๒. วัตถุ ๑๐ ประการ
อรุณรุ่ง ณ วิหารบุพพาราม นครสาวัตถี ด้วยว่าพระธิดาองค์น้อยเสด็จมาถวายทานอยู่เนืองนิจ จึงไม่มีผู้ใดผิดสังเกตว่าวันนี้ทรงมาเช้ากว่าปกติ ทั้งยังทรงรับสั่งให้นางสนมคอยอยู่เบื้องนอกดังที่เคยทำมา ครั้นถึงในพระวิหารก็ทรงประทับนั่งอยู่เบื้องล่างอันต่ำกว่าอาสนะพระภิกษุผู้ทำการเทศน์ถวาย ในที่นี้จึงทรงเป็นอุบาสิกาดรุณีคนหนึ่ง ไม่ได้แตกต่างจากอีกหลายนางที่นั่งอยู่ใกล้ๆเท่าใดนัก ทูลพระธิดาเพคะ เสด็จมาแต่เช้า ข้าพระองค์ไม่ทันออกไปรับเสด็จ อุบาสิกานางหนึ่งที่เป็นรุ่นราวคราวเดียวกันเข้ามาทักทายอย่างนอบน้อม
อะไรกัน ฉันมาสายจนไม่ทันช่วยเธอเตรียมภัตตาหารด้วยซ้ำ เอ๊ะ เมื่อครู่ฉันยังเห็นเธออยู่หน้าโรงทานอยู่เลย มิได้เพคะ นั่นพี่สาวของข้าพระองค์ต่างหาก ตายจริง ฉันขอโทษ เธอทั้งสองคล้ายคลึงกันเหลือเกิน มิใช่แต่พระธิดาพระองค์เดียวหรอกเพคะ น้อยคนนักจะทักลูกหลานของคุณย่าวิสาขา ถูก ว่าแต่วันนี้พระธิดาทรงพาพระพักตร์หมองอย่างนี้มาฟังธรรม ไม่สมกับเป็นพระธิดาจันทราวตีที่ข้าพระองค์รู้จักเลยเพคะ ทำเป็นรู้ดีไป เธอเล่าภาวิณี พักนี้ไม่มาให้ฉันพบหน้าเลย มัวแต่ไปทำอันใดอยู่ ไม่ทรงทราบหรือเพคะ ภาวิณีตั้งปริศนาแทนคำตอบ
พักนี้ฉันยุ่งๆอยู่ในวัง เรื่องของฉันก็วุ่นวายเอาการอยู่ เธอมีเรื่องอันใดก็บอกมาเถิด อย่าให้ฉันเดาเลย พระธิดาตรัสปฏิเสธเสียงอ่อนล้า
ข้าพระองค์ต้องเตรียมการเดินทางไปนครเวสาลีเพคะ พระภิกษุผู้อาวุโสหลายรูปในวิหารบุพพารามมีความจำเป็นต้องเดินทางไปที่นั่น แล้วไหนจะพวกอุบาสกอุบาสิกาที่ประสงค์จะติดตามไปด้วย ครอบครัวข้าพระองค์จำเป็นต้องคอยดูแลเรื่องข้าวปลาอาหารและเครื่องใช้ต่างๆไม่ให้บกพร่อง เวสาลี ไปทำไมที่นั่น
โอ
พระธิดาประทับอยู่ที่ใดมาเพคะ เอ้อ ขอประทานอภัยเพคะ ข้าพระองค์นึกว่าพระธิดาเป็นเพื่อนหญิงคนหนึ่ง เธอเข้าใจถูกแล้ว ฉันเป็นเพื่อนเธอ แต่ฉันกลับพลาดเรื่องสำคัญของเธอได้ เล่ามาสิ ฉันอยากรู้ เพคะ ก่อนอื่น คงจะทรงทราบดีว่าถึงเวลานี้ การปรินิพพานของพระพุทธองค์ผ่านมาได้ ๑๐๐ ปีแล้ว จ้ะ ฉันยังนึกเสียดายอยู่ทุกวัน ที่เกิดมาไม่ทันพระองค์ท่าน แล้วตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับพุทธศาสนาที่เมืองเวสาลีเล่า
เพคะ เมื่อหลายเดือนก่อน พระภิกษุชาวเมืองเวสาลีได้แตกกันออกเป็น ๒ ฝ่าย อันเนื่องมาจากความขัดแย้งกันในเรื่องวัตถุ ๑๐ ประการที่ภิกษุวัชชีบุตรนำมาแสดง ว่ากันตามพระวินัยแต่เดิมมาวัตถุเหล่านั้นล้วนเป็นของผิดพระธรรมวินัยทุกข้อ แต่กลับนำมาใช้เป็นข้อวัตรปฏิบัติที่เป็นที่รู้กันเฉพาะกลุ่ม แล้วชาวเมืองเวสาลีไม่คัดค้านกันหรือ
ภาวิณีพยักหน้าในเชิงปฏิเสธ
ไม่เพคะ เขาไม่รู้พระวินัย พอมีพระยสะ ซึ่งเป็นพระมาจากที่อื่นไปยังอุโบสถของภิกษุพวกวัชชีบุตรเหล่านั้น ได้รับรู้ความประพฤติที่ย่อหย่อน และได้เห็นพฤติกรรมการเรี่ยไรเงินพวกอุบาสกที่มาทำบุญเพื่อเป็นค่าบริขารของพระสงฆ์ พระยสะจึงได้กล่าวติเตียนภิกษุชาววัชชีว่า
การกระทำเช่นนี้ขัดต่อพุทธบัญญัติ เป็นความผิดทั้งผู้รับทั้งผู้ถวาย และเทศนาจนเหล่าทายกทายิกาเข้าใจและเกิดความเลื่อมในตัวท่านเป็นอันมาก เป็นเหตุให้ภิกษุชาววัชชีโกรธคิดจะลงโทษพระยสะโดยการขับไล่ออกเสียจากหมู่คณะ
เหตุการณ์วุ่นวายใหญ่เลยสิ เจ้าหญิงทรงสดับฟังและเอ่ยถามอย่างสนพระทัย
เพคะ ในครั้งนั้นภิกษุชาววัชชีถึงกับพากันไปห้อมล้อมกุฏิของพระยสะ แต่ท่านทราบเสียก่อนจึงได้หลบหนีไปยังเมืองอื่นและได้รวบรวมพระภิกษุจากเมืองปาวาและเมืองอวันตีไปยังสหชาตินคร เพื่อนิมนต์พระเรวตเถระเป็นองค์ประธานในการประชุม
ในครั้งแรกเหล่าภิกษุฝ่ายของพระยสะหรือภิกษุฝ่ายวินัยวาที คิดจะพิจารณาหาทางระงับอธิกรณ์ที่สหชาตินครนั้น แต่พระเรวตะเสนอว่า อธิกรณ์เกิดขึ้นที่ใดควรไประงับเสียที่นั่น จึงกำหนดสถานที่เป็นวาลิการามที่เมืองเวสาลี ขณะนี้ก็กำลังเป็นเวลารวมตัวของพระอรหันต์ตามแคว้นต่างๆ เพื่อไปร่วมการประชุมยังเมืองเวสาลีเพคะ
เรื่องเป็นมาอย่างนี้นี่เอง เธอจึงคิดจะไปร่วมงานด้วย ดีจริง ฉันขออนุโมทนา ข้าพระองค์คงมิได้ไปทำอะไรมากหรอกเพคะพระธิดา ที่ประชุมสงฆ์ย่อมไม่ต้องการให้ฆราวาสไปวุ่นวายมากนัก เหล่าอุบาสกอุบาสิกาทำได้ก็แต่เพียงจัดสถานที่ให้สะดวกสบายและเตรียมภัตตาหารอยู่เบื้องนอก เห็นว่าคู่สนทนารับฟังแล้วนั่งนิ่ง ภาวิณีจึงเอ่ยถาม ทรงดำริสิ่งใดอยู่หรือเพคะ ไม่ทราบหรือภาวิณี ตรัสถามด้วยพระสุรเสียงกระเซ้าเย้าแหย่บ้าง ไม่ทราบหรอกเพคะ ข้าพระองค์ไม่ได้มีเจโตปริยญาณ เสียหน่อย ไฉนเลยจะล่วงรู้พระทัยของพระธิดาได้
เช่นนั้นเธอจงฟัง ฉันมีแผนการสำคัญที่เพิ่งคิดได้เมื่อครู่ เอียงหูมาใกล้ๆสิ ต่อไปนี้จะเป็นความลับระหว่างเราสองคน
ว่าแล้วก็ขยับพระวรกายไปแนบชิดพระสหายหญิงคนสนิท กระซิบความอันใดขึ้นมาประโยคหนึ่ง ภาวิณีฟังแล้วขมวดคิ้วมุ่น สองดรุณีปรึกษากันอยู่ชั่วครู่แล้วจึงปลีกตัวออกไปภายนอกวิหาร
Create Date : 21 มีนาคม 2554 |
Last Update : 21 มีนาคม 2554 18:08:32 น. |
|
0 comments
|
Counter : 559 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|