เจาะลึก ใครฆ่าผู้มาร่วมชุมนุม ใครทำร้ายผู้ร่วมชุมนุม... ตำรวจ, มือที่ 3 หรือ ม็อบเอง ? โดย คุณอ่างขาง ที่มา เวบบอร์ด ประชาไท 8 ตุลาคม 2551 รายงานในเบื้องต้น ประชาชน ผู้มาร่วมชุมนุม มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ขาขาด 5 ราย บาดเจ็บเนื่องจากอวัยวะฉีกขาดอีกหลายราย และมีบาดเจ็บเล็กน้อยอีกเป็นจำนวนมาก เจ้า หน้าที่ตำรวจถูกแทงด้วยอาวุธดาบติดปลายธง 2 ราย ถูกยิงด้วยปืนสงคราม 4 ราย และบาดเจ็บเนื่องจากการถูกขว้างปา ถูกยิงด้วยลูกเหล็กจากหนังสติ๊ก อีกหลายราย และถูกรถยนต์พุ่งเข้าชนแล้วถอยหลังมาทับอีก 1 ราย แกะรอยระเบิดทำลายล้าง หวังผลทั้งทำลายล้างและชีวิต เป็นของใคร? เอามาทำไม? เรื่อง นี้.. เกิดขึ้นในรถยนต์เชอรกีที่ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งวัตถุระเบิดดังกล่าว อยู่ในตัวรถยนต์เอง ผู้เสียชีวิตคือ อดีตนายตำรวจ ที่ใกล้ชิดกับแกนนำพันธมิตร ถูกระเบิดตายคารถยนต์ ในขณะที่แขนและขาส่วนหนึ่ง ยังคงอยู่บนรถ รถยนต์เป็นของผู้ร่วมชุมนุม ในกลุ่มพันธมิตร วัตถุระเบิดถูกวางไว้ที่หลังเบาะที่นั่งคนขับ เหตุที่ระเบิดเกิดขึ้นนั้น เป็นไปได้สองทาง 1. ผู้ตายกำลังเอาระเบิดไปวางไว้ แล้วเกิดผิดพลาด ระเบิดขึ้นมาก่อน 2. ผู้ตายกำลังเปิดรถไปเอาระเบิดนั้น ที่เจ้าของรถได้บรรทุกเอามาให้ แต่เกิดผิดพลาดในขณะนำออกมาจากรถ จึงเกิดระเบิดขึ้นเสียก่อน วัตถุประสงค์ที่นำเอาระเบิดมา และ พร้อมที่จะใช้งานได้ในทันที เป็นไปได้สองทาง 1. เพื่อนำเอาระเบิดมาใช้กับผู้ร่วมชุมนุมด้วยกันเอง ถ้าเป็นฝูงชนที่มีจำนวนหนาแน่น อาจจะเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวน เกินร้อยคน ในฉับพลัน 2. เพื่อนำเอามาระเบิดสถานที่ราชการ หรือเหล่าตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ ทั้ง หมดนี้ หลักฐานชี้ชัดไปในทางเดียวโดยปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นการกระทำเพื่อ สร้างสถานการณ์ โดยเอาชีวิตผู้บริสุทธิ์ เป็นเครื่องสังเวย แต่เดชะบุญที่ประเทศนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สามารถแยกคนดีออกจากคนชั่วได้ เหตุการณ์ในครั้งนี้ จึงไม่สัมฤทธิ์ผล ผู้กระทำเอง จึงเสียชีวิตเอง ประชาชนที่เป็นเหยื่อ มิได้เสียชีวิตไปด้วย แกะรอย ประชาชนผู้ที่ขาขาด อวัยวะฉีกขาด เกิดจากอะไร และใครกระทำกันแน่? ผล การตรวจสอบของแพทย์ ระบุชัดเจนว่า ผู้ที่ขาขาดอวัยวะขาด ไม่มีร่องรอยจากแผลภายนอกเลย แต่เกิดจากการกระแทกอย่างแรงจากวัตถุทางตรง ที่ไม่ใช่อาวุธปืนอย่างแน่นอน และไม่ใช่กระสุนปืนจากแก๊สน้ำตา ฝ่าย ไหนมีอาวุธ ที่ใช้ในการต่อสู้บ้าง ม็อบบุกกองบัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อเผา ตามคำสั่งผู้นำม็อบที่ประกาศออกอากาศบนเวทีทำเนียบฯ ผู้สื่อข่าวรายงานทั้งภาพและเสียง โดยเฉพาะช่อง 3 ช่องเอ็นบีที และ เนชั่น ทั้งหมดรายงานเหมือนกันว่า ผู้ชุมนุมได้ขว้างระเบิดเป็นจำนวนมากเข้าใส่กองบัญชาการฯ เป็นทั้งระเบิดลูกเกลี้ยงชนิดเสียงดัง อานุภาพทำลายไม่ร้ายแรง ระเบิดเพลิง ระเบิดแก๊สน้ำตา โดยที่ตำรวจอยู่ด้านในรั้วของกองบัญชาการเองเท่านั้น และ ต่อมา ตำรวจจึงได้ตอบโต้บ้าง ด้วยการยิงแก๊สน้ำตา(เท่านั้น)เข้าใส่ ผู้ก่อการในครั้งนี้ ทำให้ผู้ที่เข้ามาบุกเพื่อจะเผาตัวกองบัญชาการ ต้องถอยร่นไป และหกล้ม มีคนขาขาดถึง 4 ราย เป็นชาย 3 หญิง 1 และมีผู้เสียชีวิตในที่สุดอีก 1 คน ข้อ สันนิษฐานที่เป็นไปได้อย่างเดียว เมื่อมาประกอบกับคำชี้แจงของแพทย์ บุคคลเหล่านั้น ถูกระเบิดลูกเกลี้ยงขนาดไม่ร้ายแรงของตนเอง ที่จะนำเอาไปขว้างใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น เป็นอื่นไปไม่ได้เลย และเหตุที่ระเบิดใส่ตนเอง ก็เนื่องมาจาก การหกล้ม เกิดแรงกระแทกขึ้น จึงเกิดระเบิดขึ้นมาในค่ำคืนวันนั้น เจ้า หน้าที่ กทม.ได้เก็บระเบิดชนิดหนึ่ง เป็นลักษณะลูกเกลี้ยงได้เป็นจำนวนมาก ในบริเวณรอบๆ รัฐสภาฯ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่า ไม่ใช่ของเจ้าหน้าทีตำรวจ เพราะภาพที่ปรากฏเป็นหลักฐานจากทีวีทุกช่อง ทั้งทางเอเอสทีวีเอง ตำรวจไม่มีการใช้อาวุธในลักษณะนี้เลย แต่ภาพถ่ายกลับไปปรากฏว่า ผู้ที่ใช้ คือกลุ่มคนผู้ชุมนุมในในม็อบ และ ที่กล่าวไว้แล้วในเบื้องต้น ตำรวจถูกรอบยิงด้วยอาวุธสงคราม ถูกแทงด้วยอาวุธปลายแหลม การกระทำครั้งนี้เป็นสิ่งบอกเหตุชัดๆ ว่า ม็อบเอง สะสมอาวุธต่างๆ เพื่อนำมาใช้ในสงคราม เพื่อล้มอำนาจรัฐ ไม่ใช่สู้อย่างอหิงสาอย่างที่โฆษกบนเวทีโฆษณาแต่อย่างใด เกือบจะเป็นสูตรสำเร็จในบ้านเมืองนี้ไปแล้ว ถ้าเกิดการจลาจล มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก รัฐบาลอยู่ไม่ได้ ต้องออกสถานเดียว ก่อน หน้านี้มีนายพลท่านหนึ่งได้บอกกล่าวกับสังคมไว้แล้ว “นี่คือแผน ที่จะเอาประชาชนมาตาย” ของแกนนำพันธมิตรท่านหนึ่ง ที่เคยกระทำสำเร็จมาแล้วในอดีต แผนนี้กำลังออกนำมาใช้อีกครั้ง สอดคล้องกับบนเวทีพันธมิตร โดยนายสนธิเอง ขึ้นมากล่าวบนเวทีอย่างอหังการ์อีกครั้ง “จบ ก่อน 6 โมงเย็นวันนี้ พ่อแม่พี่น้องเชื่อผม นายกฯต้องยุบสภาฯ” และผู้ดำเนินการปราศรัยบนเวทีหลายท่าน โดยเฉพาะคุณประพันธุ์ คุณมี ที่เป็นสายตรงจากคนฟันดำ ย้ำหนักหนา ถึงการต่อสู้ที่จะต้องมีการเสียสละกันบ้าง อีกทั้งยกตัวอย่างของการต่อสู้ในอดีตที่ผ่านมา การรบที่ได้ชัยชนะทุกครั้ง ต้องเสียเลือดเนื้อ ทั้งชีวิตของประชาชน ชัยชนะจึงจะได้มาอย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ โดยเด็ดขาด นาย ทหารยศ พล.อ.ท่านหนึ่ง บัญชาการการรบด้วยตนเอง ในขณะต่อสู้กับตำรวจที่หน้าสภาฯ มีการใช้รูปแบบของการรบนำมาใช้ ตั้งกำแพงยางรถยนต์ ซ้อนด้วยลวดหนามด้านใน ต่อด้วยแถวมนุษย์ที่เป็นผู้หญิง พร้อมราดน้ำมันไว้ที่พื้น และยางรถยนต์ ที่สามารถจุดไฟได้ทันที ไม่มีวันดับ นัก รบศรีวิชัยอันเลื่องชื่อ กับความถ่อยที่ทำร้ายผู้คนมามากแล้ว ถูกกำหนดให้เป็นทัพหน้า ต่อสู้กับตำรวจ เมื่อมีการเผชิญหน้า แล้วถูกตำรวจตีถอยร่นเหล่านี้ คือ ข้อยืนยันทั้งสิ้น ของจุดประสงค์ของการสร้างเหตุ โดยอ้างการประท้วง คำถามที่ชวนให้ทุกท่านคิด ถ้ารถยนต์เชอร์กีคันนั้น ไม่ระเบิดเสียก่อน อะไรจะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองนี้ มีผู้คนตายอีกเท่าไร ถ้า ระเบิดครั้งนี้ เกิดขึ้นตามวัตถุประสงค์ของผู้ที่ตั้งใจให้เกิด เชื่อว่า รัฐบาลต้องออกไปอย่างแน่นอน หรือมีการรัฐประหารเกิดขึ้นในเวลาต่อมา ผลการพิสูจน์ที่มาของระเบิด ท่านพอจะเดาออกไหมว่า มันจะออกมาในรูปใด จะเหมือนอย่างคาร์บอม ที่ลอบสังหารท่านทักษิณหรือไม่ สุดท้ายก็ต้องมีคำกล่าวออกมา ก่อนคำตัดสินว่า “ทักษิณอยู่เบื้องหลัง” อีกแน่นอน ผมไม่อยากจะจินตนาการอะไรให้เลวร้าย แต่อยากให้ทุกท่านอ่านตาม แล้ววิเคราะห์ด้วยตัวท่านเอง ใครฆ่าผู้มาร่วมชุมนุม ใครทำร้ายผู้ร่วมชุมนุม ตำรวจ มือที่3 หรือม็อบเอง ครับ Create Date : 08 ตุลาคม 2551 Last Update : 9 ตุลาคม 2551 1:13:54 น. 0 comments Counter : 801 Pageviews.   Share Tweet