Bloggang.com : Yai Klong_Tour Rai : :•:•: Behind :•:•: [Issue 3/2012] . . . " Explore Rattanakosin...Open Memo in Japan " . . .

:•:•: Behind :•:•: [Issue 3/2012] . . . " Explore Rattanakosin...Open Memo in Japan " . . .

ความทรงจำกับคนเรา เป็นสิ่งที่คงไม่สามารถแยกออกจากกันได้

ไม่ว่าคนผู้นั้น จะมีความจำดีหรือว่าเป็นคนขี้หลงขี้ลืมก็ตาม

ในซอกมุมเล็กๆ ของสมอง ก็ยังคงต้องมีความทรงจำต่างๆ ซ่อนอยู่บ้างไม่มากก็น้อย

...

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านทุกคน วันนี้ Behind ก็เข้าสู่ฉบับที่ 3 แล้วนะคะ

แน่นอนว่าเนื้อหาสาระและความบันเทิงในฉบับนี้ ก็ถูกเตรียมมาอย่างดีพร้อมเสิร์ฟ

เพื่อมอบรอยยิ้มและความสุขให้กับทุกคนอีกเช่นเคยค่ะ

ไปร่วมชมเพื่อค้นหาความทรงจำดีๆ กันนะคะ

...

ไปดูกันว่า Behind ฉบับนี้มีอะไรมาฝากคุณผู้อ่านกันบ้างนะคะ

"หากมีเวลาว่างหนึ่งวันเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันดี" เชื่อว่าคำถามแบบนี้คงจะเคยเกิดขึ้นกับทุกคนมาแล้ว

วันนี้ Behind จะขอแนะนำสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในกรุงเทพมหานคร และคงจะเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคนกรุง

แต่คงมีหลายๆ คนที่อาจจะยังไม่เคยมาสัมผัสหรือยังลังเลอยู่ว่าจะมีอะไรที่น่าสนใจแค่ไหน

ที่นี่เลยค่ะ "นิทรรศน์รัตนโกสินทร์"

...

วันและเวลาทำการ
เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ โดย อังคาร - ศุกร์ เวลา 11.00 - 20.00 น.
เสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 - 20.00 น.

เปิดให้เข้าชมเป็นรอบ ทุกๆ 20 นาที (รอบเข้าชมสุดท้ายคือ เวลา 18.00 น.)

อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ - ราคา 100 บาท (ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ)

เข้าชมฟรีสำหรับ
- เด็ก (สูงไม่เกิน 120 ซม.)
- นักเรียน นักศึกษา (ไม่เกินระดับปริญญาตรี) ในเครื่องแบบหรือแสดงบัตร
- พระภิกษุ สามเณร และนักบวช
- ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป)
- ผู้พิการ

ข้อมูลการเดินทาง กรุณาอ่านรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์

ความประทับใจเริ่มขึ้นตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าไปในอาคารฯ หลังจากชำระค่าเข้าชมแล้ว เราก็สามารถเลือกได้ว่า
จะเข้าชมทั้ง 2 เส้นทางเลยหรือไม่ ซึ่งหากเข้าชมครบจะใช้เวลารวมทั้งสิ้นประมาณ 4 ชั่วโมง ในวันนี้เรา
คงได้เลือกชมแค่เพียงเส้นทางที่ 1 และหากมีโอกาสจะต้องกลับมาชมเส้นทางที่ 2 อย่างแน่นอน

...

(ข้อมูลจาก//www.nitasrattanakosin.com)

เส้นทางการเข้าชม

ท่านสามารถเข้าชมได้ครบ ทั้ง 9 ห้องจัดแสดง โดยท่านสามารถเลือกเส้นทางการเข้าชมได้ดังนี้

เส้นทางที่ 1 : รับชม 7 ห้องจัดแสดงแรก ใช้เวลาเข้าชม 1 ชั่วโมง 45 นาที

1. ห้องรัตนโกสินทร์เรืองโรจน์ 2. ห้องเกียรติยศแผ่นดินสยาม

3. ห้องเรืองนามหรสพศิลป์ 4. ห้องลือระบิลพระราชพิธี

5. ห้องสง่าศรีสถาปัตยกรรม 6.ห้องดื่มด่ำย่านชุมชน

7. ห้องเยี่ยมยลถิ่นกรุง

เส้นทางที่ 2 : รับชม 2 ห้องจัดแสดงล่าสุด ใช้เวลาในการชม 2 ชั่วโมง

8. ห้องเรืองรุ่งวิถีไทย 9. ห้องดวงใจปวงประชา

ห้องที่เราประทับใจมากที่สุด คือ ห้องรัตนโกสินทร์เรืองโรจน์ เพราะได้ร่วมย้อนกลับไปสู่เมื่อครั้งแรกเริ่ม
สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ด้วยสื่อผสม 4 มิติ ทำให้เราตื่นตาตื่นใจทั้งภาพ เสียงและสัมผัส
คงต้องให้คุณผู้อ่านไปสัมผัสด้วยตนเอง เนื่องจากห้องนี้ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพและเสียงใดๆ

และห้องถัดมาที่เราประทับใจไม่แพ้กัน คือ ห้องเกียรติยศแผ่นดินสยาม เพราะเป็นครั้งแรกที่เราได้ชม
พระแก้วมรกตในเครื่องทรงครบทั้ง 3 ฤดูในคราวเดียว รวมถึงความยิ่งใหญ่สง่างามของพระบรมมหาราชวัง
และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และชมวิถีชีวิตในเขตรั้วชาววังอย่างใกล้ชิด

หลังจากได้ชมครบทั้ง 7 ห้องในเส้นทางที่ 1 แล้ว เราก็พอจะสรุปได้ว่าที่นิทรรศน์รัตนโกสินทร์นี้เหมาะสม
อย่างยิ่งกับการเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ทันสมัย สามารถผสมผสานเทคโนโลยีในการนำเสนอประวัติศาสตร์
ความเป็นมาของกรุงรัตนโกสินทร์ได้อย่างน่าสนใจมากๆ ไม่เพียงเหมาะกับเยาวชนไทยรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยัง
เหมาะสมกับคนทุกเพศทุกวัย ที่สนใจและอยากศึกษาข้อมูลนอกตำราแบบไม่น่าเบื่อ นอกจากจะได้รับความรู้
และความบันเทิงที่คุ้มค่าเกินราคามากๆ แล้ว ยังได้รับความอิ่มเอมใจและความภาคภูมิใจในความเป็นไทย
กลับบ้านกันอีกด้วย

"นิทรรศน์รัตนโกสินทร์" จึงเป็น The Journey ที่ประทับใจ Behind มากๆ เลยค่ะ

คุณผู้อ่านเห็นด้วยไหมคะว่า การได้เสาะหาร้านอาหารอร่อยๆ ในกรุงเทพ ช่างเป็นเรื่องน่าสนุกและท้าทายมากๆ
วันนี้คอลัมน์ The Cuisine จะพาคุณผู้อ่านไปรู้จักกับร้านอาหารเก่าแก่แห่งหนึ่งของกรุงเทพในย่านทองหล่อกันค่ะ

"ร้านนิยมโภชนา" เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 ไม่มีสาขาใดๆ นอกจากที่ทองหล่อนี้แห่งเดียวเท่านั้น
เกือบ 30 ปีแล้วที่ร้านนี้เป็นที่รู้จักกันไม่เพียงในหมู่นักชิมชาวไทย แต่ยังรวมไปถึงนักชิมชาวอาทิตย์อุทัยอีกจำนวน
ไม่น้อยที่บรรจุเอาร้านนี้อยู่ในลิสต์ที่จะต้องมาชิมให้ได้เมื่อมาถึงเมืองไทย

บรรยากาศในร้านที่ไม่ได้ตกแต่งอะไรมาก แต่มีเสน่ห์ในแบบร้านอาหารจีนร่วมสมัย เสียงพูดคุยเฮฮาตามประสา
ครอบครัวและเพื่อนฝูง เสียงดังฉู่ฉี่จากเมนูออส่วนกะทะร้อนที่ยกผ่านไปยังโต๊ะแล้วโต๊ะเล่า พอจะเป็นสิ่งยืนยันได้
ถึงดีกรีเมนูแนะนำอันดับต้นๆ ของร้าน

และเมื่อความอร่อย สด ใหม่ ถูกยกมาวางตรงหน้า เราจะรอช้าอยู่ไยเล่า หยิบช้อนส้อมกันเลยดีกว่า

(ขอขอบคุณข้อมูลและความอร่อยจากคุณเสถียรและคุณปิยะนุชมา ณ ที่นี้)

ข้อดีของความเจริญที่เกิดขึ้นกับกรุงเทพเมืองฟ้าอมรของเราก็มีหลายอย่าง ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือสถานที่สุดฮิป
ที่ตอนนี้ผุดขึ้นมามากมาย และในแต่ละที่ก็ถือกำเนิดจากไอเดียและความสร้างสรรค์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป
ยิ่งการแข่งขันที่สูงขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจ กำไรยิ่งตกเป็นของผู้บริโภค ที่จะได้มีตัวเลือกใหม่ๆ มากขึ้น

หากเอ่ยถึง "Chocolate Ville" ตอนนี้น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก บางท่านอาจจะเคยไปมาแล้ว บางท่านอาจจะยังไม่เคย
แต่เชื่อว่าคงจะมีหลายๆ คนที่มีความตั้งใจว่าจะต้องไปเยี่ยมชม และแวะชิมให้ได้สักครั้ง

คอลัมน์ The Destination ฉบับนี้ Behind จึงขอพาคุณผู้อ่านไปเที่ยว Chocolate Ville กันค่ะ เตรียมเสื้อผ้า หน้า ผม
ให้พร้อมสรรพแล้วไปกันเลยค่ะ

การเดินทางมาที่ Chocolate Ville นั้น หากมาทางเกษตร จะอยู่สุดถนนเกษตร-นวมินทร์ โดยมีจุดสังเกตเป็นกังหันลมขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า

ที่นี่วางคอนเซปต์ไว้ว่า "Dining in the Park" สถานที่โดยรอบจึงถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามราวกับอยู่ต่างประเทศ ผู้คนส่วนใหญ่จึงพากันมาถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนาน

แล้วก็มาถึงคอลัมน์ที่คุณผู้อ่านหลายๆ คนให้ความสนใจและตอบรับกันมามากมาย เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ Behind ได้รับ
เกียรติจากแขกรับเชิญที่น่ารักและเป็นนักเขียน นักรีวิวในดวงใจของใครหลายๆ คน ซึ่งผลงานการเขียนของท่านนี้ก็
เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของ Behind ด้วยเช่นกัน

พบกับ "คุณป๊อกกี้" เจ้าของผลงานการเขียนที่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสองภาพแห่งความประทับใจได้เลยค่ะ

(ขอขอบคุณ คุณป๊อกกี้มากๆ ที่ให้เกียรติมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน Behind ฉบับนี้นะคะ)

ได้เห็นภาพความทรงจำดีๆ ของแขกรับเชิญเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นกันไปแล้ว ก็คงต้องเอ่ยถึงความผูกพันที่แนบแน่นยาวนานของไทยและญี่ปุ่นกันบ้าง และวัฒนธรรมที่ไทยได้รับมาจากญี่ปุ่นมากที่สุดคงต้องยกให้เป็นเรื่องนี้

Taste of Japan

"ญี่ปุ่น" คงเป็นประเทศในฝันของใครหลายๆ คน บางคนก็ทำความฝันสำเร็จไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง บางคนก็อาจ
จะยังทำไม่สำเร็จเนื่องจากติดขัดหลายๆ ปัจจัย แต่เชื่อว่าประเทศนี้ก็ยังคงติดอันดับต้นๆ ที่คนอยากไปมากที่สุด

ความทรงจำที่ญี่ปุ่นนั้นยังไม่เลือนหาย ยกให้เป็นทริปแห่งแรงบันดาลใจแรกๆ เลยก็ว่าได้ เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่
ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก คนญี่ปุ่นส่วนมากก็ยังไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้คล่องมากนัก
การไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองจึงเป็นความท้าทายไม่น้อย เพราะฟัง พูด อ่าน ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ได้ ทริปในครั้งนั้นจึงได้
พบกับปัญหาขลุกขลักดั่งที่คิดเผื่อไว้ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปทริปนี้ก็ยังคงเป็นทริปที่ประทับใจมากๆ เลยทีเดียว

เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน การไปเที่ยวญี่ปุ่นจึงต้องไม่พลาดที่จะเข้าชมสถานที่
ทางประวัติศาสตร์ต่างๆ นอกจากความประทับใจในการดูแลและบำรุงรักษาสถานที่เป็นอย่างดีของหน่วยงานญี่ปุ่นแล้ว
ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสถานที่ผ่านเทคโนโลยีอันทันสมัยล้ำยุค เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานอย่าง
ลงตัวระหว่างวัฒนธรรมและเทคโนโลยีจริงๆ

แม้การเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก หากวัดกันเป็นคะแนนแล้วจะถือว่าสอบตกเลย
ก็ได้ เนื่องจากเป็นเพราะว่าทำการบ้านหรือเตรียมข้อมูลไปไม่มากพอ แต่หากวัดกันเป็นระดับความประทับใจแล้วถือว่าได้
คะแนนเต็ม เพราะทุกครั้งที่ได้ย้อนดูภาพความทรงจำ รอยยิ้มก็ยังบังเกิดขึ้นทุกครั้ง

ญี่ปุ่น คือ ประเทศที่มีเสน่ห์ น่ารัก และน่าประทับใจ

และนี่คือ...บทสรุปของการเดินทางไปญี่ปุ่นในครั้งนั้น ♥

แล้วก็มาถึงคอลัมน์พิเศษ The Scene ฉบับนี้ Behind จะนำคุณผู้อ่านไปพบกับชายหนุ่มอารมณ์ดีคนนี้ค่ะ

"คุณกาแฟ หรือ Coffee Blended" จะมาเปิดเผยถึงความประทับใจที่มีต่อญี่ปุ่น ไปชมกันเลยนะคะ

(ขอขอบคุณ คุณกาแฟมากค่ะที่ให้เกียรติมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน Behind ฉบับนี้)