[Life&Travel #07] .. ความสุขในมุมเล็กๆที่ Mimosa Resort & Spa @ Koh Samui ..
....

นิตยสาร Life & Travel นี้ ผมตั้งใจเป็นแม็กกาซีนออนไลน์
สำหรับคนรักการท่องเที่ยว อยากให้เป็นทั้งคู่มือการเที่ยวแบบง่ายๆ
ตรงไปตรงมา ดีไม่ดีก็ว่ากันไปตามที่เห็น

พร้อมเป็นทั้งสมุดภาพบันทึกความทรงจำ
และเป็นทั้งแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนได้ออกเดินทาง

เช่นเคย ... ถ้าชอบ Life &Travel แวะไปกด Like ให้กำลังใจกันได้ครับที่



นอกจากจะไม่พลาดทุกการอัพเดทของ Life & Travel
ยังมีข่าวสารการท่องเที่ยวที่น่าสนใจด้วยน่ะครับ

.................



วันนี้เลยขอหยิบเอารีวิวที่พักมาฝากละกันครับ รูปไม่เยอะมาก
ดูกันเพลินๆกับ L&T ฉบับที่ 7 ประจำปี 2554

พาไปเช็คอินกันที่ มิโมซ่า รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะสมุย

พร้อมแล้วลงเรือตามกันมาเลยครับ




ในวินาทีแรกที่ผมได้ยินชื่อของ มิโมซ่า พลันสมองก็ส่งภาพของ
คอกเทลเลิศรสที่มีส่วนผสมของแชมเปญและน้ำส้ม ขึ้นมา

เล่นเอาต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความกระหายขึ้นมาทันที


แต่ตอนนี้วางคอกเทลแก้วนั้นไปก่อน ผมกำลังพูดถึง มิโมซ่า รีสอร์ท แอนด์ สปา บูติก รีสอร์ทขนาดกำลังดี

บนพื้นที่ขนาดเล็กรวม 3 ไร่ บนหาดบ้านใต้ ไม่ไกลจากหาดแม่น้ำ
ซึ่งอยู่ตอนบนของเกาะสมุย สวรรค์ของนักท่องเที่ยวหลายคน...



เป็นครั้งแรกของผมในการมาเยือนรีสอร์ทสไตล์ทรอปิคอลแห่งนี้
แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในการมาเยือนเกาะสมุย...

ผมมาเยือนสมุยหลายครั้งแล้ว และก็จัดอยู่ในประเภทหลงรักไปแล้วครับ


เป็นที่ทราบกันดีว่าเกาะสมุยเป็นพื้นที่แหล่งรวมรีสอร์ทไว้อย่างมากกมาย
มีตั้งแต่ขนาดเล็กแบบไร้ดีไซน์ไปจนถึงอลังการสุดยอดการผสมผสานระหว่างศิลปะและการเป็นที่พักให้นักท่องเที่ยว

ทั้งห้องพักขนาดย่อมราคาพันต้นๆ จนไปถึงพูลวิลล่าวิวทะเลแบบพาโนราม่าราคาคืนละหลักหมื่นบาท ...

รีสอร์ทต้องวางจุดยืน ในตลาดให้ชัดเจนเพื่อ”ความอยู่รอด” และ
ต่อลมหายใจของ”ตัวตน”ที่มี




......

หันมามองจุดยืน และจุดขายของมิโมซ่า ...

พริบตาแรกที่ลงจากรถ กวาดสายตาดูรีสอร์ทซึ่งขนาดไม่ใหญ่มากนัก
ตัวรีสอร์ทแม้จะอยู่ติดทะเล แต่ถูกแบ่งด้วยถนนเล็กๆกั้นกลาง

โดยฝั่งพื้นที่ที่ติดทะเลจะเป็นส่วนของห้องอาหารและสระว่ายน้ำส่วนกลาง ตามแบบของรีสอร์ททั่วไป


ด้านอีกฝั่งของรีสอร์ทซึ่งประกอบด้วย ล็อบบี้ ส่วนของห้องพัก สปาและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ



ส่วนของล็อบบี้ของรีสอร์ทครับ
เป็นโอเพ่นแอร์ ขนาดไม่กว้างมาก แต่ใช้งานได้ดี


งานออกแบบของมิโมซ่า มีกลิ่นอายของวิลล่าสีขาวสไตล์เมดิเตอร์เนียน
ผสมกับวิลล่าโซนทะเลอย่างคล้ายๆ ห้องพักยอดนิยมที่มัลดีฟส์ที่ใช้ใบหญ้า
มามุงหลังคา เข้ากันดีเหลือเกินกับการเป็นรีสอร์ทริมทะเล....

ขนาดพื้นที่ที่ไม่ใหญ่มาก ถูกปกคลุมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่
สร้างความร่มรื่นให้กับแขกเป็นอย่างดี


ยังไม่ทันจะได้หายใจหายคอมาก พนักงานก็ต้อนรับผมด้วย Welcome Drink ซึ่งเป็นชาไมยราพ สูตรพิเศษของรีสอร์ท




ผมไปพักมาเมื่อปีที่แล้วครับ จัดเป็นอีกหนึ่งรีวิวดองเค็ม
(ยังมีอีกหลายเซ็ทเลย)

ช่วงที่ไปเป็นหน้าโลว์ของสมุยครับ เจอฝนประปรายในช่วงบ่ายๆเย็นๆ
ภาพในรีวิวเลยเป็นช่วงหัวค่ำถึงกลางคืนสะส่วนใหญ่ครับ




ผมค่อนข้างสะดุดหูกับชื่อของรีสรอ์ทนี้มากครับ....
เมื่อได้สอบถามได้คุยกับพนักงาน และอ่านคอนเซ็ปของรีสอร์ท
จึงได้รู้ที่มาที่ไปว่า ...มิโมซ่าคืออะไร ?




มิโมซ่าเป็นชื่อ“วงศ์”ของต้นไม้
จำพวกไมยราบ จามจุรี ผักกระเฉด สะตอ ชะอม
และต้นไม้อื่นๆ ซึ่งในวงศ์ตระกูลนี้ครอบคลุมถึงกว่า 2,400 สายพันธุ์

หนึ่งในสายพันธุ์ที่มีลักษณะที่น่าสนใจที่สุดที่รีสอร์ทหยิบมาใช้
เป็นคอนเซ็ป คือ สายพันธุ์ “ไมยราบ” เด็กในเมืองกรุงอาจจะไม่ค่อยคุ้นตานัก

ซึ่งพืชประเภทนี้ยังพอพบเห็นตามต่างจังหวัดซะมากกว่า
ลักษณะพิเศษของไมยราบ คือใบของมันจะหุบทันทีที่มีสิ่งใดเข้ามาสัมผัส
และจะคลายใบต่อเมื่อไม่ได้รับการสัมผัสใดๆ แล้ว

ทั้งไมยราบ จามจุรี และผักกระเฉด หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า Mimosa Plant
ต่างก็เป็นพืชที่มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากพืชอื่นๆ
คือ จะมีการหุบใบในเวลากลางคืน และใบจะบานออกในเวลากลางวัน

จากความหลากหลายของสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีความน่าสนใจเหล่านี้
จึงเป็นที่มาของชื่อรีสอร์ท “มิโมซ่า” ที่ได้นำเอาต้นไม้ต่างๆ และผลิตภัณฑ์
ที่ได้จากไม้ต่างๆ ในพืชวงศ์นี้มาใช้ในการตกแต่ง ใช้สอย





ของที่ระลึกที่ขายอยู่ในตู้ เลยจะเห็นว่ามีหลายชิ้นที่ทำมาจากไม้ในตระกูลมิโมซ่านี่แหละครับ

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายๆเรื่อง
หลายๆมุมที่รีสอร์ทได้แตกไอเดียจากคอนเซ็ปมิโมซ่านี่ออกไปอีก



ขอเริ่มต้นกันที่ส่วนของสปาครับ....

ในส่วนของสปา มิโมซ่ายึดคอนเซ็ปของพืชตระกูลนี้
โดยต่อยอดจากพืชที่โดดเด่นในวงศ์อย่าง "ไมยราบ"

ซึ่งไมยราบ นี้อ่านพ้องเสียงในภาษาไทยได้อีก 1 ความหมาย
ซึ่งเป็นชื่อของตัวละครในวรรณกรรม “รามเกียรติ์"

นั่นก็คือ เป็นชื่อของยักษ์ “ไมยราพ” ซึ่งเป็นยักษ์ที่มีฤทธานุภาพมาก
เป็นเจ้าผู้ครองเมืองบาดาลและ มีอาวุธประจำกาย คือ กล้องเป่ายา

สามารถถอดหัวใจออกจากร่างกาย ไปเก็บไว้ในตัวแมลง
ซึ่งได้เอาไปซ่อนอยู่ไว้บนภูเขาสูง





ดังนั้นมิโมซ๋าจึงได้นำเรื่องราวของวรรณกรรม “รามเกียรติ์”
ซึ่งเป็นเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างเทวดา ยักษ์ และมนุษย์

รวมถึงความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของ “สวรรค์” ของสมัยก่อน มาเป็นแนวคิด
หลักในการตกแต่ง ตรงนี้เป็นอีกจุดที่แสดงถึงไอเดียของรีสอร์ท
ที่วิ่งหาคอนเซ็ปที่วางไว้ได้อย่างดี...


ในรูปนี่เป็นส่วนพักผ่อนของสปาครับ
ก็จะตกแต่งให้คล้ายๆ กับเป็นป่าหิมพานต์ในวรรณกรรม





บนชั้นสองของส่วนสปาก็จะเป็นเตียงไว้สำหรับนวดไทยครับ

นอกจากนี้ด้านในก็ยังมีส่วนของเตียงสำหรับนวดน้ำมัน และมีอ่างจากุชชี่ไว้บริการอีกด้วย




สิ่งสำคัญอีกอย่างที่มิโมซ่าให้ความสำคัญคือ
การมุ่งเน้นเป็นรีสอร์ทเพื่อครอบครัว

ไม่เพียงเฉพาะพ่อแม่ลูกเท่านั้น ยังหมายรวมถึงปู่ย่าตายาย
การเป็นครอบครัวใหญ่อย่างสมบูรณ์


หลายสิ่งที่ทำออกมาจึงมองเห็นถึงความตั้งใจของรีสอร์ทในจุดนี้เช่น
การตั้งใจสร้างห้องฟิตเนสเพื่อคุณพ่อ สร้างสปาเพื่อคุณแม่
และห้องเด็กเล่นสำหรับคุณลูก

แต่ส่วนที่ผมประทับใจมากๆ คือการใส่ใจต่อผู้สูงอายุที่อาจจะมาพัก
เช่น การเลือกเทปูนทางเดินในรีสอร์ทด้วยปูนแบบเรียบทั้งหมด

เพื่อให้สามารถเข็นวีลแชร์ได้ รวมทั้งการทำราวจับพิเศษในห้องน้ำ
เพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุ ตรงนี้เยี่ยมมากๆ




ห้องเด็กเล่นสำหรับคุณหนูทั้งหลาย ...
อาจจะไม่ใหญ่โตอู้ฟู่เหมือนโรงแรมใหญ่ แต่รีสอร์ทก็ทำรองรับไว้ให้ใช้บริการได้




จากข้อมูลจากเว็บไซท์ของตัวรีสอร์ทเอง ..
มิโมซ่า รีสอร์ท แอนด์ สปา มีห้องพักจำนวนทั้งสิ้น 32 ห้อง
แบ่งออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้ครับ

1. ห้อง Lotus – Jacuzzi Deluxe (13 ห้อง)
2. ห้อง Jasmine Lover – Jacuzzi Lover Deluxe (9 ห้อง)
3. ห้อง Jasmine Senior – Jacuzzi Senior Deluxe (4 ห้อง)
4. ห้อง Meranti – Jacuzzi Pool Villa (4 ห้อง)
5. ห้อง Manikara – Jacuzzi Family Suite (1 ห้อง)
6. ห้อง Mimosa – Jacuzzi Family Pool Suite (1 ห้อง)

จะเห็นได้ว่าแม้เป็นห้องประเภทเล็กสุด ราคาห้องถูกสุดก็ยังมีอ่างจากุชชี่ให้

ถือว่าทางรีสอร์ทได้เต็มที่และมอบสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆไว้ครบครัน
ในห้องทุกๆแบบ ที่ต่างกันจะเป็นเรื่องของพื้นที่ใช้สอยและจำนวนคน
ที่สามารถเข้าพักในห้องแต่ละแบบมากกว่า




สำหรับวันนี้ ผมเข้าพักในห้อง Meranti ครับ
พื้นที่ใช้สอยขนาดกำลังดีครับ ไม่กว้างจนหากันไม่เจอ และก็ไม่ได้คับแคบจนรู้สึกอึดอัด





ไฮไลท์ของห้องนี้อยู่ที่สระว่ายน้ำส่วนตัวพร้อมระบบจากุชชี่ในตัว
แม้ขนาดของสระอาจจะไม่ใหญ่มากถึงขนาดว่ายน้ำอย่างจริงๆจัง

แต่การได้แช่ตัวเล่นน้ำชิลๆ ตอนอากาศร้อนๆ ก็มีความสุขมากครับ
(เอาเข้าจริง พอจะลงว่าย ฝนก็ดันตกลงมา ก็สนุกไปอีกแบบ 555+)






ภายในส่วนของห้องนอนครับ มีมุมนั่งเล่นซึ่งสร้างจำลองเหมือนถ้ำเล็กๆไว้ด้านในสุดของห้องครับ

เป็นไอเดียที่ดีและแปลกตาไม่ค่อยได้เจอตามรีสอร์ททั่วไปเท่าไหร่



สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆก็ครบครันครับ
ทั้ง LCD TV เครื่องเล่น DVD ตู้เย็น มินิบาร์ โต๊ะทำงาน

มุมตรงปลายเตียงลืมถ่ายมาให้ดูครับ น่าตีสักทีเนอะ



พาไปดูส่วนของห้องน้ำกันต่อครับ




ห้องน้ำขนาดกว้างขวางดีครับ
แบ่งเป็นอ่างล้างหน้าสองฝั่งเพื่อไม่ต้องแย่งกันใช้ในยามเร่งรีบ

ตรงนี้สามารถเปิดประตูเดินลงสระว่ายน้ำได้เลยทันทีเช่นกัน ออกแบบได้ดีครับ

สุขภัณฑ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นครีมอาบน้ำ แชมพู โลชั่นต่างๆที่ใช้
ก็เป็นสูตรพิเศษที่ทำขึ้นพิเศษเป็นกลิ่นของจามจุรีหนึ่งในพืชวงศ์มิโมซ่าอีกเช่นกัน



ด้านในสุดของห้องน้ำจะเป็นส่วนของ Rain Shower
และอ่างอาบน้ำแบบเอาท์ดอร์ครับ แช่น้ำในยามค่ำคืนโรแมนติกมาก

จะเห็นว่าของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ จะเน้นไปที่ไม้เป็นส่วนใหญ่ครับ
โดยก็จะเป็นไม้ในวงศ์มิโมซ่า เช่นทำจากต้นไมยราบยักษ์

ที่เหลือก็จะทำมาจากไม้สัก เมื่อรวมกับการจัดไฟในห้องทำให้บรรยากาศ
โดยรวมในห้องพักเลยให้ความรู้สึกอบอุ่นไม่น้อยเลย...




อ่างอาบน้ำเอาดอร์ด้านนอกครับ
ไม่ได้ใช้เลยเพราะตอนจะอาบน้ำฝนตกตลอดเลยครับ





หมดภาพในห้องพักแค่นี้

เดินข้ามฝั่งไปยังโซนติดทะเลบ้างตรงนี้จะเป็นส่วนของร้านอาหาร
ในชื่อ Mimosa Bar & Restaurant และสระว่ายน้ำส่วนกลางครับ




ห้องอาหารที่นี่ต้องยอมรับเลยว่า ไม่ว่าจะมานั่งกินอาหารเช้า
หรือจะมานั่งดินเนอร์ในยามเย็น บรรยากาศดีมากๆครับ


ได้กินข้าวไปพลางมองวิวทะเลแบบสุดสายตา


เชื่อได้เลยว่าช่วยทำให้ทุกมื้อของคุณเป็นมื้อที่น่าประทับใจแทบทั้งสิ้น








อาหารที่เลือกมาเสิร์ฟให้แขกที่มาเข้าพัก
ส่วนหนึ่งมีการนำพืชผักในตระกูลมิโมซ่าเข้ามาประกอบด้วย เช่น ผักกระเฉด ..สะตอ...ชะอม

ใครไม่ชอบกินผักอย่าพึ่งกลัวไปครับ
พ่อครัวเค้าปรุงอาหารได้เนียนมาก กึ่งๆสไตล์ฟิวชั่นเลยละ

รสชาติดีจนบางทีเรากินผักจำพวกนี้ไปโดยที่เราไม่รู้ตัว
มีโอกาสอยากให้ลิ้มลองกันดู ราคาก็ไม่สูงมากเท่าไหร่ด้วย

ขออภัยที่ไม่มีรูปอาหารครับ ตอนนั่งกินข้าวมันมืดมากจนขี้เกียจถ่าย


ด้วยที่รีสอร์ทอยู่ไกลจากหาดที่ผู้คนพลุกพล่านอย่าง เฉวง ละไม

การจะหาอะไรกิน อาจจะต้องขับรถออกไปไกลนิดนึง
แต่ผมว่ารสชาติของห้องอาหารที่นี่ก็ฝากท้องได้สบายครับ หากอยากจะพักผ่อนไม่เปลืองแรงออกไปข้างนอก


ซึ่งหลังจากอิ่มกับมื้อหนักๆ จะสั่งคอกเทลเย็นๆ มาจิบพลางชมวิวริมทะเลก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยเลยละ





ตลอดเวลาที่เข้าพักรีสอร์ท ตั้งแต่ก้าวแรก ผมสัมผัสได้ถึง
“ความเป็นมิโมซ่า” ที่รีสอร์ทต้องการสื่อออกมาได้ตลอดเวลา

ตั้งแต่ เวลคั้ม ดริงค์ ... ไม้ที่มาทำเก้าอี้ที่เช็คอิน ...คูปองอาหารเช้าที่เป็นไม้กลมๆจากต้นไมยราบ ... ชื่อห้องพักที่เอามาจากชื่อไม้ในวงศ์ตระกูล

หรือจะเป็นต้นไม้ที่ปลูกข้างๆห้อง ...เครื่องประดับ ตกแต่งในห้องพัก... สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ

ตลอดจนเมนูอาหารเพื่อสุขภาพก็ยังใช้ส่วนประกอบมาจาก
พืชผักตระกูลมิโมซ่า


... ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่
ของการเข้าพักบูติกรีสอร์ทเล็กๆ ริมทะเลแห่งนี้

.
.
.

การทำรีสอร์ทด้วยเงินลงทุนอย่างเดียวอาจจะง่าย
แต่นั่นไม่เพียงพอต่อการทำให้รีสอร์ทมีชีวิตขึ้นมา
จนสามารถถ่ายทอดจิตวิญญาณของตัวตนไปยังแขกที่มาพัก


มองแล้วเหมือนเป็นเรื่องของอาร์ทหรือการสร้างงานศิลปะสักชิ้น
ที่ถ้าศิลปินสร้างสรรค์ให้เข้าถึงยากไป
การส่งสารที่จะสื่อไปยังผู้ชมก็ยากตามไปเป็นเงาตามตัว



บางทีเรียบๆ ง่ายๆ แต่ผ่าน “การคิด” ที่เยอะและรอบด้านก็เป็นทางออกที่ดี
ซึ่ง มิโมซ่า รีสอร์ท ก็ “คิด” อะไรหลายๆอย่าง เผื่อไว้ให้แขกที่มาพักแล้วไม่น้อย...


ในวรรณคดีของฝรั่งเศสคำว่า มิโมซ่า คือ
ดอกไม้แทนสัญลักษณ์ของความรัก
บางทีถ้าได้ลองมาสัมผัสความเป็นมิโมซ่าของที่นี่สักครั้ง ....




คุณอาจจะตกหลุมรักโดยไม่รู้ตัวก็ได้...



.....

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชมครับ
พบกันใหม่ในเล่มหน้าครับ







Create Date : 02 มิถุนายน 2554
Last Update : 3 มิถุนายน 2554 22:15:18 น.
Counter : 7182 Pageviews.

3 comments
เมืองแปร - ย่างกุ้ง : พระพุทธรูปชเวเมี๊ยตมัน, เจดีย์ชเวนัตต่อง สายหมอกและก้อนเมฆ
(18 ก.ค. 2567 15:13:59 น.)
อุ้มสีพามากราบพระสิงห์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ วัดม่วงชุม อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี อุ้มสี
(16 ก.ค. 2567 16:25:11 น.)
ชมโขนหน้าพระลาน จากนักเรียน ชรมรมชมรมโขนละครพุทธศาสตร์นาฏยศิลป์(พอ.มจร.) นายแว่นขยันเที่ยว
(15 ก.ค. 2567 06:49:10 น.)
: ธรรมTrip 2 รวมมิตรรวมใจ : กะว่าก๋า
(11 ก.ค. 2567 05:47:59 น.)
  
โดย: คนเดินดิน (หน้าใหม่อยากกรอบ ) วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:3:36:07 น.
  
โดย: SassymOn วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:2:54:54 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ilove-design.BlogGang.com

the Sixth Floor
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]

บทความทั้งหมด