๙. หวานละไม
นกพิราบบินกลับมาส่งข่าวอย่างปลอดภัย ราชองครักษ์ทั้งสิบสองนายยินยอมปฏิบัติตามกระแสรับสั่ง จันทราวตีรับข่าวสารแล้วทำลายทิ้ง ให้สัญญาณนกน้อยบินจากไปหาที่ซ่อน
แน่พระทัยแล้วหรือเพคะ เมื่อยามอยู่ในกระโจมลำพังกับองค์หญิงเพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า ภาวิณีนั่งคุกเข่าสางพระเกศาพลางเอ่ยถามอย่างอาทร
อาจจะไม่ดีนัก หากความแตกกลางทางแล้วเขาโมโหโทโสขึ้นมาจนถึงกับจับเราต้มยำทำแกง องค์หญิงตรัสเจื้อยแจ้ว ผู้ใดจะทำเช่นนั้นได้ลงคอ น้ำพระทัยพระธิดาคงคิดจะหลอกเจ้าชายไปจนถึงวันแต่ง
ผู้ใดคิดจะแต่งกับเขา เจ้าหญิงถามเสียงขุ่น ก็ผู้ที่พระโอรสเข้าพระทัยว่าเป็นสาวชาวบ้าน ภาวิณีตอบน้ำเสียงล้อเลียน จันทราวตีนึกขำแต่ทำได้เพียงส่ายหน้า ฉันอยากรู้ว่าเขาปฏิบัติกับสามัญชนทั่วไปอย่างไร โดยเฉพาะกับสตรีที่ไม่มียศฐาบรรดาศักดิ์ หากทรงรักโดยไม่มีข้อแม้... ภาวิณีเอ่ยแทรก ก็แย่อยู่ดี ตัวเองมีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว ยังคิดจะจับสาวชาวบ้านไปเป็นนางสนมไว้เชยชมเล่น ล้วนไม่ผิดวิสัยบุรุษทั้งสิ้น
สหายขององค์หญิงนิ่งฟังอย่างอ่อนใจ มิรู้จะทำประการใดกับความดื้อรั้นของเจ้านางน้อย แม้อ่อนด้อยประสบการณ์ก็พอคาดเดาได้ ว่าพระธิดาเองก็มิได้เข้าพระทัยในตัวเองนัก หากไม่เคลือบแคลงสงสัย ใยต้องลงแรงเปลืองพระองค์เช่นนี้
เสียงคนเดินใกล้เข้ามาการสนทนาจึงหยุดลง อุบาสิกาผู้หนึ่งเอ่ยปากขออนุญาตแล้วเดินเข้ามาในกระโจม สำรวจเสื้อผ้าอาภรณ์ของสตรีทั้งสองเห็นว่าเรียบร้อยดีแล้ว จึงเชื้อเชิญให้ออกไปเข้าเฝ้าพระโอรสที่ประทับรออยู่ในกระโจมอีกด้านหนึ่ง เมื่อเดินไปจวนถึง ศรีรามก็ออกมาต้อนรับและถามไถ่
สบายดีแล้วนะขอรับ จ้ะ ฉันสบายดี ภาวิณีบอกกล่าว แล้วพระโอรสเล่า
จันทราวตีรำพึงอยู่ในใจด้วยความห่วงใยแต่ไม่ยอมปริปาก
พระโอรสประชวรอยู่ขอรับ
ลูกศรอาบยาพิษ ศรีรามหันมาบอกเหมือนรู้ใจ จันทราวตีจึงเอ่ยถามตามที่สงสัย แล้วพระอาการเป็นอย่างไรบ้าง แย่ขอรับ ยังปรุงยามาถอนพิษไม่ได้
เมื่อคืนลืมถามไถ่ เลยมิรู้ชื่อเสียงเรียงนามของน้องหญิงทั้งสอง ไม่สำคัญเท่า พี่ชายโปรดพาฉันไปดูอาการพระโอรสก่อนเถิด
สัมผัสได้ถึงความห่วงใยอย่างใกล้ชิด ศรีรามพินิจฟังน้ำเสียงและเฝ้ามองกิริยาท่าทางของสตรีทั้งสองนางจนรับรู้ได้ถึงกระแสที่ผ่านมาเป็นผัสสะอย่างหนึ่งเข้ามากระทบ คนหนึ่งสงบเย็นด้วยการฝักใฝ่ในพระธรรมอันพิสุทธิ์ อีกคนเฉิดฉายและทอประกายด้วยวาสนาและบารมีอันสูงส่ง คนหลังดูอย่างไรก็มิน่าจะใช่สาวชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร แต่การพบกันคงเป็นเรื่องดีมิใช่ร้าย ดูเธอเองก็ห่วงใยพระโอรสจากน้ำใสใจจริง ชื่อเสียงเรียงนามค่อยถามคราวหลังก็คงได้
เชิญขอรับ ศรีรามนำทางให้จนถึงที่ประทับ ด้านหน้ามีทหารรักษาเวรยามอยู่แน่นหนา เมื่อเห็นคนสนิทของเจ้าชายมาพร้อมคนแปลกหน้าก็ระวังระไว ศรีรามเพียงพยักหน้าให้สัญญาณว่าปลอดภัยจึงถอยไปยืนห่างๆ
จันทราวตีเข้าไปจับชีพจรและตรวจดูบาดแผลที่ซีดเผือดจนดูม่วงคล้ำ เจ้าชายยังสลบไสลไม่ได้สติมีพระสาโทซึมทั่วพระวรกาย
เมื่อคืนยังปรกติดีอยู่เลย
พิษที่ทำให้อาการทรุดลงหลังสี่ชั่วยามและทำให้ชีพจรเต้นช้าลงเรื่อยๆ
ท่านสิงหลน่าจะช่วยได้ เจ้าหญิงดำริในพระทัยแล้วหันไปบอกกล่าว
เรือนของฉันอยู่ไม่ห่างจากที่นี่มากนักและพอมีทางช่วย รออยู่ที่นี่ไม่เกินสองชั่วยาม ฉันจะกลับมาพร้อมหมอและยารักษา
ศรีรามจัดทหารตามไปส่งสตรีทั้งสองยังเรือนที่จันทราวตีเอ่ยถึง การไปเยือนของเหล่าทหารได้รับการต้อนรับขับสู้จากหมู่เครือญาติกำมะลอที่เหล่าองครักษ์จัดเตรียมไว้ เป็นเครื่องช่วยยืนยันตัวตนของ สาวชาวบ้าน ที่เจ้าชายพบกลางป่าได้เป็นอย่างดี ภาวิณีฝากข่าวไปถึงพ่อและผู้รู้เห็นคนอื่นในขบวนว่ามีภาระต้องทำอีกสักระยะ สตรีทั้งสองนางกลับไปยังขบวนของนครราชคฤห์พร้อมท่านหมอสิงหลที่นำยามารักษาพยาบาลได้ทันเวลา
ที่ประทับในคืนนั้นมีแสงตะเกียงเรื่อเรืองอยู่ตลอดทั้งคืน โอรสเทวินทร์วรมันต์ครึ่งตื่นครึ่งฝัน หากลืมตาขึ้นมาครั้งใดก็ได้พบใบหน้าหวานละไมกับดวงเนตรสุกใสดังหมู่ดาราในเวลามืดมิดวนเวียนอยู่ไม่ห่าง สาวชาวบ้านเฝ้าพยาบาลเจ้าชายอยู่จนใกล้รุ่งจึงผลอยหลับไปด้วยความอ่อนแรง
Create Date : 30 มีนาคม 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 30 มีนาคม 2554 7:37:49 น. |
Counter : 803 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|