กรรมของ " ทักษิณ " คือ // ท่านอธิฐานบารมี เป็นพระโพธิสัตว์ ท่านมาจาก พุทธภูมิ // ท่านเลยต้องเที่ยวตะเวณช่วยเหลือ คนนับแสนนับล้าน
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
15 กันยายน 2551

พันธมิตรฯ คิดล้มใคร? โดย คุณ จักรภพ เพ็ญแข

พันธมิตรฯ คิดล้มใคร?

โดย คุณ จักรภพ เพ็ญแข
ที่มา เวบไซต์ ประชาทรรศน์
15 กันยายน 2551

แทบ ทุกคนจะถามกันอย่างงุนงงว่า กลุ่มที่เรียกตนเองว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นั้น ความต้องการที่แท้จริงของเขาคืออะไรกันแน่

จาก จุดเริ่มต้นในการต่อต้านรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลายมาเป็นขบวนการที่อ้างความจงรักภักดีต่อสถาบัน และนำมาสู่การต่อต้านรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ด้วยความรุนแรง จนถึงขั้นบุกยึดทำเนียบรัฐบาล และสถานที่ทางราชการต่างๆ อย่างไม่เกรงฟ้าดิน

จนทำให้คนทั่วโลกเขารู้สึกว่า เมืองไทยไร้กฎหมาย กลายเป็นเมืองที่ไร้ขื่อแปไปเสียแล้ว

พันธมิตรฯ ต้องการอะไร?
ใครหนุนหลังพันธมิตรฯ?
เขาคิดล้มใครหรือล้มอะไรกันแน่?

ผม เองก็ใคร่ครวญหาคำอธิบายอยู่นานพอสมควร พยายามฟังคำหยาบคายต่างๆ ที่สาดใส่กันอยู่บนเวทีอย่างจริงจัง ก็ไม่ได้คำอธิบายที่พึงใจ แต่ในที่สุด ผมก็ไปอ่านบทความสั้นๆ ที่ใครไม่รู้ เขียนเอาไว้อย่างคนที่ติดตามสถานการณ์ต่างๆ ในมิติที่ลึกซึ้ง ก็ให้บังเกิดพุทธิปัญญาขึ้นมาอย่างฉับพลัน ผมก็เลยกราบขออนุญาตท่านผู้เขียน นำมาเสนอซ้ำที่ตรงนี้ หวังว่าท่านคงจะไม่ติดใจอะไรในเชิงลิขสิทธิ์ และเอาบ้านเมืองไว้ก่อนเป็นสำคัญ เชิญชมครับ

ปฏิบัติ การยึดเมืองในนาม “ยุทธการไทยคู่ฟ้า “ อย่างอุกอาจ ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด ตั้งแต่เช้าวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2551 สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมของผู้นำอย่างสนธิ ลิ้มทองกุล และจำลอง ศรีเมือง ที่ชัดเจนว่า พร้อมจะใช้รูปแบบของการยึดอำนาจแบบเดียวกันกับที่กลุ่มบอลเชวิกในรัสเซียใต้ การนำของลีออน ทรอตสกี้ กระทำในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ.1917 ซึ่งตรงกันข้ามกับคำประกาศ ”อารยะขัดขืน” ที่เคยชูขึ้นมาเป็นกลยุทธ์การต่อสู้ตั้งแต่แรกอย่างสิ้นเชิง

การ กระทำดังกล่าว ยืนยันชัดเจน ถึงการยกระดับทางยุทธศาสตร์ของการต่อสู้ จากคอมมูนมัฆวานฯ(สร้างรัฐซ้อนรัฐ)มาสู่การยึดอำนาจรัฐโดยตรง(โค่นรัฐบาลจาก การเลือกตั้ง เพื่อสร้างการเมืองใหม่)ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างหมดเปลือก

เดือน มิถุนายน กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ประกาศยกระดับการชุมนุม จากต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาเป็นการโค่นล้มรัฐบาลสมัคร โดยจัดกำลังเพื่อชุมนุมยืดเยื้อ โดยใช้เขตยึดครองที่ถนนราชดำเนินแถวสะพานมัฆวานรังสรรค์ เป็นเมืองพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยราชดำเนิน) โดยจำลอง ศรีเมือง ได้ขยายความว่าเป็น "สถานที่ชุมนุม เริ่มเข้าสู่ยุคพระศรีอาริย์" ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันด้วยระเบียบวินัย การทำอะไรต้องฟังเสียงคนหมู่มาก ทุกคนสามารถทำอะไรได้อย่างอิสระเสรี ปลอดจากอำนาจรัฐบาลสมัคร

การ ตั้งเขตอำนาจรัฐใหม่ดังกล่าว ได้รับการยกยอจากนายสุรพงศ์ ชัยนาม อดีตนักการทูต ที่ยืนอยู่ข้างเดียวกันว่า คล้ายคลึงกับ New Harmony Society เมืองอุดมคติของสังคมนิยมเพ้อฝัน โดยโรเบิร์ต โอเวนใน ค.ศ. 1817 ที่อเมริกา (โดยไม่ยอมพูดถึงข้อเท็จจริงว่า ชุมชนดังกล่าวล้มตั้งแต่เริ่ม)

โดยสาระ เมืองพันธมิตรฯนี้ มีลักษณะสำคัญคือ

- เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์สู้รบทางการเมืองชั่วคราว
- เป็นเขตปลอดอำนาจรัฐที่ สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี
- เป็นรัฐชั่วคราวที่ปราศจากชนชั้น และต้องการสร้างระบบพึ่งพาตนเองชั่วคราว เพื่อตรึงสถานการณ์ต่อสู้เอาไว้ให้ครบครัน
- เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่แนวทางของกลุ่มพันธมิตรฯ ต่อสาธารณะอื่นๆ หากได้รับชัยชนะในการต่อสู้ เพื่อขยายผลออกไปในระยะยาว

หาก เทียบเคียงกับชุมชนในประวัติศาสตร์แล้วเมืองพันธมิตรฯถือว่า มีลักษณะใกล้เคียงกับ ปารีส คอมมูน (หรือ คอมมูน ปารีส La Commune de Paris หรือ Paris Commune)ที่ฝรั่งเศสใน ค.ศ.1871 ถือเป็นรัฐรูปพิเศษ ที่ปกครองเขตยึดครองของตนเองในกรุงปารีสในเวลาแสนสั้น คือ ระหว่างวันที่ 18 มีนาคม – 28 พฤษภาคม

คา ร์ล มาร์กซ ให้คำอธิบาย คอมมูนปารีสว่า คือ ต้นกำเนิดในอุดมคติของชาวคอมมิวนิสต์ในอนาคตที่แท้จริง ในขณะที่กลุ่มอนาธิปัตย์ ก็ยกย่องเช่นกันว่า นี่คือสังคมไร้รัฐที่เป็นอุดมคติหลัก

ปารีส คอมมูน เกิดขึ้นในขณะที่สังคมฝรั่งเศสยุคหลังนโปเลียน กำลังปั่นป่วนรุนแรง เนื่องจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ทำให้เกิดชนชั้นกรรมกรจำนวนมหาศาล

ปารีส คอมมูน มีองค์กรปกครองสูงสุดได้แก่ กองกำลังแห่งชาติ หรือ national guard ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกที่เข้าร่วมในฐานะโล่มนุษย์ (รวมทั้งผู้หญิงและเด็ก) โดยจะแบ่งหน่วยกองกำลังออกเป็นส่วนย่อยๆ เท่ากัน เพื่อทำหน้าที่ฝึกฝน เตรียมความพร้อม ผลิต ส่งกำลังบำรุง ฯ

กองกำลังย่อยนี้ จะส่งตัวแทนเข้าร่วมกำหนดยุทธศาสตร์และยุทธวิธีร่วมกันกับคณะกรรมการส่วนกลางผ่านสภาคอมมูน

การ จัดตั้งที่เข้มแข็ง คอมมูนสามารถเข้ายึดหน่วยทหารหลักในปารีส และยึดเอาอาวุธออกมาใช้ในเขตปกครองตัวเองที่ย่านมองมาร์ต อันเป็นย่านคนจนและชนชั้นกลาง

ต่อมาทหารชั้นผู้น้อยบางส่วน ได้ละทิ้งผู้บัญชาการ เข้ามาร่วมสมทบเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูน แล้วจับตัวผู้บัญชาการในขณะนั้นมายิงเป้า

เมื่อ ทหารประจำการเข้ามาร่วมสมทบ คอมมูนจึงจัดขบวนใหม่ จัดตั้งสภาคอมมูนขึ้นมาจากการเลือกตั้งของสมาชิกทุกเขต เป็นจำนวน 97 คน และให้ตัวแทนเหล่านี้ เลือกคณะกรรมการคอมมูนสูงสุดขึ้นเสมือนหนึ่งรัฐบาลของคอมมูน

คอม มูนได้สร้างสัญลักษณ์แห่งรัฐใหม่ขึ้นมาหลายประการ เช่น ธงแดง (ต่อมากลายเป็นธงของพวกคอมมิวนิสต์) และอื่นๆ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ รัฐธรรมนูญของคอมมูน ที่มีมีเป้าหมายหลักคือ สร้างสังคมไร้ชนชั้น และรัฐที่มีความเสมอภาคและอิสระเบ็ดเสร็จ และมีสาระล้ำยุค เช่น การแยกรัฐออกจากศาสนจักร ส่งเสริมสิทธิสตรี การยกเลิกทำงานกะกลางคืนของคนงาน บำนาญให้กับคนงานที่ไม่มีคู่หรือหย่าร้าง ยกเลิกดอกเบี้ยโรงรับจำนำ เลื่อนชำระหนี้คนยากจนที่รายได้ต่ำกว่าระดับยากจน ให้สิทธิคนงานได้เข้าร่วมครอบครองกิจการในฐานะหุ้นส่วนแต่ต้องให้ผลตอบแทน เจ้าของเดิม ฯ

ความ สำเร็จในช่วงแรก ทำให้ชาวคอมมูนฮึกเหิม และพยายามใช้แผนดาวกระจาย สร้างพันธมิตรกับชนชั้นกรรมกรในเมืองต่างๆ ทั่วฝรั่งเศส แต่ไม่สำเร็จ เพราะถูกปิดล้อมอย่างหนัก ท้ายสุด คอมมูนล่มสลาย

ผู้ คนที่เข้าร่วมถูกสังหารไปประมาณ 5 หมื่นคน ในช่วงเวลาปราบครั้งสุดท้าย อีก 2 หมื่นกว่าคน ถูกประหารชีวิต 3.5 พันคน ถูกโยนเข้าคุกมืด และอีก 4 พันคน ถูกเนรเทศปล่อยที่หมู่เกาะทะเลใต้

รูป แบบของคอมมูนมัฆวาน ในนามเมืองพันธมิตรฯ หรือมหาวิทยาลัยราชดำเนิน ที่สามารถสร้างรัฐซ้อนรัฐในรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน แต่ไปไกลกว่า คือสามารถสร้างพันธมิตรเครือข่ายกับเมืองต่างๆ ในประเทศไทยได้มากพอสมควร น่าจะส่งผลทำให้กลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ ฮึกเหิมมากขึ้น จนหลงเชื่อว่า สามารถจะยกระดับการต่อสู้ให้เข้มข้นมากขึ้น โดยประสานกับเครือข่ายการเมืองอื่นๆ ทั้งในและนอกระบบ อันเป็นที่มาของยุทธการไทยคู่ฟ้า เพื่อยึดเมือง โดยมุ่งเป้าว่า จะสร้างปรากฏการณ์ปฏิวัติประชาชน เพื่อโค่นล้มทุนสามานย์ที่มี ”ระบอบทักษิณ” เป็นตัวแทน แล้วสร้างการเมืองใหม่ที่ปฏิเสธการเมืองแบบเลือกตั้งในรูปแบบเดิม

นั่น หมายความว่า ยุทธการไทยคู่ฟ้า ก็คือ ส่วนหนึ่งของประเด็นการต่อสู้เพื่อชิงอำนาจนำ ระหว่าง”ทุนสามานย์” กับ ”ศักดินาที่ก้าวหน้า” ที่ยังค้างคา และยังไม่รู้ผลแพ้ชนะกันของคนในสังคมไทยในช่วง 3ปีนี้

สิ่ง ที่น่าเวทนาอย่างยิ่งก็คือ การต่อสู้ของสิ่งที่เรียกว่า “ทุนสามานย์” และ ”ศักดินาที่ก้าวหน้า” นั้น ล้วนเป็นมายาคติที่ไม่เคยดำรงอยู่จริง ไม่ว่าจะพิจารณาจากชุดความคิดทางสังคมใดๆ ของนักคิดทั่วโลก แม้กระทั่งวัตถุนิยมวิภาษ หรือวัตถุนิยมทางประวัติศาสตร์

หาก ย้อนไปทบทวนข้อเขียนทั้งหมดของ มาร์กซ-เองเกลส์-เลนิน-เหมา หรือมาร์กซิสท์ ทุกสำนัก คำว่า ทุนสามานย์ จะไม่เคยปรากฏที่ไหนๆ เลย เพราะถือว่า ระบบเศรษฐกิจใดๆ ล้วนแล้วแต่มีด้านบวกและลบในตัวเองทั้งสิ้น

คำ ว่า ทุนสามานย์ เพิ่งจะมาโผล่ขึ้นในสังคมไทยเมื่อ 3 ปีเศษนี้เอง โดยเป็นคำประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ของ ณรงค์ เพชรประเสริฐ แห่งจุฬาฯ (จากคำสารภาพของเจ้าตัวเอง)โดยแปลงอย่างผิดๆ จากคำภาษาอังกฤษว่า robber baron ซึ่งเจ้าของคำที่ให้ความหมายถูกต้องตั้งแต่แรก (วิลเลียม โจเซฟสัน นักหนังสือพิมพ์อเมริกัน)หมายถึง ทุนผูกขาดตัดตอนโดยใช้อำนาจรัฐเป็นเครื่องมือ....

รู้แล้วใช่ไหมครับว่า เหตุใดเขาถึงได้เรียกว่า “สงครามครั้งสุดท้าย”

คนที่คอยหนุนหลังเขานั่นน่ะ โปรดระวังตัวเถิดครับ เขาคิดจะโค่นท่าน โดยใช้คนอื่นเป็นข้ออ้าง และเป็นเครื่องมืออยู่นะครับ.....













 

Create Date : 15 กันยายน 2551
0 comments
Last Update : 15 กันยายน 2551 23:03:29 น.
Counter : 859 Pageviews.


VikingsX
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




[Add VikingsX's blog to your web]