้า บ้านกงไกรลาศเต็มไปด้วยชีวิตที่ยังคงเดินไปอย่างช้าแต่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา รอยยิ้มส่งมาให้คนแปลกหน้าอย่างผมเยอะมาก เยอะจนแปลกใจ เหมือนเราเป็นลูกเป็นหลานกันในระยะเวลาสั้นๆ . . จะเป็นไรไปถ้าจะเสียเวลาสักสามสี่ชั่วโมงเพื่อมาเดินเล่นใน "บ้านกง" แห่งนี้ ![]() ชุมชนที่นี่มีการรวมกลุ่มกันอย่างเหหนียวแน่น เป็นชุมชนที่มีการรวมกลุ่มกันเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวิถีท้องถิ่นครับ เราสามารถติดต่อกับ อบต ได้ ถ้ากันเป็นหมู่คณะ แล้วเค้าจะจัดทริปพาเยี่ยมชมในอำเภอครับ ... โดยทางเทศบาลจะมีเจ้าหน้าที่พาเราไปดูโรงงานผลิต ขนม สินค้าโอท็อบ พาชมวัด ล่องเรือชมวิถีชุมชนรอบเกาะกง พาไปดูตลาดค้าปลา ใช้เวลาประมาณสามชั่วโมงได้ครับ แหมนี่ถ้ามีโฮมสเตย์ด้วยจะครบเลย ผมเริ่มการสัมผัสชุมชนกงไกรลาสด้วยการมาที่ โรงงานผลิตขนมของป้ามาลีครับ .. ขนมหลักที่ผลิตในอำเภอกงไกรลาศคือ ขนมผิง ครับ ..หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมที่นี่ขนมผิงดัง .. ก็เป็นสูตรที่ติดมากับชาวบ้านที่อพยพมาจากพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เช่น ปทุมธานี อยุธยา ลพบุรี ล่องเรือย้ายถิ่นฐานมาสมัยก่อนนะครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวจีนทั้งจีนแต้จิ๋ว จีนไหหลำ สูตรขนมก็ลอยติดมือมาพร้อมกันด้วย .. และแน่นอนเมื่อการค้าขายทางเรือเติบโตขึ้นก็พลอยทำให้ชุมชนริมน้ำของบ้านกงไกรลาศก็เติบโตตามไปด้วย ... ![]() สำหรับขนมที่บ้านกง จะมีขนมทองม้วน และขนมผิงที่โด่งดังครับ ... เมื่อขนมอร่อย คนก็อยากกินเยอะ ... สำหรับบ้านของป้ามาลี จะทำเป็นอุตสาหกรรมเล็กๆ ใช้คนงานเยอะและอบขนมผิงด้วยเครื่องจักรครับ ...ในวันนึงๆผลิตขนมผิงออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมหาศาล .. ใช้เวลาอบในตู้ไม่ถึงสิบนาที ขนมผิงไซส์พอดีคำก็พร้อมกิน .. ![]() ขนมผิงอีกเจ้าที่ดัง จนใครไปใครมาก็ต้องแวะไปซื้อแวะไปชมนั่นคือ ขนมผิงแม่ติ๋ม ... ความพิเศษของร้านแม่ติ๋มคือ ยังคงใช้เตาถ่านโบราณในการผิงขนมครับ ดังนั้นก็จะมีกลิ่นและรสชาติแบบเดิมๆ สูตรโบราณ ว่าง่ายๆ ก็คือ อร่อยมากกก นั่นเองครับ ... ทันใดที่ขนมผิงเด้งเข้าปากเชื่อว่าจะไม่หยุดแค่ชิ้นเดียวแน่ๆ ![]() ส่วนผสมของขนมผิงนั้นจะประกอบด้วย แป้งมัน น้ำตาล กะทิ และไข่เป็ด ซึ่งเคล็ดลับอยู่ที่การใช้ไข่เป็ดซึ่งช่วยทำให้รสชาติดีกว่าไข่ไก่ หลังจากคลุกส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ก็ปั้นเป็นเส้นยาวๆ และตัดออกมาก้อนเล็กๆ วางเรียงรายอย่างน่ารักบนถาดแล้วอบให้กรอบอร่อย .. ![]() ![]() ร้านขนมผิงแม่ติ๋มนั้น ได้ชื่อว่า "ขนมผิงแง้มประตูขาย" ... ก็ด้วยเป็นบ้านเล็กๆ ที่หน้าบ้านเป็นประตูไม้บานเฟี้ยมแบบเก่าอยู่ จะขายก็คอยเปิดปิดประตูแบบในภาพนี่แหละครับ ... ร้านนี้เปิดขายมาไม่ต่ำกว่าสามสิบปีแล้วครับ ทุกคนยอมรับในรสชาติที่คงเส้นคงวา อร่อยล้ำข้ามยุคข้ามสมัย คำพูดที่ว่า เชื่อขนมกิน .. อาจจะมาจากเรื่องทำนองนี้ก็เป็นได้น่ะ ![]() ![]() หลังจากซื้อขนมผิงติดไม้ติดมือแล้ว ไม่ไกลจากบ้านแม่ติ๋ม เราจะไปเที่ยวกันต่อที่ วัดกงไกรลาศ หรือ วัดหลวงพ่อโตวิหารลอย ครับ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนในบ้านกงให้ความเคารพ เหตุที่เรียกกันว่า วิหารลอย นั้นเนื่องมาจาก มีเรื่องเล่ากันต่อๆมาว่า ในสมัยก่อนที่น้ำท่วมนั้น พื้นที่รอบๆแม่น้ำนั้นถูกท่วมไปจนหมด แต่น้ำนั้นกลับไม่ท่วมตัววิหารซึ่งอยู่ห่างจากแม่น้ำไม่ไกลเหมือนกัน ชาวบ้านเชื่อกันว่าใต้วิหารนั้นมีเรือที่คอยพยุงวิหารเอาไว้ครับ ... ![]() บริเวณนี้เหมือนจะให้อารมณ์ชุมชนเก่าแก่ของบ้านกงครับ มีสะพานที่ข้ามไปยังเกาะกงซึ่งเป็นเกาะกลางน้ำของชาวบ้านที่อพยพมาอยู่ตั้งแต่นมนาน แต่ก่อนบนเกาะกงนี้ เคยเป็นที่ตั้งที่ว่าการอำเภอแห่งแรกของอำเภอกงไกรลาศ โดยมีพระยากงไกรลาศ เป็นนายอำเภอคนแรก ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นคนดั้งเดิม และตอนนี้ก็ถือเป็นรุ่นสองรุ่นสามกันแล้ว มีอาชีพหลักทางด้านการหาปลาในแม่น้ำยม ![]() ชาวบ้านบอกว่าปกติหน้าน้ำหลากในเดือน กันยายน ถึง พฤศจิกายนนั้น เป็นช่วงที่น้ำเยอะมาก น้ำท่วมทุกปี และเป็นช่วงไฮซีซั่นของการจับปลาเลย ปลาเยอะมากจับกันไม่หวาดไม่ไหว ... ดูระดับคราบน้ำที่ติดอยู่บนข้างบ้านสิครับ บอกถึงระดับความสูงของน้ำ ในฤดูน้ำหลากได้เป็นอย่างดี ... ![]() ช่วงหน้าแล้ง ชาวบ้านก็หลบร้อนกันอยู่ใต้ถุน หาอะไรทำเล็กๆน้อยๆไปเรื่อยๆครับ ต้องบอกว่าชุมชน บ้านกง เป็นชุมชนที่น่ารักมาก ผู้คนใจดี และอยู่กันอย่างสงบๆ ... เสียดายผมมาหน้าแล้งไม่งั้นน่าจะได้ภาพการหาปลาในแม่น้ำมาฝากกันอย่างจุใจแน่ๆ ![]() ถัดจากเกาะกงเราเดินลัดเลาะไปทางริมแม่น้ำอีกฝั่ง .. จะเป็นส่วนของตลาดปลาของบ้านกงครับ ... ถือเป็นตลาดค้าปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในสุโขทัยครับ ที่นี่เป็นแหล่งส่งปลาที่กระจายออกไปหลายจังหวัด รวมถึงบางตลาดในกรุงเทพด้วยนะครับ ![]() เราจะได้เห็นการรับซื้อขายปลากันตลอดวัน .. ได้เห็นการตัดหัวปลาเพื่อเตรียมส่งต่อไปแปรรูปปลาไม่ว่าจะเป็นทำน้ำปลา ทำปลาร้า คุณแม่บ้านที่ชอบกินปลา สามารถแวะซื้อเป็นของฝากกลับบ้านได้เลย ... ![]() ![]() ในภาพเป็นป้าน้อยครับ .. หนึ่งในเจ้าของร้านขายปลาร้านดังของที่นี่ ยิ้มเก่งและใจดีมากๆ หยิบปลากรายมาให้ผมดู ..ผมก็พึ่งได้เห็นปลากรายแบบตัวๆครั้งแรกเหมือนกัน ปกติกินแบบเนื้อๆเอามาทำพวกทอดมันปลากราย อยู่ในรูปแบบที่แปรรูปแล้ว สำหรับชุมชนบ้านกงนั้นเค้าจะมีการจัดเป็นถนนคนเดินเล็กๆ ด้วยนะครับ โดยใช้ชื่อว่า ตลาดริมยม ๒๔๓๗ ซึ่งจะจัดงานกันตรงหัวโค้ง หน้าศาลเจ้าพ่อดาบทอง โดยจะจัดงานในทุกวันเสาร์แรกของเดือน งานเริ่มตั้งแต่เย็นๆไปจนค่ำๆเลยครับ ใครผ่านไปช่วงเวลานั้นก็ลองแวะไปเที่ยวกันดูครับ ..... ![]() ![]() หยิบรูปของที่พักในทริปนี้มาให้ดูครับ ผมพักที่ Legendha Resort เลเจนด้า รีสอร์ทครับ อยู่ใกล้กับอุทยานประวัติศาสร์สุโขทัยมากๆครับ ... ห้องนอนต่างๆหลับสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกมีครบ ไวไฟก็มี บรรยากาศดีครับ ช่วงมื้อค่ำจะมีการแสดงของเด็กๆในพื้นที่ด้วย ก็จะมีการรำต่างๆ แขกต่างชาติเยอะเหมือนกันที่นี่ มื้อค่ำมีจัดเป็นไลน์บัฟเฟต์ด้วยน่ะครับ หัวละสองร้อยกว่าบาท ดูการแสดงตอนทุ่มครึ่งด้วยถือว่าคุ้มค่าดี เสียอย่างเดียว รู้สึกรสชาติอาหารจะธรรมดามากไปหน่อยครับ ... แต่โดยรวมถือว่ามาตรฐานของรีสอร์ทนั้นทำได้ดีกับจังหวัดเล็กๆครับ ![]() ![]() เป็นยังไงบ้างครับกับทริปสบายๆที่ผมหยิบมาฝากในวันนี้ ... สุโขทัยเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีดีอยู่ในตัวครับ เดินทางมาเที่ยวก็สะดวกด้วยไฟล์ทบินของบางกอกแอร์เวย์สบินตรงทุกวัน ถ้าใครยังไม่เคยมาอุทยานสุโขทัยก็น่าจะมาสัมผัสกันสักครั้งน่ะครับ รอบๆเมืองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้ไปสัมผัสอยู่ไม่น้อยเลย ขอบคุณที่แวะมาชมรีวิว .. พบกันใหม่ในกระทู้หน้าเร็วๆนี้ครับ ..... ..... |
บทความทั้งหมด
|
สุโขทัย น่าเที่ยวจัง