เกือบเดือนเลยนะครับเนี้ยที่ทิ้งบล็อคไปไม่ได้เข้ามาอัพเดทเรื่องราวใดใด ช่วงที่ผ่านมามีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นกับผม มีการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งโดยเฉพาะเรื่องการทำงานที่หลังจากลาออกจากหัวหน้างานและขอย้ายตัวเองไปทำงานที่ตนไม่คุ้นเคย ตอนนี้ก็ไปเริ่มทำงานในความรับผิดชอบใหม่แต่ไม่เป็นทางการ อีกสักระยะคงชัดเจนเพื่อมุ่งสู่การทำงานให้มีประสิทธิภาพอีกครั้ง
การเดินทางของชีวิตบางทีเราก็สุดจะคาดเดาในทุกเรื่อง หรือนี้เป็น"ศิลปะแห่งการใช้ชีวิต" ก็อาจเป็นได้

เอาละครับนอกเรื่องไปเสียยืดยาว มาเข้าเรื่องดีกว่า เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคมที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสพาครอบครัวไปเที่ยวเล็ก ๆไม่ไกลจากนนทบุรีบ้านที่อยู่อาศัยปัจจุบัน ที่นั้นคือ ส มุ ท ร ส า ค ร บ้านเกิดของผมเอง

ด้วยภรรยาผมอยากพาแม่ของเขาไปเที่ยวพักผ่อนและทานอาหารในวันแม่ เลยถามแม่เขาว่าอยากไปไหน แม่ก็บอกว่าอยากไปวัดที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเสด็จไปเปิด แม่เขาดูทางโทรทัศน์เห็นว่าอยู่สมุทรสาครบ้านเกิดผมเอง เมื่อผมได้ยินเช่นนั้นก็ งง เป็นไก่ตาแตกว่า ...วัดนี้อยู่ตรงไหนหว่า
เมื่อพยายามสืบค้นหาข้อมูลก็ได้ความว่า วัดที่แม่เขากล่าวถึงไม่ได้เป็นวัดแต่อย่างใด ที่แห่งนั้นคือ...พุทธมณฑลจังหวัดสมุทรสาคร นั่นเอง
พระศรีสาครภูมิบาลประทานธรรมสุทัศน์เมื่อทราบว่าสถานที่ที่แม่เขาอยากไปนั้นคือที่ใด ก็มีคำถามใหม่เกิดขึ้นอีกว่า แล้วอยู่ที่ไหน ?

เหมือนเคยครับถามทางจาก Google map ได้ความว่าต้องขับรถผ่านตลาดกระทุ่มแบนข้ามไปทางบางยาง สวนส้ม ที่จะไปทางบ้านแพ้วโน้น เท่านี้ก็พอจะรู้แล้วในฐานะบ้านเกิดแม้จะมาอยู่ที่นนทบุรีสิบกว่าปีแล้วก็ตาม
พระศรีสาครภูมิบาลประทานธรรมสุทัศน์ พอถึงที่หมายผมก็ถามแม่ว่า ใช่ไหมครับ แม่ตอบว่า ใช่แล้ว
แต่เราแค่แวะมาถ่ายภาพและเยี่ยมชมเท่านั้นครับ เพราะช่วงนี้กำลังพัฒนาเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม อากาศและแสงแดดร้อนมาก หากท่านใดสนใจลองสืบค้นข้อมูลโดยใช้ Search Engine อาทิ Google โดยใช้คำค้นว่า พุทธมณฑลสมุทรสาคร ครับ
หลังจากนั้นเราก็เดินทางต่อไปยังวัดหลักสี่
ราษฎร์สโมสร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เพื่อไปกราบหลวงพ่อโต วัดหลักสี่ ซึ่งอยู่ห่างจาก ณ จุดนี้ไม่ไกลมากนัก
เมื่อเดินทางไปถึงก็พบกับการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นที่นี่ หรือเพราะผมไม่ได้มานานกว่าสิบปี อะไร ๆเปลี่ยนแปลงไปมากมายผิดจากเดิมมาก เมื่อสิบกว่าปีก่อนผมมากราบหลวงพ่อโตท่านยังอยู่วิหารหลังเดิม มาคราวนี้เป็นวิหารหลังใหญ่โตสวยงาม บริเวณวัดก็แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง
มันคงเป็นกฏของการเปลี่ยนแปลงที่พยายามให้ทุกคนไม่หยุดนิ่งต้องหมุนตามแรงเปลี่ยนแปลงนั้น แต่สำหรับผมแล้วไม่ว่าสิ่งใดใดจะเปลี่ยนแปลงไปมากมายเท่าใด หากเรามีจุดยืนที่มั่นคงบางทีการหยุดอยู่กับที่ สลับกับการเดินตามกระแส และทวนกระแสในบางครั้งคราว ชีวิตไม่จำเป็นต้องหมุนตามอะไร
หลวงพ่อโต...ยังคงงดงามในความทรงจำของผม และมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นพระพักตร์ท่าน






จากนั้นเราก็ออกเดินทางต่อโดยขับออกมาเส้นพระรามสอง แวะหาร้านอาหาร ภรรยาและน้องอยากพาแม่มาทานอาหารทะเล โดยมุ่งหน้าไปร้านริมทะเล แต่ไปยืนรอโต๊ะว่างได้สักพักก็ยอมแพ้เพราะจากการดูสถานะการณ์น่าจะนาน และแม้จะได้โต๊ะนั่งก็คงอีกนาน ช่วงนี้ใคร ๆก็พาครอบครัวมาแบบนี้เลยเยอะเป็นพิเศษ เลยตัดสินใจขับกลับออกมาเส้นทางเดิม เพราะเห็นว่ามีร้านอาหารอยู่หลายร้าน แต่ก็มีคนจำนวนมากเหมือนกัน เลยตัดสินใจจอดร้านนี้ที่มีคนไม่มากเท่าไหร่ วัดดวงเอา ...ร้านอาหารต้นลม






จบแบบรวบรัด
๑ วันของฉันในวันแม่ อิอิ
มีเรื่องราวมากมายรอการบอกเล่าเพียบเลยเดี๋ยวจะทยอยมาเขียนครับ
จะพยายามกลับมาอัพบล็อคเป็นประจำอีกครั้ง
รอให้อะไร ๆเข้าที่เข้าทางก่อนนะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม และแวะเวียนมาเยี่ยมชมทักทาย
ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงกันนะครับ
มีโอกาสจะไปบ้างค่ะ พุทธมณฑล สมุทรสาคร
วัดหลักสี่ แต่ก่อนได้ไปอยู่บ่อยค่ะ นี่ทิ้งร้างห่างการไปนานหลายปีแล้วค่ะนี่
สวัสดีค่ะ