แค่คนหนึ่งคน..บนโลกใบนี้
Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
5 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
I Now Pronounce You Chuck and Larry มีอะไรมากกว่าแค่ "หนังเกย์" ฮาๆ





ช่วงนี้ ไม่รู้เป็นยังไง ได้ดูหนังเกย์ค่อนข้างบ่อย
โชคดีที่ไม่ใช่ผู้ชาย ไม่งั้นคงมีคนมองว่าเป็นเกย์
และโชคดีที่มีลูกแล้ว ไม่งั้นอาจถูกมองว่าเป็นเลสเบี้ยนไปได้
..อิอิ

เมื่อวานได้มีโอกาสดู cd เรื่อง “I Now Pronounce You Chuck and Larry” หนังตลกเบาสมองที่ลาโรงไปเมื่อหลายเดือนก่อน ดูแล้วก็ผิดคาด

...เนื้อหาดีกว่าที่คาดแฮะ

I Now Pronounce You Chuck and Larry เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพนักงานดับเพลิงหนุ่มเจ้าชู้ มากด้วยเสน่ห์ Chuck Levine (Adam Sandler) และ Larry Valentine (Kevin James) พ่อหม้ายลูกสอง ทั้งสองเป็นชายแท้ๆ แต่ต้องมาร่วมเป็นคู่ชีวิต (partnership) เพื่อผลประโยชน์บางอย่าง ทั้งสองต้องพยายามเป็นเกย์ทั้งในสายตาของสาธารณชน และสายตาของทางราชการที่คอยจับตามองเพราะสงสัยว่า ทั้งสองอาจจะรวมหัวหลอกลวงเพื่อหวังเงินบำนาญ

ความพยายาม present ตัวเองให้เป็นเกย์ของทั้งคู่ไม่ง่ายเลย เป็นความพยายามสร้าง “เปลือก” แบบฮา ๆ ตาม stereotype ของเกย์ ไม่ว่าจะโดยการแต่งงานกัน การใช้สินค้าแบบที่เกย์ใช้ พูดจาแบบเกย์ พยายามทำตัวว่ามีรสนิยมแบบเกย์ ฟังเพลงของนักร้องเกย์ ดูหนังเกย์ (มีการหยอกล้อระหว่างหนัง โดยในฉากหนึ่ง Chuck หยิบเอา dvd Brokeback mountain มาใส่ในตะกร้าสินค้าขณะไป shopping ที่ supermarket ด้วย) รวมถึงการไปร่วมงานเลี้ยง party ของเกย์ จนคนทั้งเมืองเริ่มรับรู้

แต่ผลลัพธ์ที่ตามมาหลังจากทุกคนเชื่อว่าเขาทั้งคู่เป็นเกย์ กลับสร้างความเดือดร้อนให้กับเกย์เทียมทั้งสอง เมื่อคนส่วนใหญ่ในสังคมไม่ยอมรับความเป็นเกย์ของ Chuck และ Larry ทั้งสองถูกปฏิบัติอย่างรังเกียจ รวมทั้งเพื่อนร่วมงานก็มองทั้งคู่อย่างแปลกแยก

เมื่อทั้งคู่ตกเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ของความเป็นเกย์จริง ๆ ทั้งสองจึงเริ่มที่จะเรียนรู้และเข้าใจในการแยกแยะความแตกต่างทางเพศ เข้าใจความเจ็บปวดของเกย์ เริ่มเห็นใจและเริ่มที่จะปกป้องสิทธิของเพศที่สาม อย่างที่เพื่อนมนุษย์พึงกระทำ จนเขาทั้งสองกลายเป็นขวัญใจชาวเกย์ไปในที่สุด

ในขณะที่ความสัมพันธ์แบบคู่รักจอมปลอมของทั้งสองกำลังดำเนินไป ความรักในชีวิตจริงก็ยังคงเป็นปมรบกวนจิตใจของทั้งคู่ ความรักของ Chuck กำลังเริ่มต้นขึ้น ในขณะที่ ความรัก Larry ที่มีต่อภรรยาผู้จากไป ก็ยังวนเวียนอยู่ตลอดเวลา Chuck แอบไปชอบ Alex McDonough ทนายสาวสวยของตนเอง (Jessica Biel) และ Larry เองก็ยังลืมภรรยาของตนเองไม่ได้ ยังคิดถึงภรรยาที่จากไปสุดหัวใจ แต่ทั้งสองต้องพยายามเสแสร้งว่ารักกัน ความพยายามที่จะต้องแสดงความรักทั้งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ตัวเองเป็น ทำให้ทั้งสองต้องทะเลาะเบาะแว้งและขัดแย้งกันมาตลอด

แต่ที่สุดแล้ว ก็ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า “มิตรภาพ” ระหว่างเพื่อน จากที่ทั้งสองต่างร่วมฝ่าฟันวิกฤติของชีวิตมาด้วยกัน ทำให้ต่างเข้าใจกันมากขึ้น มิตรภาพที่สั่นคลอนเริ่มแน่นแฟ้นขึ้น และพร้อมที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งไปด้วยกัน

เหมือนคู่ชีวิตที่เข้าอกเข้าใจกัน ด้วยความรักที่ปราศจากเรื่อง sex เข้ามาเกี่ยวข้อง

แม้หนังเรื่องนี้จะเป็นหนังตลก (ดูจากยี่ห้อ Adam Sandler ก็การันตีได้ถึงความบันเทิงที่จะได้รับ) ซึ่งน่าจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเสพเพื่อเอา “มัน” แต่เรากลับมองเห็นแง่มุมที่ได้รับจากเรื่องนี้มากมาย
ไม่ว่าจะเป็น

หลายฉากที่น่าประทับใจ เช่น.....

ในค่ำคืนหนึ่ง หลังจากการทะเลาะกันอย่างรุนแรงของ Chuck และ Larry ต่างฝ่ายต่างโทษกันและกันว่าเพราะอีกฝ่ายเป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหานี้ขึ้นมา ทั้งสองแยกจากกันพร้อมบาดแผลในใจและความปวดร้าว

ในค่ำคืนนั้น เมื่อกลับมาถึงบ้าน Larry ยืนมองรูปของภรรยารักที่จากไป สักพัก เขาก็พึมพัมขึ้นมาเบา ๆ ว่า
“ผมคิดถึงคุณสุดหัวใจ”
ในเวลาไล่เลี่ยกัน Chuck กลับมาถึงบ้าน ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน มอง Larry ที่กำลังดูรูปภรรยาสักพักพร้อมบอกว่า
“คืนนี้ให้ฉันนอนที่ห้องด้วยได้ไหม”
แล้วทั้งคู่ก็สวมกอดกัน โดยมีลูกสาวลูกชายของ Larry ยืนมองแล้วยิ้มอย่างสุขใจ

อีกฉากเล็กๆ ที่น่าจดจำ คือ ในวันหนึ่ง ภายหลังจากที่ Chuck และ Larry เปิดเผยตัวว่าเป็นเกย์แล้ว เพื่อนร่วมงานผิวดำร่างกายกำยำ หน้าตาเถื่อนสิ้นดี เดินเข้ามาสวมกอด Chuck แล้วสารภาพว่าตนเป็นเกย์ พร้อมกับประโยคที่ว่า

“ที่ผ่านมาฉันโกหกตัวเองมาตลอด นายทำให้ฉันกล้าที่จะเปิดเผยตัวเอง”


และในตอนท้ายของเรื่อง เมื่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลายเป็นประเด็นจนถึงกับต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ความรักความผูกพันที่เพื่อนร่วมงานมีให้กับทั้งคู่ ทำให้เพื่อน ๆ มองข้ามเส้นแบ่งของรสนิยมทางเพศ แห่แหนกันไปให้กำลังใจทั้งคู่ในศาล ความกล้าของทั้งสอง ทำให้เพื่อนร่วมงานหลายคนกล้าที่จะเปิดเผยตัวตนที่พยายามปิดบังมาตลอด

ฉากที่ Chuck และ Larry ผลัดกันให้การในศาลถึงความสัมพันธ์ที่มีระหว่างกัน สีหน้า แววตา และน้ำเสียงที่กล่าวถึงกันและกัน ไม่ใช่เพียงการสร้างสถานการณ์เพื่อให้พูดตรงกัน แต่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความผูกพันอย่างจริงใจที่เพื่อนมีต่อเพื่อน


หลายประโยคที่มีความหมายและลึกซึ้งกินใจ

“ไม่มีร้ายแรงไปกว่าการเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง”
หลายคนในสังคม ต้องทนเป็นคนอื่น เพียงเพราะความคาดหวังของคนรอบข้างและของสังคม จนลืมไปว่า สิ่งสำคัญที่สุดของการได้เกิดเป็นคน คือ การได้เป้นอย่างที่ตนเองเป็น และเป็นอย่างที่เราอยากจะเป็น ไม่ใช่เป็นอย่างที่ “คนอื่น” อยากให้เป็น

“ไม่ว่าเราจะเลือกรักใคร แบบไหน มันก็ไม่เห็นจะเป็นยังไง ............เพราะเราก็เป็นคนเหมือนกัน”


“คำโกหกก็เหมือนวงกลม ไม่มีวันสิ้นสุด”
จริงสินะ เมื่อเราต้องโกหกใครสักคน เพื่ออะไรบางอย่าง เรามักหยุดโกหกไม่ได้ และต้องพยายามสร้างเรื่องโกหกต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้เรื่องราวที่สร้างไว้ดำเนินต่อไป และการโกหกที่ทรมานที่สุด คือ การโกหกตัวเอง

และหลายแนวคิดที่งดงาม

.......มิตรภาพที่สวยงามระหว่างเพื่อนจะไม่มีวันสิ้นสุด ไม่ว่าเพื่อนคนนี้จะเป็นใคร หรือเป็นยังไงก็ตาม

.....ไม่มีอะไรสุขใจไปกว่าการเปิดเผยตัวเอง ทำไมเราต้องเสแสร้งเพื่อจะเป็นแบบอื่น เป็นคนอื่นเพียงเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากสังคม

อดไม่ได้ที่จะอิ่มใจเล็กๆ หลังดูหนังจบ นาน ๆ ที่จะได้ดูหนังเอา “มัน” แล้วได้สาระกลับไปด้วย


Create Date : 05 มกราคม 2551
Last Update : 9 สิงหาคม 2551 14:08:50 น. 2 comments
Counter : 1246 Pageviews.

 
เห็นแฟนอยากดูอยู่ เด๋วไปเช่ามาดูบ้างครับ ช่วงนี้ดูแต่หนังแผ่นครับ

Knock up ผิดหวัง

The Kovak box เหมือนจะดี แต่ยืดเยื้อไปหน่อย

Eternal Summer อืมย์ เหมือน รักแห่งสยาม+ เพื่อน กรูรักเมิงว่ะ อิอิ

เด๋วจะออกไปเช่าหนังมาดูต่อครับ แถวบ้านแผ่นละ 15 บาท



โดย: joblovenuk วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:17:51:06 น.  

 
เพิ่งได้ดูเหมือนกันครับ พอดีเพื่อนเอามาให้ดู
ดูแล้วก็ เห้ยยย หนังดีกว่าที่คิดไว้อีกแหะ
ทั้งขำ ทั้งได้ข้อคิดครับ หุหุ


โดย: Por IP: 58.8.60.229 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:51:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แค่คนหนึ่งคน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียนค่ะ






Google




...............................

No Me Importa Si Todos Te Miran
No Me Importa Lo Que Digan De Ti
No Me Importa Como Pasa El Tiempo
Sabiendo Yo Que Tu Me Quieres

.....................................




"ขอให้มีความสุขกับชีวิต และมีความสุขกับการ ให้ นะคะ"



















Load Counter
Friends' blogs
[Add แค่คนหนึ่งคน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.