ดูทีวีออนไลน์ ดูทีวีย้อนหลัง ละครย้อนหลัง ช่อง 3 5 7 9 True AF8
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
3 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 

โบรกแนะสะสม 9 หุ้นผลงาน Q3 เด่น ดัชนีปรับตัวลงตามตปท. บาทอ่อนค่า เก็บหุ้นกลางต.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 9.30 น. ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 31.29 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ด้านตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงแรงตามตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปหลังนักลงทุนกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวมากขึ้น และยังได้รับแรงกดดันจากปัญหานี้ในยุโรปต่อไป โบรกแนะเก็งกำไร 7 หุ้นเด่น ได้แก่ BGH, DTAC, LH ,GLOW, SAT, SPALI, TK และเริ่ม แนะนำให้เริ่มหันมาลงทุนหุ้นที่คาดว่าจะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ออกมาดี เช่น CPF TUF CPN HMPRO BIGC BH KH TICON LOXLEY โดยแนะนำเริ่มทยอยซื้อหุ้นในเดือนนี้ที่ระดับ 880-900 จุด

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ กลยุทธ์การลงทุน: Wait & See

แนวโน้มตลาดวันนี้: อ่อนตัวลงแถว 900 จุด กันอีกรอบ

คาดตลาดหุ้นไทยจะยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกต่อไป โดยเฉพาะการแก้ปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซที่กำลังเร่งดำเนินการอยู่ ระหว่างที่นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนหลังตัวเลขภาคการผลิตของจีนร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือน ก.ย. และแม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวของสหรัฐจะแข็งแกร่งเกินคาด อาทิ ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจในเขตมิดเวสต์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนก.ย. แต่ก็ยังไม่สามารถหนุนให้ดัชนีดาวโจนส์ฟื้นตัวขึ้นมาได้ ในทางตรงข้าม ตลาดหุ้นยังคงดิ่งลงอย่างหนักทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ด้วย ดังนั้น มอง SETI มีโอกาสอ่อนตัวลงต่อในวันนี้ลงไปแถวๆ 900 จุด หรือต่ำกว่ากันอีกรอบ

ทั้งนี้เรายังคงมองกรอบทางลงในระยะสั้นแถว 850-860 เช่นเดิม อย่างไรก็ดี ในระหว่างทางนักลงทุนยังต้องจับตาการประชุมของเจ้าหน้าที่การคลังยูโรโซนในช่วงต้นสัปดาห์นี้, การประชุมคณะกรรมการอีซีบีในวันพฤหัสบดี และการ เปิดเผยรายงานการจ้างงานของสหรัฐในวันศุกร์นี้ด้วย โดยข่าวบวกใดๆ หากเกิดขึ้น ยังมองเป็นเพียงปัจจัยหนุนการดีดตัวในระยะสั้นในกรอบแนวโน้มขาลง ดังนั้น การปรับขึ้นยังคงจะติดกรอบบนแถว 950-980 ต่อไป

กลยุทธ์การลงทุน: ระยะสั้นเน้น Wait & See ไปก่อน แนวต้าน : 930-940 แนวรับ : 900-880

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 0-25% : เงินสด 100-75%

ถือต่อในพอร์ต : BGH, DTAC

หุ้นที่ปรับออก : SSEC, KBANK

หุ้นที่ปรับเข้า :

1. LH เก็งกำไร FV ปี 55 = 7.60 บาท ยอดจองยังไปได้ดี, มี theme ขายอาคารเช่าเข้า prop fund + การเปิดศูนย์การค้า Terminal 21

KGI ประเมินตลาดหุ้นวันจันทร์แกว่งผันผวนและมีช่วงลงได้บ้าง เนื่องจากปัจจัยในยุโรปมีความไม่แน่นอนมากขึ้นในแง่ของเงื่อนเวลาการให้ความช่วยเหลือกรีซ โดยเมื่อวันอาทิตย์ รัฐบาลกรีซได้ผ่านแผนรัดเข็มขัดเพิ่มเติมอีก 6.6 พันล้านยูโร เพื่อหวังลดยอดขาดดุลงบประมาณในปี 2555 ให้เหลือ 6.8% ของจีดีพี ซึ่งถ้าทำได้จริงก็จะใกล้เป้าหมายของเจ้าหนี้ (Troika) ซึ่งไม่ยอมให้ขาดดุลเกิน 6.5% ของจีดีพีในปีหน้า

อย่างไรก็ดียอดขาดดุลของปีนี้ยังไม่สามารถลดมาได้ตามเป้าเลย ทำให้การประเมินฐานะของกรีซยังไม่เสร็จ และนายกฯ กรีซกล่าวผ่าน เว็บไซต์ Bloomberg เช้านี้ว่าการประกาศผล Troika review น่าจะต้องเลื่อนไปจากเดิมที่เป็นวันนี้ (3 ต.ค.) ไปเป็นวันที่ 13 ต.ค. ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดอยู่ในความไม่แน่นอนต่อไปส่วนในฝั่งสหรัฐฯ คืนนี้ควรติดตามตัวเลขสำคัญ ได้แก่ดัชนีภาคการผลิต (ISM Manufacturing) เดือนก.ย. ซึ่งตลาดคาดไว้ที่ 50.5 ลดลงเล็กน้อยจาก 50.6 ในเดือน ส.ค. แต่ยังคงชี้ถึงการขยายตัวเล็กน้อยของภาคการผลิต

ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าแม้ตลาดยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่ราคาหุ้นปัจจุบันที่ SET ซื้อขายต่ำกว่าค่า PE ปี2555 ที่ 9 เท่าแล้วนั้น น่าจะทำให้ตลาดหุ้นปรับลงน้อยลงในช่วงจากนี้ และเรายังมองว่าหลังจากกลางเดือน ต.ค. น่าจะมีจิตวิทยาการลงทุนที่ดีขึ้น เป็นที่น่าสังเกตว่านักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิมากกว่า 2พันล้านบาทในวันศุกร์ ซึ่งแน่นอนว่าส่วนหนึ่งมีการทำราคาปิดงวดไตรมาสสาม แต่อีกส่วนหนึ่งเชื่อว่านักลงทุนระยะยาวเริ่มสะสมหุ้นแล้วเช่นกัน

กลยุทธ์: พอร์ตเทรดดิ้ง (ติดอยู่แถวๆ 950 จุด) แนะนำให้ทนถือพอร์ตต่อไปก่อน เนื่องจากเราเชื่อว่าตลาดหุ้นจะลงสู่จุดต่ำสุดในกลางเดือนนี้แล้ว หลังจากกรีซน่าจะได้เงินช่วยเหลือต่อชีวิตไป และทุกประเทศในกลุ่มยุโรปน่าจะอนุมัติการเพิ่มประสิทธิภาพของกองทุน EFSF แล้วเช่นกัน ส่วนพอร์ตลงทุนขอแนะนำให้ถือเงินสด รอดูสถานการณ์เช่นเดิม และน่าจะเริ่มเห็นโอกาสสะสมหุ้นอย่างจริงจังมากขึ้นในช่วงกลางเดือนนี้

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกเรื่องการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก แต่เราเชื่อว่าแรงกดดันดังกล่าวจะเริ่มเบาบางลงหลังจีนประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิต เดือนก.ย. เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ส่วน PMI ภาค

บริการ เช้านี้ประกาศออกมาสูงกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 59.3 จาก 57.6 ในเดือนส.ค.และเงินเฟ้อของจีน ซึ่งคาดว่าจะลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 6.2% ประกอบกับการประกาศผลประกอบการของบริษัทจะทะเบียนในสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะออกมาดีขณะที่ประเทศไทยคาดว่าในเดือนต.ค. ครม.จะเริ่มพิจารณามาตรการลดภาษีนิติบุคคลลงจาก 30% เหลือ 23% ในปีหน้า ดังนั้นหากตัวเลขที่ออกมาเป็นไปตามที่คาด ตลาดน่าจะเริ่ม Rebound กลับขึ้นมาในช่วงเดือนต.ค. อย่างไรก็ตามความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรป หดตัวยังไม่หมดไป การเก็งกำไรยังคงต้องใช้ความระมัดระวัง แต่สำหรับ นักลงทุนระยะกลางถึงยาว เป็นโอกาสดีในการสะสม

กลยุทธ์การลงทุน: แม้ว่าระยะสั้นตลาดจะยังคงผันผวน เรายังคงมีความหวังเดือนต.ค.น่าจะมีโอกาส rebound ระยะสั้นกลับขึ้นมาได้ โดยแนะนำให้เริ่มหันมาลงทุนหุ้นที่คาดว่าจะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ออกมาดี เช่น CPF TUF CPN HMPRO BIGC BH KH TICON LOXLEY และกลุ่มผู้ประกอบการบ้าน ขณะที่นักลงทุนระยะยาวยังคงแนะนำให้หลีกเลี่ยงหุ้นในกลุ่มพลังงาน และหันมาลงทุนในหุ้นกลุ่ม Domestic play มากขึ้น โดยแนะนำให้สะสมหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคในประเทศเป็นหลักเช่น RS CPALLMAKRO BIGC BGH KH CPF LH AP LPN SPALI TICON TISCO และหุ้นในกลุ่ม ICT ADVANC DTAC

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ถ้าต่ำกว่า 910 จุดลงไปแนะนำให้เป็นซื้อถือลงทุน มากกว่า ซื้อเพื่อเล่นสั้น!

แนวโน้ม ความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินในยูโรโซน และความกังวลว่ากรีซจะต้องผิดนัดชำระหนี้ในเร็วๆ นี้ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงของทั้งจีนและสหรัฐ ยังคงกดดันให้นักลงทุนวิตกต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกยังเผชิญกับแรงขายต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศการซื้อขายหุ้นเช้านี้ไม่ค่อยสดใสนัก ซึ่ง FSS คาดว่า SET จะยังคงแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยมีกรอบแกว่งแรกอยู่ที่บริเวณ 900-950 จุดเช่นเดียวกับกลางสัปดาห์ก่อน แต่อาจแกว่งลงได้ลึกถึง 867 จุดจากจุดต่ำที่ทำไว้เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วได้ถ้าสถานการณ์ต่างประเทศยังไม่มีความชัดเจน อย่างไรก็ตามราคาหุ้นหลายตัวได้ปรับลงมาต่ำกว่าราคาตามพื้นฐานมากแล้วตาม sentiment ของตลาด จึงมองว่าเป็นโอกาสในการทยอยเข้าซื้อหุ้นพื้นฐานดีเพื่อถือลงทุนได้ถ้าตลาดลงต่ำ

กลยุทธ์: ถ้าดัชนีไม่ต่ำกว่า 910 จุดก็ลุ้นเทรดดิ้งต่อได้ แต่ถ้าหลุดลงไปต่ำกว่าเสียก่อนจะเสี่ยงสูง จึงยังไม่แนะนำให้เทรดดิ้งตาม แต่จะเป็นโอกาสในการทยอยเข้าซื้อเพื่อถือลงทุนระยะกลาง-ยาวแทน

แนะนำเริ่มทยอยซื้อหุ้นในเดือนนี้ที่ระดับ 880-900 จุด ข่าวร้ายเรื่องกรีซยังทำให้ตลาดผันผวนในขาลงได้อีกแต่เชื่อว่ากรีซจะมีพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างช้าๆ ปริมาณซื้อขายของต่างชาติจะเบาบางลงเพราะใกล้วันหยุดยาว แรงซื้อจาก LTF/RMF ประกอบกับ Valuation ที่ถูกมากในหุ้นหลายตัว จะช่วยให้ตลาดในเดือนนี้ดีขึ้น แต่ควรค่อยๆซื้อไม่ต้องรีบร้อน เพื่อลงทุนสำหรับระยะกลาง-ยาว หุ้นแนะนำในเดือนนี้ได้แก่ DTAC, GLOW, SAT, SPALI, TK




 

Create Date : 03 ตุลาคม 2554
0 comments
Last Update : 3 ตุลาคม 2554 12:09:43 น.
Counter : 516 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ตุ้งแง่ว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ตุ้งแง่ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.