Bloggang.com : ลูกอบรสเขียด : Captain America : The First Avenger : กัปตันอเมริกา : อเวนเจอร์ที่ 1 , สนุกและมันส์ตามสไตล์ Marvel

Captain America : The First Avenger : กัปตันอเมริกา : อเวนเจอร์ที่ 1 , สนุกและมันส์ตามสไตล์ Marvel

Captain America : The First Avenger (2011)

[ไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญ หรือ ไม่สปอยล์]

Rated PG-13 for intense sequences of sci-fi violence and action

หลังจากที่ปล่อยให้เพื่อนเหล่าซุเปอร์ฮีโร่ ออกมาเตะตูดผู้ร้ายมานาน มาถึงคราวของผู้ให้กำเนิดเหล่าอเวนเจอร์อย่าง กัปตันอเมริกา ที่จะได้ออกมาฉายในโรงใหญ่บ้างหละ โดยก่อนจะไปดูเรื่องนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรเลยสักนิด เนื่องจากตื่นเต้นกับบางอย่างในหนังแทน โดยเรื่องนี้เป็นอย่างไรไปอ่านเลยครับ

Captain America : The First Avenger หนังเรื่องราวของชายหนุ่มร่างเล็กผู้หนึ่ง ที่มีจิตใจแข็งแรงดั่งนักสู้ ที่เขานั้นอยากจะสมัครเป็นทหารไปช่วยประเทศชาติเต็มที เพียงแต่ว่าร่างกายของเขาดันตัวเล็กไปเท่านั้นเอง อย่าง โรเจอร์ สตีเว่น จนกระทั่ง ได้มีคุณหมอ Abraham Erskine ได้เห็นความกล้าหาญของเขาจึงให้โอกาสเขานั้น เขาไปรับการฝึกจากทหาร ซึ่งที่นั้นเขาได้พบกับสาวสวย คาร์เตอร์ และผู้พัน ฟิลลิปห์ ที่ต่อมาด้วยความกล้าหาญของเขาทำให้เขาได้ถูกรับเลือกให้ไปเป็น Super Soldier ที่เขาต้องใช้พลังในความแข็งแรงนี้นั้นต่อกรกับเหล่านาซี และ คู่ต่อสู้ของเขาอย่างเจ้า Red Skull ให้จงได้

Captain America ได้ผู้กำกับ Joe Johnston หลังจากเคยล้มเหลวจนแก้ตัวไม่ขึ้นมาแล้วกับ Jurassic Park III และยังต่อมาด้วยกับมนุษย์หมาป่าภาครีเมคที่ไม่ถูกใจนักวิจารณ์แล้ว รายได้ของหนังยังออกมาดูไม่ดีซะด้วยอย่าง The Wolfman เมื่อปีที่แล้ว แต่ปีนี้เขาก็ได้กลับมาพร้อมกับแบกรับภาระของฮีโร่ตัวสุดท้ายของทีม Avenger ที่ยังไม่ได้สร้างเป็นหนังอย่าง Captain America ซึ่งใครอ่านการ์ตูนมาคงรู้ดีว่า ซุปเปอร์ฮีโร่ รุ่นบุกเบิก คนนี้ไม่ได้มีพลังพิเศษอะไรมากมาย เพียงแต่มีกำลังมากกว่าเท่านั้น โดยอย่างแรกที่ผู้กำกับ Johnston ได้เรียนรู้คงหนีไม่พ้น สไตล์การเล่าเรื่อง ที่เรื่องนี้ไม่รู้ว่าได้ Marvel ช่วยรึปล่าว สไตล์การเล่าบทต่างๆจึงดูออกมาแล้วลื่นไหล + สนุก ไม่มีช่วงอืดอาดเหมือนใน The Wolfman ผลงานเก่าของเขา + ฉากแอ็คชั่นต่างๆที่...

ถึงแม้จะทำออกมาแนวสไตล์ของหนังแอ็คชั่นยุคเก่าๆ แต่ผู้กำกับก็ยังถือว่ายังคงความมันส์ในสมัยของยุคนี้ได้อยู่ โดยเฉพาะการผสมระหว่างความ ไฮเทค เข้ากับ ความเก๋าในยุคเก่า ได้อย่างลงตัว ซึ่งในด้านของฉากหลังในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถือว่าทำออกมาได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะย่าน บรูคลิน ที่เล่นเนรมิตฉากหลังที่เรียกได้ว่าลงทุนมาก + เสน่ห์ของตัวละคร Captain America ที่รับบทโดย Chris Evan ทำออกมาได้ไม่ผิดหวัง ถือว่าเป็นฮีโร่อีกตัวที่มีเสน่ห์พอๆกับ Thor แต่ก็ยังไม่เทียบเท่ากับ Iron Man (รวมถึงด้านความสนุกที่ยากที่จะหาหนังฮีโร่เรื่องอื่นๆมาเปรียบได้) ซึ่งอีกอย่างแล้วนั้น สำหรับด้านของ ...

ที่ยังสามารถผสานเรื่องราวของจักรวาล Marvel ต่างๆเข้ามารวมกันได้อย่างสมเหตุสมผล และตรงรอยร้าวที่หนังเรื่องอื่นๆก่อไว้เปะ ไม่ว่าจะเป็น Thor หรือ Iron Man ที่สามารถประดิษฐ์ออกมาได้ลงตัวในเรื่องนี้เลยทีเดียว และอย่างสุดท้ายที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คงหนีไม่พ้น การออกแบบของ เครื่องแต่งกาย หรือ ชุดของ กัปตัน ที่สามารถดัดแปลงออกมาได้ดูไม่ตลกอย่างที่หลายๆคนชมกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะชุดใหม่ในทีม The Avenger ที่ออกมาแบบมาได้เท่ซะยิ่งกว่าเท่อีกนะจะบอกให้.. (ส่วนในด้านของ 3D เรื่องนี้ผมก็ไม่ได้ดู 3D อีกตามเคย แต่หลังจากที่ดู 2D หนังมีฉากทะลุจอ + ฉากพยายามมีมิติหลายฉากพอสมควร)

แต่เมื่อมองในด้านของความผิดหวังของเรื่องนี้แล้วคงหนีไม่พ้น เรื่องของฉากแอ็คชั่นในบางฉาก ที่ดูแล้วยังดูเฉยๆ + เชยๆไปบ้าง ความพยายามในการพูดถึงความกล้าแกร่ง และอื่นๆ ที่ยังดูโล่งๆไปบ้าง (แต่ยังไงก็ยังไม่ถึงกับประเด็นลวกๆแบบใน Green Lantern แน่นอน เพราะเรื่องนี้ยกระดับขึ้นมาได้ดีกว่านิดหน่อย) และอย่างสุดท้าย คงหนีไม่พ้น เรื่องราวเล็กๆน้อยเกี่ยวกับโล่ของกัปตันอเมริกา ที่อย่าว่าอย่างนู้นอย่างงี้เลยเถอะนะ แต่ว่าปาไปแล้วมันเด้งกลับมาได้เองซะเทพเชียว (อย่าซีเรียสกับข้อนี้มากนัก อ่านเอาฮาอย่างเดียวพอ..) โดยรวมแล้วนั้น Captain America ถือว่าเป็นหนังแอ็คชั่นที่โดยรวม

ยังเป็นฮีโร่ที่ยังเดินตามรอยของ Marvel ได้อย่างไม่เสียของ + พร้อมกับการจะไปรวมเป็นทีม The Avenger อย่างภาคภูมิใจได้อย่างแน่นอน โดยหนังเรื่องนี้มีฉากแอ็คชั่นดูสนุกๆอยู่มากมาย + มีอารมณ์ขันแทรกตลอด พร้อมกับการเล่าบทที่ลื่นไหล แล้วจะรออะไรกันอีกหละครับสำหรับคอแอ็คชั่นทั้งหลาย...