Group Blog All Blog
|
Singapore เที่ยวง่ายๆ สบายแฮร์ เหมือนเล่นแชร์กันทั้งประเทศ ตอนที่ 1 เห็นมีคนรีวิวทริปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองกันบ่อยๆ ไม่รู้ว่าจะเบื่อกันหรือยัง ถ้าเบื่อแล้วก็อดทนฟังเรารีวิวอีกสักคนนะ ทริปสิงคโปร์รอบนี้ไปทั้งหมด 5 วัน 4 คืน โดยไปกับพี่สาว ภาษาอังกฤษของทั้งสองคนออกแนวงูๆ ปลาๆ คนหนึ่งฟังออกแต่ไม่รู้จะพูดอะไร กับอีกคนฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง (อย่าว่าแต่ภาษาอังกฤษเลย ภาษาไทยก็ยังต้อง ฮะ! หลายๆ รอบ) แต่ดันพูดได้ เริ่มแรกเลยเราใช้บริการจองตั๋วเครื่องบิน + โรงแรม ผ่าน AirAsiaGo เพราะรู้สึกว่าสะดวกดี เราเดินทางวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา เวลา 06:20 น. ส่วนโรงแรมเลือกเป็น KamLeng Hotel ราคาโดยรวมตั้วเครื่องบิน + ค่าโรงแรม 2 คน 4 คืน ตกอยู่ที่ 20,383.28 บาท ไม่มีอาหารเช้า แต่เราไม่แคร์ เนื่องจากทริปนี้เป็นการไปต่างประเทศด้วยตัวเองครั้งแรก ก่อนจะไปก็หาข้อมูลทั้งในหนังสือนำเที่ยว แล้วก็ในเว็ปพันทิป+เว็ปอื่นๆ อีกนิดหน่อย แล้วก็เริ่มแพลนสถานที่เที่ยวแต่ละวันไปเรื่อยๆ จนครบทั้ง 5 วัน ได้ออกมาประมาณนี้ค่ะ วันที่ 1 : ออกเดินทางจากประเทศไทยสู่สนามบินชางงี ---> Botanic Gardens ---> National Orchid Garden ---> เดินย่าน Orchard ---> China Town วันที่ 2 : Sentosa วันที่ 3 : China Town ---> Marina Bay วันที่ 4 : Singapore Flyer ---> Garden by the Bay วันที่ 5 : เดินทางกลับไทย ตารางเที่ยวฉบับย่อดูเหมือนหลวมๆ แต่ที่จริงแล้วมีรายละเอียดจัดเต็มเลยค่ะ ...วันแรกที่ไปถึงผ่าน ต.ม. โดยง่าย ไม่ถามอะไรทั้งสิ้น นอกจากพยายามอ่านชื่อบนพาสปอร์ตของเราแค่นั้น (ชื่อฉันเขียนเป็นภาษาอังกฤษออกจะอ่านง่าย ถ้าเห็นเขียนเป็นภาษาไทยแล้วจะหนาว) ผ่านปุ๊ปก็เดินฉลุยออกมาทันที ป๊าด! ลืมหยิบลูกอมซะงั้น เลยได้แต่ทำตาปริบๆ ส่งสัญญาณบอกให้พี่สาวหยิบมาเผื่อด้วย สรุปพี่สาวให้มาสามเม็ด จากนั้นก็เดินหาซื้อซิมการ์ด แต่ว่ามันแพง! ไม่ซื้อละกัน ใช้ WIFI ของโรงแรมอย่างเดียวก็พอ ผ่าน ต.ม. ได้อย่างสบายใจก็ถึงคิวที่จะต้องซื้อ EZ-link บัตรเดียวสารพัดประโยชน์ ราคา 12 SGD เป็นค่าบัตร 5 SGD ใช้ได้ 7 SGD จากนั้นก็พยายามตามหาโรงแรมที่ตัดสินใจจองไปแล้วค่อยมาหารีวิวอ่าน แต่ก็ไม่ค่อยมีใครไปพักเท่าไหร่ หรือไปพักแล้วไม่ได้มารีวิวก็ไม่รู้ โดยเมกับพี่สาวนั่ง MRT จาก Changi Airport ไปที่สถานี Lavender จากนั้นต้องนั่งรถเมล์เพื่อหาโรงแรมต่อ (เจอปัญหาแล้ว) ตอนแรกก็คิดว่าแค่นั่งรถเมล์มันจะไปยากอะไร สุดท้ายก็ยากตรงที่ว่าไปถึงแล้วยังดูไม่เป็น งงๆ อยู่ เลยขอความช่วยเหลือจากคุณป้าที่นั่งคอยรถเมล์ด้วยกัน แต่คุณป้าก็ไม่รู้จักโรงแรมของเราเลย แต่ก็พยายามช่วยอย่างเต็มที่ (ประทับใจจริงค่ะ) และแล้วก็พบว่าการพึ่งตัวเองเป็นทางที่ดีที่สุด สองศรีพี่น้องก็พากันสะพายกระเป๋าเป้วิ่งขึ้นรถเมล์แบบงงๆ แล้วก็ไปถึงโรงแรมแบบงงๆ เหมือนกัน น่าตาของโรงแรมเวอร์ชั่นถ่ายแบบรีบๆ (นึกขึ้นได้ตอนก่อนกลับเลยยก Iphone4s เครื่องน้อยถึกมากขึ้นมาถ่าย) ตอนที่เมกับพี่สาวไปถึงคือเวลา 10:00 น. ตั้งใจจะไปฝากกระเป๋าเฉยๆ เพราะกว่าจะถึงเวลาเช็คอินก็ปาเข้าไป บ่าย 2 โมง ไปถึงพนักงานก็ให้เซ็นเอกสารฉันจะไม่สูบบุหรี่นะ ถ้าฉันสูบฉันจะโดนปรับ อะไรทำนองนี้ แล้วก็มีค่ามัดจำอีก 50 SGD ที่จะได้รับตอนที่เราเช็คเอาท์ พอเซ็นเอกสารเสร็จปุ๊ปพนักงานก็อื่นคีย์การ์ดให้ แล้วบอกเมว่าคุณสามารถเข้าพักได้เลยนะ ตอนนี้เลย! เมกับพี่มองหน้ากันแบบงงๆ คือไม่ค่อยเจอโรงแรมที่ให้เข้าพักก่อนเวลาเยอะๆ แบบนี้เท่าไหร่ พนักงานที่นี่น่ารักดีนะคะ รู้ว่าภาษาอังกฤษเราดีเยี่ยมก็เลยลดระดับความเร็วในการพูดลง โดยโรงแรม Kam Leng ที่เมเลือกพักนั้นอยู่ระหว่าง MRT สถานี Lavender กับ Farrer Park ห่างจากทั้งสองสถานีพอๆ กัน ประมาณ 1 กิโลเมตร แต่สามารถนั่งรถเมล์มาได้ (จาก MRT Lavender 3 bus stop) จุดเด่นของโรงแรมนี้ก็คือมี 7-11 ป้ายรถเมล์ และศูนย์อาหารเปิดตลอด 24 ชม. อยู่ตรงข้าม ศูนย์อาหารนี้มีร้านขายอาหารไทยด้วยนะ ทำโดยคนไทย สั่งอาหารเป็นภาษาไทยได้ เพราะพี่คนขายเป็นคนไทย ถ้าใครเป็นคนกินยากศูนย์อาหารลาเวนเดอร์ตอบโจทย์คุณได้ค่ะ อันนี้เป็นสภาพห้องโดยรวมเมถือว่าโอเค รับได้เลยกับราคาที่เสียไป (ที่เตียงยับยู่ยี่เป็นผลสืบเนื่องมาจากห้องพี่น้องกระโดดขึ้นเตียงทันทีที่ไปถึงโรงแรมค่ะ ไม่ใช่โรงแรมปูเตียงไม่ตึงนะ) หลังจากพักประมาณ 10-20 นาที ก็ตัดสินใจออกจากโรงแรมไปเที่ยวตามแพลนกันต่อ ซึ่งต่อไปต้อง go ไปที่ China Town People's Park Center เพื่อซื้อตั๋วถูกที่ seawheel แต่สองศรีพี่น้องเริ่มออกอาการขี้เกียจกันเสียก่อน เลยไปซื้อหน้างานแทนล่ะกัน ขี้เกียจนั่งรถไปมา เดิมทีต้องนั่ง MRT ไป Botanic Gardens แต่ดั้นดันอยากจะลองนั่งรถเมล์ไปเที่ยวเลยตัดสินใจนั่งมั่วๆ ไปลงที่สถานีอะไรก็ไม่รู้แต่ใกล้ๆ กัน MRT Orchard แล้วกะว่าจะหารถเมล์นั่งไปลงแถวๆ Botanic Gardens ต่อ สุดท้ายเมกับพี่สาวดันเดินหลงอยู่ในห้าง ION (แอบขำตัวเอง) ก็เลยต้องตัดใจกลับมาใช้วิธีนั่ง MRT เหมือนเดิมค่ะ เมนั่ง MRT-Orchard ไปเปลี่ยนสายที่ Bishan แล้วก็นั่งไปลงสถานี Botanic Gardens ได้เลยค่ะ ส่วนของ Botanic Gardens เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 5 am - เที่ยงคืนค่ะ ส่วนถ้าใครจะมาโดยทางนอกเหนือจากการนั่ง MRT ก็มาได้โดย รถเมล์ ถนน Holland Road นั่ง SBS Transit 7, 105, 123, 174 // SMRT 75, 77, 106 หรือถนน Bukit Timah Road นั่ง SBS Transit 48, 66, 151, 153, 154, 156, 171 // SMRT 67, 171 แผนที่ Botanic Gardens ค่ะ (ขอบคุณภาพจาก //www.sbg.org.sg) ความรู้สึกเหมือนๆ กับเดินสวนสาธารณะบ้านเรานี่แหละค่ะ เดินเมื่อยดีนะ แอบเจอน้องคนไทยที่ไปเที่ยวกับครอบครัวบ่นว่า 'นี่จะพาหนูมาเดินลดความอ้วนหรือยังไง' ก็แอบขำนิดๆ ตอนแรกเราก็เดินแบบโอ้ว! ลั้ลล้า หลังๆ เริ่มเดินโอ้ว! ฉันล้า แทน แต่ก็ยังคงต้องทนเดินต่อไปเรื่อยๆ เพราะอีกจุดหมายเราคือ National Orchid Garden เดินๆๆๆๆๆ ไม่ได้ทำอะไร เดินจนจะหมดแรงก็ยังไม่ถึงสักที เริ่มท้อ อยากกลับ แต่ก็มาไกลแล้ว สุดท้ายก็ต้องทนเดินๆๆๆๆๆ เดินจนถึงทีพักมีของขายเจอตู้กดน้ำดีใจมากอยากดื่มแป๊ปซี่ ก็ค้นๆ หาเหรียญกันทั้งกระเป๋า จนเรียกได้ว่าแทบจะเทกระจาด น้ำที่จะดื่มราคา 1.20 SGD แต่มีเหรียญแค่ 1.10 SGD อยากจะร้องไห้ หนูอยากดื่มแป๊ปซี่ (อีกใจคืออยากกดตู้น้ำหยอดเหรียญ) สรุปอดค่ะ แล้วก็จำใจเดินกันต่ออย่างเมามันส์ จนกระทั่งเจอเป้าหมายที่เราต้องการ ส่วนนี้มีค่าเข้าชม 5 SGD ค่ะ (ถ้าซื้อตั๋วผ่าน Seawheel รู้สึกจะเหลือ 3 SGD ประมาณนั้นค่ะ) ส่วน Botanic Gardens เข้าฟรีนะคะ ตอนเข้าไปก็อย่าลืมหยิบโบชัวร์ตรงทางเข้านะคะ เขาจะมีแผนที่ให้ เราพลาดตรงที่ไม่ได้หยิบทำให้เดินไม่ทั่ว บางส่วนเช่น Cool House ก็ไม่ได้เข้าเพราะเดินไปไม่ถึง แอบเสียดายอยู่นิดๆ เพราะเห็นจากแผ่นพับแล้วน่าเดินมาก แผนที่จะเป็นลักษณะนี้ค่ะ (ขอบคุณภาพจาก //www.sbg.org.sg) โดยเจ้า National Orchid Garden จะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 8.30 am - 7.00 pm ค่ะ ร่มรื่นดีนะคะ เดินไปถ่ายไป รู้สึกเมื่อยน้อยลง แล้วทางสวนก็จัดที่นั่งไว้ให้เป็นระยะๆ เราก็นั่งทุกที่ที่เขาจัดไว้ให้เลย ใครว่าคนไทยซน ชาวต่างชาติเองก็ซนใช่ย่อย อย่างสองภาพข้างบนเห็นชัดเลย ROMANIA ท่าทางเค้าจะชอบสิงคโปร์มาก เลยสลักไว้บนต้นไม้ กับอีกรูปแท็กทีมกันมา Polina Cindie and Katarina love Singapore สดๆ ร้อนๆ สลัก ค.ศ. 2013 ไว้ด้วย ที่จริงยังมีรอยสักเต็มต้นไม้เลย ไม่รู้ว่ามันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติหรือว่าสักแค่มันส์มือเฉยๆ แต่เมก็ถ่ายรูปกลับมาไว้แล้วล่ะ สำหรับใครที่ชอบกล้วยไม้คงจะเดินได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อ เห็นคนพกกล้องขั้นเทพกับขาตั้งกล้อง จ่อเข้าหากล้วยไม้เต็มไปหมดเลย เมก็ได้แต่ก้มๆ เงยๆ ถ่ายรูปตามประสาชาวบ้านต่อไป มีแต่กล้วยไม้สวยๆ แปลกๆ ก็มี แต่บางพันธุ์เมก็ว่าไม่สวย แลเหมือนมันแคระๆ ยังไม่ก็ไม่รู้บอกไม่ถูก แต่หน้าตาแปลกๆ แล้วน่ารักก็มีนะคะ เช่นดอกนี้ น่ารักดี เหมือนการ์ตูนอะไรสักอย่าง หลังจากที่เดินจนล้าก็หลุดออกมาจากสวนมหาโหดก็เจอกับไอศกรีมที่เป็นก้อนๆ แล้วคนขายจะตัดแล้วให้เราเลือกว่าจะห่อบิสกิสหรือว่าห่อขนมปัง เราว่าอร่อยดี ก็นั่งกินไปเรื่อยๆ จนหมด แล้วก็ต่อรถเมล์ไปยังย่าน China Town เพื่อเดินช้อปปิ้งของฝากตัวเองนิดหน่อย เดินไปเดินมาจ๊ะเอ๋สถานที่เที่ยวที่แพลนเอาไว้ว่าจะไปในวันที่ 3 หลายแห่ง เลยตัดสินใจแวะเที่ยวเสียเลย แต่บางแห่งที่แพลนไว้ว่าจะเที่ยวแต่พอเจอของจริงแล้วเซย์กู้ดบายดีกว่า ไม่ค่อยน่าเข้าไปซะเท่าไหร่ เช่นวัดแขกขอเดินผ่านพอ รู้สึกว่าน่ากลัวนิดๆ ส่วนอีกที่ที่วางแผนว่าจะต้องไปให้ได้ก็คือ ด้านในสวยมาก เข้าไปแล้วก็อดไม่ได้ที่จะไหว้ขอพร โดยจะมีคุณป้าคอยให้คำแนะนำสามารถสอบถามได้ ส่วนโหลแก้วที่เห็นเรียงๆ กันอยู่นั้น แบบโหลเปลือยๆ 5 SGD แบบมีพวงมาลัยคล้อง 10 SGD เราก็ทำแบบมีพวงมาลัยคล้องไปแบบงงๆ เราเดินชมรอบๆ แล้วก็ถ่ายรูปมานิดหน่อยค่ะ ด้านหน้าวัดหรือหลังวัดก็ไม่รู้เรียกไม่ถูกเห็นมีชาวสิงคโปร์ยืนเต้นกันสนุกสนานเลยค่ะ ยืนดูเพลินจนไม่อยากจะกลับเลย นี่ถ้ารู้ว่าเต้นแบบนี้นะ จะขนรองเท้าไปด้วย จะไปโชว์ลีลาวาดลวดลายให้ดู ฮ่าๆๆ ชอบมากๆๆๆ เขียนต่ออีกนะค่ะ ชอบสิงคโปร์มาก และจะมาติดตามอ่านต่อค่ะ
โดย: jinaka IP: 182.53.163.40 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2556 เวลา:16:28:18 น.
|
TungmayRitar
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?] ตังเม = เป็นผู้หญิงที่มีความสนใจทุกสิ่ง ทุกอย่างรอบตัว ชอบขีดเขียน วาดรูป ถ่ายรูป รักความสวยงาม ชอบกิน ชอบกีฬา รักหมา ติดต่อ Thisistungmay@gmail.com ห้ามนำภาพถ่ายภายใน Blog ไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต ติดตาม IG คลิกด้านล่างเลยค่ะ
Follow @tungmayritar
Friends Blog
Link |
แลดูน่าไปสมกับคำโปรย
Singapore เที่ยวง่ายๆ สบายแฮร์ เหมือนเล่นแชร์กันทั้งประเทศ ฮ่าๆ ๆ
ขอบคุณที่มารีวิวให้ชมน้าา