๒๓. ราชโองการ



เสร็จสิ้นจากภารกิจดูแลมหาวิหาร ภาวิณีถูกเรียกตัวเข้ามาในพระราชวังตามกระแสรับสั่งของเจ้าหญิง โดยมีนางสนมนำพาไปถึงท้ายอุทยานที่พระธิดาจันทราวตีประทับอยู่เพียงลำพัง

เมื่อภาวิณีไปถึงจึงได้พบเจ้าหญิงในพระพักตร์ไม่สู้ดีนัก หญิงสาวเข้าไปถวายบังคมแล้วทูลถามด้วยความเป็นห่วง

“พระธิดาทรงพระเกษมสำราญดีหรือเพคะ”
“หามิได้ ฉันกำลังมีเรื่องร้อนใจ”
เจ้าหญิงดำรัสกลัดกลุ้ม
“เกิดอะไรขึ้นหรือเพคะ”

เห็นพระสหายพลอยกังวลใจไปด้วย จันทราวตีจึงสรวลรื่นแล้วเอื้อมพระหัตถ์มากระชับแขนเธอให้ใกล้ชิดขึ้น พร้อมกับกุมมือพระสหายเอาไว้อย่างไม่ถือพระองค์ ด้วยเคยชินว่าการได้เกาะกุมมือนี้จะทำให้พอพระทัยและทรงเกษมสำราญได้ดังทุกคราว

“ก็คิดถึงเธอน่ะซี ช่วงนี้เสด็จพ่อเสด็จแม่รับสั่งให้ฉันอยู่แต่ในวัง แม้แต่จะไปเยี่ยมเธอที่วิหารสักครั้งก็มิได้”

ภาวิณีทอดถอนลมหายใจ มือนุ่มเย็นนั้นบีบกระชับพระหัตถ์ของเจ้าหญิงอย่างเบามือแล้วค่อยคลายออก ก่อนจะถอยออกมาอยู่ในระยะอันควรแล้วกราบทูลอย่างอ่อนใจ

“อยู่ในพระราชวัง เจ้าหญิงจันทราวตีควรวางพระองค์ให้สมพระเกียรติของราชธิดาแห่งนครสาวัตถีนะเพคะ ที่นี่มิใช่กลางป่า พระธิดามาเดินจูงมือข้าพระองค์เช่นนี้ มิใช่เรื่องบังควรนัก”
“คำก็เจ้าหญิง สองคำก็พระธิดา เพียงฉันจะจูงมือเพื่อนหญิงเดินไปทั่วอุทยานก็มิได้กระนั้นหรือ”

กระแสดำรัสนั้นกึ่งเอาแต่ใจ หากเป็นคนทั่วไปคงรีบกราบทูลเพื่อเอาพระทัย หากแต่คู่สนทนาสนองพระดำรัสเรียบง่าย
“ไม่บังควรเพคะ”
พร้อมกับทูลถามซ้ำว่าทรงเรื่องอันใดจึงเรียกใช้ หาไม่ก็จะขอทูลลา จันทราวตีจึงตรัสด้วยพระสุรเสียงจริงจังบ้าง

“เสด็จพ่อเสด็จแม่ทรงถามหา ตราประจำราชวงศ์และสัญลักษณ์แทนตัวฉัน ไม่รู้ว่าเวลานี้อยู่ที่ไหน…”
จันทราวตีดำรัสอย่างคับข้องในพระทัย ภาวิณีทวนคำแล้วนึกถึงวัตถุชิ้นเล็กๆที่พระธิดาตรัสถึง

“สังวาลเส้นนั้นน่ะหรือเพคะ”

ภาวิณีนึกถึงสร้อยสังวาลเล็กๆ ที่มิได้มีเพียงมูลค่ามหาศาลเทียมเท่าปราสาทราชวังทั้งหลัง เนื่องด้วยพระราชารับสั่งให้นายช่างจัดทำไว้เพียงชิ้นเดียวในโลกเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนพระองค์ของเจ้าหญิงจันทราวตี และให้พระธิดาเก็บไว้แนบกายอยู่เสมอ

“ใช่ สังวาลที่บรรดานายช่างใช้เวลาสร้างกว่าสิบเดือน เพื่อเป็นสินสอดในพระราชพิธีวิวาห์ ยามใดฉันแต่งงานสร้อยเส้นนี้จะตกแก่พระสวามี ยามใดฉันมีลูกสร้อยเส้นนี้จะตกแก่ลูก ตอนหนีออกจากวังฉันก็กลัวเสด็จพ่อเสด็จแม่จะรีบนำสร้อยของฉันไปให้องค์เทวินทร์เป็นตัวประกันเสียก่อน เลยพกติดตัวไปด้วย แต่ในระหว่างทางมีเรื่องวุ่นวาย ฉันจำไม่ได้แม้กระทั่งว่า มันหายไปตอนไหน”
ภาวิณีเริ่มตระหนักว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับพระธิดาเสียแล้ว

“ที่น่ายุ่งยากใจกว่านั้นคือหากความลับเรื่องสังวาลหายหลุดออกไปให้คนนอกวังรู้ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ คนที่ครอบครองสังวาลไว้ หากเป็นหญิงก็ดีไป หากเป็นชาย คนผู้นั้นก็จะอ้างสิทธิ์ความเป็นพระสวามีเราได้ในทันที”

หาทางออกให้สบายพระทัย ภาวิณีบอกทางแก้ให้ด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย

“อย่าทรงกังวลไปเลยนะเพคะ อีกไม่นาน องค์เทวินทร์จะต้องเสด็จมาที่สาวัตถี เมื่อทรงรู้ความจริงว่าพระธิดากับสาวชาวป่าเป็นคนเดียวกัน จะต้องทรงพอพระทัยมาก รีบแต่งงานกับพระธิดาในทันที เมื่อทรงมีพระสวามีแล้ว ค่อยรับสั่งให้บรรดานายช่างสร้างสังวาลเส้นใหม่สลักชื่อพระธิดาและองค์เทวินทร์ลงไปด้วย หากใครถือสังวาลเส้นเก่ามา ก็ยกเป็นทานแก่เขาเสีย”

จันทราวตียังมีร่องรอยกังวลในพระพักตร์ ภาวิณีเว้นจังหวะอย่างชั่งใจ สำหรับตนไม่เห็นว่าเครื่องประดับนอกกายชิ้นไหนจะมีค่าเท่ากับใจที่ตั้งมั่นอยู่ในศีล ทาน และการภาวนา แม้ข้าวของเงินทองจะหายไปทั้งหมดก็ไม่ใช่เรื่องน่าเดือดเนื้อร้อนใจเท่าใดนัก หากแต่คู่สนทนาเป็นพระธิดาของนครสาวัตถีผู้ยังต้องแบกภาระใหญ่หลวงไว้มากมาย มิใช่เรื่องง่าย ที่จะให้ทอดทิ้งหรือนิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่นี่อาจเป็นโอกาสอันดีที่เจ้าหญิงจะได้เรียนรู้การสละทรัพย์เป็นทานได้อีกประการหนึ่ง พระสหายจึงกล่าวอย่างยินดี

“การหายไปของสร้อยสังวาลของพระธิดา ทำให้ข้าพระองค์นึกถึงเรื่องราวในอดีตเรื่องหนึ่งเพคะ เหตุการณ์เกิดขึ้นในนครสาวัตถีของเรานี้เอง”
“เหตุการณ์อันใดหรือ ?”
ภาวิณีระบายยิ้มแล้วเล่า

“ในสมัยพุทธกาลก็เคยมีสตรีผู้หนึ่งหลงลืมเครื่องประดับราคานับเป็นโกฏิกหาปนะไว้ในเชตวันมหาวิหาร และระลึกได้ในเวลาเพียงออกจากประตูวัดเท่านั้น หากพระธิดาเป็นสตรีผู้นั้นจะทำประการใดเพคะ”
“ฉันคงต้องรีบกลับไปเอาในทันที”

“เพคะ นางก็ทำเช่นนั้น หากแต่เป็นเรื่องบังเอิญว่า พระอานนท์เถระได้มาเห็นเข้า จึงได้เก็บแขวนไว้ แต่ด้วยนางมีจิตใจศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นกำลังจึงถือว่าเมื่อพระเถระจับต้องเครื่องประดับแล้วย่อมหมายความว่าเครื่องประดับชิ้นนั้นนางได้ถวายให้และมอบเป็นสมบัติของวัดนับแต่บัดนั้น”

“น่าอนุโมทนาจริง ฉันนึกออกแล้วล่ะ เครื่องประดับชิ้นนั้นคือมหาลดาประสาทธน์ และสตรีผู้นั้นก็คือนางวิสาขา ย่าของเธอนั่นเองใช่หรือไม่”

“เพคะ ท่านย่าถวายมหาลดาประสาทธน์แก่พระเถระ แต่พระเถระมิรู้จะทำประการใดเนื่องด้วยเครื่องประดับชิ้นนั้นมีมูลค่ามหาศาลก็จริง แต่หาทำประโยชน์อันใดแก่วัดวาอารามมิได้ ท่านย่าจึงรับเป็นภาระในการประกาศขายเพื่อจะเอาเงินมาทำบุญ แต่เพราะราคาแพงไม่มีผู้ใดสามารถซื้อได้ ท่านจึงซื้อเสียเอง แล้วเอาเกวียนบรรทุกเงินจำนวนทั้งหมดไปถวายพระบรมศาสดา เงินจำนวนนั้นได้กลายเป็นต้นทุนในการสร้างวิหารบุพพารามทุกวันนี้เองเพคะ”

“ฟังเรื่องมหาลดาประสาธน์ของท่านย่าของเธอแล้วมาเปรียบเทียบกับสร้อยสังวาลของฉัน ช่างต่างกันราวฟ้ากับดินเลยนะ หากเธอไม่รื้อฟื้นให้ฟัง ฉันคงยังมัวกระวนกระวายอยากได้มันกลับคืนมา ขณะที่ย่าของเธอสละสมบัติที่มีค่ามากกว่าให้กับพุทธศาสนามาเป็นเวลาร้อยกว่าปีแล้ว”

จันทราวตีตรัสด้วยพระพักตร์ม่อย

“เจ้าหญิงจันทราวตีของหม่อมฉันก็ทำได้เหมือนกันนะเพคะ ไม่ว่าสังวาลเส้นนั้นจะไปตกอยู่ในมือของผู้ใด ก็สละให้เขาเป็นทานเสีย ในเมื่อพระองค์กำลังจะมีสังวาลเส้นใหม่ไว้มอบกับพระหัตถ์องค์เทวินทร์แล้ว”

“อืม นั่นซีนะ สังวาลเส้นเดิมสลักชื่อจันทราวตี เส้นใหม่เราจะใช้ชื่อว่ากระไรดี ภาวิณี”
เจ้าหญิงซุกซน ภาวิณีก็พลอยส่งเสริมเสียด้วย
“เทวินทร์วตีสิเพคะ”
“หมายความว่ากระไรนั่นน่ะ”
“ก็เทวินทร์วรมันต์-จันทราวตี ยาวไปนี่เพคะ รวบมาให้สั้นเสียเถิด ข้าพระองค์จะได้เหนื่อยใจกับองค์หญิงน้อยกว่านี้สักหน่อย”

เจ้าหญิงสรวลน้อยๆอย่างพอพระทัย เอื้อมพระหัตถ์จับมือของพระสหายอีกคราอย่างตื้นตัน ตรงข้ามกับภาวิณีที่เมื่อกล่าวจบแล้วกลับเป็นฝ่ายกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก ว่าเรื่องราวอาจไม่ได้ง่ายดายอย่างที่ตนพูดเลยสักนิด...

เป็นจริงดังที่ภาวิณีกังวล ครั้นพอองค์ราชาทรงรับทราบเรื่องสังวาลหายก็ได้มีราชโองการไปทั่วราชอาณาจักร ประกาศมอบสิ่งตอบแทนเป็นแก้วแหวนเงินทองหรือแว่นแคว้นส่วนหนึ่งแล้วแต่ผู้ครอบครองสังวาลจะพึงใจ

และแม้จะละเลยถ้อยแถลงว่าบุรุษใดมีไว้ซึ่งสังวาลเส้นนั้น จะสามารถกล่าวอ้างการเป็นพระสวามีของเจ้าหญิงจันทราวตีได้ ข่าวในราชสำนักก็แพร่งพรายไปปากต่อปาก กระทั่งแพร่สะพัดไปทั่วนครสาวัตถี...




 

Create Date : 30 เมษายน 2554
2 comments
Last Update : 30 เมษายน 2554 7:00:53 น.
Counter : 915 Pageviews.

 

ทักทายจ่ะ เย็นแล้วไปเดินเล่นกันนะจ่ะ

 

โดย: ตะวันเจ้าเอย 30 เมษายน 2554 16:18:34 น.  

 

ไปเดินเล่นกลับมาแล้วค่ะ :)

ขอบคุณคุณตะวันเจ้าเอยนะคะ
สละเวลามาทักหลายวันติดกันแล้ว
วันนี้เลยไปแอด friend ไว้แล้วค่ะ

 

โดย: รุริกะ 30 เมษายน 2554 19:59:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


รุริกะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




users online
pageviews
Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
30 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add รุริกะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.