... ถนนสายนี้..มีตะพาบ..191 .. (สงครามแห่งความหวาดกลัว)
ทุก 5 ปี จะต้องไปเมือง Berlin เพื่อทำพาสปอร์ตไทยใหม่ค่ะ สถานทูตไทยตั้งอยู่ที่เมืองนี้ มีอยู่ครั้งนึงเสร็จธุระเรื่องพาสปอร์ตแล้ว ก็เลยไปเที่ยวต่อที่เมือง Dresden ซึ่งห่าง Berlin ไปประมาณ 2 ชั่วโมง (รถยนต์)
เลือกเข้าพักที่โรงแรม Ibis ความถูกแพงก็ตามสีของตัวหนังสือชื่อโรงแรมเลยค่ะ Ibis จะมีสีฟ้า สีเขียว และสีแดง เลือกจองพักตามกำลังทรัพย์ค่ะ
เข้าพักคืนแรกก็ยังสบาย ๆ นะคะ ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เหตุการณ์มาพีคเอาตอนเช้าอีกวันค่ะ 7 โมงเช้า กำลังหลับสบาย กะว่าจะตื่นสัก 9 โมง แต่เสียงสัญญาณไฟไหม้ดังระรัว พร้อมมีเสียงพูดผ่านลำโพงมา เรารู้สึกตัวก่อนแบบงง ๆ คนข้าง ๆ ยังหลับสนิท เราต้องปลุก พอฮีรู้สึกตัว รีบบอกให้เราใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย เก็บของสำคัญ แล้วรีบออกไปจากโรงแรม ด่วน ๆ
ไปเคาะห้องน้องสาวที่มาด้วยซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน เธอเปิดประตูมาแบบงง ๆ เราตวาดแว้ด...
ไม่ได้ยินเรอะ เร็วววว
แล้วก็วิ่งลงบันไดไป สงสารป้าคนนึงมาก เธอวิ่งไปร้องไห้ไปด้วย เหมือนทำอะไรสักอย่างตกหาย ครอบครัวไหนที่มีเด็กมาด้วย ยิ่งทุลักทุเล เด็กก็ร้องไห้จ้า เสียงสัญญาณไฟไหม้ก็ยังดังไม่หยุด ช่วงเวลานั้นถามว่ากลัวมั้ย กลัวมาก...แต่ไม่ได้แสดงออกมากมาย มันหวั่น ๆ อยู่ในอก
ไม่กี่อึดใจเสียงรถดับเพลิงก็วิ่งมาจอดหน้าโรงแรมแล้ว เรามายืนอยู่หน้าโรงแรม ลองเงยหน้าขึ้นไปดูบนโรงแรม ก็ไม่เห็นควันไฟอะไรนะ พนักงานดับเพลิงก็ทำหน้าที่ ตรวจตราหาที่มาที่ทำให้สํญญาณไฟไหม้ดังขึ้น
เกือบชั่วโมงเหมือนกัน กว่าจะประกาศว่าเข้าสู่ภาวะปรกติ กลับขึ้นห้องใครห้องมันได้แล้ว สรุป..คงมีมือบอนไปสับสวิตซ์สัญญาณไฟไหม้ เจ้าหน้าที่เขาว่างั้น
ตอนจะเดินกลับห้อง เหมือนหลาย ๆ คนจะเดินไม่ไหวกันแล้ว รอขึ้นลิฟท์กันเป็นแถว เราก็เช่นกัน
สงครามแห่งความหวาดกลัวสงบลงแล้ว นอนต่อก็คงไม่หลับ อาบน้ำอาบท่า แล้วไปหาอาหารเช้าหม่ำดีกว่า
จากนั้นก็ออกเดินเที่ยวไปรอบเมือง Dresden
Dresden ถูกทำลายเสียหายเกือบหมดทั้งเมือง จากสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี 1945
ภาพจาก google
ตอนนี้บูรณะขึ้นมาใหม่ สวยงามควรค่าแก่การไปเยือน
รูปปั้นบนหลังม้า คือ กษัตริย์ John Von Sachsen
โบสถ์ Hofkirche
Der Fürstenzug เป็นกำแพงประดับด้วยกระเบื้องที่ยาวที่สุดในโลก
โบสถ์ Frauenkirche
ขึ้นไปชมวิวมุมสูงที่โบสถ์ Frauenkirche มองเห็นแม่น้ำ Elbe
ภายในพระราชวัง Zwinger
ภายนอกพระราชวัง Zwinger
เดินเที่ยวไปเรื่อย ๆ พอเมื่อยก็หยุดดื่มอะไรเย็น ๆ ร้อน ๆ กันบ้าง
นึกถึงภาพตอนที่เดินตามกันออกมาจากโรงแรม เหมือนเชลยโดนต้อนไปสมัยสงครามเลยค่ะ
ย้อนนึกไปเมื่อปี 1945 ประชาชนสมัยนั้นคงตกอยู่ในความหวาดกลัวยิ่งกว่าเรามากมาย
และเราหวังว่าจะไม่มี "สงครามแห่งความหวาดกลัว" เกิดขึ้นอีกต่อไป
Create Date : 18 พฤศจิกายน 2560 |
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2560 23:37:10 น. |
|
19 comments
|
Counter : 2394 Pageviews. |
|
|