มารู้จัก พระ อิสระมุนี และ หลวงปู่พุทธะจิตตอิสระ เจ้าสำนักอ้อน้อย

แหล่งที่มา //www.prachatai.com/webboard/topic.php?id=718190

เครดิต
โพสต์โดย : กข.กอ

พี่น้องเอ๋ย....จะเล่าให้ฟัง

พระ อิสระมุนี หรือ พระพีระพล เตชะปัญโญ

.....เดิมชื่อ นายบรรหาร อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมวิหารี (วัดร่วมใจพัฒนา-วัดป่าละอู) อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระสงฆ์สายวิปัสสนา เดิมบวชและจำพรรษาอยุ่หวัดหนองป่าพง ของหลวงปู่ชา ระหว่างที่จำพรรษาอยู่ที่วัดหนองป่าพง ในตำแหน่งพระเลขาของหลวงพ่อชา เกิดเรื่องเสื่อมเสียเกี่ยวกับเงินบริจาคของวัด ได้ลาสิกขาบทออกจากวัดหนองป่าพง มาบวชใหม่ในรูปแบบพระธุดง แล้วตั้งสำนักสงฆ์ชื่อวัดธรรมวิหารี บริเวณป่าละอู ตำบลป่าแดง อำเภอแก่งกระจาน มีเนื้อที่กว่า 200 ไร่ สื่อมวลชนได้ประโคมข่าวเกี่ยวกับ
การ เป็นนักเทศน์ที่จับใจของศาสนิกชาวพุทธ และมีหลักคิดทางพุทธปรัชญาอย่างลึกซึ้งเกินจริง หลังจากมีข่าวเป็นที่นับถือเลื่อมใสของอดีต นายกรัฐมนตรีทักษิณ ชิณวัตร
พระ อิสระมุนีตกเป็นข่าวว่าต้องปาราชิก หลังจากมีเพศสัมพันธ์กับสีกาคนสนิท ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2544 จากการสืบสวนของทีมงานรายการถอดรหัส ทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม มีหลักฐานเป็นจดหมายเขียนถึงสีกาสาว 10 หน้ากระดาษและเทปสนทนาทางโทรศัพท์ ซึ่งพระอิสระมุนีก็ได้สึกจากสมณเพศในทันที ข่าวพระอิสระมุนีนี้ทำให้ไอทีวีได้รับรางวัลสารคดีเชิงข่าวยอดเยี่ยม รางวัล "แสงชัย สุนทรวัฒน์" จากสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ประจำปี 2544
เป็นการสิ้นสุดเส้นทางนักบวชอีกรูปหนึ่ง ทั้งที่พระรูปนี้ไม่นิยมใช้สื่อเป็นกลยุทธทางการตลาดเหมือนพระรูปอื่น ๆ ที่โลดแล่นบนเส้นทางการเมืองของยุคสมัย

++++++++

ส่วนหลวงปู่พุทธะจิตตอิสระ เจ้าสำนักอ้อน้อย

.....หลังจากซุ่มเตรียมตัวเป็นดาวจรัสแสงในลีลานักบวช ตั้งแต่บวชจำพรรษาอยู่วัดแถวคลองเตย กรุงเทพมหานคร ก็เริ่มฝึกวิทยายุทธ ด้วยการเล่นมุข
ลึกลับสับสนให้เป็นที่งมงาย ตามแนวคิดการตลาดชาวพุทธเมืองไทย เต็มไปด้วยศรัทธา หาปัญญาไม่ ปล่อยข่าวเล่าลือต่าง ๆ ในแง่อิทธิปาฎิหาริย์ โดยฝ่ายการตลาดเป็นผู้โหมโปรโมท
และเริ่มใช้สื่อวิทยุ คู่กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นครั้งแรก ออกมากระทืบซ้ำเติม พระอิสระมุนี ช่วงที่ตกเป็นข่าว กับสีกา เรียกว่าได้เกิด ก็จากวิทยุ รายการ ห่....อะไรก็จำไม่ได้แล้ว.
การรุกทางการตลาดครั้งใหญ่ การเดินสายเทศน์ในหลายสถานที่ทั้งราชการและเอกชน ที่ประจำเป็นหลักก็ห้องประชุมที่สวนลุมพินี เป็นที่ถูกอกถูกใจ คลั่งไคล้เหล่าแม่ยก ด้วยลีลา ตลกคาเฟ่ ผสมพระวิเศษศักดิ์สิทธิ์ ใช้กลยุทธทุกอย่างในการสะสมกลุ่มเป้าหมาย แม้กระทั่งโรงเจ ยังมีในวัดอ้อน้อย หวังให้เป็นที่สิงสถิตย์ของเหล่าอาซิ้ม เล่นเอาสาวกผู้ถือหางสำนักดัง ๆ ร่วมสมัยอย่าง หลวงตาแถวพุทธมณฑล วัดสวนแก้ว หน่วยงานของกรมประชาสงเคราะห์ และงานประกันสังคม สำนักสันติอโศก และธรรมกายเริ่มวิพากษ์วิจารณ์จับตาว่าเป็น ดาวรุ่งมาแรง ภายใต้ยี่ห้อ ของสนธิ ลิ้มทองกุล จึงไม่แปลกใจเลยที่ เห็นไอ้นักบวชแก่แดด ปรากฏกายบนเวทีของกองทัพกบฎปา*****่ เพื่อสับรางความเพลี่ยงพล้ำกรณี การเมืองใหม่ 70/30 ที่เป็นจุดอ่อน และกลายเป็นปริศนาธรรมที่
เจ้าลัทธิ กลัวเหล่า สาวกจะบรรลุธรรมในกองขี้ จนดวงตาเห็นธรรม ผละจากที่ชุมนุมกลับบ้านกลับช่อง และเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้สาวกปัญญาเสื่อม ให้งมงายต่อไป
ศึกชุมนุมเจ้านิกาย ในสยามยุทธภพ ไม่มีวันจบ ตามวัฎฎสงสารเดียวกันกับ การแย่งชิงอำนาจทางการเมือง.
พี่น้องเอ๋ย.....เรามาดูต่อไป

Create Date : 08 กันยายน 2551		0 comments
Last Update : 8 กันยายน 2551 7:17:52 น.
Counter : 5315 Pageviews.
Share Tweet