Bloggang.com : ลูกอบรสเขียด : Intouchables : ด้วยใจแห่งมิตร พิชิตทุกสิ่ง , รู้หน้าไม่รู้ใจ รู้นิสัยใช่ว่ารู้เงินตรา

Intouchables : ด้วยใจแห่งมิตร พิชิตทุกสิ่ง , รู้หน้าไม่รู้ใจ รู้นิสัยใช่ว่ารู้เงินตรา

Intouchables (2011)

[ไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญ หรือ ไม่สปอยล์]

Rated R for language and some drug use

เป็นหนังที่ถือว่าอยู่ในรายการที่ต้องดูแน่ๆอยู่แล้ว แต่ก่อนที่จะดูนั้นก็ไม่ได้มีความคาดหวังอะไรเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าจะมีหลายเสียงได้ชื่นชมถึงความสุดยอดของหนังฝรั่งเศสทำเงินเรื่องนี้มาก็ตาม ซึ่งส่วนนึงคงเป็นเพราะช่วงนี้กำลังเครียดและไม่ค่อยพร้อมกับหนังดราม่า แต่อย่างไรก็ตามหลังดูจบผลกลับต่างกัน

The Intouchables เป็นหนังดราม่าที่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัย ที่ยังเชื่อมั่นในมิตรภาพอันไร้กำแพงกั้นและเป็นยาเสริมกำลังใจขนานเอก หนังสร้างมาจากเรื่องจริงของ ฟิลิปป์ (รับบทโดย ฟรองซัวส์ คลูเซต์) มหาเศรษฐีคนหนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุจนต้องกลายเป็นอัมพาต ชีวิตที่เคยไปไหนมาไหน และทำอะไรได้ตามใจ ต้องมาติดแหง็กอยู่บนรถเข็น ฟิลิปป์ จึงประกาศหาพยาบาลส่วนตัวที่จะทำหน้าที่ทั้งเลขา คนรับใช้และเพื่อน แต่ควานหาผู้มีคุณสมบัติไปหลายสิบรายก็ยังไม่ถูกใจ จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับ ดริสส์ เด็กหนุ่มผิวดำที่เกิดและโตในสลัม ซึ่งเศรษฐีใหญ่รู้สึกถูกชะตาโดยไม่ทราบสาเหตุ จนทำให้เกิดเป็นมิตรภาพ

Intouchables กำกับการแสดงโดยผู้กำกับชาวฝรั่งเศสถึง 2 คนได้แก่ โอลิเวียร์ เน็คเอช และ อีริค โทเรเดโน่ ที่ทั้งคู่นั้นก็ไม่เคยมีผลงานที่โด่งดังมาจนถึงฮอลลีวู้ดให้เรารู้จักหน้าตากันเสียที จนกระทั่งมาถึงเรื่อง Intouchables นี่เอง ที่น่าจะเป็นตัวหนังที่ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักกับผู้กำกับคนนี่เสียที โดย Intouchables นั้น ถ้าหากจะบอกว่าเป็นหนังดราม่าก็คงจะไม่ถูก แต่ขอให้บอกว่ามันเป็นหนังแนว ตลก ที่แฝงไปด้วยความดราม่าจะดีกว่า เพราะว่าตลอดเวลา 112 นาทีของหนังแทบจะไม่มีความดราม่าอย่างที่ผมคาดโผล่มาเลยสักนิดเดียว เพราะหนังมันเต็มไปด้วยด้านของ มุกตลก และ อารมณ์ ฟีล กู๊ด ที่สามารถทำออกมาได้อย่างสนุกสนานในแบบฉบับถึงพริกถึงขิง กลมกล่อมไปด้วยเรื่องราวของการเสียดสีฐานะของ คนจน และ คนรวย โดยผ่านการกระทำของตัวละคร

ซึ่งสิ่งที่ Intouchables นำเอามาเสียดสี ผมก็เชื่อว่ามันน่าจะเป็นสิ่งที่หลายๆคนและคนในสังคมทั้งหลายรู้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของการที่คนมีฐานะสูงส่งกว่าอย่าง คนรวย ได้เลือกมองคนที่มีฐานะต่ำกว่าอย่าง คนจน ในแบบทางลบ และส่วนมากเลือกที่จะไม่เข้าไปคบหา หรือทำความรู้จัก ทั้งที่จริงแล้วคนมีฐานะเหล่านี้ยังไม่ได้รู้ถึงจิตใจภายในเลยสักนิด หรือแม้แต่เรื่องราวอื่นๆไม่ว่าจะเป็นการที่หนังบอกว่า สังคมคนรวย ภายนอกก็อาจจะดูเหมือนรื่นเริง และ มีระดับ แต่หารู้ไม่ว่าภายในคนมีฐานะเหล่านั้น กลับมีแต่คนที่เลือกที่จะใส่หน้ากากเข้าหากัน โดยเลือกไม่เผยแพร่นิสัยจริงๆของตัวเองออกมาเพราะกลัวจะเสียชื่อเสียง

ต่างจากคนที่มีฐานะรองลงมาหน่อย ที่เลือกที่จะเผยแพร่นิสัย และ ตัวตนจริงๆของพวกเขาออกมามากกว่า เพื่อแสดงถึงความจริงใจที่มีให้กัน ผ่านตัวละครอย่าง ดริส ที่นักแสดงผิวสีอย่าง โอมาร์ ซี สามารถเนรมิตรตัวละคร ดริส ออกมาได้อย่างมีสีสัน ในสไตล์การพูด เต้น และแสดง หนำซ้ำยังเป็นตัวละครที่สามารถจับต้องได้ง่าย และเป็นตัวละครที่ดูมีปูมหลังที่น่าสนใจมากในระดับนึง ไม่ต่างจากอีกตัวละครนึงอย่าง ฟิลลิปส์ เศรษฐีหนุ่ม ที่นำแสดงโดย ฟรองซัวส์ คลูเซต์ ที่สามารถแสดงได้เข้าขากับ โอมาร์ ซี ทั้งในฉากดราม่า ฟีลกู๊ด และฉากการต่อมุกตลกสุดสนุกสนานในหนัง ซึ่งเอาเข้าจริงๆก็อย่างที่ผมว่าไปนั้นแหละครับว่าตัวเรื่องหลักอย่างการเสียดสีฐานะคนใน Intouchables มันก็เป็นเรื่องการเสียดสีเดิมๆ ที่เราคงได้เห็นมาในหนังฮอลลีวู้ดชีวิตรัดทนหลายๆเรื่องแล้วแน่

เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นหมัดเด็ดของ Intouchables เลยคงหนีไม่พ้นด้านของ มุกตลก ที่สามารถทำออกมาได้ขำจนแทบตกเก้าอี้ และ การแสดงของ 2 นักแสดงนำอย่าง โอมาร์ ซี และ ฟรองซัวส์ คลูเซต์ พร้อมด้วยการที่หนังเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความดราม่า ฟีลกู๊ด ที่สามารถทำให้คนดูมองข้ามจุดเล็กๆที่หนังยังไม่สามารถปิดหมด และหลายๆฉากที่ยังน่าสงสัยอยู่บ้างไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งถ้าหากช่วงนี้ใครที่กำลังเครียดจากการงาน และปัญหาชีวิต Intouchables ก็ถือว่าอาจจะเป็นหนังที่สามารถสร้างทั้งกำลังใจ , อารมณ์ฟีลกู๊ดในการทำงาน และ รอยยิ้ม ให้คุณได้อย่างไม่ทันตั้งตัวก็เป็นได้เลยหละครับ

โดยสรุปแล้ว Intouchables ถือว่าอาจจะไม่ใช่หนังที่มีลูกเล่นในการเสียดสีฐานะของคนในแบบใหม่ๆมานำเสนอ แต่หนังก็สามารถตีกลับคืนได้ด้วย มุกตลก สุดฮา และ อารมณ์ความฟีลกู๊ด รวมทั้งการแสดงของ 2 ดารานำด้วยเช่นเดียวกัน ที่ดูแล้วสามารถทำให้คนดูหลายๆคนมองข้ามจุดบกพร่องของหนังไปได้

เรื่องนี้ผมให้ A- ครับ

Create Date : 19 กันยายน 2555

Last Update : 20 กันยายน 2555 0:02:26 น.

1 comments

Counter : 6720 Pageviews.

ผมมองว่าเรื่องฐานะเป็นประเด็นรอง ที่หนังให้ความสำคัญไม่เยอะเท่าไหร่นะ เรื่องการเสียดสีความเหลื่อมล้ำทางสังคมก็มีบ้าง แต่ก็ยังน้อยอยู่ดี

แต่ที่หนังมุ่งเป้าไปน่าจะเป็นความต้องการการยอมรับ และที่ยืนในสังคม ที่หนังถ่ายทอดผ่านตัวละครนำทั้งคู่ ที่ต่างก็มีจุดบอดในชีวิต ฉากสุดท้ายที่ฟิลิปได้เผชิญหน้ากับเพื่อนทางจดหมาย เป็นเหมือนการก้าวผ่านความกลัว (ที่คิดไปเอง) ได้สำเร็จ ส่วนการที่ดริสเอาไข่มาคืนก็เป็นเหมือนการกลับตัวกลับใจ ต้องการเป็นคนดีของสังคมเต็มตัว

ผมให้ 10/10 นะหนังเรื่องนี้ ดูแล้วอิ่มมากๆ เลย

โดย: Branelay IP: 110.168.210.74 วันที่: 20 กันยายน 2555 เวลา:9:35:03 น.