My love kitchen! กว่าห้องครัวในฝันจะเป็นจริง Episode 5
Free TextEditor ปัญหาเกิดแล้วค่ะ บานตู้บนสุดที่อยู่ตรงมุมที่หุบเข้ามานั้น ไม่สามารถเปิดในทิศทางที่ตั้งใจไว้ได้ (ตอนแรกจะใช้วิธีเปิดขึ้น) พอเปิดแล้วบานมันจะติดอีกบานหนึ่งที่อยู่มุมข้างกันเพราะมันไม่ได้ฉาก 90องศา (เพื่อน ๆ คงนึกภาพตามออกใช่ไหมคะ) เราจึงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเปลี่ยนเป็นเปิดด้านข้างแทน ส่วนตะแกรงที่เพื่อน ๆ เห็นจากตอนที่แล้ว หลังจากที่ติดตั้งไปแล้ว เราไปดึงดู มันดึงยากมาก ๆ ปกติของแพงขนาดนี้มันไม่น่าจะฝึดหรือใช้งานยากขนาดนั้น น้องเซลส์เฮ..จึงมาดูให้ พบว่าเกิดจากการที่ตู้มันบีบเข้าเล็กน้อยเพราะมุมห้องที่ไม่ได้ฉากอีกเช่นเคย ทำให้รางตะแกรงมันโดนบีบ การลื่นไหลจึงไม่ 100% เราจึงขอน้องเซลส์เค้าเปลี่ยนชนิดตะแกรงเป็นแบบดึงจากฝาบานตู้เลย แต่ตะแกรงจะเล็กลงมากสมควร ทำให้ตู้เหลือเนื้อที่ทิ้งเปล่าไปเยอะพอควร เศร้าจริง ๆ ยังค่ะ ยังไม่หมดแค่นี้ ไอ้เจ้ามุมหุบเจ้าปัญหายังคงตามมาก่อกวนถึงบ้านตู้มุมข้างล่างอีก ตอนแรกเราจะติดมือจับทั้งสองบาน เป็นบานพับแบบ 175 องศา บานเปิดออกจากกัน ด้านในเป็นตะแกรง 3/4 วงกลม แต่พอช่างเค้าติดมือจับเข้าไป ปรากฎว่า บานตู้เปิดไม่ได้ เพราะไม่พ้นมือจับของอีกบานหนึ่ง โอย.. เราต้องแก้ปัญหาด้วยการเสียสละมือจับออกหนึ่งบานและให้ช่างเค้าไปทำหน้าบานมาใหม่ค่ะ เป็นไงคะ ปัญหาเยอะจริง ๆ ไอ้เราก้อนึกว่าคงหมดแล้วล่ะ ยังไม่หมดซะทีเดียวค่ะ ไว้ค่อยเล่าต่ออีกทีนะคะว่ามีปัญหาอะไรอีก หลังจากที่ช่างเค้ามั่นใจว่าบานตู้ทุกบานสามารถติดตั้งเข้าที่เข้าได้แล้ว ก้อนำบานตู้ไปพ่นสีที่โรงงาน ระหว่างนี้เราก้อไปเลือกซื้อซิงค์ล้างจานค่ะ ไปหาซื้อที่ โฮ..โป ได้ยี่ห้อแพงแสนแพงมาค่ะ (คงไม่ขอเล่านะคะว่ากว่าจะได้ซิงค์เนี่ยแทบจะตีกับพนักงานที่เอาแต่เชลียร์สินค้ายี่ห้อตัวเองขนาดไหน เพราะเคยเห็นเพื่อน ๆ ตั้งกระทู้เรื่องนี้กันไปเยอะแล้วค่ะ) เราก้อนำกลับมาให้ช่างไม้เค้าเจาะไม้รอไว้ปูท้อปหินเลยค่ะ ไปดูรูปกันดีกว่าค่ะ 
บานตู้มาแว้ววว เงาวับ ๆ (แอบเข้าข้างตัวเอง ^^) 
ตะแกรงเปลี่ยนมาแล้วค่ะ 
ระหว่างนี้เราไปติดต่อเรื่องหิน (ข้ามจังหวัดอีกเช่นกัน) เราต้องการขนาดพิเศษที่ต้องสั่งตัด หินที่เลือกคือ ดำอัฟกัน แต่เค้าเอา super black ให้ ไม่รู้ต่างกันยังไง เห็นว่าดำสนิทมากกว่า ส่วนตัวไอส์แลนด์ เราเลือกเป็น Crystal White จริง ๆ แล้วปิ๊งหินสังเคราะห์ของ ซาตาลออนมากกว่าค่ะ แต่มันแพงหูฉี่ ตอนนี้งบก้อบานจนกระเป๋าจะฉีกอยู่แล้ว เลยลงตัวที่แกรนิต แต่เราให้เค้าทำการ double ขอบให้ค่ะ แบบว่าอยากให้ขอบมันดูใหญ่ ๆ คล้าย ๆ หินสังเคราะห์นิสนึง ช่างหินเค้าเข้ามาวัดพื้นที่พร้อมกับตีราคา ระหว่างนี้เราได้นั่งรอ ๆ ๆ กว่าหินจะตัดเสร็จ ใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 3 อาทิตย์ (ทำไมมันนานจัง) ช่างไม้เอย ช่างกระเบื้องเอย ช่างไฟเอย รอเข้าคิวมาจบงานกันเป็นแถว สุดท้ายเราก้อโทรไปเร่งช่างหินเค้าจนได้งานมาดังนี้ค่ะ ช่างหินกำลังเจาะหินอยู่ค่ะ 
Crystal White ของไอส์แลนด์ 
ลืมเล่าไปค่ะว่า งานเข้าช่างไม้ซะแล้ว เพราะว่าหินที่เค้านำมานั้นตอนแรกเค้าบอกว่าหนา 1.8 ซม. แต่ของจริงกลับหนา 2 ซม. ทำให้ไม้ที่ช่างเค้าหนุนไว้ให้มันไม่หนาพอ เกิดช่องว่างระหว่างไม้กับหิน จะทำให้ไม่แข็งแรงค่ะ ช่างไม้เลยต้องมาทำการหนุนไม้ให้หนาขึ้นอีก 2 มิล ตอนนี้ช่างไม้เริ่มเครียดแล้วอะ แต่ช่างแกก้อดีแสนดีนะคะ ช่วยทำการผสมกาวแดงให้ช่างหินติดด้วยเพราะตอนแรกช่างหินเค้าจะใช้แค่กาวลาเท็กซ์ที่เค้าเคยติดทั่ว ๆ ไป แต่ช่างไม้เราเค้าไม่แนะนำเนื่องจากกลัวไม่แน่นพอ แต่กาวแดงที่ลุงช่างแกผสมให้ พอแห้งปุ๊บนะคะ แข็งอย่างกับหินแน่ะค่ะ ดูรูปต่อค่ะ ปูหินแล้วค่ะ 
พอช่างหินติดตั้งเสร็จ วันรุ่งขึ้นเราก้อรีบโทรไปนัดช่างอื่น ๆ ให้เข้ามาจบงานทันทีเลยค่ะ โดยหารู้ไม่ว่างานเข้าล็อตใหญ่อีกแล้วค่ะ พอวันที่ช่างกระเบื้องจะเข้ามา สามีเราเพิ่งนึกออกว่าไม่ได้เอาซิงค์ให้ช่างหินวัดเพื่อทำการตัด แล้วช่างหินเค้าก้อตัดเท่ากับไม้ที่ตัดไว้ไปเรียบร้อยโรงเรียนช่างแล้ว แล้วเราจะทำไงดี ๆ เพื่อนอาจจะงงว่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกัน คือซิงค์ของเราเนี่ยมันมีขอบข้างล่างที่เป็นเหมือนคานทำให้ซิงค์แข็งแรงอยู่รอบขอบซิงค์อะค่ะ ทีนี้จะตัดขอบนั้นออกก้อไม่ได้ จะเจาะหินก้อกลัวว่าหินจะแตก เราก้อเลยได้แต่ขอร้องช่างกระเบื้องให้เค้าทำการสกัดหินออกเพิ่มให้ เพราะมันจะขี้เหร่ก้อขี้เหร่อยู่ข้างล่างไม่มีใครเห็น ดีกว่าไปตัดซิงค์แพงแสนแพงเรา ช่างกระเบื้องก้อดีใจหาย ยอมเสี่ยงตัดให้เรา แต่เราก้อนึกแล้วว่าถ้าหินแตกก้อซื้อหินใหม่ละกัน อย่างน้อยก้อถูกกว่าซื้อซิงค์ใหม่แน่นอน สุดท้ายช่างกระเบื้องก้อทำสำเร็จค่ะ โล่งใจจริง ๆ อ้อ ลืมบอกไปค่ะ รูที่ปูนไว้ระบายควันช่างกระเบื้องคนเก่งคนนี้แหล่ะค่ะเป็นคนเจาะให้ ขอยกความดีให้ช่างมองด้วยค่ะ  ติดโมเสคแล้วค่ะ สวยไหมคะ 

ระหว่างนี้ช่างไฟก้อเข้ามาติดโคมแล้วค่ะ 
อุปกรณ์ต่าง ๆ ถูกติดตั้งเข้าไปเกือบหมดแล้วค่ะ 
ติดตั้งหินของมินิเคาน์เตอร์บาร์เข้าไปเรียบร้อย 
เดี๋ยวเราไปดูกันเลยนะคะว่าครัวที่เสร็จสมบูรณ์แล้วเป็นไงบ้าง ตื่นเต้นจังค่ะ ไม่รู้จะสวยถูกใจเพื่อน ๆ หรือเปล่า แอ่น แอน แอ๊น..... 
พอดีไม่มีเลนส์มุมกว้างค่ะ เลยเก็บได้ทีละมุมๆ งบหมดไปกะการทำครัวแล้ว  
มีขนมเตรียมไหว้เจ้าตรุษจีนโชว์ด้วย เอาของไหว้เจ้าเข้าครัวใหม่ก่อนเพื่อนเลยค่ะ เอาฤกษ์เอาชัย เฮง เฮง เฮง 
มีพัดลมทาวเวอร์ ซื้อ 1 แถม 1 (จริง ๆ บวกราคาไว้แล้วล่ะ รู้แต่ก้อซื้อ เพราะจะเอา 2 ตัวอยู่แล้ว) 
ผนังที่ผ่านการขัดเคลือบเรียบร้อย (ได้แค่เนี้ย) 
มาดูอุปกรณ์ใกล้ ๆ กันนะคะ ว่าหมดงบประมาณฟุ่มเฟือยเอาใจคุณแม่บ้านไปกับอะไรบ้าง 




จริง ๆ ยังมีอุปกรณ์ฟุ่มเฟือยอื่น ๆ อีกจิปาถะค่ะ แต่ถ่ายมาไม่หมด เอาเป็นว่าฟุ่มเฟือยแต่ถ้าเป็นระเบียบขึ้น คุณสามีบอกคุ้มค่าค่ะ งบประมาณเบ็ดเสร็จกับการทำครัวครั้งนี้ ตอนแรกกะไว้ว่าไม่ให้เกิน 2xx,xxx แต่เพื่อน ๆ เชื่อเถอะค่ะว่า ยังไง ๆ ก้อต้องบานปลายไม่มากก้อน้อย ส่วนเราบานปลายไปอีกเกือบเท่าตัว รวมทั้งสิ้น(แต่ไม่ทั้งหมดเพราะจะซื้ออุปกรณ์เก็บถ้วยเก็บจานเพิ่มอีก แหะ แหะ ) 35x,xxx บาท เพื่อน ๆ อย่าหาว่าเราโอเวอร์เลยนะคะ ชีวิตนี้ตั้งความฝันไว้ว่าอยากมีบ้านสวย ๆ ครัวสวย ๆ กะเค้าบ้าง ตอนนี้ยังไม่มีโครงการซื้อบ้าน เราก้อได้แต่คิดว่าจะอยู่ที่บ้านนี้ไปอีกอย่างน้อยซัก 10 ปี ก้อเอาเท่านี้ไปก่อนละกันค่ะ เราหวังว่าบล็อกของเรานี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ บ้างไม่มากก้อน้อยนะคะ ต้องขออภัยด้วยหากมีข้อผิดพลาดประการใด เพราะเป็นบล็อกแรกในชีวิตเรา ยังไงก้อขอให้เพื่อนๆ ช่วยกันเม้นท์ให้ด้วยนะคะเพราะตอนนี้ต้องการกำลังใจอย่างยิ่งเลยค่ะ ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ 
รูปปัจจุบันนี้หลังจากใช้งานมาประมาณ 1 ปีแล้วค่ะ


Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
52 comments |
Last Update : 20 ธันวาคม 2553 18:16:35 น. |
Counter : 8705 Pageviews. |
|
 |
|