เสพติดความโสด?
เพราะว่าตอนนี้ กำลังทำโปรเจ็คท์หนึ่งที่มีชื่อแสนสั้นว่า "โสด" ทำให้เมื่อวานได้ไปนั่งคุยกับน้องคนหนึ่ง
น้องเป็นผู้หญิงคนเมืองคนหนึ่ง ที่ทำงานเก่ง คล่องตัว เก๋ไก๋ และเสพติดความเมืองแบบสุดๆ
แน่นอนว่า น้องชอบไปนั่งดื่มกาแฟ ที่ร้านสตาร์บัคส์, ชอบหมกตัวอยู่แถวสยาม, เสพติดการซื้อเครื่องปรุงอาหาร ที่วิลล่า มาร์เก็ต
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่จะพูดถึง ประเด็นคือ น้องคนนี้ มีสถานะภาพปัจจุบันเป็น "สาวโสด" และเพื่อนๆ ในก๊วนของเธอ ที่เก่ง และเก๋ ก็คงสถานะภาพนี้ไ้ว้เช่นกัน
อาจมีเพื่อนบางคนที่คุณสมบัติไม่ตรงกับสถานะนี้ไปบ้าง แต่นั่นคือเรื่องที่จะเล่าให้ฟังทีหลังอีกที :)
เรื่องของเรื่องก็คือ น้องคนนี้ ตั้งข้อสังเกตขึ้นมาว่า "หรือเธอและเพื่อนจะเป็นพวก addict ความโสด?"
"Addict ความโสด" ที่หมายความว่า "เสพติดความโสด" อย่างจริงจัง
จริงๆ แล้ว ทั้งเธอและเพื่อนๆ ในกลุ่ม ก็มี "สิ่งมีชีวิตที่มีโครโมโซม XY" เดินผ่านมาสร้างสัมพันธภาพเป็นระยะๆ
ทว่า กลับไม่มีสัมพันธภาพใด ที่ถูกใจ และชวนให้พวกเธออยากก้าวข้ามผ่าน สถานะโสด ไปสู่สถานะอื่นเลย
น้องคนนั้นเลยบอกว่า .... เธอและเพื่อนคงเสพติดความโสดเข้าให้แล้ว
และทันทีที่พูดประโยคนั้นจบ เธอคงกลัวชั้นจะเสนอความเห็นกลับไปว่า "น้องและเพื่อนเลือกมากเกินไปมากกว่า" เธอจึงเล่าเรื่องต่อไปให้ฟัง
เธอเล่าเรื่อง เพื่อนสาวคนสนิทคนหนึ่งที่ก็อยู่ใน "ความสัมพันธ์" ที่เป็นปกติดี จนกระทั่งบินไปเรียนต่อเมืองนอก ครั้นไปถึงที่นั่นก็ได้ใช้ชีวิตสาวตัวคนเดียวในเมืองใหญ่อย่างเต็มที่ ทว่าก็ยังโทรหาแฟนหนุ่มทุกวัน คุยกันกระหนุงกระหนิงอย่างมีความสุขกันดีตลอดช่วงเวลาที่เธออยู่ต่างประเทศ
จนเมื่อกลับมาเมืองไทย ... เมื่อต้องกลับมาอยู่ในสัมพันธภาพปกติกับผู้ชายของเธอ ต้องไปทานข้าว ดูหนัง ขับรถไปรับส่งกัน ใช้เวลาช้อปปิ้ง ดูนั่นนู่นนี่ ด้วยกันบ่อยๆ เฉกเช่นที่ "คนในความสัมพันธ์" เค้าทำกัน เธอคนนี้กลับพบว่าเธอไม่มีความสุขเลย
ไม่ใช่ว่าเธอเปลี่ยนใจจากผู้ชายของเธอด้วย... แต่เธอค้นพบว่า การมีคนคนหนึ่งในชีวิตตลอดเวลานี่ .. มันช่างไม่น่าพิสมัยเท่ากับเวลาที่เธออยู่ตัวคนเดียว และมีเวลาไปเฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนสาวโสด หรือทำนั่นนู่นนี่ตามใจฉันได้ตลอดเวลาเลย
เธอคนนี้ ซึ่งมีแฟนอยู่ เลยตั้งคำถามว่า "หรือเธอจะเสพติดชีวิต (เสมือน) โสด ที่เธอได้รับในตอนอยู่เมืองนอกกันแน่นะ?"
นั่นแหละ ... ประเด็น "เสพติดความเป็นโสด" ก็เลยเข้ามาในชีวิตชั้นในที่สุด
สารภาพว่า ครั้งแรกที่ได้ยินประโยคนี้ ชั้นถึงกับตั้งคำถามกับตัวเองด้วยเหมือนกันว่า "แล้วชั้นล่ะ เสพติดความโสด กับสาวๆ กลุ่มนี้ด้วยหรือเปล่านะ?"
เพราะเอาเข้าจริง ... ชั้น - ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าอยู่ในสัมพันธภาพใด กับไอ้หนุ่มหน้าไหนทั้งนั้น (สัมพันธภาพที่มีกับ ปาร์ค ยูชอน แห่ง ทงบังชินกิ ถือว่ายังต้องปิดบังสื่ออยู่ - กรุณาเข้าใจด้วยนะคะ :) - ก็ยังลืมตาตื่นมาในแต่ละวัน, เบียดเสียดกับคนมากมายบนรถไฟฟ้าขบวนที่พาไปที่ทำงาน, เขียนงาน, ติดต่อนู่นนั่นนี่, ดูคลิปทงบังชินกิ (กรี๊ด! วินาทีที่ 30.12 ปาร์ค ยูชอน ทำหน้าได้น่ารักโลกแตก), เสพงานศิลปะที่หอศิลป์, โทรเม้าธ์กับน้องเรื่อง 'กระเป๋าหลุยส์ที่ คิม แจจุง แห่งทงบังชินกิ หิ้วไปที่สนามบินอินชอน เกาหลีใต้' เมื่อวันก่อน, ไปเล่นโยคะที่ทรูฟิตเนส, เข้าคิวรอทานอาหารญี่ปุ่นที่ร้านฟูจิ สาขาสยามพารากอน, และนั่นนู่นนี่ อีกมากมาย ....
ชั้นก็ยังทำสิ่งประจำวันเหล่านี้ได้อย่างมีความสุขดี ... นี่นา
หนำซ้ำ พอจะมีใครโผล่มาเพื่อสร้างสัมพันธภาพบ้าง - สัมพันธภาพแบบที่จะคุยเรื่อง ทงบังชินกิ ด้วยก็ไม่ได้, สัมพันธภาพที่ต้องไปดูหนัง กินข้าว และใช้เวลาอื่นๆ ซึ่งเบียดบังเวลาดูคลิป ทงบังชินกิ ได้แบบมากมายเลยทีเดียว - ชั้นก็พบว่า ชั้นไม่ค่อยชอบสัมพันธภาพแบบนี้เท่าไหร่
รวมทั้งยังไม่ค้นพบเหตุผลอันดีพอ ที่จะชวนให้อยากย่างกราย เข้าไปอยู่ในภาวะวุ่นวายใจ "ยามต้องรอรับโทรศัพท์ใคร" หรือ "ต้องตีความคิดมากกับความหมายรสน้ำตาล ที่ซ่อนอยู่ที่ปลายสาย" อีกด้วย
แล้วนี่ "ชั้นกำลังเสพติดความโสด" เช่นน้องกลุ่มนั้นอยู่หรือไม่นะ?
"ความโสด" ที่หมายถึง บางครั้งมันก็เหงาดีพิลึก "ความโสด" แบบที่ บางทีก็รู้สึกไม่ดีนิดหน่อยที่ต้องถ่อสังขารไปโรงพยาบาลหัวเดียวโดดๆ "ความโสด" แบบที่ บางครั้งบางหนก็ไม่รู้จะทำยังไง เวลาต้องเปลี่ยนหลอดไฟที่ห้องพัก "ความโสด" แบบที่ ถ้ารถดันเสียกลางทางอันแสนมืดมน ก็ไม่รู้จะโทรหาใครดี (ตอนนั้น ทงบังชินกิ คงไม่ว่างรับโทรศัพท์)
แต่ขณะเดียวกัน มันก็เป็นสิ่งเดียว กับ "ความโสด" ที่หมายถึง บางครั้งมันก็มีอิสระดีพิลึกเนอะ
"ความโสด" แบบที่ ... บางทีก็ดีจัง จะเหมาซื้อรองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ ที่้ร้าน Nine West สยามดิสคัฟเวอรี่ สัก 4 คู่ ก็ไม่มีใครมาทำหน้าบูดใส่
"ความโสด แบบที่ ... บางทีถ้าเมาธ์ติดลมที่บ้านเพื่อนสาวจนดึกดื่น ก็นอนไปได้เลย โดยไม่ต้องรีบกลับบ้านไปเพราะกลัวอีกคนจะเป็นห่วง (หรือต้องโทรศัพท์รายงานใคร)
"ความโสด" แบบที่ ...บางทีก็ดีจัง ไม่ต้องคอยมีใครมาเช็คเมสเซสในโทรศัพท์ หรือมีไอ้หน้าไหนแอบมาคอยเช็คอีเมล์ส่วนตัวของเรา
:)
ชั้นกำลังเสพติด "สิ่งนี้ - ที่มีทั้งด้านสุขและด้านโศก" อยู่หรือเปล่านะ?
หรือแท้ที่จริงแล้ว ชั้นก็แค่ผู้หญิงชนชั้นกลาง "องุ่นเปรี้ยว" คนหนึ่ง
ที่พยายามจะหาเหตุผลเป็นร้อยพัน... มาเพื่อยืินยัน ... ความสุขปลอมๆ ในความโสด** ... ของตัวเอง
+++++++++++++++++++++++++
Note
** จริงๆ แล้ว ฉันไม่คิดว่า "ความสุข" แบบที่ผู้หญิงโสดหลายคนพูดกันนั้น เป็น "ความสุขปลอมๆ" หรอกนะคะ ... แต่ชั้น ยกคำว่า "ความสุขปลอมๆ" ขึ้นมา เพื่อเป็นการ "ล้อ" แนวคิดของสังคมไทย (ที่ผู้ชายเป็นใหญ่) ซึ่งมักจะมองว่า การที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อ เธออยู่ในภาวะที่ได้ครอบครองสัมพันธภาพแบบที่สามารถพัฒนาไปสู่การสร้างครอบครัวได้ รวมทั้งเธอได้ "เป็นเมียและแม่" (ซึ่งเป็นสถานะที่ดีต่อการสร้างรัฐ) แล้วนั่นเอง
Create Date : 31 พฤษภาคม 2552 |
|
11 comments |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2552 17:15:31 น. |
Counter : 1203 Pageviews. |
|
|
|
ช่วงนี้มีแต่หมากับหมา