... มาแว้วๆ ***ยอดรักนักศิลป์ตอนที่ 26 ทางรอด *** OG 2 ตอน13-ตอนจบ** **คลิกอ่านทุกเรื่องได้ที่เมนูด้านซ้ายเลยจ้า.. ^_^
“ความทุกข์-หากเล่าสู่กันฟังจะลดลงครึ่งหนึ่ง ส่วนความสุข-ถ้าเราแบ่งปันมันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า” ขอบคุณลูกบล็อกทุกท่านที่ร่วมสร้างบล็อกแห่งความสุขนี้ขึ้นมา อยากให้พื้นที่ในบล็อกแห่งนี้ได้เป็นที่แบ่งปันทุกข์และสุขร่วมกัน จะไม่มีรักรูปแบบใดที่เป็นไปไม่ได้ ณ ที่แห่งนี้....วอนวอน
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
17 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 

ตอนที่ 7 แม้ตัวไกล…ใจยังรัก

“เช้าแล้วเหรอ..จุงโจ” โบอึนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ขณะหนุนศีรษะกลับเข้าซบอกจุงโจตามเดิม
“ยังหรอก เธอนอนต่อเถอะ” จุงโจพูดด้วยเสียงอ่อนโยนตอบกลับพลางก้มจุมพิตหน้าผากมนของหญิงสาวในอ้อมกอดที่หลับสนิทไปอีกครั้ง ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัวจนเขาไม่สามารถข่มตาหลับได้จนต้องนอนมองคนในอ้อมกอดแทน ชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวมานอนที่ห้องของตัวเองเพราะอากาศที่โรงเก็บไหเริ่มหนาวเย็นเกินไป ใบหน้าหวานซึ้งที่ถึงแม้ยามหลับยังสร้างความดึงดูดใจให้เขาถึงเพียงนี้แล้วไหนจะริมฝีปากบางอมชมพูระเรื่อที่จุงโจรู้ดีว่าหวานเพียงใด จุงโจมองดูร่างบางในอ้อมกอดที่ซุกตัวเข้าหาเขาเหมือนเด็กต้องการไออุ่นยามที่หญิงสาวหลับสนิทอย่างเพลิดเพลิน แต่เขาก็ต้องตัดใจลุกผละออกจากร่างบางเพราะตลอดคืนที่นอนกอดหญิงสาวเขาเองก็คิดที่จะออกจากบ้านหลังนี้เพียงแต่เขาจะหนีไปทันทีไม่ได้เพราะเขายังไม่อยากจะผละจากหญิงสาวที่เขาประคองกอดอยู่ทั้งคืนคนนี้

”ฉันไม่ได้จะทิ้งเธอไปไหนหรอกนะ.,โบอึ .แต่เธอคงจะเข้าใจว่าทำไมฉันถึงไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้..เอาไว้เราค่อยเจอกันข้างนอกจะดีกว่า..เธอนอนหลับต่อเถอะนะ…”จุงโจพูดเสียงกระซิบบอกโบอึนเขาก้มลงจูบลาหญิงสาวที่นอนหลับตาพริ้มบนเตียงนอนเขาอย่างอ่อนโยนก่อนที่ตัวเองจะหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าเดินออกจากห้องไป ชายหนุ่มเดินออกจากตัวบ้านมุ่งหน้ามาที่โรงจอดรถเพื่อมาเอารถมอเตอร์ไซด์คู่ใจอากาศภายนอกยังคงหนาวเย็นเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่ายังอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงวันใหม่

“แกจะไปจากบ้านหลังนี้จริงๆเหรอ?จุงโจ” เสียงคุ้นหูถามขึ้นทำให้จุงโจชะงักขณะเดินมุ่งหน้าเพื่อไปเอารถ เขาค่อยๆหันมาเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงที่เอ่ยถาม จุงโจมองหน้าพ่อด้วยสายตาเฉยชาตามเคย เขาแปลกใจเล็กน้อยที่พ่อยังไม่นอนแต่เขาก็นึกไม่ถึงว่าจะเป็นพ่อที่ออกมาตามเขา ความเงียบเริ่มเข้ามาอีกครั้งระหว่างสองพ่อลูก

“กลับเข้าบ้านเถอะ…พ่อไม่รู้ว่าแกจะไปไหนแต่ความรู้สึกบอกฉันว่าถ้าแกออกจากบ้านไปคืนนี้..พ่อจะไม่ได้เจอหน้าแกอีก” แดซุงเอ่ยขึ้นมาอย่างยากเย็น เขาเองถึงจะรู้สึกผิดและอยากจะพูดขอโทษลูกชายเพียงใดแต่ความที่เขารู้จักนิสัยของจุงโจดี ถึงจะพูดขอโทษลูกไปตอนนี้ชายหนุ่มก็คงไม่เปิดใจฟังเขาแน่ๆ แต่ครั้นจะปล่อยให้ลูกชายเดินออกจากบ้านไปต่อหน้าต่อตาแดซุงเองเขาก็ทนไม่ได้เหมือนกัน หลังจากที่โต้เถียงกับลูกชายอย่างรุนแรง แดซุงก็ไม่สามารถข่มตาหลับได้เขานั่งจมอยู่กับความรู้สึกผิดที่ตบหน้าลูกอย่างคนขาดสติ เขาตั้งใจว่าจะเดินมาขอโทษลูกที่ห้องเมื่อลดทิฐิของตัวเองลงได้แต่เขาก็พบว่าห้องลูกชายมีเพียงความว่างเปล่าชายหนุ่มไม่ได้อยู่ที่ห้องอย่างที่เขาคิดไว้ แดซุงจึงตัดสินใจรอลูกชายอยู่ที่ห้องรับแขกแต่การรอของเขานั้นได้สร้างความตกตะลึงให้เขาไม่น้อยเลยทีเดียวเมื่อพบว่าจุงโจกลับมาพร้อมผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาไม่รู้จักเพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกเลี้ยงของเขาเอง ความใกล้ชิดของทั้งสองจากสายตาของคนที่ผ่านโลกมาก่อนอย่างแดซุงดูออกได้ทันทีว่าหนุ่มสาวสองคนนี้รักกัน จะด้วยเพราะความบังเอิญแท้ๆที่เขาได้มาเจอความลับนี้ซะก่อนเขาจึงตัดสินใจจะพูดกับลูกชายเรื่องที่เขาสองคนทะเลาะกันและเรื่องรักๆใคร่ๆของลูกซะให้จบๆไปเลยวันนี้

“พ่อรู้ตัวดีถึงจะพูดอะไรไปตอนนี้แกก็คงไม่เปิดใจรับฟังอะไรจากพ่อ.,แต่แกก็ควรรู้เอาไว้อย่างว่าเรื่องของพ่อกับแก..หนูโบอึนเค้าไม่ได้รู้เรื่องด้วย..เด็กคนนั้นเขาเป็นเด็กดี….แก..”
“ท่านประธานพูดถึงเรื่องอะไร…”จุงโจจ้องมองพ่อด้วยสายตาแข็งกร้าว “ท่านรู้ก็ดีแล้ว…ถ้างั้นผมจะบอกเอาไว้เลยก็ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นของผม ถึงผมจะออกจากบ้านหลังนี้ไปท่านเองก็ไม่มีทางห้ามผมไม่ให้ติดต่อกับโบอึนได้” จุงโจพูดเสียงแข็งอารมณ์ขุ่นมัวที่สงบไปไม่นานเริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
“จุงโจ…แกฟังพ่อให้ดีนะ…เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนหัวค่ำนี้พ่อขอโทษแกด้วย พ่อรู้ว่าระหว่างเรา เราอาจจะอยู่ห่างกันนานเกินไป ทำให้เรื่องบางเรื่องที่เราสองคนอาจจะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ซึ่งกันและกันแกเองจะไม่ให้โอกาสพ่อได้รู้จักแกมากขึ้นกว่านี้เหรอ” แดซุงพยายามหาเหตุผลมาโน้มน้าวใจลูกชาย

จุงโจขบกรามแน่นด้วยความอัดอั้นเมื่อได้ฟังคำพูดของผู้เป็นพ่อ.. ‘พ่อร้องขอโอกาสที่ผ่านมาเป็นสิบๆปีเอาวันนี้เวลานี้จากเขางั้นเหรอ.’.ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวจนทำให้จุงโจกำมือแน่นด้วยความโมโห

“ท่านประธาน…ไม่คิดว่ามันสายไปแล้วเหรอ” จุงโจพยายามข่มน้ำเสียงให้ราบเรียบมีเพียงสายตาที่ยังคงแข็งกร้าวตามเดิม
“ถ้าแกยังโกรธพ่ออยู่ก็ไม่เป็นไร…แต่พ่อไม่อยากให้แกออกไปอยู่ที่อื่น โดยที่แกยังไม่เข้าใจอะไรในตัวพ่อและโกรธพ่ออยู่อย่างนี้ ถึงพ่ออยากจะรั้งตัวแกไว้เท่าไหร่แต่ถ้าแกตัดสินใจที่จะไปจากบ้านหลังนี้แล้วล่ะก็พ่อก็คงจะห้ามแกไม่ได้ แต่พ่ออยากจะขอร้องอะไรแกซักอย่างจะได้มั้ย”
“ท่านประธาน…จะขอร้องคนอย่างผมงั้นเหรอ” จุงโจเลิกคิ้วเข้มอย่างเย้ยหยัน
“ใช่…พ่อขอร้องให้แกอยู่ที่นี่ต่อไป..เรียนให้จบแล้วมาช่วยงานที่โรงกลั่น,ทำให้มันเจริญก้าวหน้ากว่านี้,มั่นคงกว่าที่พ่อทำ..แกจะทำให้พ่อได้มั้ย..จุงโจ“
“ผมน่ะเหรอ?..ท่านมั่นใจได้ยังไงว่าผมจะทำได้”
“เพราะแกเป็นลูกฉัน” แดซุงมองจุงโจด้วยสายตามุ่งมั่นจริงจัง “แล้วเมื่อถึงวันนั้นแกยังอยากจะออกจากบ้านหลังนี้,พ่อก็จะไม่รั้งแกไว้อีก”

ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างสองพ่อลูกอีกครั้ง.,ชายหนุ่มเมื่อฟังพ่อพูดจบเขาเองก็รู้สึกลังเลจะเป็นเพราะน้ำเสียงและแววตาของพ่อที่ส่งผ่านมา..ความจริงจังและคำพูดที่ฟังแล้วอบอุ่นทำให้เขาลังเลกับการจะออกจากบ้านหลังนี้ อารมณ์ขุ่นมัวเริ่มค่อยๆจางลงเมื่อนึกถึงคำพูดจริงจังของพ่อ ‘เพราะแกเป็นลูกฉัน พ่อพูดคำนี้ออกมา,พ่อหมายความอย่างนั้นมั่นใจในตัวผมถึงขนาดนั้นเลยเหรอ’ จุงโจคิดทบทวนคำพูดพ่อภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยขณะจ้องมองพ่อด้วยสายตาเฉยชาตามเคย

ส่วนเรื่องหนูโบอึน,พ่อจะไม่ห้ามอะไรแกเพียงแต่ว่า,พ่ออยากจะบอกอะไรแกไว้หน่อย แม่ของโบอึนเค้ามีคนที่เขาหมั้นหมายไว้ให้ลูกสาวเขาแล้ว แกฟังพ่ออย่างนี้แล้วยังจะเข้าใจพ่อผิดอีกมั้ย” แดซุงอธิบายให้ลูกชายฟังเพราะเขาไม่อยากให้ลูกชายต้องมาผิดหวังเจ็บปวดอย่างน้อยการบอกกล่าวเขาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆก็เป็นการดีกว่าให้เขา
ถลำตัวไปมากกว่านี้ แดซุงพูดอธิบายไปเรื่อยๆเมื่อเห็นจุงโจยืนฟังนิ่ง

“เรื่องนั้น…ท่านประธานไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะจัดการของผมเอง โบอึนเป็นผู้หญิงของผม ผมไม่มีวันปล่อยเธอไปให้ใครเป็นอันขาด แต่ถ้าอะไรไม่เป็นไปตามที่ผมคิดไว้ ผมก็จะไม่ตายเพราะผู้หญิงคนเดียวหรอก” จุงโจโต้ตอบพ่อด้วยน้ำเสียงจองหอง เจ็บหัวใจลึกๆเมื่อคิดว่าผู้หญิงที่เขาประคองกอดทั้งคืนต้องไปแต่งงานกับคนอื่น ถ้าถึงวันนั้นจริงๆเขายังจะทำท่าอวดดีอย่างนี้ให้พ่อเห็นได้อยู่มั้ย ความหึงหวงทำให้จุงโจขบฟันแน่นจนกรามแข็งนูนด้วยความโมโห
“ถ้างั้น พ่อว่าเราก็คงคุยกันรู้เรื่องแล้ว พ่อจะไม่พูดถึงเรื่องแกกับหนูโบอึนอีก ไม่ใช่ทุกคนจะสุขสมหวังกับรักครั้งแรกหรอกนะจุงโจ….“ แดซุงพูดทิ้งท้ายให้ลูกชายได้คิด
“กลับเข้าบ้านเถอะ แกควรจะพักผ่อนได้แล้ว” แดซุงพูดอย่างมั่นใจแล้วว่าจุงโจจะไม่หนีไปไหนอีก ก่อนที่เขาจะเดินกลับเข้าไปในบ้านปล่อยให้ลูกชายยืนนิ่งคิดถึงคำพูดเขาเพียงลำพัง

จุงโจนั่งมองดูหญิงสาวที่นอนหลับสนิทบนเตียงของเขาด้วยความรู้สึกหวงแหน ผู้หญิงคนนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายอย่างเขารู้ซึ้งถึงคำว่าปวดใจเป็นเช่นไร “จริงซินะ,เธอมีแฟนแล้วนี่ ผู้ชายคนนั้น..เขาเคยจูบเธอเหมือนที่ฉันจูบเธอมั้ย..โบอึน.” จุงโจอยากจะเอื้อมมือไปปลุกหญิงสาวเพื่อพูดคุยให้รู้เรื่องแต่เขาก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้เมื่อเห็นร่างบางที่นอนหลับตาพริ้ม,มีรอยยิ้มจางๆระบายบนใบหน้า ชายหนุ่มก็ไม่อยากเป็นคนใจร้ายปลุกหญิงสาวขึ้นมา..

“ถ้าเธอนอนหลับแล้วฝัน.,ในฝันเธอจะมีฉันบ้างมั้ย..โบอึน” จุงโจพูดเสียงแผ่วขณะไล้มือยาวเรียวไปตามใบหน้าหวานซึ้ง ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกยาวๆรู้สึกอัดอั้นแน่นหน้าอกอย่างบอกไม่ถูกว่าความรู้สึกแบบนี้เขาเองเป็นอะไรกันแน่ เมื่อคิดอะไรไม่ออกชายหนุ่มจึงเลือกที่จะไปอาบน้ำเพราะนาฬิกาที่หัวเตียงบอกเขาว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเป็นเช้าวันใหม่ “ไม่ว่าจะเป็นยังไง..ฉันก็ขาดเธอไม่ได้..โบอึน” เสียงสะท้อนในหัวใจของจุงโจร้องบอกเขาขณะปล่อยตัวปล่อยใจล่องลอยไปกับสายน้ำอุ่นๆที่ไหลผ่านเรือนกาย

ความอิ่มเอมใจทำให้โบอึนตื่นขึ้นมาด้วยความสดใส..เมื่อหญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาเธอก็พบว่าจุงโจชายหนุ่มที่
ทำให้เธอเองหน้าแดงขึ้นมาได้เพียงแค่เขามองมานั้นนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆตน เขาไม่ได้หลับอย่างที่หญิงสาวคิด ผมยาวสลวยของเขาถูกปล่อยไว้กลางหลังทำให้หน้าตาของเขาดูเด็กลงไปอีกหลายปี..ริมฝีปากหยักได้รูปของเขาเม้มสนิทดวงตาคมจับจ้องอยู่กับหนังสือในมือ..คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนที่ดวงตาคมจะก้มลงมองมาที่เธอ

“ตื่นแล้วเหรอ” จุงโจเอ่ยถามหญิงสาวก่อนจะวางหนังสือในมือลงโต๊ะข้างเตียง
“เธอตื่นเร็วจัง..หรือว่ายังไม่ได้นอนเลยกันแน่” โบอึนตอบหลังจากก้มหน้าหลบสายตาคมที่ก้มลงถามเธอกลบเกลื่อนอาการขัดเขินของตัวเองกลัวว่าเขาจะรู้ว่าเธอแอบมองเขาอยู่
“อืม..ฉันนอนไม่หลับน่ะ” จุงโจตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างที่หญิงสาวหลับไป
“จุงโจ….อย่าโกรธพ่อเลยนะ..ฉันไม่อยากให้เธอ…”
“เลิกพูดเถอะ…ตอนนี้ฉันยังไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้น…เหนื่อย…” จุงโจรู้ดีว่าหญิงสาวจะพูดอะไรแต่สำหรับเขาตอนนี้จุงโจไม่อยากจะฟังอะไรทั้งนั้นเขาเพียงอยากจะอยู่เงียบๆไม่ต้องคิดไม่ต้องรู้สึกอะไรหญิงสาวที่นอนอยู่ข้างๆคงไม่รู้ตัวว่าได้ทำให้คนอย่างเขารู้สึกหงุดหงิดในหัวใจจนเขาเองต้องหาหนังสือมานั่งอ่านเพื่อเลี่ยงสายตาจากร่างสาวหน้าหวานที่นอนอยู่ข้างๆเสียที

“ก็ได้..ฉันจะไม่พูดถึงเรื่องเมื่อวานอีก..เธออย่าโกรธฉันเลยนะ…” โบอึนกลัวว่าเขาจะโมโหขึ้นมาอีกจึงรีบพูดขอโทษ “เออ..ฉันคิดว่าฉันควรจะกลับห้องตัวเองได้แล้ว” พูดจบหญิงสาวก็ค่อยๆดันกายลุกขึ้นนั่ง
จุงโจช่วยประคองหญิงสาวลุกขึ้นนั่งพลางสวมกอดหญิงสาวจากด้านหลังริมฝีปากอุ่นๆไล้จุมพิศไร้ผมของโบอึนเบาๆก่อนที่เขาจะวางคางเกยบนไหล่บาง กอดกระชับหญิงสาวอย่างแนบชิด ความใกล้ชิดแนบแน่นทำให้โบอึนรู้สึกถึงหัวใจของเขาที่เต้นแรงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
“หัวใจเธอเต้นแรงจัง..จุงโจ” โบอึนค่อยๆหันหน้ามามองจุงโจที่นั่งหลับตาคางยังเกยบนไหล่ตนพร้อมกุมมือตอบเขาที่วางบนตำแหน่งหัวใจตนเช่นกัน
“หัวใจเธอก็เต้นแรง” จุงโจพูดเสียงเรียบแผ่วเบาดวงตาคมของเขายังคงปิดสนิท ลมหายใจอุ่นๆเบารดซอกคอขาวผ่องของโบอึนอย่างสม่ำเสมอตามเสียงจังหวะหัวใจ ถ้าไม่ติดว่าเป็นจุงโจผู้ชายที่เคยเฉยชาเย่อหยิ่ง,โบอึนคิดว่าเขาคงกำลังอ้อนเธออยู่เป็นแน่
“ขอให้ฉันกอดเธอแบบนี้อีกหน่อยเถอะนะ..โบอึน” จุงโจพูดเสียงกระซิบก่อนจะลืมตามองหญิงสาวในอ้อมกอด
“จุงโจ…”โบอึนพูดได้แค่นี้ก่อนที่ริมฝีปากบางจะถูกจุงโจปิดโอกาสให้เธอไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก ชายหนุ่มจูบซับแทรกลึกริมฝีปากบางนุ่มนิ่มอย่างอ่อนโยนเร่าร้อนจนร่างบางในอ้อมกอดเผลอยกมือบางลูบไล้ใบหน้าชายหนุ่มอย่างลืมตัว

โชคดีที่เช้าวันใหม่มาถึงโบอึนและจุงโจมีเรียนไม่เช้ามากไม่งั้นพวกเขาทั้งคู่คงมาเรียนสายเพราะกว่าที่ทั้งคู่จะออกจากบ้านได้ โบอึนต้องทำแผลที่มือให้จุงโจใหม่เพราะชายหนุ่มอาบน้ำไม่ระวังเอาเสียเลยจึงทำให้แผลที่โบอึนพันผ้าไว้อย่างดีเปียกไปหมด หน้าตาที่เปื้อนรอยยิ้มตลอดเวลาของโบอึนสร้างความแปลกใจให้ยอนจูเพื่อนสาวจนอดจะเอ่ยถามหญิงสาวไม่ได้

“โบอึน..เป็นอะไรรึเปล่า,อมยิ้มอยู่ได้” ยอนจูไม่พูดเปล่ายังแกล้งเอามือไปจับคางเพื่อนตัวเองจับหันมองทางซ้ายทีทางขวาทีอย่างสงสัย
“ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย..เอามือออกจากคางฉันได้แล้ว” โบอึนแกล้งพูดกลบเกลื่อนพยายามปัดมือยอนจูออก
“แต่จริงๆนะโบอึน..หน้าตาเธอเหมือนคนมีความสุขดูสิตาเป็นประกายเชียว…” ยอนจูยังคงล้อเลียนโบอึนไม่เลิก
“จริงๆเหรอ…นี่หน้าตาฉันเป็นอย่างที่เธอพูดจริงๆเหรอ..”โบอึนไม่พูดเปล่าพยายามมองกระจกประตูห้องเรียนห้องหนึ่งขณะที่เดินผ่านลงบันได
“โอ้ย…ยายบ๊องเอ้ย…ทำท่าอะไรของเธอ..ไป..ไปรีบเดินเถอะฉันหิวจะแย่แล้วเนี่ย” ยอนจูออกแรงจูงมือโบอึนแรงๆ อดจะขำกับท่าทางของโบอึนไม่ได้นานแล้วที่เธอเองไม่ได้เห็นโบอึนมีความสุขอย่างนี้

การเรียนของสองสาวหนึ่งหนุ่มตระกูลมุนเป็นไปได้ด้วยดีหลังจากวันที่จุงโจทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรงครั้งนั้นชายหนุ่มก็ยิ่งทำตัวห่างเหินผู้เป็นพ่อยิ่งกว่าเดิมแต่มีสิ่งเดียวที่ทำให้เขาแทบไม่มีเวลาได้ทะเลาะและหาเรื่องสมาชิกคนอื่นๆในบ้านนั่นก็คือการเรียนที่หนักหนาของเขาแล้วไหนจะการเข้าโรงกลั่นทุกวันหลังเลิกเรียน ชายหนุ่มนอกจะเรียนกฎหมายแล้วเขายังเรียนปริญญาอีกใบในคณะวิทยาศาสตร์สาขาวิชาจุลชีววิทยาอีกด้วย เรื่องเรียนของเขามีเพียงจองอูคนเดียวที่รู้เรื่องของนายหนุ่มเข้าโดยบังเอิญเพราะนอกจากจองอูจะทำงานที่โรงกลั่นแล้วเขายังมีหน้าที่ดูแลทำความสะอาดห้องให้จุงโจแต่เพียงผู้เดียวเพราะนายน้อยของบ้านค่อนข้างจะเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงแม้แต่ท่านประธานผู้เป็นพ่อยังต้องเคาะประตูเรียกลูกชายก่อนทุกครั้งก่อนที่จะเข้าห้องเขาได้ แล้วนับประสาอะไรกับคนรับใช้คนอื่นๆ จองอูจึงเป็นคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับจุงโจมากกว่าคนรับใช้อื่นๆในบ้าน

“แกอายุเท่าไหร่แล้วจองอู“จุงโจเอ่ยถามขึ้นขณะที่พวกเขาพากันมานั่งดื่มกันในร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“ผมเหรอ..ครับ..เออ..18ครับ นายน้อยถามทำไมเหรอครับ” จองอูงงกับกับคำถามของนายหนุ่มที่อยู่ๆเขาก็ถามขึ้น
“ไม่ทำไมหรอก…แกอายุน้อยกว่าฉันแค่ปีเดียวเอง..ไม่ต้องทำท่าเกรงใจฉันเหมือนอยู่กับท่านประธานก็ได้” จุงโจพูดพลางจุดบุหรี่สูบ แถมโยนซองบุหรี่ลงตรงหน้าจองอูอีก “แกสูบบุหรี่มั้ย”
“เออ…ผมไม่สูบหรอกครับนายน้อย..” จองอูตอบอย่างเกรงใจเอามือเลื่อนซองบุหรี่กลับคืนนายตน
“อะไรของแกวะ…สูบไปเถอะน่า…ไม่ตายหรอก” จุงโจสั่งด้วยหางเสียงห้วนๆรู้สึกผ่อนคลายขึ้นหลังจากเรียนและออกจากโรงกลั่นเขารู้ดีว่าจองอูยังคงเกรงอกเกรงใจเขาและเคารพเขามากแม้ว่าเขาจะกลับมาอยู่ที่บ้านได้เป็นปีๆแล้วก็ตาม นอกจากสาวหน้าหวานลูกเลี้ยงพ่อเขาแล้วจองอูก็เป็นอีกคนที่กล้าพูดกล้าคุยกับเขามากกว่าคนอื่นในบ้านอีกทั้งจองอูเป็นคนที่ซื่อตรงขี้เกรงอกเกรงใจและเคารพเชื่อฟังเขามากจนบางครั้งจุงโจก็อดจะรู้สึกรำคาญกับความหัวอ่อนของจองอูไม่ได้ เมื่อเห็นนายตนสั่งอย่างนั้นจองอูจึงต้องนั่งสูบบุหรี่เป็นเพื่อนเขาจองอูเป็นคนไม่ติดบุหรี่นอกจากบางครั้งบางคราวเท่านั้นเขาถึงจะสูบ การสนทนาของสองหนุ่มเป็นไปอย่างผ่อนคลาย ส่วนมากจองอูจะเป็นคนเอ่ยถามเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับนายตนตอนที่เขาใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกส่วนชายหนุ่มผู้ที่ถูกเอ่ยถามก็จะตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ชายหนุ่มนั่งดื่มอย่างผ่อนคลายช่วงนี้เขาเรียนหนักขึ้นงานที่โรงกลั่นก็มีหลายอย่างให้เขาต้องศึกษา ดังนั้นเวลาว่างๆอย่างนี้จุงโจจึงอยากจะนั่งดื่มอยู่อย่างเงียบๆแทนมากว่าการตอบคำถามที่จะมาทำลายความสงบ

“เอ๊ะ..นั่นคุณหนูโบอึนนี่ครับ..เอ่อมากับคุณฮังกีฮุนซะด้วย” จองอูเอ่ยขึ้นไม่ได้แปลกใจนักเพราะเขาเห็นว่าคนที่คบหากันมาทานข้าวด้วยกันก็คงไม่แปลกอะไร
“แกรู้จักแฟนเค้าด้วยเหรอ” จุงโจถามขึ้นไม่ได้หันไปมองคนที่ถูกเอ่ยถึงแม้เพียงหางตา
“โอ้ย..นายน้อยผมจะไปรู้จักเขาได้ยังไงล่ะครับ,เพียงแต่คุณกีฮุนน่ะเคยมารับมาส่งคุณโบอึนออกจะบ่อยผมเลยถามท่านประธานเอาน่ะครับ ผมไม่ได้รู้จักเค้าเป็นการส่วนตัวหรอก” จองอูตอบอย่างอายๆเพราะคนอย่างเขาน่ะเหรอจะไปรู้จักมักจี่กับลูกประธานบริษัทใหญ่โตอย่างกีฮุนได้

คำตอบยืดยาวของจองอูได้ทำลายอารมณ์ผ่อนคลายของจุงโจไปทันที คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างช่วยไม่ได้จุงโจบีบแก้วเหล้าในมือแน่นซะจนแก้วเกือบจะแตกคามือ,ใช่ซินะพักหลังๆมานี้เขาไม่ค่อยมีเวลาได้เจอหญิงสาวเลย เรื่องเรียนและงานที่โรงกลั่นทำให้เขายุ่งซะจนไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับโบอึนเหมือนแต่ก่อนแม้ว่าโบอึนจะฝึกงานที่โรงกลั่นอยู่ก็ตามแต่ก็เป็นคนละส่วนกับที่เขาทำงานอยู่ จุงโจจึงแทบจะไม่ได้เจอโบอึนเลย จุงโจอดจะคิดไม่ได้ว่าเขาเป็นตัวอะไรในสายตาของหญิงสาวหน้าหวานคนนั้น,รอยยิ้มที่อ่อนหวานคำพูดที่แสนห่วงหาอ่อนโยนยามที่อยู่ด้วยกัน ถ้าผู้หญิงอย่างโบอึนเป็นนักแสดงก็คงจะเก่งอย่างมากเลยที่เดียวที่ทำให้คนอย่างเขาเชื่อสนิทว่าการกระทำทั้งหมดนั่นเป็นเรื่องจริง

“กลับกันเถอะ ไปดื่มกันต่อที่บ้านดีกว่าเดี่ยวเมาแล้วขับรถไม่ไหวอีก” จุงโจเรียกพนักงานในร้านมาคิดเงิน
“อ้าว..นายน้อย เอ่อกลับก็กลับครับ” จองอูหยุดคำถามที่จะถามผู้เป็นนายว่าทำไมจู่ๆจะกลับกันง่ายๆแบบนี้ แต่เมื่อเห็นสายตาแข็งกร้าวของนายหนุ่มแล้วเขาเองก็หยุดคำถามนั้นกลืนมันคืนลงคอไปพร้อมเหล้าแก้วสุดท้ายในมือ
เมื่อชำระเงินเสร็จเรียบร้อยจุงโจก็ลุกขึ้นเดินออกจากร้านอาหารทันทีโดยที่ไม่ชายตามองหญิงสาวที่นั่งโต๊ะถัดไป จองอูจึงได้แต่โค้งคำนับทักทายโบอึนและกีฮุนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะรีบวิ่งตามนายตนออกไป

“นั่นเด็กที่บ้านเรานี่ โบอึน” กีฮุนเอ่ยขึ้นหลังจากที่พนักงานในร้านนำเมนูมาให้ “เออ..แล้วผู้ชายอีกคนเป็นใครเหรอ”
“เอ่อ..ลูกชายของพ่อเลี้ยงฉันเองคะพี่” โบอึนตอบเสียงเบาเพราะจิตใจของหญิงสาวลอยไปอยู่กับชายหนุ่มคนที่เดินออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สายตาของเขาไม่แม้แต่จะหันมามองเธอด้วยซ้ำความรู้สึกบางอย่างบอกเธอว่าจุงโจคนเก่ากลับมาแล้ว คนที่ใครหน้าไหนก็ไม่มีวันเข้าใจหรือรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ โบอึนได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างท้อแท้เพราะเธอไม่อยากให้จุงโจเข้าใจเธอผิด กว่าจะพูดกันดีๆได้ขนาดนี้โบอึนก็ต้องเหนื่อยใจกับเขาหลายเรื่อง

นี่จุงโจกลับมาเป็นคนแบบเดิมอีกแล้วโบอึนคิดแล้วก็ต้องถอนหายใจรอบสองเพราะเหมือนหญิงสาวต้องเริ่มต้นนับหนึ่งกับเขาใหม่เลยทีเดียว หญิงสาวมัวแต่คิดถึงเรื่องของจุงโจจึงได้แต่นั่งเหม่อเขี่ยกับข้าวในจานโดยไม่ยอมแตะต้องแม้แต่คำเดียว

“อาหารไม่อร่อยเหรอโบอึน” กีฮุนเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นโบอึนนั่งเหม่อลอย
“อ้อ..ค่ะ..พี่ถามว่าอะไรนะคะ” โบอึนรีบปรับสีหน้าหันมาสนใจชายหนุ่มที่นั่งตรงข้าม
“พี่ถามว่าอาหารไม่อร่อยเหรอ,เห็นเธอไม่ทานเลย” กีฮุนออกจะแปลกใจเล็กน้อยเพราะร้านอาหารร้านนี้เป็นร้านโปรดของหญิงสาวแต่แปลกที่วันนี้โบอึนแทบจะไม่แตะต้องอาหารที่สั่งมาทานเลย แถมหญิงสาวยังดูเงียบผิดปกติถึงทุกครั้งหญิงสาวจะเป็นคนพูดน้อยและออกจะระมัดระวังตัวเสมอเมื่ออยู่กับเขาแต่ก็ไม่ถึงกับนั่งเหม่อเหมือนอย่างวันนี้

“เปล่าคะ..พอดีฉันไม่ค่อยหิวน่ะคะ,ขอโทษนะคะ”
“จะขอโทษทำไมกันหล่ะ..พี่ว่าเธอผอมไปนะช่วงนี้เรียนก็ปีสี่แล้วยังมีเรื่องอะไรให้ต้องกังวลอีก” กีฮุนพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เพราะไม่อยากให้หญิงสาวเห็นถึงความข้องใจของเขา
“ไม่มีอะไรจริงๆคะพี่ทานข้าวต่อเถอะนะคะ” โบอึนยังคงปฏิเสธหญิงสาวเฉไฉไปเรื่องอื่นแทน
“ว่าแต่ถ้าเธอเรียนจบแล้วสนใจมาทำงานกับพี่มั้ยหรือว่าเธออยากเรียนโทต่อ” กีฮุนถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“คือ…ว่าถ้าบอกแล้วพี่อย่าโกรธฉันนะคะ”
“ก็ตอบมาก่อน..พี่จะลองพิจารณาโทษเธอก่อน..ดูมองหน้าพี่เข้า,เอ้าไม่โกรธหรอกพูดมาเถอะ” กีฮุนส่งยิ้มให้หญิงสาวเขาอดที่จะขำกับท่าทางหวาดๆของโบอึนไม่ได้

“ฉันอยากจะอยู่ช่วยงานที่โรงกลั่นพ่อเลี้ยงฉันหลังเรียนจบน่ะคะ”
“พี่ว่าไหนๆก็เรียนแล้วสู้เรียนต่อโทไปเลยทีเดียวไม่ดีกว่าเหรอ,เอาอย่างนี้มั้ยไปเรียนต่ออเมริกากับพี่” กีฮุนพูดอย่างใจดีน้ำเสียงเขายังคงหนักแน่นจริงจังตามเคย
“ไม่เป็นไรดีกว่าคะพี่,ไปเรียนเมืองนอกค่าใช้จ่ายก็เยอะเป็นเท่าตัวเอาเป็นว่าฉันขอทำงานไปก่อนดีกว่านะคะ”หญิงสาวปฏิเสธกีฮุนอย่างเกรงใจ
“เธอก็รู้ว่าพี่ไม่เคยเห็นเธอเป็นคนอื่นเลยนะ,โบอึนเราสองคนก็คบกันมานานแล้วนะทำไมต้องทำตัวเกรงอกเกรงใจพี่ขนาด นี้ด้วย”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ…คือ..ฉัน…เอาเป็นว่าเรื่องเรียนต่อน่ะฉันคิดเอาไว้เหมือนกันแต่ฉันคงจะเรียนต่อที่เกาหลีนี่แหละคะ..,ขอบคุณพี่มากนะคะ” โบอึนรู้ถึงความหวังดีของกีฮุนดีแต่นักธุรกิจอย่างเขาทำอะไรก็มักต้องมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอเพียงแต่เรื่องนี้ผลประโยชน์ของเขาไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทองแต่เป็นตัวเธอเองแทนต่างหาก

“ตอนนี้ยังมีเวลาเป็นปีๆกว่าเธอจะเรียนจบ,ยังไงพี่ก็หวังว่าเธอจะเปลี่ยนใจ” กีฮุนกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยนเขาส่งยิ้มบางๆให้หญิงสาวตรงหน้าคนที่เขาคิดถึงทุกลมหายใจเข้าออก ในวงการธุรกิจเขาอาจจะเป็นปีศาจเลือดเย็นและสามารถทำทุกกอย่างเพื่อให้กิจการที่ครอบครัวสร้างมาอยู่รอดได้ และต่อให้ต้องทำร้ายใครต่อใครก็แล้วแต่เขาก็ไม่สนใจแต่สำหรับผู้หญิงคนนี้คนเดียวคนที่เข้ามานั่งอยู่ในใจเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเจอเธอ“ซงโบอึน“ผู้หญิงหน้าหวานที่มีดวงตายาวรีหวานซึ้ง,จมูกโด่งรั้นรับกับริมฝีปากบางที่ดูอิ่มเอมอมชมพูระเรื่อ,ผิวขาวอมชมพูอย่างดอกซากุระที่ทำให้ฮังกีฮุนปีศาจเลือดเย็นตกหลุมรักทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นและก็เพียงแค่ผู้หญิงคนนี้คนเดียวเท่านั้นที่ต่อให้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรกเขาก็ยอมทำได้ทุกอย่างขอเพียงโบอึนต้องการ

โบอึนและกีฮุนต่างตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองอีกครั้งพวกเขาทั้งคู่ทานอาหารกันอย่างเงียบๆ,พูดคุยกันถึงเรื่องทั่วๆไปกันบ้างเล็กน้อยหลังจากมื้อค่ำสิ้นสุดกีฮุนจึงขับรถไปส่งโบอึนที่บ้าน
“ขอบคุณพี่มากนะคะสำหรับอาหารมื้อค่ำ” โบอึนกล่าวขอบคุณกีฮุนที่อุตสาห์เดินมาส่งที่หน้าประตู
“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นกู้ดไนท์คิสได้มั้ย,โบอึน” กีฮุนพูดอมยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าของหญิงสาว
“นี่พี่แกล้งฉันเหรอ,รีบกลับได้แล้ว” โบอึนแกล้งเอามือจับกีฮุนหันหลังแล้วผลักชายหนุ่มเบาๆ
“นี่พี่พูดจริงๆนะ,งั้นไม่จูบก็ได้หอมแก้มแทนก็ยังดี เร็วๆซิ” ไม่พูดเปล่ากีฮุนยังเอียงแก้มพร้อมหลี่ตารอหญิงสาว
“ถ้างั้นก็ได้แต่ต้องหลับตาก่อนนะคะ” โบอึนอมยิ้มกับท่าทางของเขาหญิงสาวค่อยๆเอามือแตะแก้มกีฮุนเบาๆ
“อะไรกัน..ไหนหล่ะหอมน่ะ” กีฮุนแกล้งโว้ย
“ก็นี่ไงคะ” โบอึนส่งจูบให้เขาผ่านปลายนิ้วบางพร้อมเอามือแนบแก้มเขาอีกครั้ง
“ฝันดีนะคะ” หญิงสาวเดินไปเปิดประตูบ้านพร้อมโบกมือลากีฮุนที่ยืนส่งยิ้มตอบกลับมากับความน่ารักของโบอึน

หลังประตูบานใหญ่ปิดสนิทรอยยิ้มของโบอึนก็หายไปหญิงสาวรีบวิ่งไปที่โรงเก็บไหทันทีเพื่อตามหาคนที่เอาหัวใจของเธอไปแต่โบอึนก็พบเพียงโรงเก็บไหที่ไร้เงาของคนที่เธอมองหา หญิงสาวจึงมุ่งหน้าเข้าบ้านเพื่อไปหาเขาที่ห้องแต่ก็พบว่าห้องถูกปิดไฟมืดสนิท โบอึนจึงพยายามลองโทรติดต่อไปหาจองอูเพราะเมื่อตอนเย็นหญิงสาวเห็นเขาสองคนมาด้วยกันแต่ก็ไม่มีคนรับสาย จนในที่สุดโบอึนทำใจอยู่ซักพักจึงกดเบอร์โทรหาจุงโจซึ่งอย่างน้อยถ้าเขาจะไม่รับเขาก็จะเห็นว่าเป็นเธอที่พยายามโทรติดต่อเขาอยู่ไม่ใช่ว่าเธอเงียบหายไปและก็เป็นอย่างที่โบอึนคิดปลายสายไม่มีคนรับ“ไปไหนของเค้านะทั้งเจ้านายทั้งลูกน้อง”

“นายน้อย..ตื่นเช้าจังเลยนะครับ” จองอูเอ่ยทักนายน้อยที่เดินลงมายังลานบ้านด้วยเสื้อยืดสีขาวกางเกงนอนขายาว,ผมยาวดำขลับของนายหนุ่มถูกปล่อยอย่างสบายๆ
“แกเห็นฉันเป็นคนนอนขี้เซารึไง” จุงโจแกล้งพูดเสียงเข้มใส่จองอู ซึ่งคนที่ถูกพูดเสียงเข้มใส่ได้แต่อมยิ้มขำๆเพราะเขาเห็นจุงโจตื่นแต่เช้าหน้าตาแม้จะดูอิดโรยแต่ก็ไม่ดูเคร่งเครียดเหมือนเมื่อคืน หลังจากที่ออกจากร้านอาหารจุงโจกับจองอูก็พากันมานั่งดื่มต่อที่ริมทะเลสาบใกล้บ้าน จุงโจดื่มเหล้าทีไรมักจะสูบบุหรี่จัดแบบนี้ทุกทีจนจองอูอดจะเป็นห่วงเรื่องนี้ไม่ได้ พวกเขาสองคนนั่งดื่มกันอย่างเงียบๆและดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบตัวที่มีทะเลสาบแสงจันทร์ลอยเด่นอยู่กลางน้ำและดาวเต็มท้องฟ้า,จองอูจำได้ดีว่าใบหน้าของเจ้านายเขานั้นช่างดูเศร้านักในความเพียบพร้อมของนายหนุ่มยังมีอะไรที่ทำให้เขาเศร้าได้ถึงขนาดนี้หนอ
“แล้วนี่นายน้อยจะไปไหนแต่เช้าครับเนี่ย”
“ฉันจะไปเดินเล่นที่ทะเลสาบหน่อย,ใส่เสื้อผ้าแบบนี้แกจะให้ฉันออกไปไหนไกลๆได้” จุงโจพูดประชด

จุงโจเดินออกจากบ้านมาไม่ถึงสิบนาทีก็พาตัวเองมาหยุดยืนดูทะเลสาบน้ำสีเขียวใสมรกตแสงแดดอุ่นยามเช้าส่องกระทบพื้นน้ำชวนให้จิตใจที่ขุ่นมัวจากเรื่องเมื่อคืนหายไป จุงโจยืนหลับตารับกับลมที่พัดผ่านมาสูดอากาศเข้าปอดลึกๆก่อนที่จะค่อยๆผ่อนลมหายใจออกช้าๆ ภาพของชายหนุ่มที่ยืนสูงเด่นอยู่ริมทะเลสาบผมยาวสลวยถูกสายลมอ่อนพัดพริ้วทำให้โบอึนยืนมองเขาอย่างตะลึงกับภาพอันสวยงามอย่างนี้ยามเช้าหญิงสาวออกมาเดินเล่นเช่นกันพยายามคิดมาตลอดทางว่าจะเข้ามาคุยกับจุงโจอย่างไรเพื่อปรับความเข้าใจแต่หญิงสาวก็คาดไม่ถึงว่าเขาจะมายืนอยู่ตรงหน้าแบบนี้จึงได้แต่ยืนมองดูเขาก่อนซักพักเพราะโบอึนก็ต้องการรวบรวมความกล้าที่จะพูดกับเขาด้วยรู้ซึ้งถึงนิสัยโมโหร้ายของจุงโจเป็นอย่างดีแล้ว

“จุงโจ..เสียงของหญิงสาวเบาหวิวเมื่อเอ่ยเรียกเขา
“อืม..จุงโจยังคงยืนหลับตา
“คือ..เรื่องเมื่อคืนเธออย่าเข้าใจฉันผิดนะฉันไปทานข้าวกับพี่กีฮุนในฐานะเพื่อนและพี่ชายเท่านั้น เธออย่าโกรธฉันเลยนะ” โบอึนรวบรวมความกล้าก่อนที่จะพูดอธิบายให้เขาฟังยืดยาว
“เธอมาบอกฉันทำไม..” เสียงถามกลับเบาๆก่อนที่ชายหนุ่มจะหันหน้ามามองด้วยสายตาคม
“จุงโจ..เธออย่าพูดกับฉันแบบนี้ได้มั้ย…โบอึนเริ่มใจเสียเมื่อเห็นเขาถามกลับด้วยความเย็นชา
“แล้วเราคุยกันดีแล้วเหรอเมื่อก่อน..เธอบอกฉันหน่อยซิว่าเธอกับฉันควรจะอยู่ในฐานะแบบไหนดี..” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากสายตาเริ่มจะแข็งกร้าวขึ้นมา อารมณ์ในใจเริ่มขุ่นมัวคำพูดของพ่อเข้ามาในหัวเขาอีกครั้งว่าผู้หญิงตรงหน้ามีเจ้าของแล้ว รู้สึกเจ็บปวดใจลึกๆแต่คนเย่อหยิ่งอย่างเขาก็ไม่มีวันจะให้ความอ่อนแอนี้เผยให้ใครได้เห็นง่ายๆยิ่งเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้านิ่งเงียบไปอย่างนี้เขาเองก็ควรจะเดินหนีไปก่อนที่ความอดทนของเขาจะสิ้นสุด

“จุงโจ..อย่าเพิ่งไปถ้าสิ่งที่เธอเห็นจากฉันมีแต่ความโกหกหลอกลวง,การแสดงออกของฉันที่มีต่อเธอคือสิ่งเสแสร้งแกล้งทำฉันก็อยากบอกเธอวันนี้ว่ามันไม่จริง เธอจะให้ฉันทำอย่างไรในเมื่อสิ่งต่างๆที่เกิดกับฉันมันเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยกำหนดขึ้นมา ฉันไม่เคยได้คิดและตัดสินใจอะไรให้กับตัวเองเลยแต่สิ่งเดียวที่ฉันทำด้วยความรู้สึกและมันออกมาทั้งหมดจากใจฉันก็คือการที่ฉันห่วงหาและหวังดีกับเธอ,เธอจะเชื่อฉันมั้ย..เธอจะเชื่อฉันมั้ย..จุงโจ..”โบอึนพูดความรู้สึกในใจที่มีต่อชายหนุ่มตรงหน้าด้วยน้ำตานองหน้า ความอัดอั้นภายในใจที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความเมินเฉยของเขาเท่านั้นแต่ยังรวมกับความคับแค้นใจและความกดดันที่แม่ของเธอคอยบงการเจ้ากี้เจ้าการให้เธอต้องทำตามคำสั่งของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่อยู่ร่ำไป อยากระบายให้คนตรงหน้าได้รับรู้

“โบอึน..โบอึนพอได้แล้ว” จุงโจเรียกชื่อหญิงสาวเพื่อเรียกสติของสาวหน้าหวานที่พูดอธิบายให้เขาฟังทั้งน้ำตาและเขย่าแขนเขาอย่างคนที่หมดซึ่งความอดทน จุงโจยกมือเรียวจับต้นแขนของโบอึนก้มหน้ามองหญิงสาวที่ยังคงยืนสะอื้นร้องไห .ชายหนุ่มค่อยๆสวมกอดร่างบางไว้ในอ้อมแขน เขารู้สึกว่าโบอึนจะผอมลงเพราะเมื่อเขาสวมกอดเธอร่างบางแทบจะลอยตามแรงกอดเขามาเลยทีเดียว

“เธอเนี่ยดีใจก็ร้องไห้,เสียใจก็ร้องไห้ทำไมขี้แยอย่างนี้นะ” จุงโจกระซิบข้างหูหญิงสาว
“จะ..จุงโจเธอไม่โกรธฉันแล้วใช่มั้ย” โบอึนพูดเสียงอู้อี้อยู่ภายใต้อ้อมกอดของเขาเสียงหญิงสาวยังคงสะอื้นเพราะเพิ่งจะหยุดร้องไห้
“พูดอะไรของเธอฉันฟังไม่รู้เรื่องเลย…” จุงโจแกล้งพูดเย้าหญิงสาวเมื่อเห็นโบอึนเงยหน้าขึ้นมอง,เขาจึงค่อยๆโน้มหน้าลงเอาหน้าผากจรดหน้าผากกลมมนของร่างบางในอ้อมกอดเอาไว้มองหญิงสาวที่ตาหวานยังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาจมูกแดงปากแดงหน้าตาของโบอึนตอนนี้ช่างน่ารักน่ามองเสียนี่กระไร เขามองเธอด้วยดวงตาคมอย่างไม่วางตา

“จุงโจ..เธออย่าทำเฉยใส่ฉันอีกนะ,ไม่งั้นฉันจะร้องไห้ให้เธอรำคาญยิ่งกว่านี้อีก” โบอึนพูดอมยิ้มพลางใช้มือบางเช็ดน้ำตาก่อนที่จุงโจจะส่งยิ้มบางๆมาให้หญิงสาวขี้แยอย่างเธอ,โบอึนมองรอยยิ้มของจุงโจอย่างกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขายิ้มและเหมือนเขาจะรู้ตัวชายหนุ่มจึงปรับสีหน้าเป็นเรียบเฉยตามเดิม
“จุงโจเรากลับกันเถอะ…โบอึนเอ่ยขึ้นขณะที่ตัวเองยังอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“อืม..ก็ได้ถ้าเธออยากกลับแล้ว..” จุงโจคลายอ้อมกอดอย่างไม่เต็มใจนักก่อนที่จะเดินนำหน้าหญิงสาวออกไป
“ทำไมไม่เดินตามมาหล่ะ…” จุงโจหันกลับมามองเมื่อไม่เห็นโบอึนเดินตามมา
“เธอเนี่ยไม่โรแมนติกเอาซะเลยนะ,อยู่ๆก็เดินนำหน้าไปก่อนเฉยเลย…” โบอึนอดจะต่อว่าเขาไม่ได้เมื่อเห็นเขาหยุดเดินหญิงสาวจึงวิ่งตามมายืนเคียงข้างเขา
“แล้วทำไมไม่เดินตามมาหล่ะ,รออะไรของเธออยู่…” จุงโจยังคงไม่เข้าใจพูดโต้ตอบหญิงสาวหน้าตาเฉย
“จับมือฉันหน่อยซิ…ฉันเต็มใจที่จะให้เธอจับมือพาฉันไปในทุกที่ขอแค่เธอจับมือฉันไว้..” โบอึนส่งยิ้มหวานให้จุงโจ ชายหนุ่มจึงสอดประสานมือเรียวกับมือบางของหญิงสาว สองมือสอดประสานเกาะกุมกันเดินไปเหมือนหัวใจสองดวงที่ผูกกันไว้ด้วยสายใยรักที่ต่างคนก็ไม่คิดจะแยกจากกันแม้นาทีเดียว

โบอึนนั่งอมยิ้มเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในเช้าวันนั้นของเธอกับจุงโจขณะที่หญิงสาวนั่งเครื่องบินจากบ้านเกิดเพื่อมุ่งหน้าไปเรียนต่อยังประเทศที่จุงโจเคยจากมา หญิงสาวนั่งคิดอย่างมีความสุขเมื่อจะได้มาเจอกับคนสองคนที่จุงโจรักนักรักหนา ก่อนที่หญิงสาวจะเรียนจบไม่นานพ่อเลี้ยงของเธอเรียกหญิงสาวไปคุยเป็นการส่วนตัวเรื่องการเรียนของเธอ โบอึนจึงสารภาพและระบายความในใจบอกแดซุงตามตรงเรื่องที่ตนเองถูกแม่บังคับให้ไปเรียนต่อกับฮังกีฮุนที่อเมริกา แดซุงเข้าใจและเห็นใจโบอึนในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ถึงเด็กสาวจะเป็นเด็กรักเรียนอย่างไรแต่การต้องไปเรียนต่อกับคนที่แม่ตนหมายหมั้นจะให้แต่งงานด้วยอย่างไม่เต็มใจแล้วนั้นก็ทำให้โบอึนรู้สึกกระอักระอ่วนใจจนแดซุงพ่อเลี้ยงสังเกตเห็นจึงได้เรียกเด็กสาวเข้ามาพูดคุยด้วยจึงได้รู้สาเหตุที่ทำให้เด็กสาวมีสีหน้าเศร้าหมอง

“พ่ออยากให้เราไปเรียนต่อนะโบอึน..” แดซุงเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นโบอึนนั่งเฉยหลังจากเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟัง
“คุณพ่อก็คงจะเห็นดีด้วยกับแม่ใช่มั้ยคะ…” โบอึนไม่แปลกใจที่แดซุงจะเห็นด้วยกับแม่ของตน
“ฟังพ่อให้ดีๆนะโบอึน..พ่ออยากให้เธอไปเรียนต่อแต่ไม่ใช่อเมริกาแต่เป็นที่อังกฤษ,เธอไปอยู่กับอาของเจ้าจุงโจจะดีกว่าพวกเขาสองคนรู้เรื่องนี้แล้วและยินดีต้อนรับเธอด้วยความเต็มใจ..พ่อจะปล่อยให้เธอไปใช้เงินคนอื่นเรียนทำไมในเมื่อเธอมีฉันเป็นพ่อเธออยู่ทั้งคน อีกอย่างเธอเองก็เป็นผู้หญิงพ่อเป็นห่วง ไปอยู่กับอาซอจูและอาอึนโซที่โน้นพ่อถึงจะวางใจ” แดซุงอธิบายให้ลูกเลี้ยงฟัง
“แล้วแม่จะไม่ว่าเอาเหรอคะถ้าท่านรู้เรื่องนี้เข้า…” โบอึนยังคงเป็นห่วงเรื่องนี้แม้จิตใจหญิงสาวจะดีขึ้นเมื่อฟังพ่อเลี้ยงอธิบาย

“เรื่องนั้นเธอไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกนะ,พ่อจะพูดกับเค้าเองแต่พ่อมีอย่างหนึ่งที่จะขอร้องเธอ”
“เรื่องอะไรหรีอคะคุณพ่อ”
“อย่าบอกเรื่องที่เธอไปเรียนต่อที่อังกฤษให้จุงโจรู้..พ่อรู้เรื่องเธอกับเจ้าจุงโจตั้งนานแล้วที่พ่อต้องทำแบบนี้เพราะอะไรเธอน่าจะเข้าใจดีนะ ด้วยอายุของพวกเธอทั้งคู่รวมกันแล้วยังไม่เท่าอายุของพ่อเลยถ้าเธอเรียนจบกับมาแล้วเรื่องของเธอกับจุงโจยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เมื่อถึงตอนนั้นพ่อก็จะไม่ขัดขวางและพร้อมยินดีไปกับพวกเธอทั้งคู่ด้วย”
“คุณพ่อคะ…แล้วจุงโจ…” โบอึนหนักใจที่ได้ยินเรื่องที่แดซุงขอร้องเพราะหญิงสาวไม่อยากให้จุงโจเข้าใจเธอผิดอีก
“เอาเถอะพ่อจะอธิบายให้เจ้าจุงโจฟังทีหลังเอง.,นี่ถ้ารู้เรื่องนี้เข้างานการที่โรงกลั่นคงจะไม่สนใจทำคงจะบินตามเธอไปแน่ๆ,เธอเองก็รู้นิสัยจุงโจดีไม่ใช่เหรอ หน้าไหนก็บังคับมันไม่ได้” แดซุงถึงพูดให้หญิงสาวฟังอย่างติดตลกแต่เขาเองก็หนักใจเหมือนกันที่ต้องทำร้ายจิตใจของลูกชายและลูกเลี้ยง แล้วไหนจะต้องอธิบายให้ภรรยาฟังอีกเรื่องที่ส่งโบอึนไปเรียนต่อที่อังกฤษแทนที่จะเป็นอเมริกากับคนที่ภรรยาหมายหมั้นไว้ให้กับหญิงสาวตรงหน้า แดซุงได้แต่หวังว่าเขาจะคิดถูกที่ตัดสินใจทำแบบนี้

“รอฉันหน่อยเถอะนะ..จุงโจถ้าฉันเรียนจบเมื่อไหร่ฉันจะกลับไปหาเธอทันทีเลย….” โบอึนคิดเมื่อนั่งมองดูสร้อยข้อมือแทนใจที่จุงโจสวมให้ เขาจะต้องเข้าใจเธอและเข้าใจพ่อกับเรื่องนี้ โบอึนเขียนจดหมายเล่าความจริงทั้งหมดฝากฮโยซอนน้องสาวเพื่อมอบให้จุงโจ หญิงสาวไม่อาจทำตามที่พ่อเลี้ยงเธอสั่งได้ คืนวันก่อนที่โบอึนจะบินมาเรียนต่อหญิงสาวไปหาเขาที่ห้องแล้วเอาแต่นั่งมองหน้าและกอดเขาไว้เนินนานเหมือนจะเก็บช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเขาไว้เป็นแรงใจให้เขาได้คิดถึงเธอบ้างเมื่อต้องอยู่ห่างกัน หญิงสาวเมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มก็อดที่จะใจหายไม่ได้จึงตัดสินใจเขียนจดหมายอธิบายเรื่องทั้งหมดเองดีกว่าปล่อยให้คนอื่นมาบอกเขาซึ่งจุงโจจะเข้าใจและรับฟังมากกว่า

‘จุงโจรอฉันนะ….อีกไม่นานเราก็จะได้เจอกันแล้ว..เธอต้องรอฉันนะ’ โบอึนคิดขณะเครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าห่างคนที่เธอรักออกไปทุกทีๆ ‘ลาก่อนที่รักของฉัน..จุงโจ’





 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2553
11 comments
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2553 13:01:11 น.
Counter : 974 Pageviews.

 

รูปที่ส่งมาลงบล็อกไม่ได้นะคะ ไม่รู้เป็นไร ส่วนเพลงรออีกสักหน่อยนะคะ ^__^

 

โดย: albatross11 17 พฤศจิกายน 2553 11:58:12 น.  

 

ว้าวววววว แปะแล้ว ขอบคุณมากค่า ท่านผอ. รบกวนเรื่อยเลย แหะๆ
ท่านอุ้มมาเจิมด่วนค่ะ อิอิ เพลงเพราะเนอะ เขินๆ ฟังแล้วอินเลย ^^

ก็เพราะใจมันขอ เพราะใจเรียกร้อง เพื่อมาเป็นของเจเจเสมอไป(มันร้องงี้หรา) อ๊าย เขินๆ โบอึนคงกะลังเป็นแบบนี้แน่เลย อิอิ

ฝันดีนะคะ

 

โดย: สาวก 2มุน IP: 202.12.97.100 18 พฤศจิกายน 2553 0:04:39 น.  

 

ขอบคุณท่าน ผอ มากๆคะ
ตอนนี้มาแปะ จดหมายของโบอึนไว้ให้อ่านกันด้วยนะคะ มีสองเวอร์ชั่นคะ ภาษาสเปนคือ จดหมายที่โบอึนเขียนไว้ให้จุงโจจริงๆ
ส่วนภาษาอังกฤษเอาไว้อ่านเทียบกันคะเพราะข้าน้อยอ่าน สเปนไม่ออก ส่วนภาษาสเปนนี้ฝากให้เจ้าของภาษาเค้าเป็นคนแต่งให้พอดีเป็นญาติกันเลยใช้ซะเลย ขอให้สนุกคะ


Querido Jung Jo,
Debo partir de tu lado a las tierras lejanas de Inglaterra. A un lugar donde no conozco a nadie, pero tengo la suerte de poder ir a vivir con tu adorable tía.
Cuando recibas esta carta yo estaré con ella.
Mi corazón se estremece con cada atardecer que se acerca.
Todavía pienso en ti a cada momento. Recuerdo cada momento que compartimos, nunca los olvidare. Fuiste la luz en mis momentos de oscuridad. Hoy se que no voy a volver a verte por mucho tiempo como me hubiese gustado. Como siempre lo soné. Todo lo que puedo hacer hoy es pensar en ti y en la noche en que nuestros cuerpos se entrelazaron. Todavía puedo sentir el calor de tu cuerpo contra el mio. Pero todo es solo un sueno distante cuando en realidad nos tendremos que separar.
Todo lo que puedo hacer es guardarte en mi memoria, tu eres mi joya mas valiosa.
Nunca olvides que mi corazón te pertenece a ti por toda la eternidad. Jung Jo por favor esperame.
Con amor
Beau Eun

 

โดย: อุ้ม IP: 82.152.248.165 18 พฤศจิกายน 2553 0:43:29 น.  

 

เวอร์ชั่น อังกฤษคะ

Dear, Jung Jo

I’m obliged to part from you far away as England to place where I don’t know a single soul, but I’m lucky that I come to live here with your beloved auntie when you get this letter I would be with her. My heart feel cold every time evening draws near. I’m still thinking of you even until my last second before I part from you, I still remember ; I’ll never forget it. It was as if you were the only light in my bleak life. But today, since I won’t get to see you for long time like I had hoped to be with you as I wish always. All I can do right now is think of you and the night we were in each other’s arms. I still feel the warmth of your body being close to me. But all it is just a distant dream when in reality. The two of us will have to be apart, the only thing I can do is to keep you in my memories. You are like my brilliant diamond jewel. Please remember that my heart belongs only to you for all eternity. Jung Jo please waiting for me.


Lots of love
Beau Eun

 

โดย: อุ้ม IP: 82.152.248.165 18 พฤศจิกายน 2553 0:45:07 น.  

 


มาแล้วหรือครับตอนที่7 ยังอ่านโดยละเอียดไม่ได้ตอนนี้ขอรับ เพราะติดงานเข้ามากมาย แต่ข้าน้อยลองสแกนอ่านคร่าวๆไปแล้ว เพราะอดใจไม่ไหว

ท่านอุ้ม ท่านสาฯ รับประกันความสนุกอยู่แล้ว อ่านจบเมื่อไหร่จะกลับมาคุยต่อนะขอรับ

 

โดย: ซินยุนบกน้อย IP: 192.168.20.143, 203.154.236.3 18 พฤศจิกายน 2553 16:29:43 น.  

 

ขอบคุณท่านอุ้มและท่านสานะครับ สนุกและน่าติดตามจริงๆ ได้ลุ้นอีกแล้วว่าจุงโจจะรอนางเอกไหวหรือเปล่า อารมณ์ของตัวละครนับวันจะยิ่งดึงดูดอารมณ์ของผู้อ่านนะครับท่านอุ้ม ขอคารวะเลยขอรับกระผม เป็นฟิคที่ยอดเยี่ยมจริงๆ

 

โดย: เกษตรศิลป์ IP: 58.9.121.252 18 พฤศจิกายน 2553 21:37:00 น.  

 

Nice story, love it. :)... Will cheer u up

 

โดย: POP IP: 202.162.29.16 19 พฤศจิกายน 2553 9:13:51 น.  

 

ลุ้นจังเลยว่าตอนต่อไปผู้แต่งจะแต่งออกมาแนวไหนนะลุ้นๆๆๆๆ
จะรอตอนต่อไปจากผู้แต่งนะค่ะ
สู้ๆ

 

โดย: wewill IP: 125.27.61.18 21 พฤศจิกายน 2553 22:41:54 น.  

 

โอ้วว มีเนื้อในจดหมายอีก เยี่ยมมากเลยผู้แต่งทั้งหลาย

รออ่านตอนต่อไป

 

โดย: shadowsun IP: 110.77.135.186 23 พฤศจิกายน 2553 16:06:11 น.  

 

ดีครับ ไม่เศร้าจนเกินไป มีเจือปนความหวานเล็กๆ ให้ผู้อ่านกระชุ่มกระชวยนิดๆ

อารมณ์จุงโจ(เฮียกึน) ขึ้น-ลงเร็วเหลือเกิน ต้องระวัง สงสารเจ๊ของเรา(โบอึน)เนอะ ต้องคอยปรับอารมณ์ตาม

ว่าแต่จุงโจรู้เข้าไม่บ้านแตกหรือครับเนี่ย มีหวังบินตามไปแหงม แหงม

เฮ้อ...มาจากกันไปซะแล้ว เพิ่งเริ่มจะรักกัน

ขอบคุณ ท่านอุ้ม ท่านสาฯ คร้าบบบ

 

โดย: ซินยุนบกน้อย IP: 192.168.20.143, 203.154.236.3 23 พฤศจิกายน 2553 16:44:30 น.  

 

เพิ่งจะรัก และเข้าใจกัน
ก็จากกันไปแล้วเหรอ โบอึน
สงสาร จุงโจ อ่ะ
คงคิดถึงแย่เลย
ยังไงก็รีบกลับมาเร็วๆๆน๊า

 

โดย: กบน้อย IP: 58.136.8.209 25 พฤศจิกายน 2553 12:51:21 น.  


albatross11
Location :
สุรินทร์ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




รักกันเพียงใดก็ต้องพลัดพราก หวงไว้เพียงใดก็ต้องจำจาก ข้ามาคนเดียวข้าไปคนเดียว ไม่มีใครเป็นอะไรของใคร ต่างคนมาต่างคนไป ยิ่งยึดยิ่งทุกข์ ปล่อยวางได้จึงเบาสบาย... เมื่อปัญญาแจ่มแจ้งจะสลัดคืน เมื่อมาจากดิน ท้ายที่สุดก็สลายกลายเป็นดิน ยึดเอาไว้ก็ได้แต่ทุกข์ตอบแทน อยากโง่ก็ยึดต่อไป คิดได้ก็วางเสีย พุทธทาสภิกขุ............ .............................. .............................. ความทุกข์ที่เกิดจากการพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักที่พอใจนั้น เป็นเรื่องทรมานยิ่ง และเรื่องที่จะบังคับมิให้พลัดพรากก็เป็นสิ่งสุดวิสัย... ทุกคนจะต้องพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ที่พอใจ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง...พุทธโอวาท --------------------------- พระราชดำรัส ในรัชกาลที่ 7 เมื่อทรงสละพระราชสมบัติ เพื่อประชาชน ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจ อันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิม ให้แก่ราษฎรทั่วไป ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจโดยสิทธิ์ขาด และโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร
New Comments
Friends' blogs
[Add albatross11's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.