ดองไว้นานเชียวครับสำหรับบล็อคนี้ หลังจากคลอดตอนที่ ๕ ไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ครั้งนี้เลยตั้งใจจะอัพบล็อคนี้ให้เสร็จเพราะมีเรื่องราวมากมายที่ตนเองก้าวเดินและอยากเขียนเก็บไว้เพื่อเตือนความทรงจำว่าชีวิตเราได้ผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง การบันทึกจึงจำเป็นต้องเรียงลำดับก่อนหลังเพื่อให้เหตุการณ์ต่าง ๆถูกเรียงลำดับการเกิดขึ่นนั้น
ภายหลังจากเราเก็บสัมภาระต่าง ๆเสร็จ เราก็เตรียมตัวออกเดินทางกลับบ้าน ด้วยสภาพรถของผมที่เกิดปัญหาหนัก ปั๊มและหัวฉีดเสียหายหนัก อีกทั้งแกนเทอร์โบก็ชำรุด ผมและญาติจึงออกเดินทางจากผาชู้ อุทยานแห่งชาติศรีน่านไม่ให้สายมากนักเพราะเกรงจะมืดค่ำมากเกินเพราะรถผมวิ่งเร็วไม่ได้เลย
ผมไม่ค่อยรู้เส้นทางหรอกครับได้แต่ขับตามรถญาติกันไป อีกทั้งใจที่จดจ่ออยู่กับสภาพรถที่ชำรุด รู้เพียงว่าเขาพาไปเส้นทางลัดแบบเอารถลงแพจากที่นั้นก็มาขึ้นที่อุตรดิตถ์เลย ผมก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบกับประสบการณ์ชีวิตอีกมิติหนึ่ง
ปากนาย...ผมจึงได้รู้ ได้เห็นและได้สัมผัสกับเส้นทาง บรรยากาศ ที่บอกได้เลยว่ามีความสุขยิ่ง แม้เส้นทางที่จะไปสู่ปากนายนั้นมีเส้นทางที่คดเคี้ยว ลาดชันบ้าง บางช่วงเป็นไหล่เขา และในครั้งนั้นกำลังก่อสร้างทางและมีเส้นทางชำรุด แต่ผมและญาติก็ขับผ่านด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะผมที่ต้องระวังเป็นพิเศษเนื่องจากรถเครื่องรวนและกระตุกตลอดเส้นทางและพ่นควันขาวดำฟุ้งปกคลุมไปหมด
ความงามสองข้างทางที่เป็นไหล่เขา ท่ามกลางเส้นทางที่คดเคี้ยว แม้ในใจจะกังวลกับอาการของรถแต่ก็สามารถซึมซับและสัมผัสกับบรรยากาศที่ต้องบอกได้เลยว่างดงามและเปี่ยมด้วยความสุข ความสุขที่ผมเองไม่รู้เลยว่าจะสามารถมีโอกาสเช่นนี้อีกไหม เมื่อไหร่ ท่ามกลางความวิตกกังวลกลับมีความสุขที่งอกงามประหนึ่งเป็นกำลังใจให้ผมมุ่งมั่นก้าวเดินอย่างไม่ลดละ
หลายปีแล้วครับที่ผมและครอบครัวจะให้เวลาช่วงส่งท้ายปีเก่าเพื่อต้อนรับปีใหม่นี้ ให้รางวัลกับชีวิต ให้ชีวิตได้มีเวลาพักเพื่อเพิ่งพลังในการต่อสู้กับชีวิต ชีวิตที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ มีหนีสิ้น มีภาระ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะปล่อยทิ้งโอกาสเพื่อสร้างความสุขให้เกิดกับตัวเรา อยู่ที่เราต้องเข้าใจบริบทและอัตภาพของแต่ละคน ไม่มีผิด ไม่มีถูกจากการตัดสินจากเราหรือจากใคร หากแต่รู้เพียงว่าเส้นทางที่เราเดินมันมีความถูกต้องเหมาะควรแล้วก็พอ
ภาพที่ท่านกำลังเห็นอยู่นี้ผมไม่ได้ถ่ายเองนะครับ เพราะผมคงไม่มีสมาธิพอที่จะขับรถและปล่อยมือและความสนใจจากการขับรถ ท่ามกลางเส้นทางที่คดเคี้ยวลาดชันและสภาพรถที่ต้องใช้ความพยายามในการขับเป็นพิเศษนี้ได้ ดังนั้นภาพที่ท่านเห็นระหว่างรถแล่นนี้ เป็นฝีมือของตากล้องผู้หญิงที่นั่งลุ้นระทึกและใช้กล้องคอมแพคถ่ายไปถ่ายมา เธอคนนั้นคือแม่เจ้าไนซ์ลูกชายผมนั่นเอง (ผมรู้สึกได้ว่าผมกำลังมีคู่แข่งที่อยู่ใกล้แค่ปลายจมูก)
ผมไม่รู้เลยว่าผมขับรถไปนานเพียงใด ระยะทางยาวเท่าไร ผมรับรู้ความรู้สึกนี้ท่ามกลางการใช้สมาธิในการขับรถท่ามกลางความงดงามสอข้างทางได้ว่า...มันไม่ได้ไกลมากมายอะไร หากแต่เป็นเส้นทางลาดชันและขับรถโดยใช้ความเร็วของรถได้ไม่มากเพราะรถผมไม่สามารถเร่งความเร็วได้เกิน 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะรถจะกระตุกเนื่องจากปัีมและหัวฉีด และเทอร์โบมีปัญหา
ผมรับรู้เพียง มันนานมาก ไกลมาก แต่มีความสุขในเส้นทางนี้เหลือเกิน หากมีโอกาสจะกลับไปอีกครั้ง
เมื่อถึงที่หมาย ปากนาย...หมู่บ้านประมงแห่งเมืองน่าน ผมก็พบกับความงามที่ต้องบอกว่าคุ้มค่ามากสำหรับเส้นทางที่คดเคี้ยวลาดชัน ทำให้อดคิดไม่ได้เลยว่าความสุขก็คงไม่แตกต่างจากความสำเร็จที่อยู่เบื้องหลังความเพียรพยายาม ความอิ่มเอมที่เกิดจากประสาทสัมผัสของผม ณ เวลานี้ผมฝังมันลงไปใน...ความทรงจำ ที่คิดถึงเมื่อใดความสุขก็เบ่งบานทุกครั้ง