|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
กำแพงเบอร์ลิน
กำแพงเบอร์ลิน (เยอรมัน: Berliner Mauer ; อังกฤษ: Berlin Wall) เป็นกำแพงที่กั้นเบอร์ลินตะวันตก ออกจากเยอรมนีตะวันออกโดยรอบ เริ่มสร้างเพื่อจำกัดการเข้าออกระหว่างเขตเบอร์ลินตะวันออกและตะวันตก
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2504 (ค.ศ. 1961) และตั้งอยู่เป็นระยะเวลา 28 ปี ก่อนจะทลายลงในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 กำแพงเบอร์ลินเป็นสัญลักษณ์ของสงครามเย็น
ในระหว่างที่กำแพงยังตั้งอยู่นั้น มีความพยายามหลบหนีข้ามเขตแดนราว 5,000 ครั้ง มี 192 คนถูกฆ่าระหว่างการหลบหนี และอีกประมาณ 200 คนบาดเจ็บสาหัส
ในช่วงแรกนั้น การหลบหนีเป็นไปอย่างไม่ยากนัก เนื่องจากกำแพงในช่วงแรกเป็นเพียงรั้วลวดหนามเตี้ย ๆ และบางส่วนก็กระโดดออกมาทางหน้าต่างของตึกที่อยู่ติดกับกำแพง
แต่ไม่นานนักกำแพงก็เปลี่ยนเป็นคอนกรีตที่แน่นหนา ส่วนหน้าต่างตึกต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้กับกำแพงก็ถูกก่ออิฐปิดตาย
การหลบหนีครั้งที่ไม่สำเร็จที่โด่งดังที่สุดก็คือ เมื่อครั้งที่นายปีเตอร์ เฟตช์เตอร์ (Peter Fechter) ถูกยิงและปล่อยให้เลือดไหลจนตายต่อหน้าสื่อมวลชนตะวันตก เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2505 (ค.ศ. 1962)
ผู้หลบหนีรายสุดท้ายที่ถูกยิงตายคือนาย Chris Gueffroy เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989)
ในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 นาย Günter Schabowski รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโฆษณาการ (Minister of Propaganda) ของเยอรมนีตะวันออกได้แถลงข่าว (ซึ่งภายหลังพบว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของเขาเอง)
ว่าทางการจะอนุญาตให้ชาวเบอร์ลินตะวันออก ผ่านเข้าออกเขตแดนได้อย่างเสรีอีกครั้ง ทันใดนั้นเอง ผู้คนนับหมื่นที่ได้ทราบข่าวก็ได้หลั่งไหลไปยังด่านต่าง ๆ ของกำแพง.
หลังจากความโกลาหลอยู่ช่วงหนึ่ง เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยังไม่ได้รับคำสั่งใด ๆ จากทางการ ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ต้องยอมปล่อยให้ฝูงชนผ่านเขตแดนไปอย่างไม่มีทางเลือก
ชาวเบอร์ลินตะวันตกออกมาต้อนรับชาวเบอร์ลินตะวันออก บรรยากาศในเช้ามืดวันนั้นเหมือนงานเฉลิมฉลอง ชาวเยอรมันจึงถือกันว่าวันนี้เป็นวันล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน
สำหรับการทุบทำลายตัวกำแพงนั้น เริ่มเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2533 โดยคงเหลือกำแพงบางช่วงไว้เป็นอนุสรณ์ และในภายหลัง ซากกำแพงบางส่วนก็ถูกจำหน่ายเป็นของที่ระลึก
ส่วนบางส่วนก็ถูกนำไปตั้งแสดงที่อื่นเพื่อเป็นอนุสรณ์ เช่นที่ด้านหน้าสภายุโรป ณ กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยียม
การล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินนั้น ได้เป็นขั้นตอนแรกของการรวมชาติเยอรมนีในที่สุด เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2533 และได้ถือเอาวันนี้เป็นวันชาติของประเทศเยอรมนีใหม่
กำแพงเบอร์ลินถูก สร้างขึ้นหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเริ่มสร้างขึ้นในช่วงปี 2504 เพื่อป้องกันประชาชนจากฝั่งตะวันตกซึ่งไม่ใช่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ข้ามมา
แต่ภายหลังกำแพงกลับกลายเป็นปราการเรือนจำที่กักขังชาวเบอร์ลินตะวัน ออกไม่ให้หนีออกจากประเทศ ก่อนจะเพิ่มความสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นกำแพงสูงกว่า 3 เมตร ยาวถึง 140 กิโลเมตร
โดยกำแพงจะมีหอสูงคอยสอดส่องพื้นที่กว้างที่รู้จักกันในชื่อ ลานมรณะ มีประชาชนราว 5,000 คนพยายามจะหนีออกจากหลังกำแพงแห่งนี้ หลายคนหนีสำเร็จ แต่อีกหลายคนถูกการ์ดกำแพงที่คอยเฝ้าระวังอยู่ยิงเสียชีวิต ซึ่งคาดว่าคนจำนวนนี้มีอยู่ราว 100-200 คน
วันที่ 9 พฤศจิกายน คือเป็นวันที่กำแพงเบอร์ลินถูกทำลายลงด้วยพลังของประชาชน เมื่อปี พ.ศ. 2532 ดังนั้นวันที่ 9 พฤศจิกายน 2532 จึงมีความสำคัญใหญ่หลวง
เมื่อรัฐบาลเยอรมนีตะวันออกซึ่งปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ตัดสินใจเปิดพรมแดนเป็นครั้งแรก หลังจากที่สร้างกำแพงกักขังชาวเบอร์ลินตะวันออกอยู่ในบ้านของตัวเองมานานถึง 28 ปี
ผู้นำที่มีบทบาทสำคัญต่อเหตุการณ์นี้ ได้แก่ มิคาอิล กอร์บาชอฟ อดีตประธานาธิบดีคนสุดท้ายแห่งสหภาพโซเวียต อดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ผู้ล่วงลับ และอดีตนายกรัฐมนตรีเฮลมุด โคห์ลแห่งเยอรมนีตะวันตก
นายกอร์บาชอฟได้ให้สัมภาษณ์เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีการทำลายกำแพงเบอร์ลินว่า ผมภูมิใจที่เรา และประเทศในยุโรปทั้งตะวันตกและตะวันออกพบจุดหมายเดียวกันด้วยการเห็นแก่ ประโยชน์ของทุกฝ่าย
ถึงแม้ว่าการตัดสินใจครั้งนั้นของเขาจะมีนักวิจารณ์ชาวรัสเซียวิจารณ์ว่า เขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลายก็ตาม
นับจากวันนั้นจนวันนี้ 20 ปีผ่านไป เยอรมนีเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ของโลก ก้าวขึ้นมาเป็นประเทศที่มีอิทธิพลบนเวทีโลก ส่วนเบอร์ลินก็กลายเป็นเมืองหลวงที่มีความล้ำสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
แต่เยอรมนีวันนี้ ก็ยังเหลือร่องรอยจากการแบ่งแยก เพราะอัตราคนว่างงานในฝั่งตะวันออก ยังคงมากกว่าฝังตะวันตกเป็น 2 เท่า นอกเหนือจากความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างคนฝั่งตะวันตกและคนฝั่งตะวันออก
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สวัสดิ์สิริภุมวาร - ปรีดิ์มานกมลสรวล ที่มาอ่านค่ะ
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2552 15:34:46 น. |
|
0 comments
|
Counter : 930 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
/
2558
2556
2555
น้ำใจจากคุณ krittut 2554
2553
สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ
ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ
เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ
๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์
ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ
เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552
08.27 - 250811
207 flags collected 300316
|
|
|
|
|
|
|
|