Bloggang.com : ลูกอบรสเขียด : How I Spent My Summer Vacation : คนมหากาฬระอุ , เดชไอเก๋า แหกคุกนรกโหด

How I Spent My Summer Vacation : คนมหากาฬระอุ , เดชไอเก๋า แหกคุกนรกโหด

How I Spent My Summer Vacation (2012)

[ไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญ หรือ ไม่สปอยล์]

Rated R for strong bloody violence, pervasive language, some drug use and sexual material

ถึงแม้ว่าอดีตดาราชื่อดังอย่าง เมล กิ๊บสัน ในตอนนี้ยังคงโดนเหล่าคนดูฮอลลีวู้ด เกลียดเข้าไส้อยู่ไม่มีวันหาย แต่ส่วนตัวผมกลับเป็นคนที่ยังค่อนข้างชื่นชอบ เมล กิ๊บสัน เป็นอย่างมาก และหนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังแนวแอ็คชั่น หักเหลี่ยม เรื่องล่าสุดของเขาที่มาพร้อมโปรดิวเซอร์ของ Braveheart ที่ดังในอดีตครับ

เมล กิ๊บสัน กลับมาแสดงนำ, เขียนบท และอำนวยการสร้าง ใน How I Spent My Summer Vacation หนังแอ็คชั่นสุดระห่ำ มันส์ไม่มีเม้ม ที่จะทำให้คุณนึกถึง “ริกส์ คนมหากาฬ” เลยก็ว่าได้ เมื่อ ไดร์เวอร์ (เมล กิ๊บสัน) ซิ่งรถผ่านเขตแดนระหว่างอเมริกา-เม็กซิโก โดยมีผู้โดยสารปริศนาจมกองเลือดอยู่เบาะหลัง ถึงแม้ว่าจะสามารถหนีออกจากอเมริกาได้ แต่เขาก็ถูกกองตำรวจเม็กซิโกจับขังคุกเม็กซิกัน ที่ขึ้นชื่อว่า โหด ดิบ เถื่อน ที่สุดในโลก แต่ที่นั่นเองที่ ไดร์เวอร์ ก็ได้รู้จักกับแม่ม่ายสาวและลูกชายวัย 10 ขวบของเธอ ซึ่งช่วยให้เขาเรียนรู้วิธีเอาตัวรอดภายในสถานที่แห่งนี้ โดยที่เขาไม่ได้โดนเหล่าเจ้าพ่อในนี้ฆ่าไปเสียก่อน

How I Spent My Summer Vacation หรือว่าอีกชื่อนึงที่ใช้ขายในอเมริกาคือ Get The Gringo เป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับหน้าใหม่ที่ผันตัวมาจากการไปเป็นผู้กำกับกอง 2 อยู่เสียนานอย่าง เอเดรี่ยน กัลเบิร์ก ซึ่ง How I Spent My Summer Vacation ถือว่าเป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตของผู้กำกับเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าหากจะนำไปบอกใครต่อใครว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่กำกับการแสดงโดยผู้กำกับที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการถ่ายหนังมาก่อนเลยสักนิด ก็คงไม่มีใครเชื่อเป็นอย่างแน่แท้ ซึ่งผมไม่รู้ว่าใครคิดยังไงกับหนังเรื่องนี้ แต่สำหรับผมกลับคิดว่า How I Spent My Summer Vacation ถือว่าเป็นหนังที่คืนฟอร์มของ เมล กิ๊บสัน ได้ค่อนข้างสมศักดิ์ศรี เพราะสิ่งที่ How I Spent My Summer Vacation สามารถทำให้คนดูรู้สึกสนุกไปได้ค่อนข้างดีเลยมันกลับไม่ใช่ฉากแอ็คชั่นหรอก

แต่มันกลับกลายเป็นการที่ผู้กำกับ เอเดรี่ยน กัลเบิร์ก พยายามจะทำให้ How I Spent My Summer Vacation ดูเหมือนกับว่าเป็น Prison Break ขนาดสั้นลง แต่เพิ่มมุกตลกกวนประสาท และ ความฉลาดของตัวเอกเพิ่มเข้ามา แถมสิ่งที่น่าแปลกใจคือผู้กำกับก็สามารถทำได้สำเร็จอย่างงดงาม เพราะสิ่งที่เป็นสเน่ห์ชูหน้าชูตาของหนังเลยคือการที่ผู้กำกับได้ใส่ทั้ง เล่ห์กล และ ความฉลาด ของตัวเอกที่มีสติปัญญาอันเลิศล้ำในการแหกคุก ออกมาได้อย่างสนุกสนาน เพราะมันเต็มไปด้วยหลายๆฉากที่สามารถทำให้คนดูคิดในใจได้ว่า 'คิดได้ไงว่ะ' ผ่านความฉลาด และ ความเก๋า ของตัวเอกที่ทำให้หนังดูสนุกขึ้นเป็นกองเลยทีเดียวครับ

โดยสิ่งที่โดดเด่นไปไม่แพ้กันกับการวางแผนแหกคุกสุดฉลาดของพระเอก คงหนีไม่พ้นการที่หนังได้ใส่ มุกตลกร้าย เข้ามาในหนังเต็มไปหมด และที่น่าแปลกใจคือ มุกตลกร้าย เหล่านั้นกลับกลายเป็นสิ่งที่สามารถทำให้คนดูรู้สึกไม่เครียด และยิ่งอยากรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปกับแผนของตัวเอกอีกด้วย ซึ่งสำหรับ เมล กิ๊บสัน ที่ในเรื่องนี้รับหน้าที่ทั้ง แสดงบทนำ และ เป็นหนึ่งในคนเขียนบทหนัง แถมยังแอบมาเป็น โปรดิวเซอร์ ให้กับหนังด้วยเช่นกัน ก็ยังถือว่าสามารถทำหน้าที่แสดงเป็นตัวเอกแนวกวนๆ เก๋าๆ ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม และถ้าหากใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ที่ติดตามป๋า เมล กิ๊บสัน มาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ ใน How I Spent My Summer Vacation มันก็น่าจะเป็นหนังที่สามารถทำให้คุณกลับมาหลงรัก ผู้ชายมหากาฬ คนนี้ได้อีกครั้งไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอนหละครับ

แต่สิ่งที่ยังน่าผิดหวังใน How I Spent My Summer Vacation ก็ยังถือว่ายังพอมีอยู่ประปราย แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดและไม่ค่อยน่าให้อภัยเลยนั้นคือ มุมกล้อง และ การวางแสง ในตัวหนังที่ออกมาได้อารมณ์ประมาณดู ซีรี่ย์ ของฝรั่ง แถมหนำซ้ำในหลายๆฉากมุมกล้องยังออกมาค่อนได้อารมณ์หนังเกรดบีอีกด้วย และ สำหรับใครที่ไมชอบหนังแนวโอเว่อร์ ที่พระเอกเก่ง และ ฉลาดเกิน โดยที่ไม่มีเหตุมาปูรองรับ How I Spent My Summer Vacation ก็น่าจะไม่ใช่แนวคุณอย่างแน่นอนหละครับ แต่ก็อย่างว่าแหละ ว่าหนังเรื่องนี้ยังถือว่าเป็นหนังเรื่องแรกของผู้กำกับอยู่ เพราะฉะนั้นถ้าหากมีหนังเรื่องต่อไปของนายคนนี้อีก ผมจะรอนะ

ซึ่งโดยสรุปแล้ว How I Spent My Summer Vacation ถือว่าเป็นหนังแนวแหกคุก ผสมความเป็นแอ็คชั่น ที่ถือว่าทำออกมาดูสนุกกว่าที่คิด เพราะมันเต็มไปด้วยการวางแผนฉลาดๆของตัวเอก ผสมผสานไปกับมุกตลกกวนประสาทที่สามารถทำให้หนังดูสนุกได้อย่างทันตา จะเสียอย่างเดียวก็มุมกล้องที่ไม่ค่อยสวย